หลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลง RnB นุ่มๆ เสียงร้องมีเสน่ห์ของหนุ่มคนนึง ที่ถ้าฟังแบบไม่เห็นหน้า อืมมมม ท่าทางจะหล่อ พอดู MV เท่านั้นแหละ อืมมมมมม ไม่ใช่แนวฉานนะนายจ๋ากันเป็นแถบ กับเพลงที่ชื่อว่า Let Me Love You กันมาบ้างแล้ว ยิ่งเมื่อก่อนนะครับ เปิดใหญ่เลยที่ Get 102.5 เพลงอื่นของหนุ่มคนนี้ไม่เปิด เปิดแค่เพลงนี้เพลงเดียว เอากับคลื่นนี้สิ หนุ่มผิวสีสุดเท่ห์คนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มาพร้อมกับชื่อที่จำได้ง่ายๆ ว่า Mario ครับ
แม้ว่าชื่อของหนุ่มคนนี้จะพาลให้นึกถึง เกมเครื่องแฟมิคอมรุ่นดึกดำดึ๋ย ที่กินเห็ดแล้วจะตัวโตได้ แต่เนื่องจากหนุ่มคนนี้ไม่เกรงว่าชื่อซ้ำแล้วทำให้คนเข้าใจผิด เลยให้เรียกสั้นๆ ว่า Mario นี่แหละ ในวัยเด็กของหนุ่มคนนี้ค่อนข้างโชคไม่ดี เนื่องจากครอบครัวไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ต้องไปอยู่กับยายตั้งแต่เล็กๆ แถมแม่ของตัวเองก็อยู่ในวังวนของยาเสพติด แต่คนดีผีย่อมคุ้ม ทำให้หนุ่มคนนี้เติบโตมาพร้อมแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นนักร้องให้จงได้มาตั้งแต่ 4 ขวบ แม่ผู้เป็นที่รักก็เลยเจียดเงินจากการซื้อยามาสูดฟืดๆ มาซื้อเครื่องร้องคาราโอเกะให้ลูกชายแทน เลยทำให้ Mario ได้แหกปากมาตั้งแต่บัดนั้น ครั้งในวัยหนุ่มต้นๆ แรงขับทางเพศ เอ๊ย! ทางจิตใจก็สั่งให้ตัวเองไปเรียนเปียโน หัดแต่งทำนองเอง และได้เข้าประกวดร้องเพลง ได้ตำแหน่งแชมป์มาเชียวนะครับ เลยได้เซ็นสัญญากับค่าย J Record ของ Sony BMG ในเวลาต่อมา ปรบมือให้เลย แปะๆๆๆๆๆ
ในปี 2002 การทำเพลงของหนุ่มคนนี้ก็ได้เริ่มขึ้นโดยอาศัยแนวเพลงจากหลายหลายศิลปินมาประยุกต์เป็นแนวทางของตัวเอง อาทิเช่น Nat King Cole, Brian McKnight, Usher, Boy II Men, Stevie Wonder และ Mayin Gaye (เยอะจังวุ้ย) เลยได้ผลิตผลออกมาเป็นอัลบั้มที่ชื่อเดียวกับตัวเองว่า Mario พร้อมได้ปล่อย Single Cover ของนักร้องรุ่นดึกอย่าง Biz Markie กับเพลง Just A Friend 2002 ในเมื่อเอาเพลงดีๆ มาร้อง อันดับในชาร์ตก็ได้ไปเลย ที่อันดับ 4 US Chart ผู้คนได้เริ่มรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้มากขึ้น ชมกันเปาะเลยว่าเก่งจังหนู แปะๆๆๆๆๆๆ แต่ก็ชมที่เพลงนี้เพลงเดียว Single ถัดๆ ไปอย่าง Braid My Hair และ C’mon ก็ประสบความสำเร็จเพียงน้อยนิด หนุ่มน้อยเลยไปพักทำใจตามระเบียบ
ครั้นมาในปี 2004 จากหนุ่มน้อยเริ่มก้าวกระโดดมาที่หนุ่มวัยสะออน ก็ได้ฤกษ์กลับมา พร้อมกับการเอาใจตลาดสุดฤทธิ์ กับอัลบั้มที่ชื่อว่า Turning Point ที่มาพร้อมกับเพลงดังโคตรๆ อย่าง Let Me Love You ทำให้ชาวบ้านชาวช่องกรี๊ดกันตลาดแตก แย่งกันซื้อ CD Single เหมือนแย่งของลดราคา เอาไปเลยอันดับ 1 US Chart ซึ่งปัจจุบันนี้ Get 102.5 ก็ยังเปิดอยู่ (เอากับอีคลื่นนี้สิ) พอเพลงต่อๆ มาอย่าง How Could You (จขบ. ชอบมั่กๆ) กับเพลง Here I Go Again ก็เริ่มแห้วตามสูตรแบบอัลบั้มแรกเปะๆ พ่อหนุ่มเลยลองเดินในถนนสายการแสดงดู ก็ได้ไปเป็นพระรองในเรื่อง Step Up ก็คนมันหล่อน้อยกว่าพระเอก เลยได้ตำแหน่งนี้ก็ดีแล้ว
การแสดงก็ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเลยกลับมาออกอัลบั้มอีกครั้ง ซึ่งในอัลบั้มที่ 3 นี้ใช้ชื่อว่า Go! ก็ได้กรีฑาทัพ Producer ชื่อดังมากมายมาช่วยกันเข็น เลยได้ Single แรกที่ชื่อว่า How Do I Breathe มาเรียกน้ำย่อย ในเมื่อมาเรียกน้ำย่อย จขบ. ก็ขอมารีวิวให้อ่านและฟังด้วยประการละฉะนี้ครับ
พอดู MV เท่านั้นแหละ อืมมมมมม ไม่ใช่แนวฉานนะนายจ๋ากันเป็นแถบ 
กับเพลงที่ชื่อว่า Let Me Love You กันมาบ้างแล้ว ยิ่งเมื่อก่อนนะครับ เปิดใหญ่เลยที่ Get 102.5 เพลงอื่นของหนุ่มคนนี้ไม่เปิด เปิดแค่เพลงนี้เพลงเดียว เอากับคลื่นนี้สิ 
หนุ่มผิวสีสุดเท่ห์คนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มาพร้อมกับชื่อที่จำได้ง่ายๆ ว่า Mario ครับ 
ครั้งในวัยหนุ่มต้นๆ แรงขับทางเพศ เอ๊ย! ทางจิตใจก็สั่งให้ตัวเองไปเรียนเปียโน หัดแต่งทำนองเอง และได้เข้าประกวดร้องเพลง ได้ตำแหน่งแชมป์มาเชียวนะครับ เลยได้เซ็นสัญญากับค่าย J Record ของ Sony BMG ในเวลาต่อมา ปรบมือให้เลย แปะๆๆๆๆๆ 
เลยได้ผลิตผลออกมาเป็นอัลบั้มที่ชื่อเดียวกับตัวเองว่า Mario พร้อมได้ปล่อย Single Cover ของนักร้องรุ่นดึกอย่าง Biz Markie กับเพลง Just A Friend 2002 ในเมื่อเอาเพลงดีๆ มาร้อง อันดับในชาร์ตก็ได้ไปเลย ที่อันดับ 4 US Chart ผู้คนได้เริ่มรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้มากขึ้น ชมกันเปาะเลยว่าเก่งจังหนู แปะๆๆๆๆๆๆ 
แย่งกันซื้อ CD Single เหมือนแย่งของลดราคา 
เอาไปเลยอันดับ 1 US Chart ซึ่งปัจจุบันนี้ Get 102.5 ก็ยังเปิดอยู่ (เอากับอีคลื่นนี้สิ) 
พอเพลงต่อๆ มาอย่าง How Could You (จขบ. ชอบมั่กๆ) กับเพลง Here I Go Again ก็เริ่มแห้วตามสูตรแบบอัลบั้มแรกเปะๆ พ่อหนุ่มเลยลองเดินในถนนสายการแสดงดู ก็ได้ไปเป็นพระรองในเรื่อง Step Up ก็คนมันหล่อน้อยกว่าพระเอก เลยได้ตำแหน่งนี้ก็ดีแล้ว 
ทำไปได้ กะจะมาจับตลาดอีกล่ะเสะ แหม คิดว่า ดาร์ก ทอล แอนด์ แฮนด์ซัม จะติดตาติดใจหรือไงฮึ ชิส์ 
เปลี่ยนๆ มาดูที่เสียงร้องของหนุ่มเขา เออ ค่อยยังชั่ว หงุดหงิดเพราะหูหาเรื่องกับทำนองมาเจอเสียงแบบนี้ค่อยรับได้หน่อย เสียงยังเซะซี่ ยังนุ่ม และเข้าอารมณ์อ้อนได้ดีเหมือนเดิม เสียงประสานก็ทำหน้าที่เยี่ยม ทำให้เพลงดูเศร้าปนหวานกำลังดีเลย ค่อยให้อภัยได้หน่อย 
โว้ยยยย แหวะๆๆ หวานเกิ๊น น้ำเน่ายิ่งกว่าหลงเงาจันทร์ + แรมพิศวาส ในเมื่อหายใจไม่ได้ชิมิ ก็ไม่ต้องหายใจไง 
ฮ่วย ขนลุกขนพอง หวานจนขนลุก ต้องทำท่าคลานสลัดน้ำตาลที่เกาะตามตัวออก (เอ๊ะ มันท่าเดียวกับหมานี่นา) 
ไม่รุ้จักหน้า เคยฟังแต่เพลง ได้ยินเพื่อนมันบ้าเอามากๆ ฟังวนแมร่งอยู่เพลงเดียวนี่ล่ะ แผ่นแทบสึก
(ถ้าแผ่นเจ๊งล่ะมรึง ตูจะสมน้ำหน้าให้
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [
แนวเลยอ่ะเพลงนี้