27 มกราคม 2565
ขอใครสักคนที่เข้าใจกันในวันที่อ่อนล้า
Magnolia ได้คุยกับกลุ่มวัยรุ่นที่เรียนมหาวิทยาลัย สิ่งที่พวกเขาเครียดตอนนี้คือการเรียน และการทำงานส่งอาจารย์ขณะที่ยังเรียนออนไลน์ โอกาสปรึกษามีน้อยลง ทำผิดๆ ถูกๆ เรียนไม่รู้เรื่องก็ยิ่งทำงานไม่ได้ เลยกลายเป็นความเครียดสะสม นอนไม่หลับตามๆ กันไป คิดวนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ ส่วนใหญ่อาการเดียวกันคือง่วงแต่ไม่หลับ บางคนนอนเข้านอนตีสองแต่หลับจริงๆ หกโมงเช้าทุกวัน บางคนนอนชม.สองชม.ก็ตื่นแล้ว บางคนไม่นอน 2 วัน 2 คืนก็ยังเคย ไม่ใช่ท้าพิสูจน์อะไร แค่นอนไม่หลับเท่านั้น อาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เครียดจริงๆ เพียงแต่แต่ละวัยก็มีเรื่องให้เครียดแต่ละเรื่องไม่เหมือนกันแต่อาการไม่ต่างกันเลย วัยเรียนก็เครียดเรื่องเรียนเป็นหลัก พอเข้าสู่วัยทำงานก็เครียดเรื่องงาน หางานไม่ได้ กลัวทำงานไม่ดี ไม่ได้ทำงานที่ชอบ เงินเดือนน้อยไม่พอใช้ ทำงานมาสักระยะหนึ่ง เครียดเรื่องหนี้สิน บ้าน รถ หมุนเงินไม่ทัน ใช้เงินไปกับครอบครัวมากขึ้น งานเริ่มไม่โอเค ไม่มั่นคง เบื่องาน ไม่สนุกเหมือนเคย อยากลาออก แต่กลัวไม่มีเงินใช้ กลัวการเปลี่ยนแปลง อายุมากขึ้นจนไม่รู้จะไปทำอะไร คนหนุ่มสาวก็เครียดเรื่องความรัก อกหักรักคุด ไม่สมหวังดังใจหมาย ต่อให้ไม่ใช่หนุ่มสาวก็อกหักได้ เพราะความคาดหวังในตัวคนรักและไม่สมหวังนี่แหละตัวดี สุดท้ายต้อง “จากเป็น” ที่กลายเป็นความทรมานใจ พอมีครอบครัวก็เครียดเรื่องชีวิตคู่ ไม่ชินกับการอยู่กับคนอื่นหรือครอบครัวคนอื่น การปรับตัว และทัศนคติหลายอย่างไม่ตรงกัน ปัญหานอกใจ หรือคู่ชีวิตห่วยกว่าที่คิด หรือแม้แต่การ “จากตาย” ของคนรัก คนมีลูกเล็กก็เครียดเรื่องลูก อยากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด กลัวลูกป่วย คนมีลูกโตก็เครียดเรื่องเรียนออนไลน์ กลัวเตลิดเปิดเปิงไปกับสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย หรือลูกไม่ได้ดังใจ คนเรียนป.โท ป.เอกก็เครียดเพราะยากและกลัวเรียนไม่จบ หรือจบแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ยิ่งเรียนตอนอายุมาก ยิ่งไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือผิด บางคนเครียดที่ใกล้เกษียณแล้วไม่รู้จะทำอะไรดี อยากให้บริษัทจ้างออกจะได้มีเงินก้อน แต่บริษัทก็ไม่ยอมจ้าง แม้แต่คนแก่อย่างแม่เราก็เครียดที่ว่างจัด ไม่มีอะไรจะทำ นั่งมองท้องฟ้าเมื่อไรจะค่ำเสียที ยุคนี้ก็บวกความเครียดเรื่องโควิดไปอีก วิตกกังวลไปหมด ทั้งโรคภัยทั้งเศรษฐกิจ กลัวจะติด กลัวจะระลอกใหม่จะเกิด เราอ่านเจอคำให้สัมภาษณ์ของจิตแพทย์ บอกว่าความเครียดมันก็แปลกถ้าเรารู้ตัวเร็วว่ากำลังเครียด เราจะรีบจัดการให้ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่รู้ตัวจะจัดการยาก ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปพบหมอ ก็จริงนะ เด็กบางคนไม่อยากจมกับความเครียดนาน ก็จะรีบออกไปทำอย่างอื่นทันที เช่น หาความสนุกกับเพื่อนๆ ชั่วคราว หรือบางคนก็แค่ยอมรับความสามารถของตัวเองว่า “ก็ทำได้เท่านี้” ความเครียดก็บรรเทาลง สุขภาพจิตก็ปกติกว่าเพื่อนๆ ที่เจอเรื่องเดียวกัน ขณะที่ผู้ใหญ่ทำได้ยากกว่าเด็ก เพราะความคาดหวังและความรับผิดชอบในชีวิตสูงกว่าเด็ก มีจิตแพทย์อีกคนหนึ่งที่อ่านเจอมา พูดถึงการคิดวน ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนที่เครียดแล้วนอนไม่หลับจะคิดวนและฟุ้งซ่านหมด พอคิดมากๆ สมองจะล้า มุมด้านลบจะผุดขึ้นเยอะมากและดึงเราไปอยู่ด้านลบ ทำให้เครียดเรื้อรัง มุมลบก็จะใหญ่ขึ้น เหลือแค่มุมเดียวออกมาไม่ได้ นั่นล่ะโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงมาก ถ้ามีใครสักคน หรือมีอะไรบางอย่างเข้าไปขยับเราออกจากมุมนั้น ความเครียดก็จะค่อยๆ แผ่วลง หรือปัญหาจะค่อยๆ คลี่คลาย ใช่เลย เราเคยเจออาการแบบนี้มาหมดแล้ว ไม่ว่าเครียดจากเรื่องอะไรในวัยใดก็ตาม ถ้าได้ใครสักคนมาแง้มช่องให้เราได้ระบายมันออกมา มันจะดีมากเลย คนๆ นั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนรักหรือเพื่อนสนิท แต่เป็นใครก็ได้ที่พร้อมจะนั่งข้างๆ เราและฟังเรื่องของเรา ไม่ต้องเข้าใจเรื่องของเรา แต่เข้าใจความรู้สึกของเรา ไม่ตัดสินเราในวันที่อ่อนแอ ถึงแม้ว่าใครสักคนจะไม่สามารถทำให้เรานอนหลับในทันทีแต่ก็ยังดีกว่าเราคิดวนไปมาและคิดเองเออเองอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือ Podcast ฟังเพลินสำหรับคนไม่ชอบอ่านแต่ชอบฟัง ติดตามเพจ https://facebook.com/magnoliadiary VIDEO
Create Date : 27 มกราคม 2565
Last Update : 20 สิงหาคม 2565 15:02:29 น.
0 comments
Counter : 540 Pageviews.