Jasmine Women แม่และเด็กหญิงดอกมะลิ
Jasmine Women แม่และเด็กหญิงดอกมะลิ- พล พะยาบ - คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 13 สิงหาคม 2549 Jasmine Women เป็นหนังจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่สร้างเสร็จและออกฉายตามเทศกาลหนังตั้งแต่ปี 2004 แต่เพิ่งฉายวงกว้างที่เมืองจีนในปีนี้ โดย ยง โหว ผู้กำกับภาพฯในงานยุคหลังของจางอวี้โหมว อย่าง The Road Home, Not One Less และ Happy Times รวมทั้งเรื่อง The Blue Kite ของ เทียนจวงจวง ผันตัวมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับฯเป็นเรื่องแรก จุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ที่มักจะถูกพูดถึงเป็นลำดับแรกคือ จางจื่ออี้กับโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือด้านการแสดงอีกครั้ง หลังจากที่เธอเปิดตัวอย่างงดงามด้วย The Road Home แต่กลับย่ำอยู่กับที่ด้วยบทเด็กสาวหัวรั้นในหนังหลายเรื่อง ไล่จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon, Musa the Warrior, Hero และ House of Flying Daggers ซ้ำยังออกทะเลไปไกลกับ Rush Hour 2 Jasmine Women หนังดราม่าที่จางจื่ออี้ต้องแสดงถึง 3 บทบาท ซึ่งทำให้เธอคว้ารางวัลในบ้านเกิด จึงเพิ่มเครดิตในฐานะนักแสดงให้แก่เธอ ก่อนจะกลับไปโชว์ฝีมือ(ที่ไม่ใคร่จะมีคนชื่นชมนัก) ในฮอลลีวู้ดกับ Memoirs of a Geisha หนังดัดแปลงจากนิยายของ ซู ถง เล่าถึงหญิงสาวแห่งเซี่ยงไฮ้ 3 รุ่น ที่ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตด้านความรักและการมีครอบครัวเหมือนกัน โดยวางลำดับเวลาไว้ 3 ช่วงคือ ทศวรรษที่ 30, 50 และ 80 หรือประมาณ 50 ปี คาบเกี่ยวช่วงแห่งความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของจีน แต่ละช่วงจะมีชื่อกำกับ ตอนแรกชื่อว่า ยาย ตอนที่สองชื่อ แม่ และตอนที่สามชื่อ ลูกสาว เริ่มจาก หมัว(จางจื่ออี้) เด็กสาวผู้หลงใหลโลกมายาเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อถูก เหมิง หนุ่มใหญ่เจ้าของบริษัทสร้างหนังชักชวนไปเป็นดารา เธอจึงรีบฉวยโอกาสนั้นโดยไม่ฟังคำห้ามปรามของแม่(โจน เฉิน) หมัวได้เป็นดารามีชื่อเสียงอย่างที่หวัง โดยมีตำแหน่งเป็นเมียลับของเจ้านายพ่วงท้าย แต่แล้ววันชื่นคืนสุขของเธอต้องพังทลายลงเมื่อญี่ปุ่นยึดครองเซี่ยงไฮ้ เหมิงหอบสมบัติหนีไปฮ่องกง ทิ้งให้หมัวต้องรับผิดชอบลูกในท้องตามลำพัง หมัวจำต้องกลับมาบ้านและให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ลี่ ที่เธอคิดเสมอว่าคือโชคร้าย เรื่องราวของหมัวปิดท้ายด้วยโศกนาฏกรรม... 8 ปีต่อมา ลี่(จางจื่ออี้) เติบโตเป็นเด็กสาวนักศึกษาที่พบรักกับ โสวเจีย หนุ่มชนชั้นแรงงาน สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แม้ว่าหมัว(โจน เฉิน) ผู้เป็นแม่จะห้ามไม่ให้ทั้งสองคบหากัน แต่ลี่หนีออกจากบ้านไปแต่งงานอยู่กินกับโสวเจีย จากเด็กสาวที่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายแบบชนชั้นกลาง เมื่อต้องไปอยู่แบบสมถะเรียบง่ายกับครอบครัวชนชั้นแรงงาน ถึงจุดหนึ่งลี่จึงจำต้องหอบผ้าหอบผ่อนกลับมาบ้าน โดยโสวเจียยอมตามมาอยู่ด้วย ทั้งสองรับเด็กหญิงมาเลี้ยง เพราะลี่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ความใกล้ชิดของพ่อกับลูกที่ไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ ทำให้ลี่หวาดระแวง เรื่องราวของลี่จบลงด้วยการจากไปของ 2 ชีวิต... 13 ปีต่อมา ฮัว(จางจื่ออี้) ลูกบุญธรรมของลี่กับโสวเจีย อยู่ในความดูแลของ หมัว(โจน เฉิน) ผู้เป็นยาย หมัวเลี้ยงดูฮัวอย่างดีจนเธอเติบวัยเป็นเด็กสาวผู้ร่าเริงและพร้อมจะมีความรัก