มีเพื่อนหรือมีพวก เคยได้ยินคำที่เหล่าผู้ชายมักจะใช้กันบ้างไหม “เป็นพรรคพวกกัน” เขามักจะใช้คำนี้เวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือกันทางกายภาพหรือแสดงให้เห็นว่าตนเองยังเป็นคนที่รู้จักคบหาอยู่ เช่น รถเสียมีเพื่อนมาช่วยซ่อมช่วยลากจูง มีคอนเนกชันตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยสะดวก สามารถยกหูโทรหาได้ทันทีเมื่อมีความเดือดร้อน เหงาๆ ก็ชวนไปแฮงค์เอาท์ได้ มีพรรคพวกอยู่แทบทุกวงการ การมีพรรคพวกของผู้ชายนั้นเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จิตใจอ่อนแอหรือมีปัญหาที่มองไม่เห็นทางออก คนที่เขานึกถึงจะไม่ใช่พรรคพวกเดิมๆ เพราะพรรคพวกจะไม่แนะนำให้หาหมอหรือรับฟังความทุกข์ยาก แต่จะชวนเมาชวนเที่ยวเพื่อให้ลืมเรื่องแย่ๆ ชั่วคราว หลายๆ คนกว่าจะรู้ตัวอีกทีทั้งชีวิตมีแต่ “พรรคพวก” ที่ซัพพอร์ตทางกายแต่ไม่มี “เพื่อน” ที่ซัพพอร์ตทางใจได้สักคน กลายเป็นคนในครอบครัวที่เคยมองข้ามหรือแม้แต่เพื่อนผู้หญิงที่เลิกคบกันไปแล้วไม่คิดจะสนใจใยดีกันมาก่อนเข้ามาอยู่จุดนั้นแทน ขณะที่บางคนไม่กล้าจะบอกคนรู้จักสักคนแต่หันไปพึ่งหลวงพี่หลวงพ่อฟังธรรมะเพราะคิดว่าจะช่วยหลีกเร้นจากปัญหาที่รุมเร้าได้ ส่วนธรรมชาติของผู้หญิง น้อยคนนักที่จะมีพรรคพวกแบบผู้ชายที่คอยช่วยเหลือเพื่อทำให้ตัวเองสะดวกสบายขึ้น ผู้หญิงมักจะเน้นเพื่อนมากกว่าพวก เรื่องทางกายหากทำอะไรไม่ได้หรือยุ่งยากนักก็ใช้เงินแก้ปัญหาแทน แต่หากเป็นเรื่องทางใจต้องเป็นเพื่อนเท่านั้น บางคนเกิดมาจึงไม่เคยเจอ “พรรคพวก” เลย อย่าง Magnolia ก็หนึ่งในนั้น ถ้าวันหนึ่งจะเล่นการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งคงไม่ได้สักคะแนนเพราะมีแต่เพื่อนไม่มีพวก Magnolia ฟังคำให้สัมภาษณ์ของยิปโซ ดาราสาวที่เคยโด่งดังในยุค 2000 เธอพูดถึงความต่างระหว่างคำว่าเพื่อนกับพวกไว้อย่างน่าสนใจ “สิ่งที่เราเคยคิดว่ามีเพื่อนเยอะมองไปทางไหนก็มีแต่เพื่อน จริงๆ แล้วเราอาจมีพวกเยอะหรือเปล่า พวกคือคนที่เห็นว่าการคบกันแล้วมีผลประโยชน์หรือ benefit หากไม่มีผลประโยชน์แล้วก็ไม่รู้จะคบกันไปทำไม วันหนึ่งเมื่อเราเห็นไม่ตรงกันแล้ว สิ่งที่เสียไปจึงไม่ใช่เสียเพื่อน แต่เสียพวกมากกว่า แต่เพื่อนไม่ต้องมีผลประโยชน์ก็คบหากันได้ต่อไปเรื่อยๆ”...โดยสรุป Magnolia เห็นตรงกับยิปโซว่า เพื่อนไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง เห็นต่างกันก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่พวกต้องเห็นประโยชน์ร่วมกันเป็นหลัก ลักษณะของ “พวก” จะเห็นชัดเจนในที่ทำงาน หากเราไม่ได้คิดเหมือนกัน ไม่ได้นินทาคนๆ เดียวกัน ไม่ได้มีเจ้านายคนเดียวกัน ไม่ได้ศรัทธาคนๆ เดียวกัน เราก็ไม่ใช่พวกกันอีกแล้ว คนที่เราคบหาในที่ทำงาน จึงควรจะเรียกว่าพวกร่วมงานมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ฉะนั้น ก่อนตัดสินว่าใครคือเพื่อน เราลองเช็คความรู้สึกตัวเองให้แน่ใจว่า เขาจะเข้ามาเป็นเพื่อนหรือเอาเราเป็นพวกกันแน่ Create Date : 10 มีนาคม 2568 Last Update : 10 มีนาคม 2568 10:01:55 น. 0 comments Counter : 333 Pageviews.   (โหวต blog นี้)  Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก