หยุดได้แล้ว!!! ก่อนประเทศไทยจะเสียชื่อไปมากกว่านี้
***คำเตือน*** Blog นี้ประกอบด้วยคำหยาบคายจำนวนมาก
เมื่อสัปดาห์ก่อนวันที่ 2 เม.ย. 2551 พี่ผมได้มาเที่ยวที่คุนหมิง ผมเลยทำหน้าที่ไกด์จำเป็น เหนื่อยครับ แต่สนุกดี และจากที่พี่ผมมาเยี่ยมทำให้ผมพบพฤติกรรมเสื่อมของเด็กไทยมากขึ้น
แต่ก่อนผมเช่าบ้านอยู่ข้างนอกซึ่งก็ค่อนข้างไกลจากตัวมหาวิทยาลัยพอสมควร ขี่จักรยานใช้เวลา 15 นาที ทำให้ไม่ค่อยได้เห็นพฤติกรรมเด็กไทยมากนัก แต่ปัจจุบันพักอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย เดินแค่ 5 นาทีก็ถึง เลยทำให้เห็นถึงพฤติกรรมเด็กไทยบางกลุ่มที่ไม่ค่อยดี และอาจเป็นปัญหาในอนาคตได้
ผมไม่อยากจะเหมารวมว่า เด็ก Summer มักก่อปัญหา เพราะมีน้องหลายคนก็น่ารัก แต่หลายคนก็แย่ และส่วนมากแย่ ที่น่ากลัวคือ พวกนี้มันมักจะก่อปัญหาไว้ แล้วกลับประเทศอย่างรวดเร็ว (Summer ประมาณ 1 เดือนแล้วกลับ) คนที่รับกรรมคือใคร...คนที่เรียนระยะยาวอย่างพวกผมไง
จากปัญหาที่เกิดขึ้น เรากลุ่มคนไทยได้มีการคุยกันและพยายามหาทางหยุดพฤติกรรมเสื่อม เพราะคนต่างชาติด่าเค้าไม่ด่าคนทำพฤติกรรมเสื่อม เค้าด่าก็ด่าคนไทย จากการพูดคุย เราพบว่า เด็กไทยนั้นงามหน้ามาก หลายๆ กรณีเล่นซะผมตกใจแทบแย่
กรณีที่ 1 (ประสบการณ์ตรง) มีน้องเกาหลีมาถามผมว่า (พูดภาษาจีน) "ภาษาไทยคำว่า กรุณาอย่าส่งเสียงดัง เขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร"
ผมแปลกใจว่าทำไมเค้าถึงอยากรู้เลยถามก็ได้ความว่า มีน้องคนไทยชอบส่งเสียงดังแบบไม่เกรงใจ และชอบเลื่อนเก้าอี้เสียงดัง ผมเลยบอกว่า "งั้น ผมไปเตือนให้ดีกว่าง่ายกว่า" แต่เค้าคงเกรงใจบอกว่า "ไม่เป็นไร" ที่เค้าถามเพราะน้องคนไทยกลุ่มนี้ยังเรียนระดับต้นพูดจีนไม่ได้ แถมอังกฤษก็ไม่ได้หรือได้แต่แกล้งไม่ได้ก็ไม่รู้
กรณีที่ 2 (ประสบการณ์ตรง) ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กมันจะพฤติกรรมแย่ขนาดนี้ แต่ผมก็ต้องเชื่อ เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ผมกำลังเรียนอยู่ไอ้เด็กกลุ่มนี้ขึ้นมาละ แล้วก็เสียงดังโวยวาย ฮืม...มันจริงสินะ เราต้องทำอะไรแล้ว
กรณีที่ 3 (ประสบการณ์ตรง) จากการที่พี่ผมมาเยี่ยมทำให้ผมไปหาพี่บ่อยๆ เพื่อวางแผนท่องเที่ยว พูดคุย ฯลฯ เจอเด็กคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัทพ์ "ถ้ารู้งี้ไม่มาที่นี่หรอก กูจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว" คำพูดนี้ดังมาแต่ไกล ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกลับน้องเค้า แต่น้องเค้าไม่ควรใช้เสียงดังขนาดนี้ ดังไปทั้งชั้น พอผมมองหน้า ถึงลดเสียงเบาลงนิดนึง (นิดนึงจริงๆ) อยากจะตอกหน้าเด็กคนนั้นเหมือนกันว่า "งั้นมึงอย่ามาเหยียบที่นี้ให้เสียชื่อประเทศไทยอีกเป็นครั้งที่ 2 นะโว๊ย ไอ้เด็กบ้า" พูดเสียงดังแล้วยังหยาบอีก
กรณีที่ 4 (ประสบการณ์เพื่อนคนไทย) จากกรณีที่ 1 และ 2 เด็กกลุ่มนี้ยังไม่เข็ดขนาดมีการไปเตือนแล้ว เพื่อนคนไทยเล่าให้ฟัง เด็กกลุ่มนี้พูดว่า "แกล้งมันกระทืบเลยๆ ให้มันนอนไม่ได้" (กระทืบเท้าส่งเสียงดัง เพราะน้องเกาหลีอยู่ชั้น 2 แต่เด็กเปรตพวกนี้อยู่ชั้น 3) ดีที่เพื่อนผมเค้าได้ยินเลยมีการใส่ชุดใหญ่ไปชุดนึง ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กม.ปลาย จะมีความคิดแค่นี้ น่าสงสารจริงๆ
กรณีที่ 5 (ประสบการณ์เพื่อนคนไทย) เค้าเล่าให้ฟังว่าที่เฉิงตูก่อนที่เค้าจะย้ายมาเรียนที่คุนหมิง มีหญิงไทยคนหนึ่งทำพฤติกรรมเสื่อม ไปสอนฝรั่งให้เรียกหญิงไทยว่า "กะหรี่" ไปสอนอะไรแบบนั้น เพื่อนผม (ผู้หญิง) ตกใจมาก เพื่อเจอฝรั่งทักทาย "再见 กะหรี่ไทย" (บ๊ายบาย กะหรี่ไทย) ตอนหลังรู้ว่าใครสอน ก็มีเรื่องกันนิดหน่อย... เลวมาก
กรณีที่ 6 (ประสบการณ์เพื่อนคนไทย) เด็กไทยมักไม่ค่อยเกรงใจ เวลาเดินตามทางเดินมักส่งเสียงดังโวยวาย ประมาณว่าข้ามาแล้วโว๊ย แล้วพูดคำหยาบคาย "ไอ้เหี้ย ไอ้ห่า ไอ้สัด" วิ่งกันเต็มไปหมด คนลาวน่ะ เค้าฟังออกนะว่า แปลว่าอะไร ใจเค้าคงนึก "คนไทยนี่มันหยาบจัง" ส่วนคนชาติอื่นที่ฟังไม่ออกล่ะ เค้าก็มองว่า "คนไทย ไม่มีมารยาท ส่งเสียงดังโวยวาย...แย่"
ปัญหาที่เกิดขึ้นและเอามาเล่าให้ฟังเป็นแค่กรณีตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าให้เล่าทั้งหมด ผมคงไม่ต้องทำการบ้านแล้วล่ะ อย่างกรณีที่ 6 เมื่อก่อนชาติที่มีพฤติกรรมนี้คือ เวียดนามนะครับ แล้วตอนนี้ล่ะ พี่ไทยแย่งตำแหน่งไปแล้ว
ที่พูดมาทั้งหมดนั้นก็แค่อยากจะบอกว่า ทำอะไรคิดถึงหน้าตาประเทศบ้าง ทีถามว่ามาจากโรงเรียนอะไรทำอาย กลัวอะไรวะ โรงเรียนมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วหน้าตาประเทศล่ะ ไม่สำคัญรึไงให้ตายสิ
ฝากถึงน้องๆ และผู้ปกครองที่คิดจะส่งบุตรหลานมา Summer ว่าจะทำอะไรคิดถึงหน้าตาประเทศบ้าง เมื่อปี 2549 ก็งามหน้าไปทีแล้วหรือมันยังไม่พอต้องให้ประเทศมันเสียชื่อมากกว่านี้
Create Date : 12 เมษายน 2551 |
|
19 comments |
Last Update : 12 เมษายน 2551 12:24:19 น. |
Counter : 1465 Pageviews. |
|
|
|
อวยพรให้สุขสันต์วันสงกรานต์
ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ
ชีวิตชุ่มฉ่ำ
สดใสตลอดไปค่ะ