วันที่ 28 (12 ก.ค.60) ก่อนถึงเวลาอาหาร ดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่อะไรกับน้ำชาและน้ำเปล่า
อาหาร เริ่มเวลา 12.00 น. สิ้นสุดที่เวลา 15.00-19.00 น.
วิตามินต่าง ๆ (วิตามินบีรวม แอสต้าแซนตินน้ำมันฟักข้าว)
ผักสลัด 1 จาน
ดอกกระหล่ำผัดไข่ใส่เนื้อไก่ 1 จานใหญ่
บะจ่าง 1 ลูก
อาลัว 2 ชิ้น
กล้วยกวน 2 ชิ้น
มังคุด 5 ลูก
แก้วมังกร 1/2/ ลูก
แอปเปิลเขียว 1 ลูก
เวย์ 1 สกู๊ป
น้ำดื่ม ตลอดวันประมาณ 3 ลิตร
ออกกำลังกาย เวลา 16.00-18.00 น
-ออกกำลังกายในส่วนของ Lowerbody ค่ะ มีฝึกกล้ามท้องแถมด้วย ประมาณ 2 ชม.
อารมณ์ความรู้สึก
วันที่ 28 ช่วงนี้คึก ๆ ค่ะรู้สึกว่าอยากออกกำลังกายที่ใช้ร่างกายเป็นแรงต้านค่ะ พวกกลุ่มบอดี้เวทแหละและก็มีอุปกรณ์ตัวนึงที่เคยอยากสั่งมาเล่นนานแล้วแต่ก็ไม่ได้สั่งสักทีอุปกรณ์ตัวนี้คือ เจ้า TRX อยากสร้างความแข็งแรงที่แกนกลางลำตัวและหนีความจำเจในการเล่นกล้ามท้องเดิม ๆ ค่ะ เพราะตัวนี้ค่อนข้างโหดเลยทีเดียวแต่ก็น่าสนุกดีค่ะ มันท้าทายดีนะ เรื่องอาหารก็พยายามปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ค่ะ อาจจะช้าหน่อยแต่ก็ดีกว่าที่ไม่คิดจะทำอะไรว่าไหมคะ สำหรับพี่ปลานะรู้สึกว่าพอเราไม่ได้จำกัดปริมาณและชนิดอาหารเคร่งอะไรมากทำให้ไม่เครียดค่ะตอนนี้อาจกินอะไรก็กินไปก่อน (พอได้กินสมใจแล้วความอยากหายไปค่ะไม่นึกอยากกินอีกแล้ว สำหรับพี่ปลานะคะเช่น พวกพิซซ่า ขนมปังเนี่ยไม่อยากกินแล้วเบื่อ ตอนที่บังคับให้ตัวเองไม่กินของพวกนี้แหมมันอยากกินมาก ๆน้ำลายหกเลย พอบอกตัวเองว่าอิสระกินไปซิถ้าอยากกินกลับไม่อยากแล้วค่ะไอศกรีมก็เหมือนกันตอนนี้ไม่อยากแล้ว เฉย ๆ อยากกินผักสด ๆ ผลไม้มากกว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดีค่ะ แต่พวกขนมบางทีก็ยังงดไม่ได้ค่ะขอเวลาอีกนิดนะคะ คงดีกว่านี้ กลับมาอ่านข้อความที่น้องแม็กคอมเมนท์ไว้บอกว่าพี่ปลาควรเป็นนักสืบเรื่องสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้รับตาสว่างเลยค่ะ ที่ผ่านมาก็คิดแบบนี้ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำอย่างจริงจังอย่างที่น้องบอกแหละร่างกาย fasting มาตั้ง 16 ชม. เวลาจะกินก็ต้องเลือกกินของดี ๆที่ร่างกายต้องการค่ะ ไม่งั้นสารอาหารไม่เพียงพอ ก็เป็นการทำที่ไร้ประโยชน์ แหม ๆ ชอบจังเวลาที่น้องมาบอกอะไรดี ๆ แบบนี้น่ะ มันเหมือนมีคนคอยดูคอยใส่ใจเราไงคะ ปลื้มมาก ๆ เหมือนว่าการก้าวเดินของเราไม่ได้โดดเดี่ยวค่ะมีคนเฝ้าห่วงใยและดูแลเราอยู่ จะพยายามให้มากขึ้นค่ะ