แวะเมืองรถม้า ตื่นตาเงาพระธาตุกลับหัว

หากพูดถึง 'ลำปาง' สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือ'รถม้า' สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมือง
อีกทั้งยังเป็นพร๊อพประกอบการถ่ายภาพเพื่อยืนยันกับคนอื่นได้ว่า 'มาถึงลำปางแล้ว...' รองลงมาคือ 'ชามตราไก่'
ที่จะพบได้ทั่วไปจากป้ายถนน สะพาน และตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ ทั่วเมือง

อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวคือ 'เงาพระธาตุ' ซึ่งที่ จ.ลำปาง นี้ นับว่ามีเงาพระธาตุให้เราได้ชม
อยู่หลายวัดด้วยกัน แต่ที่ 'เดลินิวส์ ไกด์' จะพาไปชม เป็นเงาพระธาตุที่ 'วัดพระธาตุลำปางหลวง'
'วัดพระธาตุลำปางหลวง' ตั้งอยู่ที่ ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา ห่างจากตัวเมืองลำปางไปประมาณ 18 กิโลเมตร
ถือเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ คู่บ้านคู่เมืองลำปาง
และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิดในปีฉลู หรือ ปีวัว ด้วย




ตำนาน 'วัดพระธาตุลำปางหลวง'…
มีการเล่าขานกันต่อมาว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตาม
บ้านเมืองต่าง ๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย
มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ‘ลัวะอ้ายกอน’ เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมา
ถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า
สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่า ‘ลัมพกัปปะนคร’ แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น
มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ ใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับ
ถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แต่งยนต์ผัด(ยนต์หมุน) รักษาไว้ ถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็น
พระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์
มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

พาชมรอบวัด...
ความสวยงามของสถาปัตยกรรมของ 'วัดพระธาตุลำปางหลวง' แห่งนี้ เริ่มตั้งแต่บริเวณ 'ประตูโขง' ที่สร้างโดย
ฝีมือของช่างหลวงในสมัยโบราณ ก่ออิฐปูนทำเป็นซุ้มยอดแหลม
ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น รูปดอกไม้ และสัตว์ในหิมพานต์ และด้วยความสวยงามของ 'ประตูโขง' นี้
ทำให้ทางจังหวัดนำรูปประตูโขงไปใช้ในตราประจำจังหวัดด้วย



ผ่าน 'ประตูโขง' เข้ามา ก็จะพบกับ ‘วิหารหลวง’ซึ่งตั้งอยู่แนวเดียวกับประตูโขง และองค์พระธาตุเจดีย์ ทรง
วิหารเปิดโล่งตามแบบล้านนายุคแรก หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ภายในวิหารบรรจุมณฑป 'พระเจ้าล้านทอง'
ด้านในของแนวคอสอง มีภาพเขียนสีโบราณเรื่องชาดก ซึ่งยังคงความชัดเจนของเรื่องราว และสีสัน
ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้ศึกษา

ถัดมาเป็น ‘องค์พระธาตุเจดีย์’ เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลาย หรือที่เรียกว่า ‘ทองจังโก’
ทรงล้านนา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น นอกจากนี้ตามตำนานยังกล่าวว่า
ภายในองค์พระธาตุเจดีย์ยังเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

บริเวณรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุ ปรากฏให้เห็นรอยกระสุนปืน ที่มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ว่า
รอยกระสุนดังกล่าวเกิดขึ้นราว พ.ศ.2275 ในขณะที่นครลำปางว่างจากผู้ครองนคร และเกิดความวุ่นวายขึ้น
ในสมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเชียงใหม่ และลำพูน
ต่อมาท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังหวังจะมายึดนครลำปาง
โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง

ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันคืออำเภอเกาะคา) วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพล
ทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป
ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์
ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระยาสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง
อีกทั้งยังเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน และ ณ น่าน


มหัศจรรย์ ‘เงาพระธาตุ’
ใกล้กับ ‘องค์พระธาตุเจดีย์’ เป็นบริเวณ 'วิหารพระพุทธ' วิหารที่ไม่ปรากฏผู้สร้าง แต่สันนิษฐานว่าจะมีอายุ
ไม่ต่ำกว่า 700 ปี เดิมเป็นวิหารเปิดโล่ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2345 ถูกซ่อมแซมและทำการปิดผนังทั้ง 4 ด้าน
โดยทำทางเข้าออกทางหนึ่ง ภายในประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่
ก่อด้วยอิฐถือปูน สิงห์สามปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน มุมหนึ่งภายในวิหารปรากฏ 'เงาพระธาตุ'
สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

สำหรับเงาพระธาตุนี้ นับว่าแปลกมากทีเดียว เพราะไม่ว่าพระอาทิตย์จะเปลี่ยนองศาไปทางใด
แต่ยังปรากฏให้เห็นเงาพระธาตุอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังปรากฏให้เห็นสีสันที่ชัดเจนเหมือนจริง
แม้จะจืดจางไปบ้าง(ตามคำบอกเล่า)เนื่องจากมีคนสงสัยในความมหัศจรรย์เยอะ จึงนำนิ้วไปแหย่
ทำให้รูที่แสงส่องเข้ามามีขนาดใหญ่ขึ้น ความคมชัดของสีและเงาจึงลดลง
อีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเห็นเงาพระธาตุได้อย่างชัดเจนคือ บริเวณ ‘มณฑปพระพุทธบาท’
ซึ่งปรากฏให้เห็น ‘พระธาตุกลับหัว’ ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์
แต่ในจุดนี้ขอสงวนสิทธิ์เปิดให้เข้าชมเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ชายเท่านั้น



หากวิเคราะห์กันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว 'เงาพระธาตุ' ถือเป็นปรากฏการณ์การหักเหของแสงในหลักการ
เดียวกันกับกล้องรูเข็ม ที่เคยได้เรียนกันในวิชาวิทยาศาสตร์สมัยยังเป็นเด็กประถม

นอกจากนี้ ยังมีบริเวณที่น่าสนใจอยู่อีกหลายจุดด้วยกัน อาทิ 'วิหารน้ำแต้ม' ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุ
เจดีย์ ภายในคอสองมีภาพเขียนสีโบราณที่เก่าแก่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 45 นิ้ว
'หอพระพุทธ' เป็นสถาปัตยกรรมก่ออิฐทรงสี่เหลี่ยม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1992
ฐานเจดีย์สร้างครอบรอยพระพุทธบาทไว้

ความสวยงาม และมหัศจรรย์ แนวอันซีน ไทยแลนด์ แบบนี้ ยังรอให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมกัน...

หมายเหตุ
ขอบคุณ งานสื่อออนไลน์ กองสื่อโฆษณา ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ที่ ถนนลำปาง-เกาะคา ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 52150

การเดินทาง
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงกิโลเมตรที่ 52 แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32
ผ่านสิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตาก
ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 599 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
หรือจะใช้เส้นทางสายใหม่จากพิษณุโลกเข้าเด่นชัยแล้วเดินทางเข้าจังหวัดลำปาง
ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวขวาไปจนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา
จากนั้น เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง)
โทร. 0 5324 8604 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Call Center

แซนดี้ : เรื่อง
แสนดี : ภาพ
ที่มา : เดลินิวส์

Create Date : 24 พฤษภาคม 2552		0 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2552 12:31:05 น.
Counter : 1763 Pageviews.
Share Tweet