หนังสือ "เตรียมตัวตาย แม้จะไม่พร้อมตายก็ตาม"
"ถ้าอีก 1 ปีฉันจะต้องตาย" หนังสือแปลที่เขียนโดยนายแพทย์ชาวญี่ปุ่น โอซาวะ ทาเคโทชิ ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายนับพันราย เป็นหนังสือขายดีในญี่ปุ่นที่น่าจะได้รับความนิยมในประเทศไทยด้วยเช่นกัน จากชื่อเรื่องที่สะดุดตาและสะดุดใจของนักอ่าน จริงๆ เราก็ไม่อยากนับตัวเองเป็นนักอ่านสักเท่าไร เพราะกว่าจะอ่านเล่มนี้จบก็ใช้เวลาเป็นเดือนอยู่เหมือนกัน เน้นอ่านก่อนนอนหรือตอนที่นอนไม่หลับ อ่านแต่ละบทแต่ละหน้าก็โดนใจแทบทุกบรรทัด เพราะคุณหมอเขียนตรงไปตรงมาและยกเคสของผู้ป่วยโรคร้ายระยะสุดท้ายมาถ่ายทอด ที่ญี่ปุ่นคงมีผู้ป่วยมะเร็งหรือโรคร้ายอื่นๆ ค่อนข้างเยอะและคงมีความคิดที่สับสนวุ่นวายใจก่อนจะตายเช่นกัน เรายังไม่เห็นหมอไทยเขียนหนังสือทำนองนี้ อาจจะเพราะหมอไม่มีเวลาที่จะมานั่งไล่เรียงเคสต่างๆ แต่คุณหมอชาวญี่ปุ่นท่านนี้ใช้เวลาหลังเกษียณเขียนมันขึ้นมา และเป็นประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะผู้ป่วยระยะสุดท้ายเท่านั้น ผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่เบื่อหน่ายกับการรักษายาวนาน หรือผู้ที่ยังแข็งแรง และอาจจะอยู่ในวัยแกร่งอย่างเราๆ ที่มองเห็นความตายอยู่รอบตัว อ่านแล้วก็ยังได้ประโยชน์เช่นกัน หมอไทยอาจจะไม่กล้าตั้งชื่อทำนองนี้ เพราะมันอาจจะดูดราม่าหรือชี้นำจนอาจกลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่ความจริงแล้วมันคือจุดขายที่สื่อสารตรงไปตรงมา และเป็นสัจธรรมที่ทุกคนเกิดมาต้องตายไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม สำหรับ Magnolia แล้วเมื่อได้หยิบมาอ่านทุกครั้งจะเกิดความรู้สึกว่า เราต้องวางแผนตายเราต้องเตรียมตัวตายอย่างจริงจังแล้วล่ะ ตายโดยเป็นภาระแก่คนรอบข้างน้อยที่สุด แต่ 1 ปีผ่านไปไวมากเรายังไม่ทันได้ทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำเลย แม้วันนี้ยังไม่ตาย แต่จะหมดเวลาไปอีกปีแล้วหรือนี่ 1 ปีอาจจะดูเหมือนนาน แต่เอาเข้าจริงมันผ่านไปไวมาก อย่างเราเองใครจะไปคิดว่าอยู่มาได้ครึ่งค่อนชีวิต ตอนวัยรุ่นคิดไม่ออกหรอกว่าแก่มาจะเป็นอย่างไร เมื่อมาถึง อ้อ! เป็นอย่างนี้นี่เอง ย้อนเวลากลับไปทำอะไรที่ไม่ได้ทำไม่ทันตั้งหลายอย่าง หนังสือเล่มนี้ตรงกับความคิดเราหลายๆเรื่อง และตรงกับสิ่งที่เราเคยเขียนไปในบันทึกบ้างแล้วเช่นกัน อย่างเรื่องอย่าดูถูกพลังลบ คุณหมอไม่ได้บอก how to ของการเตรียมตัวตาย เพราะแต่ละคนคงมีเส้นทางความตายที่ต่างกัน เพียงแต่บอกมุมมองแนวคิดของคุณหมอเองพร้อมคำแนะนำหลังจากพูดคุยกับผู้ป่วยใกล้ตายมามากมายอย่างเข้าใจความรู้สึกพวกเขา ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ผู้อ่านใช้เวลาในชีวิตแบบไม่เสียใจในภายหลัง ลองไปหามาอ่านกันดูนะคะ อ่านแล้วไม่เศร้าไม่ทุกข์เพิ่มขึ้น แต่กลับรู้สึกว่าถ้าเรามีความพร้อมและเตรียมตัวตายมากขึ้น ความกังวลหรือความคาดหวังในชีวิตก่อนหน้านี้อาจลดลงกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้VIDEO
Create Date : 14 เมษายน 2567
0 comments
Last Update : 14 เมษายน 2567 10:07:35 น.
Counter : 322 Pageviews.