ช็อครอบแรก: มันคือ Electropop น่ะพี่น้องคร้าบบบบบ ซึ่งคาดไม่ถึงว่า Coldplay จะมาเล่นแนวนี้ ยังๆ ยังไม่พอ ต่อด้วยกลิ่นอายแบบ Hip Hop RnB ที่ลอยอยู่เต็มเพลง อันนี้สิอึ้งจนไม่รู้จะอึ้งอย่างไง เพราะกลิ่นอายดนตรีของ Coldplay แบบเดิมๆ ที่แม้จะประยุกต์ หรือพัฒนาขึ้นมายังไงมันไม่เคยจางหาย แต่ในเพลงนี้มันจับต้องไม่ได้จากดนตรีเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ได้ยินเสียงของ Chris Martin และเนื้อหาในแบบที่เป็นการเล่าเรื่องและเปรียบเปรยในแบบฉบับของ Coldplay แทบจะไม่รู้เลยว่า เฮ้ย! นี่เหรอเพลงของ Coldplay
ช็อครอบ 2: ไม่คิดว่าห่านจะมาร้องเพลงนี้แล้วกลบเฮีย Chris ได้มากขนาดนี้ เธอแย่งซีนจนแทบจะเอาเพลงนี้มาเป็นของตัวเอง แล้วบอกว่า Feat. Chris Martin ยังได้เลย แน่นอนช่วงท่อนของตัวเองต่างทำได้ดีกันทั้งคู่ แต่พอประสานเฮีย Chris คงไม่สามารถเอื้อนขึ้นสูงจนทำให้เพลงเตลิดเข้ารกเข้าพงได้ เลยต้องเป็นเหมือนคอรัสเสียงต่ำเสริมเสียงห่านให้เด่นกว่าไปซะงั้น นี่ฟังเพลงของใครอยู่ฟ่ะเนี่ย
สิ่งที่ชอบและยังคงชอบ: ความเป็น Chris Martin และเนื้อหาเพลงที่เป็นการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นยันจบ มีการเปรียบเปรยที่ทำให้เกิดมิติที่ทำให้อินไปกับเพลงได้ไม่ยาก เนื้อหาแม้จะวนเวียนแต่เรื่องเราเคยรักกัน สุกสกาวพร่างพราวด้วยกัน แต่ก็ต้องเจ็บปวดเพราะต่างทิ้งกันไป แต่เพราะฝีมือการเขียนเพลงที่เล่าเรื่องราวเปรียบเปรยมันก็ยังน่าสนใจได้อยู่ และที่สำคัญ "ห่านนา" เธอร้องเพลงนี้ออกมาได้เด่นจัด เด่นจริง จนเฮีย Chris แกหมอง จนต้องเอาโอโม่มาซักล้างกันได้เลยทีเดียว
(เอ่อ คุณผู้กำกับ อย่างแรกต้องบอกว่าทั้งหนังหน้าเฮีย Chris และห่านนาน่ะ มันไม่ค่อยเข้ากับชุดที่ใส่อยู่แล้ว แต่ในเมื่อจะ Made in China แบบชอว์บราเดอร์ ไหงการแต่งกายเป็นยุ่นซะฉิบ คือ ตกลงจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่ นี่มันบอกถึงฝรั่งส่วนใหญ่เลยนะ ว่าแยกไม่ออกว่าคนเอเชียชาติพันธุ์ไหนมันอะไรยังไง เลยเรียกไว้ก่อนว่ามาจากจีนแล้วจับแพะชนแกะกันเละขนาดนี้น่ะเหรอ ฮ่วยยยย รมณ์เสีย!)
แต่กลับไปฟังใหม่ ห่านเด่นกว่าเฮียคริสจริงเหรอ