Lions for Lambs + Michael Clayton ว่าด้วยเรื่องของอำนาจ
Lions for Lambs + Michael Clayton ว่าด้วยเรื่องของอำนาจพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 25 พฤศจิกายน 2550 ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีหนังฮอลลีวู้ดเนื้อหาเข้มข้นเข้าฉายในบ้านเราไล่เลี่ยกัน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ Lions for Lambs ของ โรเบิร์ต เรดฟอร์ด ได้ทีมนักแสดงแน่นปึ้กอย่าง เมอริล สตรีพ ทอม ครูซ และตัวเรดฟอร์ดเอง อีกเรื่องคือ Michael Clayton กำกับฯโดย โทนี่ กิลรอย ผู้เขียนบทหนังไตรภาคเจสัน บอร์น มี จอร์จ คลูนีย์ รับบทนำ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างหนังทั้งสอง เรื่องราวก็ไปกันคนละทาง อย่างไรก็ตาม ถ้าลองปอกเปลือกเนื้อหาจะพบว่าหนัง 2 เรื่องนี้ต่างพูดถึง แผนการ อันเป็นการใช้อำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์และดำรงสถานะขององค์กร ...และแผนการแห่งอำนาจนั้นล้วนแต่ก่อความเสียหายต่อเบี้ยเล็กๆ บนกระดานLions for Lambs แบ่งเรื่องราวเป็น 3 ส่วน ดำเนินคู่ขนานกันในเวลาเดียวกัน โดยหนังจะตัดสลับแต่ละเรื่องไปมา ส่วนแรกเกี่ยวกับวุฒิสมาชิกหนุ่มไฟแรงนาม แจสเปอร์ (ทอม ครูซ) เปิดห้องทำงานส่วนตัวคุยกับ จานีน (เมอริล สตรีพ) นักข่าวหญิงมากประสบการณ์ เพื่อให้ข่าวว่าทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานจะเปิดฉากโจมตีตาลีบันครั้งใหม่ ทั้งนี้ เหตุผลเบื้องหลังของการโจมตีคือเพื่อฟื้นคะแนนนิยมให้รัฐบาลรีพับลิกันหลังจากตกต่ำลงมาตลอด จานีนไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าการโจมตีมีความเสี่ยงสูง เธอซักไซ้ถึงการประเมินความผิดพลาดและแผนการรองรับ ความล้มเหลวในอิรักกระทั่งย้อนไปถึงสงครามเวียดนามถูกจานีนรื้อฟื้นขึ้นมา แต่ไม่มีคำตอบที่แสดงความมั่นใจจากปากของแจสเปอร์ หนำซ้ำเขายังย้อนถามจานีนว่าสื่อมิใช่หรือที่สนับสนุนการทำสงครามตั้งแต่แรก ขณะที่วุฒิสมาชิกแจสเปอร์กับจานีนกำลังสนทนาอยู่นั้น แผนการโจมตีครั้งใหม่ที่อัฟกานิสถานได้เปิดฉากขึ้น เออร์เนสต์ (ไมเคิล พีนา) หนุ่มละติน กับเอเดรียน (ดีเรค ลุค) หนุ่มผิวสีเพื่อนสนิทอยู่ในหน่วยที่ต้องออกปฏิบัติการด้วย ระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์พาทหารบินฝ่าพายุหิมะผ่านแนวเขาซึ่งเป็นแหล่งกบดานของศัตรู ทั้งสองพลัดตกลงไปด้านล่าง ต่างคนต่างบาดเจ็บจนต้องนอนนิ่งอยู่กับที่ ในความมืดและม่านหิมะหนาทึบ...พวกตาลีบันกำลังดาหน้ามาหาพวกเขา! ช่วงเวลาเดียวกัน เออร์เนสต์และเอเดรียนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นสนทนาระหว่างศาสตราจารย์มัลลีย์ (โรเบิร์ต เรดฟอร์ด) อาจารย์รัฐศาสตร์-อดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม กับทอดด์ (แอนดูรว์ การ์ฟิลด์) นักศึกษาซึ่งห่างหายไปจากห้องเรียน มัลลีย์เรียกทอดด์มาพูดคุยเพื่อถามเหตุผลและโน้มน้าวให้กลับมาเข้าเรียน เพราะที่ผ่านมามัลลีย์มองเห็นแววดีของนักศึกษาคนนี้ ทอดด์อ้างว่าที่เขาไม่เข้าเรียนแล้วใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ เพราะไม่เห็นประโยชน์ของวิชารัฐศาสตร์อีกต่อไป ขณะเดียวกัน เขาก็ไม่เห็นด้วยที่อดีตลูกศิษย์ของมัลลีย์อย่างเออร์เนสต์และเอเดรียนยอมเลิกเรียนเพื่อไปเป็นทหาร เป็นไปได้ที่ผู้ชมอเมริกันจะมองหนังเรื่องนี้ว่าเป็นความน่าเบื่อ เพราะนอกจากหนังจะเต็มไปด้วยบทสนทนาเกือบตลอดทั้งเรื่องแล้ว เนื้อหาเรื่องราวว่าด้วยสงครามนอกประเทศซึ่งไม่ได้ให้ทางออกอะไร นอกจากนำเสนอสภาพความเป็นจริงของสังคมอเมริกัน ยิ่งกลายเป็นการตอกย้ำอาการเบื่อหน่ายสงครามให้แก่คนอเมริกันเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าชื่นชมสำหรับ Lions for Lambs คือหนังพูดถึงสงครามนอกประเทศของสหรัฐได้ค่อนข้างครอบคลุมทุกกลุ่มฝ่ายที่มีบทบาทหรือมีท่าทีต่อสงคราม เพราะมีทั้งนักการเมืองที่หวังคะแนนนิยม มีสื่อทั้งที่อยู่ในฐานะองค์กรธุรกิจและในฐานะสื่อมวลชนอันมีผลต่อการแสดงบทบาทต่างกันไป มีทหารในสมรภูมิ มีชาวฮิสปานิคและคนผิวสี มีคนที่ยินดีเข้าร่วมสงคราม คนต่อต้านสงคราม และคนเบื่อหน่ายสงคราม ขณะที่หนังเรื่องอื่นจะจับเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือบางกลุ่มเท่านั้น สุดท้ายหนังจบลงเหมือนกับจะบอกว่าแผนการแห่งอำนาจรัฐยังคงดำเนินต่อไป โดยมีหน่วยทางสังคมยอมรับและรับผลของมันเป็นทอดๆ สำหรับ Michael Clayton เล่าถึง ไมเคิล เคลย์ตัน (จอร์จ คลูนีย์) ทนายหนุ่มใหญ่ของบริษัทสำนักงานกฎหมายขนาดยักษ์ซึ่งถนัดในการทำเรื่องฉาวของลูกค้ากระเป๋าหนักให้กลายกลับดี และเคลย์ตันคือหนึ่งในคนที่คอยจัดการปัญหาเหล่านั้น กระทั่งเขาเรียกตนเองว่าเป็น ภารโรง คดีฉาวของลูกค้าระดับบิ๊กล่าสุดคือบริษัทเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรชื่อ ยูนอร์ธ ถูกชาวบ้านฟ้องร้องเรื่องผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์ ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ อาเธอร์ (ทอม วิลคินสัน) ทนายซึ่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทและเป็นคนที่เคลย์ตันรู้จักนับถือเกิดคลุ้มคลั่งระหว่างทำคดี เคลย์ตันจึงถูกส่งไปควบคุมสถานการณ์ เขาพยายามกล่อมให้อาเธอร์สงบลง แต่อาเธอร์เอาแต่พร่ำพูดว่าตนใช้เวลาครึ่งค่อนชีวิตเพื่อปกป้องความเลวร้ายความลับที่อาเธอร์เก็บงำไว้ไม่บอกเคลย์ตันคือเขามีหลักฐานเพื่อย้อนเกล็ดยูนอร์ธ แต่ทีมงานของยูนอร์ธนำโดย แคเรน (ทิลดา สวินตัน) หัวหน้าที่ปรึกษากฎหมาย ก็ล่วงรู้และหาทางหยุดยั้งอาเธอร์ ที่สุดแล้วเคลย์ตันจึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้อย่างเต็มตัว ทั้งที่ปัญหาหนักอกขณะนี้สำหรับเคลย์ตันคือเขาต้องหาเงินก้อนใหญ่มาใช้หนี้หลังจากร้านอาหารซึ่งร่วมหุ้นกับน้องชายเพิ่งปิดตัวลง หนังมาในแนวทางคนเล็กโค่นองค์กรยักษ์ใหญ่ซึ่งมีให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ส่วนที่ต่างไปคือหนังเลือกจับเอาความเป็นมนุษย์ปุถุชนของตัวละครนำอย่างเคลย์ตันมานำเสนอเป็นหลัก แล้วเดินเรื่องไปพร้อมกระบวนการกลบเกลื่อนความผิดขององค์กรซึ่งเคลย์ตันต้องเข้าไปพัวพัน โดยไม่ได้เจาะลึกหรือตีแผ่ความเลวร้ายเบื้องต้นขององค์กร(ในที่นี้คือผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์) อย่างที่เห็นในหนังอย่าง The Firm หรือ The Constant Gardener กระทั่งตอนจบซึ่งองค์กรถูกเปิดโปงไม่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนเท่าใดนัก เพราะไคลแม็กซ์ไปอยู่ที่บทสรุปหรือทางออกของตัวละครนำมากกว่า เมื่อหนังให้เวลากับชีวิตส่วนตัวของตัวละครไปพอสมควร ส่วนของการค้นหาความจริงและการจัดการย้อนเกล็ดองค์กรจึงดำเนินคืบหน้าอย่างรวดเร็วและดูง่ายดาย หรือแม้แต่ฉากที่เคลย์ตันรอดตายซึ่งหนังเปิดไว้ตั้งแต่ตอนต้นก็เป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ แม้จะมองเผินๆ แล้วเหมือนว่าทิศทางของอำนาจที่ยังคงดำเนินต่อไปใน Lions for Lambs จะสวนทางกับอำนาจที่โดนกำจัดใน Michael Clayton แต่ในเมื่อขณะที่อำนาจอันไม่ชอบใน Lions for Lambs ดำเนินไปด้วยความสมจริงเพราะนำเสนอได้อย่างรอบด้าน โดยแม้แต่สื่อและนักวิชาการไม่อาจทำอะไรได้ (ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น) การหยุดยั้งแผนการและจัดการอำนาจอันไม่ชอบได้สำเร็จด้วยน้ำมือของคนที่แทบเอาตัวเองไม่รอดใน Michael Clayton กลับเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญในหลายจุดจนลดทอนความน่าเชื่อถือลงไป กระทั่งน่าคิดว่าการจัดการกับอำนาจอันไม่ชอบด้วยแรงกำลังอันน้อยนิดนั้น ถ้าไม่พึ่งโชคชะตาปาฏิหาริย์อย่างในหนังก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หรือนี่ล่ะ...คือโลกแห่งความจริงที่เราต้องยอมรับ?!
Create Date : 04 พฤษภาคม 2551
1 comments
Last Update : 4 พฤษภาคม 2551 18:07:20 น.
Counter : 3027 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
เหมือนกัน......สงครามที่เกิดขึ้น
แต่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย