10 กุมภาพันธ์ 2565
แต่ละวัยคุยอะไรกันบ้าง
ทุกคนล้วนมีเพื่อนเก่ากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนอนุบาล เพื่อนประถม เพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัย ยกเว้นเพื่อนร่วมงานที่เราไม่ค่อยนับเป็นเพื่อนเก่า เพราะเมื่อลาออกแล้วเพื่อนร่วมงานก็มักจะห่างหายกันไปโดยอัตโนมัติ ไม่ค่อยกลับมาอัปเดตชีวิตกันเหมือนเพื่อนเก่าวัยเรียน แล้วเคยสังเกตไหมว่า ทุกวันนี้เรายังคุยกันกับเพื่อนเก่าเรื่องเดิมๆ อยู่อีกหรือเปล่า Magnolia นึกย้อนไปถึงหัวข้อที่เราคุยกับเพื่อนเก่าที่คบกันมาหลายสิบปี วันนั้นกับวันนี้เปลี่ยนไปตามวัยจริงๆ ย้อนไปสมัยวัยรุ่นมัธยมที่ยังไม่มีโซเชียลมีเดียหรือโทรศัพท์มือถือ ก็คุยกันเรื่องความบันเทิงในวิทยุ โทรทัศน์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดารา นักร้อง เพลง หนังที่ชอบ และพอปิดเทอม หรือวันหยุดไม่ได้ไปโรงเรียน โทรศัพท์ที่บ้านแทบจะสายไหม้ ไม่ต้องให้ใครโทรเข้าโทรออกแล้ว เพราะวัยรุ่นจะชอบคุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ คุ้มมากเมื่อเทียบกับค่าโทรครั้งละ 3 บาท นินทาเพื่อนคนโน้นคนนี้ครบทั้งห้อง แล้วก็นินทาเพื่อนต่างห้องต่อ พ่อแม่ด่าหรือเรียกไปกินข้าวถึงได้วางสาย โตมาหน่อย เห็นโลกกว้างขึ้น เพื่อนวัยมหาวิทยาลัยก็คุยเรื่องที่กว้างขึ้น เช่น คุยเรื่องผู้ชาย เรื่องคนสวยคนหล่อ ตื่นเต้นเมื่อเห็นเพื่อนที่รวย เพราะสมัยอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยเห็นคนรวย ใครที่รวยหรือไฮโซจะเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับพวกเรา และยังไม่ทิ้งการนินทาเพื่อนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือนินทาอาจารย์ด้วยเพราะเรียนยากขึ้น เรียนไม่รู้เรื่องมากขึ้น ปิดเทอมแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน พอเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน เพื่อนสมัยวัยเด็กและวัยรุ่นกลับมาอัปเดตชีวิตกันอีกครั้ง เทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยให้ได้ติดต่อกันง่ายขึ้น โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ หัวข้อที่สนทนากับเพื่อนเก่าก็เปลี่ยนไปเป็นนินทาเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือหัวหน้างาน เล่าประสบการณ์ที่เจอแต่ละวัน เช่น ความทุลักทุเลในการเดินทาง รถติด งานเครียด ชวนวางแผนเที่ยวพักผ่อน เพราะมีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว เริ่มมีความรัก ปรึกษาปัญหาหัวใจ พอทำงานเกินสิบปีหัวข้อก็เปลี่ยนไปอีก เริ่มพูดถึงภาระหนี้สิน เงินเก็บ และอาชีพที่มั่นคง รวมทั้งการสร้างครอบครัว เพราะส่วนใหญ่แต่งงานกันช้าลง มีลูกช้าด้วย หรือไม่มีเลย กระทั่งเข้าสู่วัยแกร่งกันบ้าง ตั้งแต่ย่างเข้าสู่เลข 4 หัวข้อก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแถมวิธีการคุยก็เปลี่ยนไปด้วย โอกาสเจอหน้าคาตากันน้อยลง ไม่โทรคุยกันเหมือนเก่าแต่ใช้การคุยไลน์ส่วนตัวหรือไลน์กลุ่มแทน หัวข้อฝันเพ้อละเมอพกลดลง ต่างก็ยอมความจริงของชีวิตได้แล้ว เช่น หน้าที่การงานที่เติบโตขึ้น มีภาระและความเครียดก็มากขึ้น มีความสูญเสียของสมาชิกในครอบครัว หนี้สินที่คงเหลือ หรือบางคนเริ่มสร้างบ้านไว้ตอนเกษียณ หรือมองหาอาชีพที่สองหากลาออกจากงาน หรือบั้นปลายชีวิต ซึ่งเป็นเพียงแค่การเล่าสู่กันฟังเฉยๆ รำพึงรำพัน ไม่ต้องการให้ช่วยตัดสินใจ ไม่เน้นรับคำวิจารณ์จากเพื่อน แต่ก็ยังมีหัวข้อที่ยังต้องการคำปรึกษาอยู่ อย่างเรื่องสุขภาพ เพราะร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ฮอร์โมนแกว่งไปแกว่งมา ความเสื่อมเริ่มมาเยือน เช่น นอนไม่ค่อยหลับทำอย่างไรดี วัยทองมาถึงหรือยัง ประจำเดือนมาอยู่อีกไหม หรือแชร์ผลตรวจสุขภาพประจำปี มีเนื้องอกโผล่ตรงนั้นตรงนี้ ริ้วรอยมาเยือน เติมโบท็อกซ์ฟิลเลอร์ดีไหม ใช้ครีมอะไรกันบ้าง ผมร่วงกินวิตามินอะไร ผมหงอกใช้ยาย้อมผมยี่ห้ออะไร หรือเรื่องรูปร่าง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หารูปแบบออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเอง หรือแม้แต่แย่งกันเล่าเรื่องความขี้หลงขี้ลืมของตัวเองให้เป็นเรื่องขำขัน งานนี้หมายถึงหัวข้อสนทนาของคุณผู้หญิงนะ คุณผู้ชายคุยอะไรกันไม่รู้สิ Magnolia ก็อยากรู้เหมือนกัน ที่สังเกตได้อย่างหนึ่ง เราไม่ค่อยได้ยินใครบ่นว่าเงินไม่พอใช้แล้ว แม้จะแก่ลงแต่เงินเดือนเยอะขึ้นกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนทั้งเอกชนและราชการ ไม่ใช่ว่ารวยทุกคน แต่ทุกคนรู้จักจัดการการใช้เงินของตัวเองได้หมดแล้ว แต่ใครจะเชื่อ บางคนอาจจะต้องย้อนกลับไปคุยกันเรื่องความรักอีกครั้ง อกหักในวัยแกร่งเกิดขึ้นได้เสมอและไม่ใช่เรื่องตลก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากโสดตลอดชีวิต หรือผิดหวังในชีวิตคู่หรอก เพียงแต่การพูดคุยสำหรับวัยนี้ไม่ใช่ความเวิ่นเว้อหรือฟูมฟายแบบวัยรุ่น อย่างมากก็แค่อัปเดตสถานะให้เพื่อนเก่าฟังว่า ตัวเองโสดแล้ว กำลังตกอยู่ในภาวะผิดหวังเสียใจ และหาทางจัดการชีวิตอยู่แล้วเพื่อให้ตัวเองมูฟออนได้ บทสนทนาหัวข้อนี้จึงเป็นลักษณะของการบอกเล่าเพื่อขอความเข้าใจ ให้กำลังใจ แสดงความห่วงใยกัน ไม่ได้ต้องการให้มาซ้ำเติม วิจารณ์การกระทำไม่ว่าแต่ละคนจะมีประสบการณ์มาแบบใด มันเอาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เจ็บใครเจ็บมัน วิธีการของใครของมัน อย่าคาดหวังว่าเพื่อนต้องคิดอย่างที่เราคิด เคารพการตัดสินใจของเพื่อน ถึงจุดนี้แล้ว การคุยกับเพื่อนเก่าในวัยแกร่งคือ “อยู่เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน” ดีที่สุดแล้วไม่ว่าจะคุยหัวข้อใดๆ ก็ตาม เพราะไม่รู้ว่าอีก 5 ปี 10 ปี เราจะยังมีเรื่องคุยกันอีกไหม หรือยังอยู่ให้คุยกันอีกหรือเปล่า Podcast ฟังเพลินสำหรับคนไม่ชอบอ่านแต่ชอบฟัง ติดตามเพจ https://facebook.com/magnoliadiaryVIDEO
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 20 สิงหาคม 2565 15:20:01 น.
0 comments
Counter : 672 Pageviews.
Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [? ]
Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