Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

สังเกตการณ์บนรถเมล์ฟรี





ช่วงนี้ได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนรถเมล์ฟรี ของกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ที่ได้ชื่อว่าเมืองที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุดในโลก ได้เรื่องราวมาฝากกันพอหอมปากหอมคอครับ

1. ผู้โดยสารที่นั่งต้นสาย หรือป้ายรถเมล์แรกๆจะได้นั่ง เมื่อรถวิ่งผ่านไปหลายป้าย คนยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนก้นกระทบก้น แก้มกระทบแก้ม ลมหายใจอุ่นๆ(ของใครบางคน) รดต้นคอเราแบบหนีไปไหนไม่รอด

2. การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้โดยสาร มีตั้งแต่ชุดทำงานเนี้ยบๆ บางคนเปื้อนอะไรดำๆทั้งตัว ผู้โดยสารทุกคนสุภาพเรียบร้อย ไม่มีกระทบกระทั่งกัน ผู้ดูแลรถสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตามอย่างไม่อิดออด ให้เดินชิดใน สั่งคำเดียวไม่ต้องพูดซ้ำซาก ท้าตีท้าต่อยเหมือนรถเมล์เสียสตางค์

3. เราจะพบคนที่ยากไร้สุดๆ บนรถเมล์ฟรี ขณะเดียวกันก็พบคนรวยที่กระเหม็ดกระแหม่บนรถนี้ด้วยเช่นกัน

4. รถเมล์ฟรีจะเร็วกว่ารถธรรมดา เพราะถ้าคนเต็มแล้วจะไม่ค่อยรับเพิ่ม คนขับไม่ต้องรอแบ่งเปอร์เซนต์จากรายได้ ยิ่งช่วงกลางคืน ดึกๆ ด้วยแล้วรถจะตะบึงเต็มที่ ถึงที่หมายทันใจยิ่งกว่าไทม์เมอร์ชีน

5. แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านได้ไปมาหาสู่กันมากขึ้น เดิมใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกัน คุยกันไม่จบไม่สิ้น หวังว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือชนิดเติมเงินจะไม่ถูกยึดครองจากแรงงานต่างชาติอย่างน้อย 6 เดือน

6. บนรถจะมีพนักงานคนหนึ่งคอยจดอะไรยึกๆ ทุกครั้งที่คนขึ้นมาบนรถ คอยส่งสัญญาณกับคนขับ เวลาจอดหรือออกรถ แถมขอบพระคุณผู้โดยที่มาใช้บริการด้วย เล่นเอาผู้ชอบของฟรีเขินไปตามๆกัน

7. ผู้โดยสารจะเป็นผู้ใหญ่หรือคนวัยทำงานมากกว่าเด็ก เด็กนักเรียนไมค่อยชอบขึ้นรถเมล์ฟรี เพราะทนแรงเสียดทานไม่ไหว ความอดทนจึงเป็นเรื่องของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ เด็กไม่เกี่ยว

8. หลังชั่วโมงเร่งด่วน จะมีคุณตา คุณยายออกมานั่งรถเที่ยวชมเมืองกันหนาตา เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้หนีลูกหลานชั่วครั้งชั่วคราว เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้ชีวิต อายุยืนไปอีกหลายปี

9. แม่ค้าข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยวปากซอยกระดี๊กระด้าเป็นพิเศษ เมื่อเขาขาดเหลือกะปิ น้ำปลา หัวหอม กระเทียม จะกระโดดขึ้นรถไปที่ตลาดสดใกล้บ้านได้ทุกเวลาที่ต้องการ

10. คนขับรถเมล์ฟรี (บางคน) มักจะจอดป้ายห่างจากผู้คนเข้าไว้ คนบนรถจะคอยเอาใจช่วยผู้เฒ่าผู้แก่ เด็กตัวน้อยๆ ที่วิ่งร้อยเมตรกรูมาที่รถ พอถึงรถ ยังไม่ทันขึ้น คนขับก็จะออกรถซะงั้น แหม...ทำไปได้




 

Create Date : 19 กันยายน 2551
35 comments
Last Update : 20 กันยายน 2551 19:32:41 น.
Counter : 2108 Pageviews.

 

เจิมก่องล่ะคริคริ
เอาดอกไม้มาฝากด้วยค่ะ

 

โดย: Fullgold 20 กันยายน 2551 22:00:32 น.  

 

ยังไม่เคยนั่งเลยค่ะอยากลองนั่งบ้าง
แต่เห็นบอกว่ากว่าจะมาคันนึงนานมาก
มาทีก็แทบขึ้นไม่ไหวแล้ว เบียดเสียดกันเข้าไป
กลัวนักล้วงกระเป๋าฉวยโอกาศจังเลยค่ะ

 

โดย: Fullgold 20 กันยายน 2551 22:05:06 น.  

 

ขอบคุณค่ะ ชอบภาพวาดสีน้ำสีน้ำมันเลยค่ะ
เห็นบ้านที่บล็อคเก่า
บ้านที่ต่างจังหวัดอยู่กลางน้ำ(น้ำท่วม)
เอาภาพมาฝากค่ะ

ตอนเด็กบ้านอยู่ติดน้ำค่ะ มีแพลูกบวบหน้าบ้าน
น้ำเซาะจนตลิ่งพัง เลยต้องถอยร่นเข้าไป
แต่ในละแวกนั้นคือพี่น้องกันหมดค่ะ
บ้านป้า บ้านน้า บ้านลุง ปลูกอยู่ใกล้ๆกัน


 

โดย: Fullgold 20 กันยายน 2551 22:49:38 น.  

 

ภาพแรกแอบสวยนะคะ
ลงตัว ทั้งรถ ทั้งถนน ทั้งต้นไม้...

...........................

ตกลงไปขึ้นรถเมล์ฟรีกี่เที่ยวคะ ถึงได้หาข้อสังเกตได้เยอะซะขนาดนั้น
คงไม่ใช่ไปนั่งทุกวันนะคะ หุหุ...(ถ้ามีโอกาสได้ทุกวันก็ สิ ประหยัดดี)

ตัวเองยังไม่เคยได้จังหวะขึ้นไปเลย
เล็งๆอยู่เหมือนกัน...
ถ้าได้ขึ้น ไม่รู้เข้าข่าย คนรวยที่กระเหม็ดกระแหม่
หรือเข้าข่ายคุณยายนั่งรถชมเมือง

ยังไงก็ตาม...ชอบข้อสังเกต ข้อที่ 9 ค่ะ..จริงๆด้วย..ช่ายเลย...

 

โดย: อัยย์ (ทากชมพู) IP: 202.91.19.204 20 กันยายน 2551 23:04:40 น.  

 

อายุนานมากแล้วค่ะตั้งแต่ยายทวดเลยค่ะ
ป้าชอบทาสีน้ำมันเฉยๆ ขัดบ้างเวลามีน้ำท่วม
เด็กๆก็สนุกค่ะ เล่นน้ำไปขัดบ้านไป

ชีวิตอยู่กับสายน้ำมาตั้งแต่เด็ก รักน้ำค่ะ
แต่เกือบตายเพราะน้ำอยู่หลายทีแล้วค่ะ
ชอบดำน้ำแล้วหลงน้ำ ดำไปลึกขึ้นเรื่อยๆน่ะค่ะ

ภาพแรกที่คุณทากชมพูบอกสวย สวยจริงๆค่ะ
รถเรียงเป็นระเบียบดีจังเลย เลนส์รถเมล์แน่ๆ
เคยขับย้อนศรไปเลนส์รถเมล์ โดยไม่รู้ค่ะ
ตำรวจต้องเรียกให้จอด แล้วให้เข้าซอยไปกลับรถ
ดีน๊าที่ยังไม่มีรถเมล์สวนขึ้นมาประสานงาแน่ๆค่ะ
ตรงคอสะพานด้วย ชอบหลงในเมืองเสมอเลยค่ะ
บางทีวันเวย์ทูเวย์ รถเก่งห้ามไป รถเมล์ไปได้

 

โดย: Fullgold 20 กันยายน 2551 23:15:14 น.  

 

แปะไว้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะเข้ามาอ่านรายละเอียดค่ะ :)

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา IP: 202.149.25.225 20 กันยายน 2551 23:52:51 น.  

 

อันนี้ล่ะมีประสบการณ์ค่ะ แต่ไม่เหมือนภาพข้างบน

คือว่ามีอยู่ช่วงนึงเพื่อนคุยถึงขึ้นรถเมล์เพื่อประชาชนรึยัง

อั้ยเราก็เซ่อซ่า รถอะไรหรอ เป็นยังไง

เพื่อนบอก เอ๊ย ไปอยู่ไหนมา ไม่รู้ เออนั่นดิ

แล้วพอมาอยู่วันนึง ใช้บริการรถเมล์ในระยะทางใกล้ ๆ

ไม่ได้สนใจว่าด้านหน้าเขียนว่าอะไร สนแต่ว่าเป็นสายที่เราต้องการ

แล้วก็เตรียมหยิบตังค์เพื่อจะไปจ่าย ปรากฎว่าจนจะลง

ทำไมกระเป๋าไม่มาเก็บตังค์ซักกะที นั่งรับลมสบายเฉิบ

ขณะนั้นก็เริ่มคิดได้ว่า หรือจะเป็นรถเมล์ฟรีแบบที่เพื่อนบอก

พอลงจากรถ พยายามมองป้ายที่รถเมล์ อย่างที่คิดไว้จริง

มิใช่อะไร แอบดีใจค่ะ วันนี้ได้นั่งรถฟรี อิอิ

แต่ว่าวันที่ได้นั่ง คนไม่เยอะ โหรงเหรง จริง ๆ เค้าจะไม่จอด

อั้ยเราก็โบกสุดฤทธิ์ เพราะป้ายที่ไปรอ ไม่มีคนเลย

แต่เค้าก็จอดนะคะ อาจเป็นเพราะไม่ใช่ชั่วโมงรีบด่วนก็เป็นได้

เลยไม่เจอสภาพแบบที่คุณ Insignia_Museum เห็น (เอมีชื่อเล่นมั๊ยคะนี่ แบบว่าชื่อยาวอ่ะค่ะ บอกหน่อย ๆ ^^)


....


สำหรับภายในพระที่นั่งวิมานเมฆ สนใจคล้าย ๆ กัน แต่เวลาได้ชมจะมองภาพจากฝีพระหัตถ์จากรูปถ่าย

พระเจ้าอยู่หัวทรงถ่ายไว้ได้สวยมาก ๆ จำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตำหนักไหน แต่คราวนี้ไปถ่ายแต่ด้านนอก

เพราะด้านในไปมาหลายครั้งแล้ว :))

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา IP: 202.149.25.236 21 กันยายน 2551 9:03:06 น.  

 

แต่ดูจากทั้ง 10 ข้อที่ลิสต์มานะคะ ดูจะเป็นข้อดี (รึเปล่า) แต่น๊านนาน จะเห็นมาซักคัน ทำให้เราไม่รู้ว่ามีด้วยเหรอ

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา IP: 202.149.25.225 21 กันยายน 2551 9:10:22 น.  

 

ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายสิบปีก่อน (จะกี่สิบปีคร้านที่จะจำ)

อาจารย์สอนเรื่องเกี่ยวกับรัฐสวัสดิการ รัฐของบางประเทศ จะจัดให้มีสวัสดิการฟรีแก่ประชาชน ไม่ว่า จะค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงค่าน้ำ ค่าไฟ ฟรีกันไปทุกอย่าง

ตอนนั้น ยังสงสัยอยู่ครามครันว่า มันจะจริงเร้อ...มันจะฟรีไปได้ยังไง ในเมื่อของมันมีต้นทุนอยู่โทนโท่ อย่างมากก็ฟรีได้เฉพาะบางพวกบางกลุ่ม เท่าที่เห็นตอนโน้น ก็ฟรีเฉพาะพระสงฆ์องค์เจ้า และก็พวกตำรวจในเครื่องแบบอะไรทำนองนั้นแหละ

มาไม่กี่ปีก่อน เริ่มเห็นของฟรีพรรค์นี้ ก็ให้ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เช่น เรื่องสามสิบบาทรักษาทุกโรคนั่น แม้จะไม่ฟรีหมด แต่ก็นับว่าเกือบฟรี แล้วไอ้ของฟรีแบบนี้ก็เริ่มครองใจผู้คน โดยเฉพาะคนยากคนจนมากขึ้นทุกที...

มาสองปีก่อน จู่ ๆ ก็มีคนประกาศเกรี้ยวกราดว่า ของฟรีแบบนั้น มันเป็น "ประชานิยม" ทำให้คนเคยตัว

อ้าว แล้วไอ้ที่เก็บเงิน ๆ กันน่ะ มันไม่ทำให้คนเคยตัวรึไง?

แต่ก็ช่างเหอะ เขาจะเก็บก็เก็บกันไป ฟรีก็ฟรีกันไป ยังไงไอ้เรื่องที่เรารู้เรื่อง และเข้าใจ มันก็ชักจะน้อยลงทุกทีแล้ว จะไม่รู้เรื่องเพิ่มขึ้นอีกสักเรื่องสองเรื่อง คงไม่กระไรกระมัง...

แล้วอีกไม่นาน เขาก็ให้ใช้น้ำประปาฟรี ไฟฟ้าฟรี แถมรถไฟ รถเมล์ฟรี กันอีกละ

แปลกดีนะ ประเทศนี้ เดี๋ยวฟรี เดี๋ยวเก็บตังค์ มันลักกะปิดลักกะเปิดจนน่าเวียนหัวจริงเชียว

รู้สึกจะต้องไปทำใจใหม่เสียแล้วละว่า รักจะอยู่ประเทศนี้ ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงแบบ 180 องศา ปีละ 3-4 ครั้ง

มองให้ทุกข์มันก็ทุกข์อยู่ไม่น้อย

แต่ถ้ามองให้สนุก ให้สุข...

มันก็สนุกสนานหยอกเสียเมื่อไรล่ะ...

 

โดย: ลุงแว่น 21 กันยายน 2551 9:11:54 น.  

 

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพบล็อกครับ ด้วยว่าไม่มีเรื่องให้เขียน

บางเรื่องอยากเขียน ก็กลัวไม่มีคนอ่าน หรืออ่านแล้วพาลจะหมั่นไส้คนเขียน

ก็เลยขอบำเพ็ญตะบะแบบฤาษีปลีกวิเวกไปพลางก่อน

มีใครบางคน บอกว่า สมัยนี้ต้องเลือกฝ่าย เลือกข้าง

ใครที่คิดจะอยู่ตรงกลาง ๆ น่ะ อย่าหวัง เพราะตรงกลาง ๆ ระหว่างความดี กับความชั่ว ระหว่างสีดำกับสีขาวน่ะ มันไม่มี...

ว่าไม่ว่าเปล่า ยื่นคำขาดให้ตอบในสามวันว่า จะอยู่ฝ่ายไหนข้างไหน ?

จะตอบว่าไม่อยากเลือกก็ไม่ได้ เลือกแล้วขัดใจกันก็ไม่ได้

ก็เลยจำต้องปลีกวิเวก กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนต่อไป

ใครจะว่า ลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง ก็เชิญว่ากันไป

คิดเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าลอยอยู่ได้แบบนี้โดยไม่หล่นตุ้บลงไปในกะทะร้อน ๆ สองใบที่ตั้งอยู่ข้างล่างละก็

มันก็น่าลอยอยู่อย่างนี้ไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์...

จริงไหม?

 

โดย: ลุงแว่น 21 กันยายน 2551 9:20:56 น.  

 

เอาเป็นคุณ "ชาวคลอง" แล้วกันค่ะ ชอบแบบไทย ๆ มากกว่า ^^

สวัสดีค่ะ คุณชาวคลอง ^____^

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา IP: 202.149.25.236 21 กันยายน 2551 10:42:08 น.  

 


ช่างเก็บรายละเอียดได้ดีจังจ้ะ

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 21 กันยายน 2551 12:47:30 น.  

 

แถวร่มเกล้า รถเมล์ฟรีว่างมากเลยค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสนั่งเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมบ

 

โดย: nanida 21 กันยายน 2551 16:37:22 น.  

 

ได้นั่งบ้างเป็นบางวันค่ะ

บางวันไม่เจอเลย

ถ้าเป็นรถฟรีประชากรจะเยอะเป็นพิเศษ

 

โดย: อนุมานน้อย 21 กันยายน 2551 16:49:22 น.  

 

แวะมาทักทายยามค่ำค่ะ

เรื่องหลงน้ำไม่กล้าบอกผู้ปกครองด้วยค่ะ
เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เล่นน้ำอีก



 

โดย: Fullgold 21 กันยายน 2551 21:05:38 น.  

 

ก็เคยใช้บริการหลายทีแล้ว แต่ถ้าคนเยอะมาก ก็ถ้าไม่รีบก็รอคนด่อไปดีก่า

เอามาฝาก ว่างๆตามไปดูนะ

ปล.ถ้ารูปข้าเจ้าใหญ่ไปลบได้นะ

 

โดย: noitpituk 21 กันยายน 2551 21:35:51 น.  

 

เรื่องรถเมล์ฟรีนั้น ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับรถไฟค่ะ หาเสียงการเมืองอย่างนี้ก็ยังไงๆไม่รู้แฮะ หลังจาก 6 เดือนผ่านไปแล้วก็ราคาเต็ม เผลอๆขึ้นราคาอีก ก็เอาเป็นว่า ราคาค่าโดยสารรถประจำทางเหลือ 5 บาท ตลอดไปอีกสัก 4-5 ปีไม่ดีกว่าหรือ เป็นเพียงความคิดส่วนตัวนะคะ

ขอมอบต้นไม้ค่ะแทนคำขอบคุณที่ลงเนื้อหาดีดีในบล็อกทุกเรื่องเลยค่ะ

 

โดย: nathanon 22 กันยายน 2551 9:29:11 น.  

 

ตามมาขอบคุณสำหรับพรวันเกิดให้สามีแม่อ้วนด้วยนะคะ

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 22 กันยายน 2551 9:56:24 น.  

 

คิดว่ารถเมล์ฟรีมีได้ไม่นานค่ะ

เดี๋ยวก็เลิก..อะไรที่เกี่ยวกับขสมก. ไม่เห็นเคยทำได้ยืดยาว

ท้ายที่สุด ก็กลับมาเก็บตังค์ ขึ้นราคาตามความเคยชิน

สมัยก่อนนักศึกษาต่อสู้เพื่อไม่ให้รถเมล์ขึ้นราคา
น่าชื่นชมมาก...

สมัยนี้ นักศึกษาไม่ค่อยห่วงปากท้องประชาชนกันแล้ว

 

โดย: ทากชมพู IP: 58.136.53.151 22 กันยายน 2551 11:40:48 น.  

 

+ โทษทีนะครับ ย้อนกลับมาเยี่ยมช้าไปหน่อย พอดีสัปดาห์ที่แล้วผมยุ่งๆ อยู่นิดนึง
+ งานเทศกาลหนังบางกอกฟิล์มฯ ผมไปซื้อตั๋วที่โรง SFW เรื่องที่อยากดูมาแล้วนะครับ ... และเป็นที่น่ายินดีว่า ปีนี้มีซับไทยให้ (เกือบ) ทุกเรื่องจริงๆ ด้วย!!!

+ ผมเคยคิดเล่นๆ ว่าในช่วงมีรถเมล์ฟรี มีอาชีพหนึ่งที่หายไป (แต่ก็หายไปจริงๆ ด้วยนะ) ... ก็คืออาชีพ "ขอค่ารถเมล์ / รถโดยสาร กลับบ้าน" ไงครับ หุๆ เมื่อก่อนเจออยู่บ่อยๆ นะ แต่เด๋วนี้อ้างไม่ได้แล้ว

+ รถเมล์ฟรี ผมได้ใช้บริการบ่อยๆ ก็จริง แต่มันก็เป็นจังหวะชีวิตเหมือนกันนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นว่า "ถ้ารอก็จะไม่มา ส่วนสายที่มาก็ไม่ได้รอ" เหมือนรถเมล์ธรรมดา ยังไงยังงั้นเลยอ่ะครับ เหอๆ

 

โดย: บลูยอชท์ 22 กันยายน 2551 17:31:51 น.  

 

แหม่ ช่างสังเกตุจังค่ะ
บางทีเห็นแอบๆวิ่งข้างหลังรถเมล์ธรรมดา บางทีก็แกล้งวิ่งช้ากว่ารถเสียตังค์โดยให้แซงไปก่อน คนขี้เกียจรอก็อดไปรถฟรี


ดีนะคะคนจนๆหรือรายได้น้อยหรือคนทำเ๋ป๋าตังค์หาย
ได้ช่วยเค้าประหยัดอีกทางนึง

 

โดย: จันทร์ไพลิน 22 กันยายน 2551 19:45:41 น.  

 

เคยโหนรถเมล์ใน กทม.เมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว ตอนนี้อพยพมาอยู่โคราชเห็นภาพและได้อ่านทำให้ความทรงจำเก่าๆ กลับคืน อนึ่งท่านพี่ให้ข้อสังเกตุแต่ละข้อละเอียดลออมองเห็นภาพแจ่มชัดยิ่ง

 

โดย: sarntee 23 กันยายน 2551 12:51:00 น.  

 

เพิ่งสังเกตว่าป้ายที่ด้านหน้ารถเมล์คันนั้นมีคำว่า คู่สร้าง ตัวเท่าช้าง

ไม่รู้มาได้ยังไง หมายถึงอะไร

ที่จริง ถ้าเป็นคำว่า คู่กรรม หรือคู่ทรหด หรือ คู่วิบาก(ระหว่างรถกับคน)ยังพอเข้าใจได้นะคะ อุอุ

 

โดย: อัยย์(ทากชมพู) IP: 202.91.18.192 23 กันยายน 2551 19:45:29 น.  

 

คำว่า "คู่สร้าง" ผมเห็นครั้งแรกก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ วันนี้จึงได้ค้นหาจากอินเตอร์เน็ท
พบว่า คู่สร้างเป็นชื่อของวัด ซึ่งซอยเข้าวัดอยู่ใกล้กับต้นสายรถเมล์คันนี้ อยู่ถนนประชาอุทิศ พระประแดงครับ

 

โดย: Insignia_Museum 23 กันยายน 2551 20:24:17 น.  

 

ตามมาชม Museumค่ะ ดีค่ะได้เห็นภาพและของเก่า ๆ ไม่รู้เป็นยังไงพอเห็นภาพในอดีตแล้วเหมือนเคยอยู่เคยเห็นมาก่อน

 

โดย: Maekapomkha 24 กันยายน 2551 12:10:04 น.  

 

ขอบคุณที่เข้าไปชมบล็อกค่ะ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับเวียดนามมาให้ชมอีกมากแล้วจะทยอยมาเล่าค่ะ


ชอบความคิดความอ่านและความช่างสังเกตของคุณจังค่ะ

เมื่อก่อนไปแถว "คู่สร้าง" บ่อยๆ เพราะน้าชายที่ทำงานอยู่ป้อมพระจุลฯ ชวนแม่ไปซื้อที่ดินในซอยวัดคู่สร้าง แต่ตอนนี้ขายไปแล้วค่ะ


 

โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย 24 กันยายน 2551 13:41:24 น.  

 

อ้าว..เหรอคะ..คู่สร้างเป็นชื่อวัด
โถๆ...ไอ้เราก็..ม่ายเคยรู้เลย...ขอบคุณนะคะ

...........................

วันนี้อัพบล็อกค่ะ
คิดว่า จขบ. ผู้ซึ่งมีแต่เรื่องอดีตอันสวยสด คงมีเรื่องเล่าแน่นอน
เชฺิญนะคะ

 

โดย: ทากชมพู IP: 58.136.52.112 24 กันยายน 2551 14:13:12 น.  

 

แวะมาอ่านความรู้ค่ะ สบายดีนะค๊า ไม่ได้แวะมาซะนาน
รักษาสุขภาพด้วยค๊า

 

โดย: Borken 24 กันยายน 2551 23:41:42 น.  

 

แวะมาทักทายยามบ่ายค่ะ...

 

โดย: Fullgold 25 กันยายน 2551 13:03:40 น.  

 

เวลาไปไหนมาไหน ชอบถ่ายรูปรถเมล์บ้านเขาค่ะ

อันนี้เป็นรถเมล์ที่มาเก๊า...เล็กๆ น่ารักดี


........................

เอามาฝากบล็อกรถเมล์ของคุณ Insignia

รถน่านั่ง แต่บ่อนไม่น่าเข้านะคะ เหอๆ

 

โดย: ทากชมพู 25 กันยายน 2551 20:15:58 น.  

 

เค้าจะให้ฟรีไปถึงเมื่อไหร่คะเนี่ย เป็นบางสายเท่านั้นเหรอคะ

 

โดย: pim(พิม) 26 กันยายน 2551 21:29:26 น.  

 

อยากให้รถรางกลับมาอีกครั้งนะคะ

แต่พอนึกถึงฝุ่นควัน มลพิษทั้งหลายแหล่แล้ว...คงเป็นไปได้ยาก
นอกจาก...รถรางติดแอร์...อืม...น่าสนๆ

 

โดย: ทากชมพู 26 กันยายน 2551 22:14:33 น.  

 


GOOD MORNINGGGGG

 

โดย: จันทร์ไพลิน 27 กันยายน 2551 6:43:19 น.  

 


ว่าจะไปทดลองใช้บริการรถเมล์ฟรี
อยู่เหมือนกันค่ะ
แต่ก็กลัวจะเบียดผู้คนไม่ไหว

ขอบคุณคุณ Insignia_Museum มากๆ นะคะ
ที่นำประสบการณ์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง

เขียนเล่าได้สนุกสนานเฮฮามากเลยค่ะ

 

โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) 11 พฤศจิกายน 2551 23:46:34 น.  

 

เคยอาศัยบริการรถเมล์ฟรี 2-3ครั้ง แล้วก็ไม่อยากใช้บริการอีกแล้ว เหมือนเราไปอาศัยเขา บางป้ายก็จอดบางป้ายก็ไม่จอด ขับเร็วน่ากลัว...แข่งกันค่ะ ของฟรีก็เป็นอย่างนี้แหละ กี๊บ กี๊บ

 

โดย: nathanon 13 เมษายน 2552 5:39:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.