1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
12 พฤศจิกายน 2566
ขอโทษที่รวยไม่พอ
หากคุณเล่นโซเชียลคุณอาจจะเห็นคำคมเกี่ยวกับการยืมเงินบ่อยๆ หรือแม้แต่เพื่อนๆ ที่โพสต์เรื่องของการถูกยืมเงิน หรือทวงเงินออกสื่อ รวมทั้งตัวคุณเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยนั้นด้วยเช่นกัน การยืมเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเรื่องแปลก หากเกิดขึ้นระหว่างคนสองคนที่เป็นความลับ ต่างฝ่ายต่างรับเงื่อนไขการยืมหรือมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ก็ไม่มีปัญหาภายหลัง แต่เมื่อเริ่มเห็นไม่ตรงกัน การยืมเงินก็ไม่เกิดขึ้น และผู้ไม่ให้ยืมมักจะกลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องเล่าของผู้ยืมทันทีว่า ใจดำ ไม่มีน้ำใจ งก ไม่ช่วยเหลือเพื่อนยามเดือดร้อน เห็นเป็นคนอื่นคนอื่นไกล เงื่อนไขของการยืมเงินไม่ว่ายืมนอกระบบหรือในระบบก็คล้ายๆ กัน ผู้ให้ยืมก็ต้องถามเหตุผลของการยืม ศักยภาพในการคืน และการรับมือหากไม่ได้คืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะเคลียร์ให้ชัดกันตั้งแต่แรก ถ้าพูดว่า “ยืม” ไม่ได้แปลว่า “กู้” เพราะหลายครั้งการยืมจะไม่มีดอกเบี้ย ผู้ที่ยืมเลือกใช้คำนี้และเลือกแล้วว่าจะยืมคนที่ไม่คิดดอกเพราะไม่ต้องการเป็นหนี้มากกว่าจำนวนเงินที่ยืมไป ผู้ที่ถูกยืมส่วนใหญ่ไม่ร่ำรวยหรอกแต่ที่ให้ยืมก็มักเห็นแก่ความเป็นเพื่อนหรือเห็นใจเมื่อถูกรบเร้ามากๆ เพราะถ้ารวยจริงเงินเหลือเฟือเขาจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการปล่อยกู้จนเป็นอาชีพมีรายได้จากดอกเบี้ย ไม่ใช่แค่การยืม ซึ่งรูปแบบนี้ไม่มีปัญหาเรื่องของความสัมพันธ์ เพราะเป็นลูกหนี้กับเจ้าหนี้ที่เขียนสัญญาชัดเจน แต่สำหรับเพื่อนกับเพื่อนมันเป็นเส้นบางๆ ระหว่างให้ยืมกับให้เปล่า ที่ตอนยืมกับตอนคืนความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิม คนที่ไม่มีหนี้ มีเงินเก็บอยู่บ้าง ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง มีเงินเดือนเข้าทุกเดือน มีบ้านมีรถ เป็นคนโสด หรือได้แฟนรวย ใช้เงินซื้อความสบาย กินดีอยู่ดี มีทองใส่ คนเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของเพื่อนที่ขัดสนเรื่องเงิน แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีภาระ จึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ทุกคนโตมาจนถึงวัยทำงานล้วนมีภาระกันทั้งนั้น ภาระของแต่ละคนต่างกัน คนที่เราพูดถึงข้างต้นก็มีภาระเช่นกันแต่ไม่จำเป็นต้องรายงานให้ใครรับรู้ ภาระของพวกเขาคือ การเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่มีอาชีพเดียวทั้งชีวิต วันหนึ่งก็ต้องเกษียณ และไม่มีบำนาญ ถ้ายังไม่ตายก็ต้องกินต้องใช้ในวันที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหมดอายุขัย บางคนกลัวเสียความเป็นเพื่อนไปก็แบ่งปันเล็กๆ น้อยๆ ในกรณีที่เห็นเพื่อนเดือดร้อนมากๆ คล้ายบริจาค หรือไม่ได้ให้เป็นตัวเงินแต่หาข้าวหาน้ำให้กินนั่นเป็นเรื่องของน้ำใจ ผู้รับก็อย่าไปมองในแง่ร้ายว่าเขางก หรือไม่มีความจริงใจกับเพื่อน อย่าดูแคลนน้ำใจหรือความห่วงใยที่เขามอบให้ คำว่า “ไม่มีเงิน” ของผู้ถูกยืม ไม่ได้แปลว่าไม่มีเงินในบัญชีเลย แต่แปลว่าไม่มีเงินมากพอที่จะให้ยืมต่างหาก จนบางครั้งต้องเอ่ยคำขอโทษผู้ยืมเสียด้วยซ้ำว่า “ขอโทษที่รวยไม่พอ” จะให้หยิบยืม ในมุมของผู้ยืมก็ลองทบทวนตัวเองหน่อยว่าก่อนหน้านี้เราเคยเป็นผู้ให้หรือแสดงน้ำใจ ให้ความจริงใจกับเพื่อนตลอดมาอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า หรือติดต่อมาเฉพาะตอนเดือดร้อนเรื่องเงินเท่านั้น และหากใครสักคนกล้าให้ยืมไม่ว่ามากหรือน้อย โดยที่ผู้ถูกยืมเองก็รู้ว่าอาจจะเป็นหนี้สูญ ทวงยาก ได้คืนไม่เต็มจำนวน แต่อยากให้ผู้ยืมเข้าใจหัวอกผู้ถูกยืมด้วยว่านั่นคือเงินจากน้ำพักน้ำแรงของเขาไม่ใช่พิมพ์แบงก์เองหรือถูกรางวัลที่หนึ่ง เขาให้ยืมด้วยความเมตตาหรือเกรงใจด้วยคำว่า “เพื่อน” ค้ำคอ แต่สำหรับบางคน นั่นอาจเป็นก้อนสุดท้ายที่เป็นการตัดรำคาญเพื่อตัดจบความสัมพันธ์และมิตรภาพไปเลยด้วยซ้ำVIDEO
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2566 9:25:04 น.
0 comments
Counter : 207 Pageviews.
Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [? ]
Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