ฮัวปฏิเสธชายหนุ่มที่ยายหมายจับจองให้เป็นคู่ โดยแอบแต่งงานกับเสี่ยวตู โชคไม่ดีนักที่ทั้งสองไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันเพราะเสี่ยวตูต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างเมือง จากนั้นยังต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น โชคร้ายไปกว่านั้นคือเสี่ยวตูแอบนอกใจฮัว เขาเขียนจดหมายมาบอกเลิกโดยไม่รู้ว่าฮัวกำลังตั้งครรภ์ หนังแบ่งน้ำหนักแต่ละตอนแต่ละเรื่องราวไว้เท่าเทียมกัน คือประมาณตอนละ 40 นาที เชื่อมร้อยด้วยภาพและฉากที่ใกล้เคียงกัน เช่น ทุกตอนจะมีมุมกล้องที่เริ่มจากหน้าต่างห้องซึ่งมีตัวละครยืนอยู่ไล่เรื่อยลงมายังถนน มีภาพหน้าร้านซึ่งเคยเป็นร้านถ่ายภาพของแม่ของหมัว แต่ผลัดเปลี่ยนมือและประเภทกิจการไปตามยุคสมัย แม้แต่ละเรื่องราวจะมีน้ำหนักเท่าๆ กัน แต่หนังก็ไม่ละเลยที่จะให้เรื่องราวสุดท้ายมีฉากสำคัญจนนับเป็นไคลแมกซ์ของหนังได้ ฉากดังกล่าวคือฉากการคลอดลูกกลางฝนของฮัว ซึ่งจางจื่ออี้แสดงแบบทุ่มสุดตัวสุดอารมณ์ได้อย่างน่าชมเชย การที่หนังให้จางจื่ออี้และโจน เฉิน แสดงเป็นตัวละครหลายตัวตามช่วงวัย โดยจางจื่ออี้มี 3 บทบาท คือ หมัว ลี่ และฮัว ส่วนโจน เฉิน แสดงเป็นแม่ของหมัว และหมัวในวัยที่เป็นแม่และยาย เมื่อนำเรื่องราวชะตาชีวิตของตัวละครมาวางทาบเปรียบเทียบกับผู้แสดงเดิม ก็จะยิ่งช่วยให้รู้สึกว่านี่คือวังวนของโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง สภาพแวดล้อม ฉาก และช่วงเวลาหรือยุคสมัย ล้วนแต่มีความหมายให้ค้นหาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยมิติทางสังคมหรือในแง่สัญลักษณ์ เช่น ผู้ชมจะได้เห็นเมืองเซี่ยงไฮ้ที่เป็นฉากหลักของเรื่องตามสภาพที่เป็นไปในแต่ละยุคสมัยโดยสอดคล้องไปกับเรื่องราวของตัวละคร เมืองเซี่ยงไฮ้ในตอนแรกยังอยู่ในยุครุ่งเรือง เป็นเมืองธุรกิจการค้าขนาดใหญ่แห่งเอเชียและของโลก จึงเต็มไปด้วยความหรูหราฟู่ฟ่า ห้อมล้อมชีวิตสุขสบายของตัวละคร แต่เมื่อญี่ปุ่นยึดครองในปี 1937 ชีวิตของตัวละครก็ตกต่ำลงทันที ในตอนที่สองซึ่งเป็นสมัยคอมมิวนิสต์ เมืองเซี่ยงไฮ้ซบเซาลงไปเพราะชนชั้นกลางถูกรีดให้ตัวเล็กลงด้วยการเก็บภาษีอย่างหนัก เหมือนเช่นที่หมัวถูกหนุ่มชนชั้นแรงงานพูดจาเหยียดหยาม ส่วนเรื่องราวสุดท้ายในฉากจบ เมืองเซี่ยงไฮ้กำลังจะกลับมาเป็นเมืองใหญ่ทางธุรกิจการค้าอีกครั้ง ตรงกับชีวิตของตัวละครที่ค้นพบทางออกอันดีงามให้แก่ตนเอง อีกจุดหนึ่งที่หนังแฝงความหมายไว้คือภาพด้านลบของญี่ปุ่น เป็นที่รู้กันดีว่า 2 ประเทศมีปัญหากันในทางประวัติศาสตร์ การที่ตัวละครต้องพบกับเรื่องเลวร้ายในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดเซี่ยงไฮ้ในตอนแรก กับในตอนสุดท้ายที่ให้ตัวละครชายมีชู้กับผู้หญิงญี่ปุ่น จึงน่าจะไม่ใช่เหตุบังเอิญแบบไม่มีเหตุผลรองรับ คำว่า ดอกมะลิ ในชื่อหนัง มาจากเครื่องหอมที่ตัวละคร หมัว ชอบใช้ตอนเป็นดารา แม้จะผ่านช่วงเวลานั้นไปนานเท่าใด เธอก็ยังคงใช้เครื่องหอมกลิ่นนี้เสมอ ประหนึ่งว่าเป็นความหอมหวนแห่งช่วงเวลาที่ไม่อาจเรียกคืน นอกจากชดเชยด้วยกลิ่นที่คุ้นเคย พอดีว่าสุดสัปดาห์นี้ยังอยู่ในช่วงวันแม่แห่งชาติ และ Jasmine Women ซึ่งมีความหมายว่าดอกมะลิก็มีเรื่องราวแก่นสารว่าด้วย คุณค่าความผูกพันระหว่างแม่-ลูก อยู่เต็มเปี่ยม ถึงกับมีคำโปรยบนใบปิดว่า แด่ทุกคนที่เป็นแม่Jasmine Women จึงเหมาะสมกับการเป็น หนังวันแม่ จริงๆ
Create Date : 12 สิงหาคม 2549
4 comments
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 3:12:21 น.
Counter : 2877 Pageviews.
โดย: unwell 19 สิงหาคม 2549 16:02:22 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31