Safe Zone ในแต่ละช่วงชีวิต ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวัยแกร่ง ถ้าแบ่งช่วงวัยตามหลักประชากรศาสตร์ก็มีเกือบ 10 ช่วง แต่ถ้าแบ่งช่วงชีวิตเป็นทุกๆ 10 ปี หรือทุกๆ ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคมก็คงมากกว่า 10 ช่วง กว่าจะมาถึงวันนี้ ในแต่ละช่วงวัยหรือช่วงชีวิต Magnolia เคยอ่านเจอคำแนะนำว่า เราควรจะหา Safe Zone ให้เจอ เราเองก็เชื่ออย่างนั้น เพราะในแต่ละช่วงชีวิตจะมีประสบการณ์มีเหตุการณ์มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จนไม่อาจจะใช้ Safe Zone เดียวกันได้ตลอดไป วัยเด็กตั้งแต่เกิดก่อนถึงวัยรุ่น Safe Zone ของเราคือพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่อยู่กับเราเลี้ยงดูเรา จนกระทั่งเราเข้าสู่วัยรุ่น Safe Zone ไม่ใช่พ่อแม่อีกต่อไป แต่เป็นเพื่อนสนิทในห้องเรียน อาจจะมีเป็น 10 คนเลยก็ได้ ทั้งหญิงทั้งชายที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านได้ว่าเรามีปัญหาอะไรกับพ่อแม่ หรือเราไม่สบายใจเรื่องอะไร ที่ไม่สามารถพูดกับครอบครัวได้ เพื่อนคือคนที่อยู่ข้างเราไม่ว่าเราจะผิดหรือถูก พอเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลาย Safe Zone ก็อาจจะเปลี่ยนไป บางคนมีความรัก Safe Zone ก็คือแฟน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง หรือเพศเดียวกันก็ตาม เป็นคนที่เขาสามารถเปิดเผยทุกสิ่งอย่างได้โดยใช้ความไว้ใจ จนเมื่อวันหนึ่งเลิกรากันไป คนๆ นั้นก็ไม่ใช่ Safe Zone ของเขาและเธออีกต่อไป บางคนมี Safe Zone เป็นผู้ใหญ่ที่นับถือที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็นครูบาอาจารย์ พระ หรือรุ่นพี่ หรือใครสักคนที่มีบุญคุณกับเขามาก หรือแม้แต่แฟนเก่าอาจเป็น Safe Zone ได้มากกว่าแฟนปัจจุบัน เข้าสู่วัยทำงาน Safe Zone ก็จะเปลี่ยนไปอีกครั้ง น้อยคนนักที่เลือกเพื่อนร่วมงานเป็น Safe Zone เพราะในการทำงานมันมักมีการแข่งขันกันลึกๆ มีผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง แม้จะดูเหมือนเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือในการทำงานเป็นทีม แต่ก็พร้อมที่จะแทงข้างหลัง หรือกดให้อีกฝ่ายต่ำลงได้เสมอไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการกระทำ โลกของการทำงานมันไม่ใช่โลกของจิตอาสา ฉะนั้น Safe Zone ที่เป็นเพื่อนร่วมงานจึงน้อยมากที่ใครจะหาเจอ หรือเชื่อใจกันได้ Magnolia เคยเขียนถึงเรื่องเพื่อนร่วมงานไว้ ตั้งแต่ปีแรกๆแล้วว่า “เพื่อนร่วมงานเอาไว้ร่วมงาน” อย่านับเป็นเพื่อนสนิททันทีแม้จะเวลาผ่านไปเป็นสิบปี อย่าไว้วางใจ อย่าเรียกว่าเพื่อน จนกว่าวันที่เราเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วเราจะรู้ว่า เขาคิดอย่างไรต่อเรา ยังคงมีความรู้สึกกับเราเหมือนเดิมอีกหรือไม่ Safe Zone ในวัยแกร่งอาจจะหายากสักหน่อย เพราะต้องหาคนที่เราสามารถแชร์ เรื่องราวในชีวิตได้เกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว เรื่องเงิน Safe Zone ไม่ใช่การหาเพื่อนมาช่วยเหลือ แต่เป็นการหาเพื่อนมาช่วยรับฟัง เพราะแค่รับฟังเราก็รู้สึกปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องมาร่วมทุกข์หรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราในยามทุกข์ก็ได้ บางคนโชคดีหน่อยที่มี Safe Zone อย่างคู่ชีวิต แต่สำหรับคนที่ไม่มีคู่ชีวิต หรือสมาชิกในครอบครัวเป็น Safe Zone ไม่ได้ จึงอาจมีจิตแพทย์หรือใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยเจอกันเป็น Safe Zone หรือบางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าเจอแล้ว ขณะที่บางคนอาจจะเจอแล้วแต่ผ่านไปแล้ว และไม่จำเป็นว่า Safe Zone ต้องเป็นมนุษย์เท่านั้น หมา แมว ต้นไม้ใบหญ้า หรือแม้สิ่งที่ไม่มีชีวิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือก็ยังได้ ปลดปล่อยไปแล้วไม่เหนื่อยและโล่งขึ้น เมื่อเจอ Safe Zone จริงๆ เราจะสัมผัสได้เองว่านั่นคือที่ที่ปลอดภัยต่อใจ ช่วยให้การมีชีวิตที่ยุ่งยากของเรามันง่ายขึ้น แม้ปัญหาจะไม่หมดไป แต่เบาใจลง เท่าที่เรามีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ Magnolia คิดว่าเราก็คงเป็น Safe Zone ของเพื่อนหลายๆ คนในวันที่พวกเขาไม่รู้จะหันไปหาใคร ขณะเดียวกันเราเองก็มี Safe Zone หลายคนเช่นกัน ต้องช่วยแบ่งๆ กันไป ไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งมาแบกรับความทุกข์เราไว้ทั้งหมด จึงต้องแบ่ง Safe Zone ตามเรื่องราวที่เราเห็นว่าเหมาะสมกับพวกเขา ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบฟังทุกเรื่องของเรา การรับพลังลบของแต่ละคนก็มีจำกัด หากคุณเคยเป็น Safe Zone ของใครสักคนแล้วภูมิใจเถิดว่า คุณคือคนที่ถูกเลือกว่า ปลอดภัยที่สุดในชีวิตของเขา ณ ช่วงเวลานั้น แม้วันนี้จะไม่ใช่ Safe Zone ของเขาอีกต่อไป แต่เชื่อว่าเขาไม่เคยลืม Safe Zone เช่นคุณอย่างแน่นอน และถ้าวันนี้คุณ มี Safe Zone เป็นของตัวเองแล้ว ก็สบายใจได้ว่าในช่วงชีวิตวัยแกร่งที่เพื่อนน้อยลง เรายังเจอคนๆ นั้นอยู่ จงรักษาพื้นที่ปลอดภัยนั้นไว้ให้ดีๆ เพราะเขาอาจจะเหลือเป็นคนสุดท้ายในชีวิตคุณแล้วก็ได้ Create Date : 09 พฤศจิกายน 2567 Last Update : 9 พฤศจิกายน 2567 12:20:42 น. 0 comments Counter : 130 Pageviews.   (โหวต blog นี้)  Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณสายหมอกและก้อนเมฆ