BlogGang.com : : Insignia_Museum : วัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองราชบุรี

วัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองราชบุรี

ในวัยเด็ก ผมเคยนั่งเรือหางยาวจากคลองลัดพลี ไปออกคลองแพงพวยสู่แม่น้ำแม่กลอง เลี้ยวขวาไปสักพักก็ถึงตัวจังหวัดราชบุรี ผมจำได้ติดตาว่าผ่านวัดใหญ่แห่งหนึ่งทางฝั่งซ้ายมือ เห็นภาพพระปรางค์สูงเด่นเป็นสง่า ผมมักจะถามใครๆว่านี่คือวัดอะไร คำตอบที่ผมจำได้ไม่เคยลืมก็คือ วัดมหาธาตุ

วันเวลาล่วงเลยมาหลายสิบปี ความสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับวัดมหาธาตุก็ยังคงอยู่ วัดมหาธาตุดูจะเป็นดินแดนลึกลับที่ชวนให้ค้นหา ผมเป็นคนพื้นที่แท้ๆ ก็เหมือนใกล้เกลือกินด่าง ติดภาระการงานจึงไม่มีเวลาไปสักที่ เพิ่งสบโอกาสเมื่อเร็วๆนี้เอง

ชื่อวัดมหาธาตุ มักจะเป็นวัดใหญ่ เก่าแก่และวัดสำคัญ ในประเทศไทยมีชื่อวัดมหาธาตุซ้ำๆกันอย่างน้อย 7 แห่ง วัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองราชบุรีเป็นหนึ่งในวัดที่มีประวัติการสร้างมาไม่ต่ำกว่าพันปี

วัดมหาธาตุวรวิหาร จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัด อาจเป็นเพราะการประชาสัมพันธ์น้อยไปหน่อย ผู้คนจึงไม่ค่อยคุ้นเคย ราชบุรีมักจะเป็นเพียงทางผ่าน ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ถูกหลงลืมไป

เมื่อผมไปถึงวัดมหาธาตุในบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง บรรยากาศช่างเงียบเชียบจริงๆ เดินไปก็หวาดหวั่นไป บรรยากาศแบบนี้ไม่ดีกับคนขวัญอ่อนแน่ๆ

ในช่วงแรกๆ ไม่เห็นเจ้าของสถานทีเลย ผมเดินสำรวจจนทั่วบริเวณ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องสำรวมกาย วาจา และใจ สถานที่ที่มีประวัติย้อยหลังไปถึงสมัยทวารวดีย่อมไม่ธรรมดา

วัดมหาธาตุวรวิหาร ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมืองราชบุรี ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำแม่กลอง เดิมเรียกว่า "วัดหน้าพระธาตุ" หรือ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ"

วัดมหาธาตุมีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 อิทธิพลศิลปะและคติความเชื่อจากเขมร (พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) ได้แพร่เข้าสู่ดินแดนในแถบนี้ จึงได้มีการก่อสร้างและดัดแปลงศาสนสถานเป็นปราสาทศิลปะเขมรซ้อนทับของเดิม และสร้างกำแพงศิลาแลงล้อมรอบเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของเมืองตามคติความเชื่อเรื่องภูมิจักรวาลของเขมร ภายในของกำแพง คือสวรรค์หรือปริมณฑลของความศักดิ์สิทธิ์
(ความศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำไปสู่การหายจากความทุกข์ ในโลกของมนุษย์คือโรคภัยไข้เจ็บ)

ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21 ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์แบบอยุธยาซ้อนทับและสร้างพระปรางค์บริวารขึ้นอีก 3 องค์บนฐานเดียวกัน

เมื่อมีการย้ายเมืองราชบุรีจากฝั่งตะวันตกมายังฝั่งตะวันออกในสมัยรัชกาลที่ 2 วัดมหาธาตุที่อยู่ฝั่งตะวันตกจึงกลายเป็นวัดร้างไปโดยปริยาย ต่อมา พ.ศ. 2338 สมัยรัชกาลที่ 3 มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อบุญมา ได้ธุดงค์มาเห็นวัดนี้เหมาะกับการปฏิบัติธรรม จึงได้ขอความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนช่วยกันซ่อมแซม (เมืองราชบุรีย้ายกลับที่เดิม หรือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำแม่กลอง ในสมัยรัชกาลที่ 5)

เมื่อราว 3 ปีมานี้ จังหวัดได้รับงบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จึงได้รื้อและเรียงกำแพงแก้วอันเก่าแก่กว่า 700 ปีเสียใหม่ ตัดมุมศิลาแต่ละก้อนให้คม วางซ้อนกันอย่างสวยงาม ไม่น้อยหน้าแหล่งท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่แปลงโฉมจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้

หลวงพ่อพันปีคือพระพุทธรูปนาคปรก ภายในพระปรางค์

ปรางค์ประธานก่ออิฐสอดินตั้งบนฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความสูง 30 เมตร ปรางค์ประธานและปรางค์บริวารทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนทางทิศตะวันออกมีมุขยื่นออกมา มีบันไดขึ้น ฐาน เรือนธาตุและส่วนยอดประดับด้วยลายปูนปั้น

ภายในองค์ปรางค์ประธานมีคูหาเชื่อมถึงกัน ผนังส่วนบนเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้า ในซุ้มเรือนแก้วเป็นแถวเรียงต่อกัน ตอนล่างเป็นพุทธประวัติ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ได้เลือนหายไปมากแล้ว

วิหารคตรอบลานพระปรางค์ มีพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี สมัยลพบุรีและสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่โดยรอบ

เมื่อเดินออกมาจากกลุ่มของโบรณสถานแล้ว คณะของเราไปที่พระวิหารหลวงเป็นอาคารไม้โล่ง ซึ่งสร้างขึ้นมาภายหลังบนฐานวิหารเดิม มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 2 องค์ รูปทรงเหมือนกัน นั่งหันหลังชนกัน ทารักสีดำทั้งสององค์ หากไม่สังเกตจะมองไม่เห็นองค์ที่อยู่ด้านหลัง เพราะทับซ้อนกันพอดี

พระพุทธรูปองค์ที่หันหน้าไปทิศตะวันออก ชื่อพระมงคลบุรี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น พระพักตร์สุโขทัย
อีกองค์หนึ่ง หันหน้าสู่ทิศตะวันตก หันหลังให้กัน ความหมายคืออาราธนาให้ช่วยระวังภัยพิบัติหน้าหลัง ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา

เรามาพบในตอนหลังว่าพระสงฆ์ส่วนใหญ่ไปกวาดลานวัดอีกด้านหนึ่ง โดยมีแม่ชีเตรียมน้ำปานะคอยถวาย คณะของเราเลยถือวิสาสะขอแม่ชีดื่มน้ำแก้กระหาย ได้รับน้ำใจเช่นว่านี้ ความรู้สึกวังเวงจากการชมโบราณสถานก็คลายตัวไป

Create Date : 13 สิงหาคม 2552

Last Update : 9 มกราคม 2553 21:45:19 น.

51 comments

Counter : 5855 Pageviews.

เท่าที่สังเกตุมา วัดมหาธาตุ นี่ดูเหมือนจะมีวัดชื่อนี้เกือบทุกจังหวัดในประเทศไทยเลยนะครับ และก็แปลกอีกที่วัดที่มีชื่อแบบนี้จะมีพระปรางค์ในลักษณะที่คล้าย ๆ กัน แตกต่างกันนิดหน่อยตรงนพรัตน์บนยอดปรางค์ เท่าที่ผมเห็นตอนนี้คงเหลือวัดพ่อใหญ่ที่พิโลกที่เดียวที่ปรางค์ยังมีนพรัตน์ครบถ้วน

แต่ดูจากรูปแล้วผมคิดว่าวัดนี้อาจเคยเป็นเหยื่อของคนเล่นพระในยุคตื่นพระแล้วก็ได้ ผมเคยได้ยินมาว่าในยุคที่พระกรุแตกกันบ่อย ๆ นั้น พี่ไทยเราเจอองค์พระปรางค์เป็นไม่ได้พ่อดำดินหาวัตถุมงคลกันแหลก

แต่วัดนี้ผมคงต้องไปดูสักหนแล้วซิ ติดใจรูปเขียนจัง แม้ไม่คมชัดแต่ก็บอกเล่าเรื่องราวอะไรได้มากมาย

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:7:49:10 น.

หวัดดีค่ะ คุณ IM

ป้าเดซี่ไปราชบุรีบ่อยมาก บ้านคุณตา-คุณยายอยู่ที่นั่นค่ะ แต่ไม่เคยได้ยิน หรือไปวัดมหาธาตุเลยนะ จะออกแนวไปราชบุรีแล้วก็ไปชะอำหรือเพชรบุรีต่อมากกว่า

วัดสวยนะคะ น่าสนใจ น่าไปถ่ายรูปจังเลย ดีใจกับทางวัดที่เค้านำงบประมาณมาบูรณะสังขรวัดเก่าแก่โบราณแห่งนี้ให้คงอยู่ต่อไป

โดย: Oops! a daisy

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:9:40:40 น.

สวัสดีค่ะคุณ IM

แวะเอาความคิดถึงมาให้ค่ะ เพิ่งทราบจากบล็อกนี้ว่าคุณอิมพื้นเพเป็นคนลาดลี

เวลาเข้าไป ชม-ดู โบราณสถาน วัดเก่าแก่ หรือแม้แต่เรือโบราณ ความรู้สึกแรกที่วูบเข้ามาก่อนคือ วังเวง วูบวาบ
รู้สึกว่าขนที่หัว ที่หูจะเริ่มตั้งชัน จากนั้นความรู้สึกที่สองคือจะเริ่มเย็นยะเยือก มองซ้าย มองขวา

ก่อนที่ความรู้สึกท้ายสุดคือความอยากรู้ อยากเห็น อยากค้นคว้าจะเข้ามา ก็ต้องใช้เวลาเดินวนดูอยู่หลายๆ รอบ แบบขอตั้งตัวก่อนว่างั้นเถอะ

ไม่เคยได้แวะไปราชบุรีเลยค่ะ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็ใช้เวลาขับรถไม่นานจากบ้านนนท์
เพื่อนสนิทเป็นคนนครปฐม เธอจะเป็นนักปฏิบัติธรรมตัวยงและราชบุรีคือที่ที่เธอไปประจำ
ไม่รู้ว่าเธอไปปฎิบัติที่วัดใด เพราะเธอบอกไว้แต่คนบาปหนาอย่างเราก็ไม่เคยจำ
เคยปฏิเสธคำชวนของเพื่อน และให้เหตุผลแบบขำๆ ของตัวเอง แต่น่าหมั่นไส้สำหรับคนอื่นๆ ว่า
เป็นคนบาปหนา เข้าประตูวัดไม่ได้...เลยไม่ยอมไปหาความสงบทางใจ ที่ผู้ปรารถนาดีหยิบยื่นให้

คิดๆ ไปแล้ว เราคงบาปหนาจริงๆ

มีบางอารมณ์เหมือนกันค่ะที่เคยไปนั่งเศร้าในวัดเก่าที่อยุธยาเมื่อเห็นซากปรักหักพัง
ทำให้จิตกระหวัดไปถึงครั้งที่เราต้องสูญเสีย ถูกเผาบ้าน เผาเมือง..คนสมัยนั้นจะหวาดหวั่น หวาดกลัวกันสักเท่าใด

หวังว่าประวัติศาสตร์คงจะกลับมาซ้ำรอยบ้านเมืองของเราอีกครั้งนะคะ

คิดถึง และระลึกถึงเสมอ รักษาสุขภาพนะคะ

โดย: กลีบดอกโมก

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:16:31:55 น.

ขอตามมาเที่ยวัดด้วยคนนะคะ..วัดนี้ไม่เคยไปเลยค่ะ แต่ดูแล้วเป็นวัดเก่าที่มีเจดีย์เก่าๆสวยมากเลยค่ะ ..พระพุทธรูปองค์สีดำก็ เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละ ปกติจะเคยเห็นแต่สีทอง...เห็นวัดและบริเวณดูเงียบสงบ ขลังและมีความศักดิ์สิทธิ์จริงๆด้วยค่ะ

โดย: Suessapple

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:17:14:53 น.

คุณอิมขา

กลับเข้ามาอ่านอีกรอบถึงรู้ว่าเม้นตกไปหนึ่งคำนะคะ
แค่คำๆ เดียวก็ทำให้ความหมายผิดไปจนไม่น่าให้อภัย

จริงๆ แล้วประโยคที่ตั้งใจจะพิมพ์คือ

"หวังว่าประวัติศาสตร์คงจะไม่กลับมาซ้ำรอยบ้านเมืองของเราอีกครั้งนะคะ"

ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ
เมื่อวานโทรไปหาแม่ตอนเย็นๆ ของเมืองไทย
ตอนแรกก็เขียนสคริปต์ไว้ค่อนข้างยาว
แต่พอจะพูดเข้าจริงๆ ก็อ้ำอึ้งเหมือนเคย

ไม่คิดว่าการบอกรักแม่เนี่ย มันจะยากกว่าการบอกรักคนอื่นจริงๆ
แต่ในที่สุดก็ได้พูดแล้วค่ะ..เหมือนยกภูเขาออกจากอก
เป็นกรรมอย่างหนึ่งของตัวเองค่ะ..ที่ได้รับกลับคืนมาเต็มๆ
เพราะป่านนี้ลูกสาวยังไม่โทรหา ไม่มีแม้แต่อีเมล์...สมัยนี้กรรมติดจรวดนะคะ

รักษาสุขภาพเช่นกันค่ะ

โดย: กุ้ง IP: 80.182.36.226 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:22:05:20 น.

ไม่เคยไปวัดนี้เลยค่ะ ราชบุรีเป็นทางผ่าน มากกว่าจะแวะ
แต่เห็นวัดนี้แล้ว มีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง
วันหลังถ้าผ่านไป และมีโอกาส คงต้องแวะดู
เผื่อมีโอกาสขอน้ำปานะดื่มด้วย

ชอบวิหารไม้โล่งๆที่ประดิษฐานพระพุทธรูปค่ะ
ดูเรียบง่าย เข้าถึงได้
น่าเข้าไปนั่ง

บางทีไปวัด เข้าไปวิหารปิด เจอควันธูปเทียนอวลอยู่ในนั้นมากๆแล้วต้องถอดใจ รีบออกมาค่ะ เพราะหายใจลำบาก

โดย: HoneyLemonSoda

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:22:27:35 น.

สวัสดีค่ะคุณim ดิฉันต้องขอโทษด้วยที่เงียบหายไปโดยไม่ได้บอกกล่าวให้เป็นเรื่องเป็นราว เหตุเพราะว่างานยุ่งมากๆประกอบกับเจ้าคอมคู่ใจโดนไวรัสเล่นงานจนเปิดหน้าจอไม่ได้เลยทำให้หงุดหงิด แอบไปใช้คอมที่โรงเรียนเน็ตก็ช้าๆๆๆๆๆไม่ทันใจเลยจำเป็นต้องตัดใจรอคอมที่นำไปซ่อมจนกระทั่งเมื่อวานช่างซ่อมคอมโทรมาบอกว่าเสร็จแล้วคุณimเชื่อไหมคะว่าดิฉันดีใจอย่างกับถูกหวยรางวัลที่๑แน่ะอิอิ.....คุณimสบายดีนะคะ

โดย: เกศสุริยง

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:22:52:48 น.

+ อืม ... ของดีใกล้ๆ กรุงเทพฯ แท้ๆ เลย ปรากฏว่าผมกลับไม่ค่อยรู้จักซะนี่ (ส่วนมากโซนนั้นจะไปเที่ยวเมืองกาญจน์ กับเมืองเพชรมากกว่า ราดรีอ่ะครับ

)

+ ปรางค์ขอมของวัดนี้ งามกว่าที่วัดดังๆ หลายแห่งเสียอีกนะครับเนี่ย น่าทึ่งจัง

+ อีกอย่างที่ดูสุดยอด (น่ายกให้เป็น unseen นะนั่น) ก็คือหลวงพ่อลงรักดำทั้ง 2 องค์อ่ะครับ แปลกแต่งดงามมากมายเลยอ่า

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:23:01:13 น.

เรื่องสิบเก้านาที เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยครับพี่

แต่เวลาอ่านนี่สิ มันไม่สิบเก้านาที ผมเล่นไปสามวันกว่าจะจบ

ขอบคุณครับพี่

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:2:48:48 น.

เพิ่งเคยเห็นพระพุทธรูปสององค์หันหลังชนกันเหมือนกัน

แปลกมาก

และยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก เมื่ออ่านเจอว่า องค์หนึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก อีกองค์หันไปทางทิศตะวันตก

คนไทยสมัยนี้ ความเชื่อเริ่มวิบัติไปกันยกใหญ่แล้ว

เชื่อทางพุทธแบบผิด ๆ ยังไม่พอ

ยังเชื่อแบบพราหมณ์เข้าไปด้วย

พักหลังหนักยิ่งขึ้น เอาเรื่องฮวงจุ้ยแบบจีนเข้ามาอีก

จะสร้างบ้าน จะตั้งศาล จะตั้งหิ้งพระ

กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ต้องวิ่งโร่ไปหาคนที่อ้างตัวเป็นมดเป็นหมอฮวงจุ้ย

ให้มาดูมาแก้ให้วุ่นวายไปหมด

ไอ้เรื่องอื่นยังพอทำเนา แต่เรื่องตั้งหิ้งพระนี่หนักหนากว่า

ทั้งที่พระพุทธองค์ไม่เคยสอนเรื่องการถือทิศหรือบูชาทิศไว้ในพระสูตรเล่มไหนเลย

แต่คนก็อุตริสอนกันแบบผิด ๆ ว่า ต้องตั้งพระหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

บางบ้านตั้งได้ก็รอดตัวไป

แต่บ้านเรือนสมัยนี้ สร้างกันตามความจำเป็นของที่ดิน

หันเหนือหันใต้รับลมยังทำไม่ได้

นับประสาอะไรกับจะเลือกบ้านในทิศที่เป็นมงคล

ครั้นพอจะตั้งหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา

ถ้าจะวางให้สวย พระพุทธรูปก็ต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือใต้อันเป็นทิศที่คนไทยบางจำพวกถือ

มันก็เลยเกิดวิปริตไปทั้งบาง

ต้องทุบห้อง สร้างห้องขึ้นมาใหม่ เพียงเพื่อตั้งองค์พระให้ถูกทิศถูกทาง

ถ้าไอ้พวกนี้ ได้มาเห็นพระพุทธรูปสององค์นี้ จะได้คิดไหมหนอ

พระท่านไม่เคยเชื่อเรื่องทิศ ไม่เคยเชื่อเรื่องทาง

คนที่เป็นพุทธบริษัทบางจำพวกเท่านั้น ที่เอาเรื่องนี้มาคิดจนเป็นทุกข์ให้แก่ตัวเอง

น่าอนาถ

พวกนี้จะแก้เคล็ดแบบไหนก็แก้กันไป คิดเสียว่าเป็นกรรมของสัตว์

แต่อย่าอุตริมาแก้แบบพิเรน ๆ อย่างที่เห็นกันตามท้องถนน

รถบางคัน เจ้าของซื้อสีแดง เพราะชอบสีนี้ แต่พอซื้อมาแล้ว มีคนทักว่า

คนเกิดวันนั้นปีนี้ ไม่ถูกโฉลกกับสีแดง

ไอ้พวกปัญญานิ่มก็เลยแก้เคล็ดโดยตัดสติกเกอร์ติดไว้ที่รถเสียเลยว่า

"รถคันนี้สีขาว"

เป็นการประจานความปัญญาอ่อนของตัวเองไปทั่วบ้านทั่วเมือง

เห็นไอ้พวกนี้แล้ว อยากช่วยสงเคราะห์ ตัดสติกเกอร์ไปแปะไว้ข้าง ๆ อีกแผ่นว่า

"เจ้าของรถคันนี้ เป็นควาย"

สะใจดี...

โดย: ลุงแว่น

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:6:41:04 น.

หวัดดีค่ะ คุณ IM

เข้ามากรี๊ดใส่หู กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เม้นท์ที่คุณ IM ไปพิมพ์ก๊อกแก๊กไม่กี่บรรทัดในบล็อกป้าเดซี่ โดนใจจั๋งหนับเลยค่ะ ชอบตรงนี้

บางทีประโยคสั้นๆ ก็ย่อโลกทั้งโลกได้

บางทีประโยคสั้น ๆ ก็ทำให้วันอึมครึมของเราสดใสขึ้นโดยพลัน

โดย: Oops! a daisy

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:8:25:13 น.

ตกลงบ้านนี้ก็เป็นเสาไฟฟ้าอีกบ้านเนอะ

มีโคดสะนาเจ้าเก่ามาแปะ...เชื่อเขาเลย...

...........................

ก่อนอื่น ขอบอกว่า น้ำตกบ่อหวีค่ะ ม่ายใช่บ่อทวี อิอิ

หวีอ้ายหน่อ หว่ออ้ายหนี่น่ะค่ะ

ช่วงนี้กลางคืนอัยย์เล่นเน็ตที่บ้านไม่ค่อยได้เลยค่ะ

คลิกไม่ไปเอาเลย

มีปัญหามาพักใหญ่แล้ว ก็เลยมาหาได้ตอนเช้า

มาเที่ยวพระธาตุ สวยงามมากค่ะ

ถ่ายภาพได้มุมที่งดงามจริงๆ...

โดย: นักล่าน้ำตก

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:11:20:09 น.

พื้นที่แถบราชบุรี นครปฐม น่าจะรุ่งเรืองมากในสมัยทวาราวดี มีสถาปัตยกรรมโบราณมากมายจริงๆ ขอบคุณที่แนะนำสถานที่อันทรงคุณค่าเหล่านี้่ พร้อมด้วยความรู้และภาพ

โดย: sarntee

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:12:06:07 น.

วัดมหาธาตุราชบุรี เคยผ่านแต่ไม่เคยไปดูเลยครับ เพิ่งรู้ว่ามีประวัติและมีโบราณสถานเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยทวารวดีเลย ชอบพระพุทธรูปยืนดูสมบูรณ์มาก พระพุทธรูปที่หันหลังชนกันก็แปลกจริงๆ ครับ ขอบคุณที่คุณ IM นำมาแนะนำครับ

โดย: dj booboo

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:12:58:35 น.

เพิ่งรู้ว่าราชบุรีมีวัดสวยๆและเก่าแก่แบบนี้ด้วย

โดย: อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:17:35:45 น.

อ่านเม้นท์ลุงแว่นแล้วอือออออออ....จัง

เดี๊ยนเคยไปเที่ยวราชบุรีตอนเรียนม.ศ.4 ไปนอนบ้านเพื่อนที่โพธาราม

ตอนนั้นบ้านเพื่อนมีแค่ครึ่งหลังเพราะโดนไฟไหม้
เราเด็กๆไม่คิดมาก มาตอนหลังมานั่งคิด เออเพื่อน
กำลังลำบากเรื่องที่อยู่ที่กินเรายังอุตส่าห์ไปเพิ่มความลำบากให้อีก นี่แหละที่เรียกว่าเด็ก

ตอนไปราชบุรีนั่งรถไฟจากโพธาราม
ก็แค่ไปเที่ยวในตลาด เที่ยวบ้านแม่ชีคาทอลิค เดินเล่นตามประสาเด็กไม่ได้สาระอะไร
แต่ข้องใจมากๆตรงที่ว่าทำไมแม่ชีต้องขังตัวเอง
ไม่ให้ใครเห็นตัวได้ยินแต่เสียง
พวกเราไปช่วยอุดหนุนของที่แม่ชีทำเอง
เห็นว่าเรียก ชีมืด อะไรทำนองนี้จำไม่ได้แล้วค่ะ

ส่วนพวกวัดไทยไม่ได้เข้าไปค่ะ เหมือนกับว่าวัดน่ากลัว
พวกเราเด็กๆพูดถึงวัด ก็คิดแง่ลบทางผี ผี กันแล้ว

มาเสียดายตอนแก่ล่ะค่ะ

โดย: ซองขาวเบอร์ 9

วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:18:38:49 น.

ชอบปรางค์กลีบขนุนแบบนี้มากค่ะพี่.....รู้สึกแปลนจะใกล้เคียงกันหมดกับทางเขมร....เรื่อยมาอยุธยาในบางวัด.....วัดนี้นกยังไม่เคยไปเลย.....น่าไปๆ....ชอบศิลปะอิทธิพลเขมรมากที่สุด...อ้อ....มีใส่ผ้าถุงนุ่งซิ่นตอน2หมู่บ้านไทลื้อมาฝากด้วยค่า....เขียนเสร็จแล้ว

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mylovepopang&date=14-08-2009&group=5&gblog=42

โดย: popang (popang

) วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:6:43:52 น.

รัชชี่ว่าวัดมหาธาตุในประเทศไทยน่าจะมากกว่า 7 มั้ยคะ รู้สึกเหมือนได้ยินบ่อยมาก

ชอบศิลปะสถาปัตยกรรมในอดีตค่ะ มันสะท้อนความเป็นมาของผู้ครองนครในยุคนั้น ๆ

“อีกองค์หนึ่ง หันหน้าสู่ทิศตะวันตก หันหลังให้กัน ความหมายคืออาราธนาให้ช่วยระวังภัยพิบัติหน้าหลัง ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา” … ความรู้ใหม่นะคะเนี่ย

โดย: รัชชี่ (รัชชี่

) วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:13:07:38 น.

มาชวนไปเที่ยวที่บ้านบ้างค่ะ

โดย: ซองขาวเบอร์ 9

วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:22:13:37 น.

ขอบคุณมากค่ะที่พาไปชมวัดมหาธาตุซี่งครั้งเเรกคิดว่าเป็นวัดในกทม
สวยเเละงดงามมากเเต่องค์สุดท้ายที่เป็นสีด้า พระเนตรชี่ขึ้น ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ

ความรู้ใหม่ทั้งหมด ขอบคุณมากค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

โดย: YUCCA

วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:2:21:21 น.

วันหยุดอย่างนี้

เหมาะมากที่จะเที่ยววัดและได้รู้จักความเป็นมาของวัดมากขึ้น

ขอบคุณ คุณ IM ที่พาชมค่ะ

โดย: หยุ่ยยุ้ย

วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:10:29:00 น.

สวัสดีวันสีเหลือง แวะมาเที่ยววัดด้วยนะคะ ออกพรรษานี้ติ๊กจะไปทอดกฐินที่วัดแถวๆ กรมทหารทที่สระบุรี จำชื่อวัดไม่ได้ ปีที่แล้วก็ไปมา เงียบสงบดีมาก มีต้นไม้ร่มเย็นมากๆ ค่ะ

โดย: ไผ่สวนตาล

วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:9:57:26 น.

วันนี้มีน้ำตกมาใหม่

มาชวนไปเที่ยวจ้า..

รับรองคราวนี้...ไม่มีตัวอักษรที่คล้ายกันให้จขบ.อ่านผิดอ่านถูกอะค่ะ อิอิ

โดย: นักล่าน้ำตก

วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:14:21:54 น.

ขอบคุณมาก ๆ เลยครบัพี่

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง

วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:2:12:49 น.

Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

หวัดดีค่ะคุณอิม
มิน ก็ไปราชบุรีทุกเดือน
แต่ ไม่เคยสังเกตุเห็นวัดที่ว่านี้เลยค่ะ
เพราะไปเรื่องงาน ดิ่ง ๆ ไป แล้วก็ ดิ่ง ๆ กลับ
วันหลัง คงต้องหาเวลาเข้าไปเที่ยวชมซักครั้งแล้วค่ะ
ว่าแต่ว่า บรรยากาศมันดูเปลี่ยว ๆ หรือป่าวคะ
มินชอบนะแบบว่า บรรยากาศรอบ ๆ ดูศักดิ์สิทธิ์
แต่ ไม่ชอบแบบว่า เปลี่ยวไร้ผู้ไร้คนอ่ะค่ะ

โดย: มินทิวา

วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:5:38:15 น.

ขอบคุณมากๆ เลยครับ

คิดอยากหาโอกาสไปเที่ยวชมสักครั้งไม่ไกลจากที่ผมอยู่เสียด้วย

เวลาเห็นโบราณสถานเก่าแก่นับพันๆ ปี แหล่งโบราณคดีในยุคหินยุคโลหะ แล้วอดนึกไม่ได้ว่าความเป็นมาของผืนแผ่นดินที่เราได้หัดตั้งไข่ แผ่นดินที่สร้างอาหารหล่อเลี้ยงเราช่างยาวนานเหลือเกิน แอบนึกย้อนไปถึงความเป็นมาอันหลากหลายผสมปนเปของพี่น้องเผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกอันยาวนานอดนึกไม่ได้ว่าเราทั้งหลายล้วนเป็นเครือญาติกัน

โดย: bite25

วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:11:28:53 น.

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mylovepopang&month=17-08-2009&group=5&gblog=45

มาชวนพี่Imไปเที่ยวดูต้นจั๊กจี้และขุนเขาเมืองปัวค่ะ

โดย: popang (popang

) วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:11:44:13 น.

แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึงเฉยๆจ้า...

โดย: นักล่าน้ำตก

วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:18:00:49 น.

เป็นวัดที่สวยมากวัดหนึ่งเลยนะคะ
ที่อยุธยาก็มีวัดชื่อนี้ค่ะ
แต่ถูกเผาเสียหายไปเยอะเลย
มีพระแต่ไม่มีเศียร
มีเศียรพระแต่องค์พระหาย

ชอบพระปรางค์จังค่ะสวยดี

โดย: Fullgold

วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:19:49:08 น.

