Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 4

เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 3
เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 2
เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 1

ไปดานัง ช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 2



ชายทะเลของเมืองดานัง


ก่อนเข้าดานังมีภูเขาสูงขวางหน้าเป็นแนวยาว สมัยก่อนรถยนต์ต้องไต่ไปบนไหลเขาด้วยระยะทางไกล เดี่ยวนี้สะดวกสบายเพราะมีอุโมงค์รอดใต้ภูเขายาวถึง 6.3 กม. อุโมงค์เกือบทั้งหมดขุดเจาะโดยบริษัทรับเหมาญี่ปุ่น ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเมื่อบริษัทที่รับงานครั้งแรกเจอน้ำใต้ดินหลังจากเจาะไปได้ระยะหนึ่ง อุโมงค์นี้เป็นทางตรงประมาณเก้าในสิบส่วน



ตลอดความยาวของอุโมงค์ มีอีกอุโมงค์เล็กๆที่คู่ขนานกันไป ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ หากมีเหตุฉุกเฉิน จะใช้อุโมงค์คู่ขนานนี้เดินทางไปยังจุดที่ต้องการ โดยมีประตูเชื่อมกันเป็นระยะๆ ผมเห็นประตูที่ว่าปิดอยู่ จึงมองไม่เห็นอุโมงค์คู่ขนานกัน

เมื่อรอดจากอุโมงค์ไปไม่นานนัก ขณะที่รถวิ่งกำลังลงจากเชิงเขา เราเห็นอ่าวดานังอยู่ลิบๆ ภาพเมืองขนาดใหญ่ริมทะเลที่กำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง คณะทัวร์ของเราตื่นเต้นกับภาพที่เห็น ตึกรามบ้านช่องค่อนข้างหนาแน่น ผมนึกถึงเมืองบางเมืองในตะวันออกกลางที่มีโครงสร้างแข็งแรง มองไกลๆเหมือนเป็นกล่องๆสะท้อนแสงแวววับ ยังไม่มีตึกสูงระฟ้าอย่างบ้านเรา





เมืองดานัง


บ้านเรือนในตะวันออกกลางต้องพร้อมที่จะรับกับพายุทราย แต่ที่ดานังต้องพร้อมรับพายุลมและฝน อยู่เมืองไทยคงได้ยินบ่อยๆว่าพายุลูกนั้นลูกนี้ ชื่อเพราะบ้างไม่เพราะบ้างพิสมัยอ่าวดานังนักหนา ความแข็งแรงของอาคารบ้านเรือนต้องพร้อมที่จะผจญพายุใหญ่ บ้านหลายหลังมีก้อนหินทับกระเบื้องกันปลิว น่าเสียดายที่ผมถ่ายภาพไม่ทัน เพราะเป็นการนั่งรถชมเมืองซะมากกว่า

ถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสเมืองดานังอย่างถึงเนื้อถึงตัว เรารับรู้ความเป็นมาของเมืองจากไกด์ วันนี้ยังไม่เจอฝน ท้องฟ้าจึงโปร่ง ทำให้ผู้มาเยือนแอบครุ่นคิด และวาดภาพความจอแจในเมือง ชีวิตผู้คนอย่างชาวเมืองทั่วไป ซึ่งที่ไหนๆก็เหมือนกัน ความเอื้ออาทรของชาวเมืองที่อยู่กันเงียบๆไม่มีการพัฒนาทางวัตถุมากนักอย่าง "เมืองเว้" น่าจะอบอุ่นกว่า

เส้นทางที่รถวิ่งผ่าน เรียบชายหาดยาวเหยียด พื้นที่ชายทะเลเริ่มปรับพื้นที่ให้เรียบเพื่อรองรับการลงทุนจากต่างชาติ ไม่มีใครรู้ว่าที่เดิมนั้นเป็นอะไร หรือเคยทำอะไรมาก่อน เชื่อว่าอีกไม่นานนัก ชายทะเลที่สวยงามจะเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง เครื่องอำนวยความสะดวก ในเส้นทางนี้ ผมเห็นโรงแรมหรูๆเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักบ้างแล้ว

ดานังกับความทรงจำในยุคสงคราม นอกจากตลอดเส้นทางที่ผ่านมาจะพบกับสุสานทหารขนาดใหญ่หลายแห่งแล้ว ผมเห็นโรงจอดเครื่องบินว่างๆ แต่เงียบสงัด ไม่พบเครื่องบิน ไกด์บอกว่านี่คือฐานทัพอเมริกันในอดีต ผมหวังว่าจะถ่ายภาพช่วงรถวิ่งขากลับจากฮอยอัน แต่หมดโอกาสเพราะวันต่อมารถวิ่งผ่านดานังคนละเส้นทาง ภาพโรงจอดเครื่องบินนั้นจึงแน่นิ่งในความทรงจำของผมตั้งแต่วันนั้น



ไม่ไกลจากดานังนัก เราแวะร้านขายรูปปั้นสลักด้วยหินอ่อน ไกด์และหลายๆคนจ้องจะแซวคนที่ซื้อหินหนักๆกลับบ้าน น้ำหนักส่วนเกินนั้นจะติดตามขบวนของเราไปจนถึงเมืองไทย พวกเราโล่งใจที่หลายคนซื้อของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

เรามาถึงฮอยอัน ยามฝนปรอยๆ แวะภัตตาคารก่อนเข้าพักที่โรงแรม สมาชิกบางคนมาเล่าตอนเช้าว่า พวกเขาไปเดินชมตลาดในช่วงค่ำๆ ซึ่งฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ ความเหนื่อยที่นั่งรถมาเกือบทั้งวันไม่เป็นอุปสรรคเลย



เช้าวันที่สามในเวียดนามที่เมืองฮอยอัน



อาหารเช้าที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมทเมืองฮอยอัน


เมืองฮอยอัน เป็นเมืองขนาดเล็กริมทะเล ในเขตจังหวัดกว่างนาม มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 80,000 คน เมื่อ 400-500 ปีมาแล้วเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ ถือเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเล เคยมีชาวต่างชาติทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย มาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ความรุ่งเรืองในอดีตนั้นคงอยู่เพียงในความทรงจำ

เขตเมืองเก่าของฮอยอันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ ปี พ.ศ. 2542 ต้องยอมรับว่าเขายังรักษาสภาพของเมืองท่าในอดีตไว้ได้อย่างสมบูรณ์ อาคารบ้านเรือนยังอยู่ในสภาพเดิม ราวกับว่าเมืองนี้มีชีวิตสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนอย่างไม่ขาดช่วง ผมมองเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง เห็นลูกเด็กเล็กแดงหลายคน ร้องกระจองอแง ความมีชีวิตยังไม่สูญหายไปไหน

ความรู้สึกแรกที่เห็นเมืองฮอยอัน ผมจินตนาการถึงเมืองท่าชายทะเลของไทยในอดีต ผมคิดถึงเมืองสงขลาและเมืองปากพนัง เมืองปากพนังเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของแหลมมลายูฝั่งตะวันออก ปากพนังเคยเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่เรือสำเภาจีนและเรือสินค้าขนาดใหญ่มาจอดเทียบเพื่อกระจายสินค้าไปยังหัวเมืองต่างๆ

ไกด์จะต้องรวมพล ณ จุดที่สำคัญ 3 จุด เริ่มต้นที่วัด บ้านโบราณ และสะพานญี่ปุ่น นี่เป็นไฟว์บังคับอีกเช่นกันที่ไกด์จะต้องทำให้ได้



เมืองฮอยอัน ดูไปวิ่งไป ยังไม่ทันกลุ่มใหญ่ เห็นไกด์โบกมือไหวๆอยู่ข้างหน้า



จุดรวมพลที่วัด



จุดธูปไหว้พระขอพรกันตามระเบียบ



บ้านโบราณ





มองจากบ้านโบราณ

จบกันที่วัดและบ้านโบราณแล้ว ใครมาที่ฮอยอันมักไม่พลาดถ่ายรูปสะพานญี่ปุ่น ว่ากันว่า เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น

แต่ผมและหลายๆคนพลาดโอกาสนั้น ฝนตกหนัก ต้องวิ่งหลบฝนที่บนสะพานญี่ปุ่น ซึ่งกว้างขวางพอจะจุพวกเราได้หลายสิบคน



บนสะพานญี่ปุ่น



วิวมุมหนึ่งมองจากสะพานญี่ปุ่น



















ช่วงเวลาท้ายๆที่ฮอยอัน ปล่อยให้เดินซื้อของกันตามสบาย แต่ไม่ใช่วันของพวกเรา สายฝนโปรยมาตลอด เสื้อกันฝนที่บริษัททัวร์แจกให้ เริ่มเอาไม่อยู่ กางเกงขายาวเปียกถึงครึ่งค่อนน่อง บางคนใส่รองเท้าผ้าใบ ชุ่มเท้าอยู่อย่างนั้น แม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจ สำหรับนักช็อปแล้วไม่มีอะไรมาห้ามได้ หอบของพะรุงพะรังกันทุกคน

และแล้วเราต้องโบกมือลาฮอยอัน ทั้งๆที่ยังไม่ได้ซึมซับอะไรมากนัก เดินหลบฝนบ้าง เร่งเดินเพื่อรวมพลในแต่ละจุดบ้าง หากจะเข้าถึงฮอยอันจริงๆ ต้องมีเวลาอ้อยอิ่ง ใช้เวลากันสถานที่นี้มากสักหน่อย เดินทอดน่องสบายๆ เฮ้อ...มากับกลุ่มใหญ่คงทำอะไรไม่ได้อย่างใจ

เราเดินทางกลับมาเว้ ท่ามกลางสายฝนตลอดทาง บางแห่งน้ำเอ่อล้นถนน ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่ ที่ต้องเจอฝนหลายเดือนในแต่ละปี



ร้านอาหารยามพลบค่ำที่เมืองเว้ ทุกภัตาคารจะมีภาพเขียนของศิลปินเวียดนามประดับอยู่ ล้วนเป็นภาพขนาดใหญ่ อาหารเวียดนามที่ภัตาคารแต่ละแห่งคล้ายๆกัน เน้นผัดผัก ผักสด น้ำซุบหรือแกงจืด ที่ขาดไม่ได้คือไข่เจียว รสชาติคนละเรื่องกับอาหารเวียดนามในเมืองไทย มีข้าวสวยพร้อมตักใส่จานแบบไม่อั้น ทำให้หลายคนกินข้าวจุคนละ 2-3 จาน

เมื่อมาถึงเว้ก็ค่ำมืดแล้ว รับประทานอาหารเสร็จ ราวทุ่มหนึ่ง ฝนยังโปรยปรายไม่ขาดเม็ด ล่องแม่น้ำหอมฟังดนตรีบนเรือมังกรเป็นโปรแกรมสั่งลาของทัวร์ทริปนี้ ผมเคยดูในเน็ทหลายครั้ง ค่อนข้างคุ้นเคยรายการนี้ คิดว่าไม่น่ามีอะไร รู้สึกเฉยๆ ไปก็ไป แต่พอล่องเรือและชมการแสดงของเขาแล้ว นักแสดงได้ใจทัวร์คนไทยไปเต็มๆ

ตามกำหนดการ เรือจะต้องวิ่งไปรอดใต้สะพานที่เปิดไฟประดับสว่างไสว ชมวิวแม่น้ำยามค่ำคืน คืนนี้ฝนตกไม่หยุดไฟที่สะพานข้ามแม่น้ำหอมยังไม่เปิด เรือออกจากท่าลอยในแม่น้ำไม่ไกลนัก เรือไม่ได้วิ่งไปไหน เจ้าของเรือกังวลว่าจะไม่ปลอดภัย มองอะไรไม่ค่อยเห็น ทุกคนจึงให้ความสนใจกับการแสดงมากกว่าชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำ

ไกด์บอกว่าแต่ละลำจะมีนักร้องสาวบ้างไม่สาวบ้างแล้แต่ดวง คณะทัวร์ของเราไปถึงท่าเรือก่อนทัวร์คณะอื่นตามเคย พวกหนุ่มๆ (เหลือน้อย) กระดี๊กระด๊ากันใหญ่เพราะเรือของเรานักร้องแต่ละ
นางงามๆทุกคน

ดนตรีและคำร้องเป็นภาษาเวียดนามสมัยโบราณ ไพเราะอย่างยิ่ง แฝงด้วยความร่าเริงในบางช่วง และเศร้าอย่างลึกซึ่งในบางจังหวะ ดวงตาของนักร้องสื่อให้เห็นถึงความรู้สึกที่บอกเรื่องราวในเนื้อเพลง แม้จะไม่ทราบความหมาย แต่ผู้ชมรับรู้ถึงอารมณ์นั้นได้







คืนวันนี้ทุกคนดูมีความสุขเป็นพิเศษ คณะทัวร์กลับมาถึงโรงแรมเว้โฮเต็ล เป็นโรงแรมเดียวกับที่เรามาพักคืนแรก และเดินทางกลับไทยในวันรุง่ขึ้นด้วยเส้นทางเดิม หลายคนเตรียมตัวพักผ่อนเอาแรง เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องนั่งรถหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนจนเช้าตรู่ที่ กทม.

ผมขอจบการตะลุยเวียดนามกลาง 3 วันเต็มๆเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนถึงบรรทัดนี้ครับ



Create Date : 28 สิงหาคม 2553
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2554 14:56:11 น. 33 comments
Counter : 2525 Pageviews.

 
วันนี้โชคดีจัง เข้ามาอ่านแต่หัววันเลย...

ทัวร์เวียตนามภาคกลาง ดูเหมือนจะเป็นโปรแกรมสุดฮิต

เพราะสมัยนี้เดินทางสะดวกสบาย และที่สำคัญประหยัด

เพราะไปด้วยรถยนต์ได้ ไม่ต้องถ่อขึ้นเครื่องให้วุ่นวาย

ตามความรู้สึกของผม ทัวร์เวียตนามภาคกลาง จะสนุกสนานกว่าไปเวียตนามภาคเหนือ อันได้แก่ ฮานอย และฮาลอง

เพราะทางภาคเหนือ ผู้คนดูเหมือนเป็นมิตรและใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวไทยน้อยกว่าภาคกลาง

อาจเป็นเพราะภูมิประเทศที่ใกล้กันมากกว่ากระมัง

ตอนที่ผมไปนั้น ในโปรแกรมล่องเรือมังกรชมแม่น้ำหอม

มีเพื่อนหญิงคนหนึ่งในคณะ กำลังเรียนการดีดพิณแบบกู่เจิงอยู่พอดี

พอไปเห็นพิณเวียตนาม มีลักษระคล้าย ๆ กับกู่เจิง

ก็เกิดติดอกติดใจ ติดต่อขอซื้อพิณอันนั้นจากนักดนตรีในเรือทันที

รู้สึกจะตกลงราคากันได้ที่ 100 ดอลล่าร์

เข้าใจว่าคงได้ราคาดีอย่างคาดไม่ถึง

เพราะนักดนตรีคนนั้นรีบขายให้ด้วยความเต็มอกเต็มใจ

เรียกว่าได้โบนัสจากการแสดงวันนั้นอย่างคาดไม่ถึง

แต่มองอีกมุมหนึ่ง น่าจะเป็นความพอใจทั้งสองฝ่าย

เพราะคนที่อยากได้ ไม่ต้องไปเดินหาซื้อในท้องตลาด

เพราะไม่แน่ว่า ถ้าไปซื้อเอง อาจได้ราคาแพงกว่านี้ เพราะต่อรองไม่เป็น

และดูเหมือนรายการล่องเรือเพลงชมแม่น้ำหอม

จะเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยวไทยทุกคณะ

เพราะนักร้องสาว ๆ หน้าตาน่ารักทั้งนั้น

โดยเฉพาะกับคณะทัวร์เลยวัยหนุ่มด้วยแล้ว

ออกจะเอ็นดูนักร้องเหล่านี้เป็นพิเศษ

ถึงขนาดให้ทิปเจ้าหล่อนไปคนละไม่น้อย

ซึ่งนิสัยแบบนี้ อาจใช้ในเมืองไทยตอนอยู่ใกล้ลูกใกล้เมียไม่ถนัดนัก

แต่ที่แปลกก็คือ

ตอนผมไป ฝนก็ตกตอนกำลังล่องเรือนี่เหมือนกัน....


โดย: ลุงแว่น วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:16:00 น.  

 
มาเชิญคุณอิม ไปฟังเพลง และอ่านกลอนที่บ้านครับ

วันนี้เขียนเรื่องเกี่ยวกับเพลง

"ลมลวง"


ที่แต่งไว้เมื่อสามสิบปีก่อน.....



โดย: ลุงแว่น วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:23:18 น.  

 
ตอนที่ 4 แล้ว
ยิ่งดูยิ่งอยากตามรอยนะคะ
ปลายเดือนหน้าที่ทำงานเราจะไปอุบลฯกันค่ะ
เลนไปลาวไปเวียดนามด้วยน่าจะwork work work




ส่วนอันข้างล่างนี้ รองเท้าที่ร้านเพื่อนบล็อคค่ะ
From...AKATA ที่ JJ. โครงการ 23 ซอย 3


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:11:27:51 น.  

 
ตามมาจากบ้านลุงแว่นครับ ผมกับคุณอิมคงดื่มด่ำกับเพลงลมลวงในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะจริงๆเลย

อ่าวดานังในอีกหลายๆปีข้างหน้า ผมคิดว่าคงไม่แตกต่างจากหาดป่าตองแน่ คุณอิมว่าไหมครับ

และคงจะมีนักการเมือง นักลงทุนจากเมืองไทยไม่น้อย ที่เข้าไปประกอบกิจการที่นั่น


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:11:49:43 น.  

 
มาเที่ยวฮอยอันด้วยครับ


โดย: wicsir วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:16:33:35 น.  

 
คุณอิมเล่าเรื่องได้สนุกและได้ความรู้มาก ทำให้อยากไปบ้างเสียแล้ว

ชอบร้านขายภาพวาดที่มีทุกแนวเลย แสดงว่าคุณอิมเป็นศิลปินนักวาดที่มากด้วยฝีมือคนหนึ่ง

เห็นมีเต็นท์กางบนหาดแสดงว่าฝนตกบ่อย ก็แน่ละถ้าปีไหนเวียตนามไม่มีพายุเข้าสักสี่ห้าลูก ประเทศไทยภาคเหนืออิสานจะแห้งแล้งทันที

แต่เวียตนามก็มีธรรมชาติเป็นป้อมปราการกันพายุให้อยู่ริม ๆ ฝั่งทะเลจีน เรียกว่าไม่เสียเปรียบประเทศอื่น

ดูสภาพที่เล่ามาทั้งหมดแล้วบ้านเมืองเขายังมีธรรมชาติมากกว่าเรา

ขอบคุณคุณอิมที่นำความรู้จากการไปท่องเที่ยวมาเผยแพร่ด้วยจิตสาธารณะจริง ขอนับถือ ๆ


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:11:02:28 น.  

 
-ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม ยังไม่มีเวลาละเอียดกับมันครับ
ผมย่องมาอ่านทุกตอนครับ กำลังคิดว่า จะแบ็คแพคไปหรือว่ายอมเสียเงินขี่ม้าชมดอกไม้ดี
มีหลายที่หลายมุมสวยงามน่าไปซึมซับ
แต่ชีวิตมีเวลาไม่พอเลยครับ นี่วับๆจะเดือนที่เก้าแล้ว


โดย: ปอน ปอน IP: 61.19.65.157 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:13:51:27 น.  

 
อ่านและแอบชื่นชมทุกตอนเลยค่ะ
ไม่ใช่ทัวร์ธรรมดา คือไม่ได้เที่ยวแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเดียว จดบันทึกและมีภาพตลอดระยะทางอย่างละเอียด ภาพสถานที่สำคัญ ถนนหนทาง ภาพเล็กภาพน้อยประกอบคำบรรยายได้ชนิดเห็นภาพพจน์ ทุกสถานที่ไม่ยอมให้ผ่านสายตาไปเฉยๆเลยนะคะ ที่มาของทุกแห่ง ทุกแหล่ง ทุกที่สามารถจำได้หมดและนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนบล็อกรับทราบด้วย

ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆมีค่าอย่างยิ่ง
"นักทัวร์ตัวอย่าง"

รออ่านตอนต่อไปค่ะ


โดย: nathanon วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:15:17:53 น.  

 
ติดตามมาหลายตอนแล้ว อยากจะบอกว่าเวียดนามเนี่ย น่าไปจริง ๆ เลยนะคะคุณ IM

มีทั้งบ้านเรือน วัดวาอาราม ศิลปะ วัฒนธรรม ช็อปปิ้งมาบล็อกนี้ยังเห็นหาดอีก

เคยดูรายการ Amazing Race ที่เค้าไปถ่ายทำการที่เวียดนาม แล้วฝนตก มีพายุเข้า นึกถึงภูเก็ต กับฮ่องกงขึ้นมาเลยค่ะ ภูมิประเทศเค้าคล้าย ๆ กัน

ภาพอาคารบ้านเรือนร้านค้าเนี่ย เหมือนกับภูเก็ต เชียงใหม่ของเรายังไงยังงั้นนะคะ เค้าอนุรักษ์อาคารเก่ากันไว้ได้ดีจัง ไม่โดนทุบทำลาย สร้างตึกขึ้นมาทดแทนใหม่เหมือนเมืองใหญ่

บล็อกนี้สีสันคัลเลอร์ฟูลมากค่ะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:17:44:44 น.  

 
แวะมาแว่บนึงนะคะ ยังไม่ได้อ่านละเอียดแต่ขอบอกว่ารูปของพี่อิมสวยมาก โดยเฉพาะเซ็ทหลังนี่ ถ่ายได้มุมมองสวยทุกรูป ชอบบ้านโบราณที่ถ่ายจากด้านในย้อนออกมา เดี๋ยวจะแวะมาอ่านละเอียดอีกทีนะคะ


โดย: popang (popang ) วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:20:00:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย ไม่รู้จะได้มีโอกาสไปรึปล่าว


โดย: ตุ๊กตาหนังโอปอเช่ (is_handmade ) วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:21:04:15 น.  

 
ขอบคุณ IM มากนะคะที่เข้าไปโหวตให้

ฝากขอบคุณลูกสาวคุณ IM ด้วยค่ะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:21:28:14 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

ตอนแม่ผมไปเวียดนามก็เจอฝนอยู่หลายวัน
หลายภาพจากหลายบล้อกหลายเว็บ
ก็มักจะเห็นภาพเวียดนามในเงาฝนเสมอ

บล้อกพี่ก็มีภาพเวียดนามที่ฝนตกอยู่

พูดถึงเวียดนามทีไรงผมนึกถึงประเทศที่ชื้นๆแฉะๆทุกทีเลยครับ 555








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:7:40:45 น.  

 




เช้านี้เอาหนุ่มเซอร์"ฮิวโก้" มาฝากค่ะ
พร้อมเพลงฮิตเพลงใหม่


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:8:08:14 น.  

 
Comment Hi5 Glitter
สองสามวันที่ผ่านมา แทบจะไม่ได้อยู่ติดบ้านเลย งานเข้าตลอดเวลาเลยค่ะ วันนี้ช่วงเช้าพอจะเบานิดนึง เลยรีบมาเยี่ยม เพราะช่วงบ่ายซ้อมการแสดงอีกแล้ว ระลึกถึงเสมอค่ะคุณim


โดย: เกศสุริยง วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:9:16:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ IM เห็นภาพถ่ายแล้วโอ้โฮ.....สวยมากค่ะ อยากไปเที่ยวมั่ง ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยม

เห็นแอบชมว่าขยัน จริงๆ มันมีที่มาของความขยันค่ะ เพราะช่วงนี้ไม่ขยันไม่ได้ค่ะ คุณบก. (แบกกรรม) ...ขอเรื่องใหม่ให้ทันงานหนังสือ

คนปั่นก็เลยต้องเร่งมือปั่นเพื่อชาติ...(ยกเหตุผลมาซะดูดี อันที่จริงจะว่าไปมันเป็นความงกส่วนตัวก็ว่าได้ อิอิ)


แม้ไม่ได้แวะมาบ่อยๆ แต่ก็ระลึกถึงบ้านสวยๆ หลังนี้ที่มีแต่สิ่งดีๆ กลับไปทุกครั้งเมื่อได้เข้ามาอยู่เสมอ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ห่วงใยค่ะ


โดย: sansook วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:9:52:57 น.  

 
มาเก็บข้อมูลอีกคนค่ะ


โดย: คุณหนูคั่วกลิ้ง วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:17:00:25 น.  

 
แม่ผมน่ะเที่ยวเก่งมากครับ
รูปเวียดนามผมทำให้เสร็จแล้ว
แต่รูปเกาหลีทริปล่าสุด
ยังไมไ่ด้ดูเลยครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:21:54:09 น.  

 
สวัสดีวันสีเหลืองค่ะ แวะมาเที่ยวเวียดนามด้วยคนค่ะ
ขอบ่นเรื่องเรียนพิเศษต่อหน่อยค่ะ ปิดเทอมก็คนละเกือบหมื่น มี 2 คน ก็หนักเอาการ ปิดเทอมนี้ ลูกสาวหมื่นกว่า อีกคนเกือบหมื่น อยากจะเปิดสอนพิเศษซะเองคงดีแน่ๆเลย บ่นไปงั้นแหละ สุดท้ายก็ต้องควักกระเป๋าไปตามระเบียบแหละค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:22:50:16 น.  

 
มาติดตาม...

สนุกดีครับ ขนาดเคยสัมผัสเวียดนามมาบ้างยังชอบอ่านเลย

ภาพวาดของเวียดนามตอนแขวนติดๆ กันในร้านดูธรรมดา แต่พอเอามาแขวนที่เมืองไทยดูดีมาก อยากได้อีก

จริงด้วยครับเรื่องร้องเพลง ผมว่าเพลงที่คนเวียดนามร้องมันได้อารมณ์มากเลย ขนาดฟังไม่ออกยังเคลิ้ม

คนเวียดนามกล้าทาสีบ้านหลากหลายนะครับ กล้าใช้สีสนุกกว่าคนบ้านเรา

ขออีกตอนสองตอนนะครับ จาก แฟนคลับ




โดย: chaiwatmsu IP: 58.8.134.177 วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:1:31:53 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:5:18:58 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพร ขอให้มีแต่ความสุขเช่นกันนะคะ และก็ขอบคุณที่พาทัวค่ะ


โดย: พรานอักษร วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:13:12:36 น.  

 
ตามมาเที่ยวฮอยอันภาคสุดท้ายต่อค่ะ คุณIMเที่ยวแบบเก็บรายละเอียดแถมความจำดี อ่านแล้วเพลินดีค่ะ

เมืองเก่าแบบนี้มีเสน่ห์นะคะ บรรยากาศดูขลังได้ใจดี ตั่งกับโต๊ะและโคมในบ้านโบราณสวยมาก ภาพวาดของเวียตนามสีสันสดใสดีจัง

สาว ๆ ในรูปท้าย ๆ บล็อคสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ใส่ชุดอ๋าวใหญ่แล้วดูมีเสน่ห์มั่ก ๆ


โดย: haiku วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:20:41:58 น.  

 
สวัสดีวันสีเขียวค่ะ ที่เวียดนามมีหมวกเหมือนบ้านเราด้วย มีแต่รูปคนอื่น แล้วเจ้าของบ้านคนไหนล่ะคะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:12:43:59 น.  

 
Pass by to say Hi..
ผ่านมาสวัสดียามบ่ายๆค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:14:50:19 น.  

 
คุณ IM หวัดดีค่ะ

ขอบคุณที่ให้น้องสาวที่บ้านไปโหวตให้นะคะ คิกคิก

วันนี้รีบเดินสายมาบอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ว่าไม่ต้องโหวตแล้วค่ะ ป้าเดซี่ผ่านเข้ารอบแล้ว

ขอบคุณมากนะคะคุณ IM


โดย: Oops! a daisy วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:16:06:19 น.  

 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mylovepopang&month=01-09-2010&group=16&gblog=191


โดย: นก (popang ) วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:22:35:20 น.  

 
วิ่ง 6 ในบล็อกคุณอ้อ แม่นจังครับอาจารย์ 555


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:11:03:38 น.  

 

เปลี่ยนบล็อคใหม่แล้ว.. รวยก็แบ่งกันใช้มั่งนะคะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:12:34:22 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณ IM

โอย.....แค่ครั้งเดียวก็เกรงใจชาวบ้านมากมายแล้วค่ะ อย่าได้มีครั้งหน้าอีกเลย

ขอบคุณนะคะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:19:38:28 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดีวันสุดท้ายของการทำงานค่ะคุณim อ่างทองฝนตกตลอดคืน นอนสบายไม่อยากลุกจากที่นอนเลยค่ะ ยังไงไปไหนอย่าลืมพกร่มด้วยนะคะ ฝนฟ้าอากาสเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ในช่วงนี้ ระลึกถึงเสมอนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:10:28:52 น.  

 
ผมมาชวนคุณอิมไประรื่นกับบล็อกใหม่ครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:11:38:39 น.  

 
แวะเข้ามาดูครับ ชอบมากเลยการท่องเที่ยว ^^


โดย: MaFiaVza วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:7:22:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.