Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 2

เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอนที่ 1

วันที่สองในเวียดนาม



วิวมองจากที่นั่งรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม


ที่ระเบียงของชั้นล่างสุดของโรงแรม อยู่ติดกับคลองขนาดใหญ่ อากาศเย็นสบาย วิวแปลกตา มีอาคารเก่าๆอยู่ตรงกันข้าม ต่างคนต่างจับจองที่ คุยกันกระหนุงกระหนิง อาหารตั้งโต๊ะยาวเรียงรายกันไป ผมเดินตักนั่นตักนี่จนเพลิน ได้อาหารญวนหลายชนิดที่ผมไม่รู้จักชื่อ หลายอย่างมีแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนประกอบ อิ่มแล้วคงมีกำลังเดินได้ทั้งวัน



มหาวิทยาลัยตรงข้ามกับโรงแรม


โปรแกรมเช้านี้ พวกเราจะไปพระราชวังเว้ นั่งรถเดี๋ยวเดียวก็ถึง ระแวกนั้นมีร้านขายของเรียงรายจำนวนมาก ร้องเรียกลูกค้าแข่งกัน ไกด์บอกว่าอดใจไว้ก่อน ยังมีที่ให้ช็อปอีกมาก ขอให้ใจเย็นๆ แต่หลายคนเย็นไม่ไหว ซื้อพอหอบปากหอมคอ ซื้อมากไม่ได้เพราะต้องเดินหอบหิ้วกันอีกไกล ทัวร์คณะอื่นๆมาถึงพร้อมเรา ไกด์ขอร้องให้ลูกทัวร์ใส่หมวก เพื่อตามตัวได้ง่าย ใครโอ้เอ้อยู่รั้งท้ายจะได้เข้าประกบกระซิบถึงเวลาที่รถจะออก คนที่ชอบถ่ายรูปมักจะอยู่ท้ายขบวน



คุณยายขายส้มโอก่อนเดินทางเข้ากำแพงเมือง



ธงชาติเวียดนามบนเสาสูงตระหง่าน



ผังจำลองพระราชวังที่ยังไม่ถูกทำลาย



น้องเมย์ ไกด์สาวไทยเดินอยู้ท้ายขบวน


เมื่อถึงพระราชวังเว้ จะเห็นธงชาติเวียดนามผืนใหญ่บนเสาสูงเด่นเห็นแต่ไกล ระหว่างทางเข้าวังมีรถมอร์เตอร์ไซค์หลายคันวิ่งกันขวักไขว่ เสียงแตรรถไล่หลังตลองเวลา ทำให้เมืองที่ควรเงียบกลับมีสีสันร่าเริง ขณะที่รถวิ่งกันอย่างกับสายน้ำไม่หยุดนั้น ผมลองข้ามถนนไปอีกฟากด้วยความสามารถเฉพาะตัว เห็นไกด์โบกไม้โบกมือให้เดินฝั่งนั้นไม่ต้องข้ามกลับมา ส่งสายตาวิงวอนมาด้วยความเป็นห่วง

การบีบแตรรถ ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาของการใช้รถใช้ถนนของที่นี่ ไกด์บอกว่า ธรรมเนียมของการขับรถ รถใหญ่จะหลบรถเล็ก รถเก๋งจะหลบรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อรถใหญ่บีบแตรนั่นหมายถึงจะบอกว่า เธอยู่เฉยๆเดี๋ยวฉันหาทางหลบเอง ตลอดเส้นทางที่อยู่บนรถต้องคอยลุ่นคนขับอยู่บ่อยๆเพราะรถส่วนใหญ่เล็กว่ารถเราทั้งนั้น

เมื่อเข้าภายในวัง จะเดินตามไกด์ฟังเรื่องเล่าหรือหามุมถ่ายภาพดี ได้อย่างเสียอย่าง ผมเลือกเดินเลี่ยงไปถ่ายภาพ ค่อยๆมาเรียบเรียงความรู้จากเน็ทที่หลัง ด้วยเพราะไม่ค่อยได้ฟังไกด์ ภาพที่ถ่ายออกมาให้ท่านชม จึงไม่ค่อยมีเรื่องราวกำกับ ชมกันเพลินๆนะครับ
























พระราชวังเว้ เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2348 สมัยพระเจ้ายาลองหรือองเชียงสือที่คนไทยรู้จักดี มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยท้องพระโรง และพระที่นั่งหลายหลัง ฝ่ายในมีกำแพงกั้นจากฝ่ายหน้า มีตำหนักและเรือนใหญ่น้อยสร้างอยู่ท่ามกลางสวน มีสระสี่เหลี่ยมใหญ่กว้างถึงสองสระ

การสู้รบกันในสงครามเวียดนาม พ.ศ. 2511 ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก พระราชวังทั้งส่วนหน้าและส่วนในราบเรียบไปเกือบหมด เหลือเพียงท้องพระโรงส่วนหน้า พระที่นั่งบางส่วนและตำหนักพระมเหสีอีกหลังหนึ่ง

ย้อนประวัติศาสตร์เล็กน้อยครับ

องเชียงสือผู้เป็นนัดดาเจ้าเมืองเว้ หนีพวกกบฏไปเมืองไซ่ง่อนและได้รับการยอมรับจากชาวเมืองให้ครองเมืองไซ่ง่อน แต่ไม่สามารถรักษาเมืองไว้ได้ จึงหนีไปอยู่ที่เกาะกระบือในแดนเขมร

พระยาชลบุรีลาดตระเวนทางทะเลไปพบองเชียงสือ เมื่อพระยาชลบุรีทราบเรื่องราวขององเชียงสือแล้ว จึงพาองเชียงสือเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เมื่อองเชียงสือเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในปี พ.ศ. 2326นั้น อายุได้ 33 ปี องเชียงสืออยู่เมืองไทย 4 ปี จึงหนีกลับไปกู้เมืองคืน

ระหว่างที่องเชียงสืออยู่เมืองไทยนั้น ไทยเคยส่งกองทัพไปตีเมืองไซ่ง่อนให้องเชียงสือ 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ หลังจากกลับไปเมืองญวนแล้วองเชียงสือได้ไปขอทหารจากยุโรปช่วยปราบกบฏอยู่ 3 ปี จึงปราบกบฏและยึดไซ่ง่อนได้ในปี พ.ศ. 2333

หลังจากนั้นได้จัดระเบียบการปกครองญวนใต้ให้มั่นคง แล้วยกทัพไปตีเมืองเว้ เมื่อปี พ.ศ. 2343 ได้รวบรวมเมืองสำคัญๆของเวียดนามให้เป็นเป็นปึกแผ่น สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเว้ เมื่อปี พ.ศ. 2345 เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหงียน มีพระนามว่าพระเจ้ายาลอง

นับจาก พ.ศ. 2345 ถึงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่กี่ปี หรือราว 150 ปี เวียดนามมีกษัตริย์รวมทั้งสิ้น 13 องค์ บางองค์ครองราชย์ไม่ถึงเดือนก็ถูกถอดถอน บางองค์ครองราชย์ได้เพียงปีเดียวก็สิ้นพระชนม์ องค์สุดท้ายคือพระเจ้าเบาด๋าย สละราชบรรลังค์เมื่อ ปี พศ.2498 ลี้ภัยและสิ้นพระชนม์ที่ฝรั่งเศส











ส่วนหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก มีข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับราชวงค์เหงียน ของทั้งหมดจะอยู่ในตู้จัดแสดง มีคำบรรยายภาษาเวียดและภาษาอังกฤษ ที่ฝาผนังมีภาพถ่ายที่เกียวกับราชสำนักในยุคแรกๆ อยากดูและศึกษานานๆ แต่ตามใจตัวเองไม่ได้ ได้แต่ดูไปวิ่งไป เดี๋ยวท่านอื่นๆจะคอย

นอกจากการให้บริการแต่งตัวนักท่องเที่ยวด้วยครื่องทรงของจักรพรรดิ์ในอดีตแล้ว ยังมีร้านค้ามาเปิดแกลอลี่ที่นี่ด้วย ภาพเขียนมีหลากหลาย ทั้งทิวทัศน์ วัดวาอาราม ผู้คน เข้าใจว่าใครถนัดแนวไหนจะผลิดผลงานในแนวนั้น



ขายของที่ระลึก





ภาพวาดที่แกลลอรี่ท้ายวัง


2-3 ปีมานี่ คนไทยไปเที่ยวเวียดนามกันมาก เมื่อเห็นบ้านเมืองของเขาแล้ว ต่างมีความคิดเห็นต่างๆกันไป คนไทยที่เดินสวนกันไปมาในเวียดนามนี่บางทีแยกไม่ออก ทุกที่ที่ไปเราได้รับมิตรจิตมิตรใจจากประชาชนคนเวียดนาม เหมือนคนรู้จักที่ไม่ได้พบปะกันมานานครับ


Create Date : 13 สิงหาคม 2553
Last Update : 24 สิงหาคม 2553 20:27:32 น. 26 comments
Counter : 3225 Pageviews.