แวะมาทักทายยามดึกค่ะคุณim ช่วงนี้ไปๆมาๆชีวิตประจำวันยังไม่นิ่งแต่ก็คิดถึงอยู่เสมอนะคะ คุณimสบายดีนะคะ

โดย: เกศสุริยง

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:0:30:55 น.

ขอบคุณมากๆนะค๊ะ สำหรับความรู้ต่างๆที่นัทไม่เตยรู้มาก่อน พระพุทธรูปขนาดใหญ่ 2 องค์ ที่ลงรักสีดำ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะไม่ค่อยคุ้นก็ไม่รู้เลยรู้สึกว่าน่ากลัว และถ้าไม่บอกว่าสององค์ นัทคิดว่าเงาสะท้อนจากกระจกนะนั่น

ต้องขอโทษที่หายไปซะนาน..แต่ไม่เคยลืมกัน คิดถึงอยู่เสมอนะค๊ะ

โดย: Why England

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:2:39:02 น.

กลับมาใหม่เมื่อกี้ลืมส่งข่าวว่า ตอนนี้ในเว็ปนัท (//www.mutita.co.uk ) เปิดส่วน Internet forum หรือ message board ให้แวะเข้าไปใช้ โพสเรื่องราวต่างๆได้ เชิญเข้าไปใช้ตามสบายนะค๊ะ

โดย: Why England

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:5:32:49 น.

ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายเรื่องเลยค่ะ เพราะสุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก วันนี้จะมาชวนไปชมวังแถวๆชะอำ.....

ขอเวลาย้อนอ่านตั้งแต่เรื่องสวนกล้วยไข่แน่ะ แล้วจะcomment แต่ละเรื่องไปนะคะ

เท่าที่ผ่านเมืองราชบุรี ก็เฉยๆนะเมื่อผ่านวัดมหาธาตุวรวิหาร เพียงยกมือไหว้เท่านั้น เพิ่งทราบประวัติว่ามีความเป็นมาอย่างไร รูปภาพดูเด่นและงามกว่าของจริง ถ่ายภาพเก่งค่ะ

โดย: nathanon

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:11:43:30 น.

มาชวนไปเที่ยวน้ำตกภรรยาน้อยค่ะ

เอ๊ะ...ยังไง...?

โดย: นักล่าน้ำตก

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:15:41:24 น.

สวัสดดีค่ะ...
เมื่อกี้..แวะเข้าไปดูโกดังผีมาน่ะค่ะ...

แถวบ้านจ๊อกไม่เคยมีแหล่ะค่ะ...เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่
เคยเห็นเลยนะคะ ได้มาเห็นที่นี่แหล่ะค่ะ...
เพราะอาจจะเป็นเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่แถวบ้านจ๊อกอาจไม่นิยมเก็บศพก็ได้มั๊งคะ...พอเสร็จงานแล้วก็ฌาปนกิจเลย...ไม่ต้องมีห่วงอะไรอีก...

คุณ I M สบายดีหรือเปล่าคะ

โดย: คนชุมแสง

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:17:53:19 น.

มาชวนไปชมตุ๊กตาเก่าเก็บอีกค่ะ

โดย: ซองขาวเบอร์ 9

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:21:24:25 น.

อืม...............เพิ่งรู้นะคะว่าราชบุรีก็มีวัดมหาธาตุด้วย บริเวณแถบภาคกลางไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเลยค่ะ ได้แต่ผ่านไปนู่นนี่นั่นตลอด จริง ๆ แล้วตามรายทางจังหวัดต่าง ๆ ก็มีที่น่าไปเที่ยวดู
ขอบคุณค่า ไม่ได้เที่ยวเองก็ดูเอาจากรูปแทนไม่ก่อน

โดย: อันต้า

วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:22:14:11 น.

มาโอกาสไปเมืองไทยต้องขอไปสักการะวัดมหาธาตูค่ะ
เป็นปูยนีสถานที่สวยงาม

ขออนุญาตปิดบล็อกชั่วคราว เรียบร้อยเเล้วจะกลับมาตามเดิมค่ะ
อยาลืมอัพบล็อกให้ความรู้มั่งนะคะ จะเเวะมาหาค่ะ

โดย: ..ยูกะ.. (YUCCA

) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:15:38:22 น.

วันนี้เอาสมุนไพรมาฝากค่ะ
โคกกระออม

วันก่อนจำได้ว่าคุณ IM พูดถึงเรื่องมะพูด
กลับไปบ้านคราวนี้เจอป้าที่อยุธยาซื้อมาปลูกแล้วค่ะ

จำได้ตอนเด็กๆไปเที่ยวบ้านอาจารย์ฝึกสอน
กับกลุ่มเพื่อนๆ บ้านอาจารอยู่ติดคลองบางกอกน้อย
มีต้นมะพูดอยู่หน้าบ้านด้วย

แต่ตอนนั้น ยังไม่มีลูกเลยอดได้ชิมเลยค่ะ
เค้าว่าอร่อยจริงไหมค่ะ

ตอนนี้ตามหาต้นลูกหว้าค่ะ
เป็นต้นไม้แห่งความทรงจำในอดีต
เพราะเคยปีนเก็บของข้างบ้านซึ่งมีน้องหมาดุมาก
ต้องให้เพื่อนอีกคนหลอกล่อไปที่อื่นก่อน
จึงจะรีบวิ่งเข้าไปแล้วต้องรีบปีน

ตอนจะลงก็ต้องให้เพื่อนหลอกน้องหมาไปที่อื่นอีก
แล้วก็รีบปีนลงมาแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต

แต่ตอนนั้นสนุกมากกว่า เหมือนท้าทายดี
เพราะถ้าขอกับเจ้าของเค้าดีๆเค้าก็คงให้ อิอิ

โดย: Fullgold

วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:21:23:30 น.

ลืมรูปค่ะ

โดย: Fullgold

วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:21:24:35 น.

แอบแวะมาทักทายยามค่ำๆค่ะ คุณimสบายดีนะคะ

โดย: เกศสุริยง

วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:21:55:03 น.

เป็นคนชอบของโบราญและศิลปะยุคทวาราวดีค่ะ
ต้องหาโอกาสไปกราบหล่องพ่อพันปี
และพระมงคลบุรีซะแล้ว

ราดรี..ผ่านไปหลายครั้งหลายครา
ไม่ทราบเลยว่ามีศิลปะยุคสมัยนี้อยู่
ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ

ผ้าฝ้ายทอมือ
ของฝากจากบ้านยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:16:53:02 น.

หวัดดีค่ะ

มาชวนไปเที่ยวน้ำตกเมีย ..?

เป็นเพื่อนนักล่าฯอดทนหน่อยนะคะ

เจออะไรที่ไม่ชอบใจ ก็อ่านข้ามๆไปเถอะนะคะ...

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.94.63 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:17:56:18 น.

ขอบคุณมากนะค๊ะที่แวะไปทักทายกัน สบายดีรึเปล่าค๊า

นัทจะรอน๊าว่าคุณอิมจะโพสเรื่องอะไรใน ฟอรั่มอ่ะค่ะ

โดย: Why England

วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:21:02:25 น.

ไม่ได้มาหลายวันเพราะไม่ได้อยู่บ้านครับ ต้องไปทำธุระที่ในตัวจังหวัด ๔ วัน มาอ่านเรื่องวัดมหาธาตุ ผมว่าก็คล้าย ๆ กับที่เพชรบุรีนะครับ

โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.114.25 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:23:46:51 น.

หวัดดีวันเสาร์ค่ะคุณอิม
สบายดีนะคะ ยังคิดถึงเรื่องวัดที่ว่านี่อยู่ค่ะ
ครั้งหน้าไปราชบุรี จะพยามเผื่อเวลาไปอ่ะค่ะ
มีความสุขมาก ๆ นะคะ

โดย: มินทิวา

วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:9:16:50 น.

ไม่ได้มามือเปล่า
แต่เอา"กล้วยนาง"สีชมพูลูกเป้ง..มาฝากค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:11:20:41 น.

ราชบุรี
เคยไปเมื่อครั้งยังเรียนออกทัวร์วัดและตามรอยศิลปวัฒนธรรม แต่จำไม่ค่อยได้เสียแล้ว
เพราะรูปที่ถ่ายไว้สมัยนั้นใช้ฟิล์ม พออัดรูปมาทิ้งไว้ก็ย่อยสลายไปกับการโยกย้ายครั้งแล้วครั้งเล่า

ความทรงจำของราชบุรีเลยพลอยหายไปด้วย
จำได้ว่าไปคูบัว ไปตามหาร่องรอยของคนเชียงแสนที่ถูกกวาดต้อนมา เพราะพ่อเล่าเส้นทางเดินของบรรพบุรุษให้ฟัง
จากเชียงแสน สู่ ราชบุรี จากราชบุรี เดินทางกลับบ้านแต่ไปไม่ถึง รุ่นพ่อจึงอยู่ที่พิษณุโลก

โดย: ปลายแปรง IP: 61.19.67.103 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:12:20:11 น.

พักนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเยี่ยมเยียน

มัวแต่ทำหนังสืออยู่ครับ

วันนี้เพิ่งมีเวลาอัพบล็อกแจ้งข่าว

อยากเชิญไปพบกับ....

"สหายหรรษา"

หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด

ที่ทำเองกับมือทุกขั้นตอนครับ...

โดย: ลุงแว่น

วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:17:28:07 น.

ชอบเม้นท์ลุงแว่น

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:22:03:14 น.

ทำบุญ 9 วัดกับขสมก มีจัดทุกเสาร์-อาทิตย์ มีจัดประมาณ 40 จังหวัด รถออกใกล้วัดพระศรีๆ โทร 02 5520885

โดย: ขสมก. IP: 125.25.142.90 วันที่: 14 มีนาคม 2560 เวลา:11:41:04 น.