ไม่เป็นไร ไม่รู้ว่าใครเคยเจอประโยคที่ว่า “ไม่เป็นไรหรอก” หลังจากที่เราระบาย ความทุกข์โศก หรือความเครียดออกไปให้ใครคนหนึ่งฟัง และมีคำปลอบใจคำนี้อย่างอัตโนมัติจากผู้ฟังคล้าย ๆ จบการสนทนา ด้วยความเคยชินโดยไม่ทันได้นึกถึงความหมายของมัน เราเองก็คนหนึ่งที่เมื่อได้ยินแล้ว บอกตรงๆ ว่าเสียดายเวลาที่เล่าไปทั้งหมด อยากจะเอาคืนกลับมาแล้วทำเป็นไม่มีเกิดอะไรขึ้น เหมือนไปรบกวนเวลาและความรู้สึกของคนอื่นโดยไม่จำเป็น ฉะนั้น เราจึงมักจะเลือกเล่าให้คนที่เรามั่นใจว่าเขาก็มีอารมณ์ร่วมหรือเคยมีความรู้สึกเดียวกับเรา ชอบหาคนร่วมทุกข์มากกว่าร่วมสุข เพราะเขาเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารออกไปว่าเราต้องการอะไรกลับมา เราแยกความหมายของคำว่า “ไม่เป็นไร” เป็นสองนัย นัยหนึ่ง เมื่อได้ยินคำว่า “ไม่เป็นไรหรอก” “เดี๋ยวก็หายเดี๋ยวก็ดีขึ้น” เหมือนการบอกปัดสาระสำคัญที่พูดมาทั้งหมดว่า “ที่เธอเล่ามาน่ะ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” สรุปชีวิตของเราง่ายไปหรือเปล่าว่า แท้จริงแล้วเราไม่เป็นไร คนที่กำลังเจอเรื่องแย่ๆ มันจะ “ไม่เป็นไร” ได้อย่างไร ในเมื่อเขากำลัง “เป็นไร” สักอย่างหนึ่งที่มันทำให้เขาไม่โอเค เขาถึงเล่าให้ฟัง เช่น ป่วยเป็นโรคร้าย สูญเสีย ล้มเหลวในชีวิต มีอะไรมากมายที่ต้องเผชิญปัญหา ไม่มีอะไรที่ผ่านไปง่ายๆ เพียงแค่ “ไม่เป็นไร” แล้วจบหัวข้อสนทนา เรามองว่ามันไม่ใช่คำปลอบใจ แต่เป็นคำปล่อยผ่าน แล้วไม่ต้องกลับมาคุยกันเรื่องนี้อีก “เพราะสักวันเธอจะหายเอง” อีกนัยหนึ่ง คือ “ไม่เป็นไรนะ” “ฉันอยู่ข้างเธอ” เป็นคำที่เราประทับใจมากกว่า ปกติไม่ค่อยได้เจอ แต่เมื่อเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้สนิทกัน พิมพ์คำนี้ส่งมา เหมือนสิ่งที่เล่าบอกออกไป มีคนเข้าใจและพร้อมจะซัพพอร์ตเราเสมอเมื่อเราต้องการ หากชีวิตไม่โอเคเมื่อใดก็บอกมา ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกหรือความช่วยเหลือเรื่องใดๆ ก็ตาม ทำให้เราอยากเล่าอยากอัปเดตชีวิตให้เขาฟังมากขึ้น เวลาที่เรารับรู้เรื่องราวของใครก็ตาม เราก็พยายามใช้ “ไม่เป็นไร” นัยที่สอง เพื่อจะมอบความรู้สึกให้แก่คนฟังว่า “ใจเย็นๆ นะ เธอยังมีฉันช่วยคิด ช่วยแก้ปัญหา ช่วยแนะนำ หรือแม้แต่มีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับเธอ เข้าใจสิ่งที่เธอเป็นอยู่ เพราะฉันเองก็เคยเจอเหตุการณ์อย่างเธอมาก่อนนะ เธอเบื่อฉันก็เบื่อ เธอร้องฉันก็ร้อง แม้ฉันจะไม่เข้าใจเธอทั้งหมดแต่ฉันก็เป็นห่วงความรู้สึกเธอเสมอ” ถึงแม้บางปัญหาจะแก้ยากหรือแก้ไม่ได้แล้ว อยู่ใกล้ๆ ก็กอดเบาๆ หรืออยู่ไกลๆ ก็ส่งสารที่ทำให้รู้สึกว่าเรายังอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้หายไปไหน “ไม่เป็นไรนะ” ยังดีกว่า “ไม่เป็นไรหรอก” แต่หากวันหนึ่งเราเป็นคนพูดกับตัวเองว่า “เราไม่เป็นไร” เสียเอง นั่นหมายความว่า เราโอเคและไม่เป็นไรจริงๆ เราผ่านมันไปได้โดยไม่ต้องอธิบายว่าเราจะผ่านไปได้อย่างไร Create Date : 09 ตุลาคม 2565 Last Update : 9 ตุลาคม 2565 16:03:36 น. 0 comments Counter : 312 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก