Group Blog
 
 
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
วันสดใสใน "สายธรรมจันทร์"




อาคารเรียนหลังเดิม เคยมีทั้งทุกข์และสุขมากมายที่นี่
เดี๋ยวนี้อาคารหลังนี้ใช้เป็นโรงเรียนอนุบาลไปแล้ว


ประวัติโรงเรียน

โรงเรียนสายธรรมจันทร์ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2452 โดยหลวงช้อย สุนทโรดม ได้บริจาคเงินสร้างโรงเรียน 1 หลัง ในที่ดินของวัดโชติทายการาม ทางราชการตั้งชื่อว่า “โรงเรียน ช.สุนทโรดม” เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครูใหญ่ชื่อ ขุนโสตะระศึกษากร

ในปี พ.ศ. 2482 นายแม้น อรจันทร์ นายอำเภอดำเนินสะดวก นายธำรง สายะสนธิ ศึกษาธิการอำเภอดำเนินสะดวกและท่านเจ้าคุณธรรมวิรัติสุนทร เจ้าอาวาสวัดโชติทายการาม ได้ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ ในที่ดินของวัดโชติทายการามซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาคารเรียนหลังเดิม ลักษณะเป็นอาคารไม้สัก 2 ชั้น มีมุข 2 มุข ขนาด 10 ห้องเรียน สิ้นค่าก่อสร้าง 17,562.40 บาท ขนานนามตามอักษรชื่อสกุลและคำแรกสมณศักดิ์ของผู้เริ่มดำเนินการว่า “สายธรรมจันทร์” นายประยูร ภมรมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนใหม่เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2482

สมัยปรับปรุง ปีงบประมาณ 2514 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 216(รวม 16 ห้องเรียน) ห้องน้ำห้องสุขานักเรียนและบ้านพักครู ซึ่งสร้าง ณ สถานที่แห่งใหม่หน้าวัดอมรญาติสมาคม บนเนื้อที่ 24 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา และปีงบประมาณ 2516 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 216 หลังที่ 2(แต่สร้างได้เพียง 10 ห้องเรียน) ห้องน้ำห้องสุขาและบ้านพักครู
ปีการศึกษา 2516 ได้ย้ายนักเรียน ม.ศ. 1 มาสถานที่แห่งใหม่เป็นปีแรก
ปีการศึกษา 2517 ได้ให้นักเรียนชั้น ม.ศ. 1 และ ม.ศ. 2 เรียน ณ ที่แห่งใหม่ ส่วน ม.ศ. 3 ให้เรียนแห่งเดิม
ปีการศึกษา 2518 เริ่มเปิดสอนชั้น ม.ศ. 4 (ม.ศ.ปลาย) เป็นปีแรกและให้จัดนักเรียนชั้น ม.ศ. 1 และ ม.ศ. 2 เรียนสถานที่แห่งใหม่ ส่วนชั้น ม.ศ.3 และ ม.ศ. 4 เรียนสถานที่เดิม
ปีการศึกษา 2519 กระทรวงศึกษาธิการอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากโรงเรียนดำเนินสะดวก “สายธรรมจันทร์” เป็นโรงเรียนสายธรรมจันทร์
(ข้อมูลจากเว็บไซค์ของโรงเรียน)

ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ในปี พ.ศ. 2514-2516 สมัยนั้นเป็นชั้นมัธยมปีที่ 1-3 เป็นโรงเรียนประจำอำเภอที่มีคุณภาพ คนในละแวกนั้นหรือตำบลใกล้เคียงส่งลูกหลานเข้ามาเรียนกันที่นี้ แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม รถยนต์ยังเข้าไม่ถึง บ้างเดินมา บ้างนั่งเรือ หรือนั่งรถแล้วมาต่อเรือเมล์

ทุกปีจะมีการสอบคัดเลือกเด็กที่จบประถมปีที่ 7 เข้าเรียนชั้น ม.ศ. 1 ใครสอบเข้าได้ออกจะภูมิใจไม่น้อย และที่หวังยิ่งไปกว่านั้น หลายคนอยากได้รับการคัดไปเป็นเด็กห้องเก่ง ชั้น ม.ศ. 1ในสมัยนั้นยังเรียกห้องเด็กที่สอบได้คะแนนดีว่าห้อง ก. ผมก็หวังเช่นกัน แต่ไม่เป็นดังคาด ผมถูกจับคละกับเด็กสติปัญญาปกติ หาใช่เด็กอัจฉริยะไม่

เด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งมีทั้งหมด 7 ห้อง ไล่เรียงกันตั้งแต่ ก ข...จนถึง ช ตลอดเวลาที่เรียนที่นี่ 3 ปี ไม่เคยถ่ายรูปหมู่ ไม่เคยถ่ายรูปกิจกรรมใดๆอะไรเลย มีเพียงรูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมแว่นเพียงภาพเดียวไว้ติดใบสุทธิตอนเรียนจบ ภาพในครั้งกระนั้นจึงอยู่เพียงในความทรงจำ

ภาพๆหนึ่งที่ผมยอมรับว่าไม่ค่อยชัดเจน จนผมต้องเที่ยวถามเพื่อนๆในรุ่นนั้นว่าภาพที่ถูกต้องคืออะไร ผมมักถามเพื่อนว่าโรงเรียนเรามีห้องอาหารหรือไม่ ถ้ามี อยู่ที่ไหน ผมจำได้เพียงหอประชุมใหญ่ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ประชุม จำได้เพียงเลาๆว่าพวกเรามักเอาข้าวกล่องไปกินกันที่หอประชุมตอนพักเที่ยง เคยมีร้านข้าวหมูแดงขายในนั้นด้วย น้ำราดข้าวหมูแดงสีสดน่ากิน สูตรนี้ไม่เหมือนที่ขายทั่วไปในปัจจุบัน ข้าวหมูแดงเป็นอาหารที่ผมอยากลิ้มรสมาก ราคาเพียงจานละ 2 บาท แต่เงินค่าขนมของผมวันละ 1 บาท ต้องอดออมเอา บางวันจึงได้ลิ้มลอง สมัยนั้นได้เงินน้อยไม่ได้หมายถึงว่าขัดสน เพียงแต่ทางบ้านหลงลืมขึ้นค่าขนมมาหลายปี เรียนที่นี่ 3 ปี ผมจำข้าวหมูแดงสูตรน่ากินได้ดีที่สุด


ขนมหวานที่เรือนไม้ของภารโรง ลูกสาวลูกชายช่วยกันขายตอนพักเที่ยง ร้านนี้ตรงข้ามกับหน้าต่างของชั้น ม.ศ. 3 ที่หนุ่มๆมักจะเฝ้าแอบมองสาวๆกันที่นี่ ท่าน้ำหลังโรงเรียน มีก๋วยเตี๋ยวจากเรือพายมาจอดบริการนักเรียน แบบธรรมดา ราคาชามละ 1 บาท ถ้าพิเศษราคาชามละ 6 สลึง แม่ค้าจะลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว 2 ครั้ง 2 กำมือ หนักเส้นเข้าว่า เติมเครื่องกันอย่างเข้มข้น เค็มจัด เปรี้ยวจัดกันไปเลย

ผมเห็นบาร์คู่อยู่ในห้องประชุม มันตั้งแอบๆไว้ ไม่เคยใช้สอนในวิชาพละ ผมเข้าใจว่าอันตรายเกินไปที่ครูจะสอนวิชาพวกนี้ ผมเคยเห็นเพื่อนคนหนึ่งมันชอบเข้าไปเล่นอย่างเชี่ยวชาญ ผมจำท่าของมันเอาไปแล้วหาเวลาปลอดคนไปเล่น เคยทำท่าเอาตัวรอดจากบาร์ข้างหนึ่ง ให้ข้ามอีกข้างหนึ่งจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น โชคดีที่ไม่เป็นอะไร

วันหนึ่งผมชวนเพื่อนไปเล่นบาร์คู่ เพื่อคนนี้มีรูปร่างแข็งแรง ทำท่าแกว่งไปมา แขนตรงบนบาร์คู่ สักพักได้เรื่อง มันตกลงมาจมูกกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บ ผมพาเพื่อนไปส่งโรงพยาบาล เพื่อนๆและครูไม่รู้หรอกครับว่าใครเป็นคนชวนเพื่อนคนนี้ไปเล่นบาร์คู่ ยกเว้นผม

ดาวดังของโรงเรียน ใครๆก็อยากเป็น แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆ ต้องมีคุณสมบัติบางอย่างที่ต้องตาครู เช่น ช่างเจรจา เรียกง่ายใช้คล่อง เรียนค่อนข้างใช้ได้ เขามักจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชั้น หรือถ้าไม่ได้รับตำแหน่งนี้ ก็ได้รับสิทธิ์ไปร่วมกิจกรรมเด่นๆ เช่น เข้าค่ายลูกเสือนานาชาติ ผมไม่มีคุณสมบัตินั้นเลย อย่างดีก็เป็นได้แค่รองหัวหน้าหมู่ลูกเสือ

เรื่องบางเรื่องไม่น่าจดจำ แต่ชอบจำแบบขำๆ ผมเคยเข้าห้องสอบวิชาคณิตศาสตร์ช้าไปสิบนาที ขณะที่ผมกำลังเดินไปที่โต๊ะนั่งสอบ มีฝ่ามืออรหันต์ปลิวมากระแทกหลังของผมจนเซถลา หัวใจเริ่มเต้นแรงและถี่ๆ งงอยู่พักหนึ่ง ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เข้าห้องสอบช้า มีเพื่อนๆเข้ามาช้ากว่าผมอีก 3-4 คน โดนฝ่ามือลี้กิมฮวงเสมอภาคกันหมด ผมเริ่มยิ้มที่มุมปาก เราไม่อายคนเดียว หน้าตาของเพื่อนๆตื่นตระหนก บิดตัว ตกใจ เมื่อตั้งสติได้ จึงเดินอย่างนุ่มนวลราวกับนักย่องเบาไปที่นั่งสอบ เงียบและไม่มีเสียงพูดจากเจ้าของฝ่ามือนั้น คงไม่ต้องบอกนะครับว่าวันนั้นทำข้อสอบกันได้หรือไม่

ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชั่วโมงวิทยาศาสตร์ มีการบ้านให้นักเรียนไปทำผลึกสารส้มที่บ้าน โดยเอาเกล็ดสารส้มเลี้ยงในสารละลายจนอ้วนพีแล้วเอามาส่งครู มีผมคนเดียวที่ทำได้ลูกใหญ่ที่สุด ส่วนลูกเล็กๆเพื่อนๆหยิบคนละหมุบคนละหมับ ผมคิดวิธีการเอง นั่นคือ ต้มสารส้มสักพักปล่อยให้เย็นเอง ข้ามคืนก็ได้ผลึกนอนก้น รูปร่างยังไม่ได้ เป็นเพียงแผ่นแบนๆ เอาผลึกนี้ผูกเชือก วันต่อมา เคี่ยวสารส้มอีก แล้วเอาผลึกที่ผูกเชือกนั้นแขวนในแก้วที่มีสารส้มที่เคี่ยวแล้ว แค่คืนเดียวก็ได้ผลึกลูกโต ผลงานของผมเป็นที่ฮือฮามาก ใครๆก็มาขอดู

วันที่ตื่นเต้นที่สุด เห็นที่จะเป็นวันที่ได้อัญเชิญธงชาติตอนเช้า มีคนถือพานคนหนึ่ง อีกคนเป็นคนผูกเชือก ใครได้ทำหน้าที่นี้ถือว่าเป็นเกียรติมาก เมื่อเวรผมมาถึง ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เพียงเป็นแค่คนถือพานรองธงชาติ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ทุกเช้าจะมีการร้องเพลงชาติและสวดมนต์

ถ้าจะว่าไปแล้วในจำนวนนักเรียนหลายร้อยคน ผมจำรายละเอียดที่พอจะเล่าได้เพียง 3-4 คนเท่านั้น อย่างเด็กสาวลูกครึ่งไทยจีน ผิวขาวผ่องนวลงาม หน้าตาไม่มีไฝฝ้า ผมไม่เคยลืมภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับเธอคนนี้ วันหนึ่งในชั่วโมงภาษาไทย เธอไม่ได้ทำการบ้างส่งครู โดนทำโทษครับ ให้ทำท่าเดินเป็ดที่หน้าชั้นต่อหน้านักเรียนชายหญิงทั้งห้อง (ท่างนั่งยองๆเอามือสอดใต้เข่าทั้ง 2 ข้าง แล้วเดินไปทีละก้าว) เด็กสาวที่อยู่ในวัยกำลังรักสวยรักงาม ถูกทำโทษแบบนั้น ผมรู้สึกสงสารจับใจ ผมไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร หรือใครเข้าไปปลอบใจเธอบ้าง

ระหว่างสอบเป็นโอกาสที่ดีของผมเพราะได้นั่งใกล้เด็กสาวหน้าตาดี เลขที่นั่งสอบของผมเป็นคนสุดท้ายของนักเรียนชาย ต่อด้วยเลขที่ของนักเรียนหญิง เธอคือผู้หญิงคนแรกที่นั่งต่อหลังของผมเป็นประจำ หน้าตาน่ามอง จิ้มลิ้ม รูปร่างเล็กกระทัดรัด ผิวขาว ตาคมวาว ผิดแผกจากเพื่อนๆ ราวกับมาจากดาวดวงอื่น กล้าพูดกล้าแสดงออกมากกว่าสาวพื้นบ้าน เป็นผู้นำในการแสดงละครทุกครั้ง ราวกับเคยเป็นครูสอนนาฏศิลป์มาก่อน งานใหญ่ของโรงเรียนเราไม่มีงานใดเกินงานเลี้ยงรุ่นพี่ที่เพิ่งจบออกไป โดยมีน้องๆจัดการแสดงให้ชม เธอจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการฝึกทั้งรำไทยรำเทศให้กับเพื่อนๆ

อีกคนหนึ่งเป็นเด็กสาวมาจากโรงเรียนชั้นประถมที่เดียวกัน เป็นสาวหน้าตาดี รูปร่างสมส่วน ผิวเข้ม คมขำ ชาวสวนขนานแท้ พบกันครั้งแรกเมื่อผมเรียนชั้น ป.4 เธอเรียนลัดกับผู้ช่วยครูใหญ่ สอนกันตัวต่อตัว ป.1-4 ในปีเดียว ผมไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่หายไป เธอไปอยู่ไหนมา พอขึ้นชั้น ป. 5 เราจึงได้เรียนห้องเดียวกัน ขณะที่เธอเป็นสาวแล้ว แต่ผมตัวยังเล็กกระเปี๊ยก เมื่อผมและเธอเข้าเรียนเรียนชั้น ม.ศ. 1 ผมก็ยังโตไม่ทันอยู่ดี ทั้งที่สาวเจ้ารูปร่างไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ชื่อของเธอเป็นไทยๆ ถ้าเติมคำว่าคุณนายเข้าไป ทุกคนคงคุ้นหู แม้ว่าบ้านของเธอจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก แต่ก็นั่นแหละ ไม่เคยคุยกัน แต่ภาพการมีชีวิตของเธอในวัยนั้น เดี๋ยวนี้ก็ยังนึกได้ เป็นสาวรุ่นสำหรับผมที่อยู่ในความทรงจำและไม่เคยร่วงโรยเลย

เพื่อนทั้ง 3 คนที่ผมนึกได้นี้ ไม่ใช่เด็กเรียน การเรียนของพวกเธอมักจะอยู่กลางๆค่อนมาทางท้ายๆ และไม่ใช่ห้องเด็กคัดหรือเคยอยู่ห้อง ก. คนที่ได้ที่โหล่ของห้อง ก. จะได้คะแนนใกล้เคียงกับนักเรียนที่เรียนเก่งที่สุดของห้องอื่นๆอีก 5-6 ห้อง ถ้าจัดอันดับผลการสอบทั้งโรงเรียนแบบสมัยนี้ละก็ ผมเชื่อว่าเพื่อนสาวทั้ง 3 คนของผมคงอยู่ในอันดับท้ายๆของโรงเรียน ไม่ใช่ไม่มีความสามารถ เธอเด่นในเรื่องอื่นที่ไม่มีในหลักสูตร อย่างน้อยก็สะดุดตา ทำให้ผมจำได้มาถึงทุกวันนี้

แม้จะเป็นโรงเรียนสหศึกษา แต่ไม่ค่อยมีเรื่องเสียหาย เด็กหญิงกับเด็กชายที่เริ่มเป็นหนุ่มสาว ไม่ค่อยสุงสิงกัน อย่างมากแค่แอบมอง ทั้งปีทั้งชาติไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนใหญ่ตั้งอกตั้งใจเรียน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจบออกไปแล้วจะไปทางไหน อย่างไร






Create Date : 11 กันยายน 2554
Last Update : 13 ตุลาคม 2556 21:52:55 น. 9 comments
Counter : 3117 Pageviews.

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เป็นเรื่องราวเล่าจากความทรงจำของ จขบ. ที่อ่านแล้วประทับใจดีครับ

เค้าว่ากันว่า ... ความทรงจำในวัยเด็กเป็นความทรงจำที่จะอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราตลอดไปครับ

ในสัยผมเรียนมัธยมผมก็มีความทรงจำที่ดี ๆ กับเพื่อน ๆ เยอะเหมือนกันครับ แต่ว่าผมเรียนโรงเรียนชายล้วนมา 6 ปีเต็ม ๆ เลยครับ วีรกรรมของผมเลยอาจจะแพลงกว่าก็เป็นได้ครับ

เพิ่งจะทราบนะครับว่า จขบ. เป็นคนดำเนินสะดวก วันนี้ผมเพิ่งไปมิตติ้งเจอพี่สาวคนหนึ่งก็คือ พี่น้อย(newyorknurse) เค้าก็เป็นคนดำเนินสะดวกเหมือนกันครับ พี่เค้าไปทำงานอยู่ที่อเมริกามา 40 เป็นพยาบาลครับ วันนี้ได้กลับมาเยี่ยมเมืองไทยเลยมีโอกาสได้เจอกันครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 11 กันยายน 2554 เวลา:23:49:20 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
สวัสดีค่ะคุณim ขอโทษที่หายไปเสียสองสามวัน งานยุ่งมากๆค่ะ งานแสดง งานสอน ร้านกาแฟ ทำเค๊กจนมือหงิกแล้วเพิ่งหมดออร์เดอร์วันนี้เอง อยากจะเข้ามาทักทายก้เพิ่งจะปลีกตัวได้ตอนนี้เอง น้ำเริ่มเอ่อมาฝั่งบ้านครูเกสแล้วค่ะ งงไปหมดไม่รู้จะทำอะไรก่อนหน้าหลังดี หวังว่าคุณim คงสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:23:27:42 น.  

 
พี่เก่งจังค่ะ เก็บรายละเอียดความทรงจำไว้มากมาย
อะไรที่เราอยากจดจำ ทำอย่่างไรก็ไม่ลืมนะคะ
หนูลองมานั่งนึกว่าสมัยเรียนมีอะไรน่าจดจำบ้าง
ก็คงเป็นตอนที่นักเรียนประท้วง ผ.อ. ประมาณปี 2523 แต่หนูจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร
นึกแล้วก็ขำขำ สนุกดีค่ะ
พี่สบายดี หลบฝนได้นะคะ ข่าวว่ากรุงเทพฝนตกทุกเย็น


โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:12:00:50 น.  

 
ตอน มศ. 1 ได้ค่าขนมเป็นอาทิตย์ ต้นอาทิตย์ก็หรูหน่อย ปลายอาทิตย์ก็ห่อข้าวไปทาน

นักเรียนรุ่นเดียวกันมีน้อย 103 คนก็เลยสนิทกัน

มีการจีบกันอยู่หลายคู่

หรือไม่เพื่อนก็จะจับคู่ให้ ล้อกันซะมันมาก

สงสัยพวกเราคงจะเป็นแบบที่เรียกว่าแก่แดดแก่ลมน่ะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:16:06:28 น.  

 
สวัสดีค่ะ สายธรรมจันทร์ เลขประจำตัว 7559 ยังมีเพื่อนอยู่หรือเปล่าค๊ะ


โดย: กัญณิฌา IP: 58.137.83.101 วันที่: 19 กรกฎาคม 2556 เวลา:17:17:12 น.  

 
ยินดีครับที่มาแจม เลขประจำตัวหลังผม 2300 คน ห่างกันราว 8 รุ่น

ที่ถามว่าผมยังมีเพื่อนอยู่หรือเปล่า ตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่มีเลย เด็กรุ่นนั้น ป่านนี้คงกำลังวุ่นกับการเลี้ยงหลานอยู่ครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 19 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:19:24 น.  

 
สธจ5279 ใช่รุ่นเดียวกันหรือเปล่า


โดย: อาคม IP: 202.28.86.91 วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:13:39:50 น.  

 
รุ่นใกล้เคียงกันครับ น่าจะได้เรียนอาคารเดียวกันด้วย


โดย: Insignia_Museum วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:20:25:17 น.  

 
กำหนดจัดงาน
"คืนสู่เหย้า 109 ปี สายธรรมจันทร์" วันที่ 27 มกราคม 2561 มาเยี่ยมโรงเรียนของเรากันนะครับ ได้พบปะเพื่อนร่วมรุ่น สนใจติดต่อสอบถามได้ที่โรงเรียน หรือ ตัวแทนรุ่น หรือเว็บไซต์ //www.saischool.ac.th โทร.032-241004


โดย: อ.กฤษณะ แก่นไร่ IP: 180.183.81.156 วันที่: 3 กันยายน 2560 เวลา:1:41:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.