 
สวยน่าไปเที่ยวจังครับ ไม่เคยไปเลย


โดย: ชายเอ ทุ่งรังสิต วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:10:59:32 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณ IM

กว่าจะอ่านจะเม้นท์จบ ไม่แน่ใจว่าจะได้เจิมรึป่าวนะคะเนี่ย

ป้าเดซี่ก็เป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายสุดเหมือนกันค่ะ ชอบถ่ายรูป บางทีเนี่ย จนเดินไปไหนต่อไหนแล้ว ยังเสียดายที่เมื่อกี้ยังไม่ได้ถ่ายรูปตรงนั้นตรงนี้ ไปก็กรุ๊ปทัวร์ ไม่โดนเพื่อนร่วมกรุ๊ปด่าเพราะช้าเป็นเต่า ก็คงต้องมานั่งด่าตัวเองที่ได้ถ่ายรูปไม่หนำใจ

เสียดายอยากเห็นห้องพักในโรงแรมอ่ะค่ะ

พระราชวังเว้ด้านนอกสวยงามยิ่งใหญ่ดีจริง ๆ ค่ะ เห็นแล้วอยากไปถ่ายรูป

เห็นน้องไกด์เมย์ที่เดินตามกลุ่มต้อย ๆ แล้ว นึกถึงเมืองไทยนะคะ

อาชีพไกด์ในเมืองไทยเป็นอาชีพสงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น แต่ไปดูเหอะค่ะ ทัวร์จีน ทัวร์เกาหลีหลายบริษัทเลย ใช้ไกด์ชาติเดียวกับลูกทัวร์ ไกด์ไทยเป็นแค่ไม้กันสุนัขเท่านั้นเอง

ใครมันจะไปรู้เรื่องของประเทศนั้น ๆ ดีกว่าเจ้าของประเทศที่ได้รับการอบรม เล่าเรียนมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะนะคะ

เอ๊ะ...วันนี้ทำไมป้าเดซี่ซีเรียส อิอิ ไม่มีอะไรค่ะ คุณ IM เรื่องราวในบล็อกมันพาไป


โดย: Oops! a daisy วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:11:01:15 น.  

 
สวัสดีครับคุณอิม

ผมมาควบรายละเอียดทีเดียว 2 ตอนเลย อ่านที่คุณอิมบรรยายแล้วอยากเก็บเงินไว้ไปเที่ยวบ้าง ผมเพิ่ง 40 ตอนปลาย ยังมีเวลาพอสมควรใช่ไหมคุณอิม

แต่ผมไม่ชอบนั่งรถนานๆ พอมาฟังคุณอิมเล่า ว่าไกด์ดี เก่ง คุยสนุก ถ้าได้แบบนี้คงลืมระยะทาง พอดีผมเป็นคนที่ไม่หลับในรถด้วย ไปไหนมาไหน อยากได้ไกด์ดีๆแบบที่คุณอิมเล่ามากที่สุด

แต่..ยังไม่เคยไปทัวร์ที่ไหนซักแห่งเลย (แบบหมู่คณะนะครับ คงต้องหาโอกาสแล้วล่ะ)

ทริปนี้ผมว่าคุณอิมต้องได้รับความสนุก น่าจะเป็นหนุ่มขึ้นอีกหลายปีนะ จริงไหม


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:13:26:26 น.  

 
แวะเข้ามาเที่ยวเว้ ให้หายคิดถึง...


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:13:30:19 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวเวียดนามต่อเป็นวันที่ 2 ครับ

ถ้าชมจากภาพถ่ายอย่างเดียว โดยไม่อ่านเนื้อเรื่องก็จะไม่ทราบเลยว่าเป็นภาพที่ประเทศเวียดนาม เพราะว่าดูแล้วบรรยากาศคล้ายคลึงกับประเทศไทยมาก ๆ เลยครับ แต่พอเห็นธงชาติเวียดนามก็จะรู้ได้ครับ

ชอบบล็อกพาเที่ยวแบบนี้ครับ อ่านเพลินแล้วได้ชมภาพตามด้วยครับ อย่างที่บอกไว้ จขบ. เก็บรายละเอียดมาเล่าได้อรรถรสมากเลยครับ แถมบล็อกนี้ยังมีการค้นประวัติศาสตร์มาอ้างอิงอีกด้วย ... ชอบมาก ๆ เลยครับ

แล้วจะตามมาเที่ยวตอนที่ 3 ต่อนะครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:15:05:58 น.  

 
น่าสนใจอย่างนี้นี่เองค่ะพี่อิม ถึงว่ามีเพื่อนๆที่ไปมาติดใจไปตั้งหลายหน ชอบภาพในอดีตมาก บอกเรื่องราวได้มากมายจริงๆ เที่ยวแบบเป็นหมู่คณะนั้นนกก็จะรั้งท้ายเสมอค่ะถึงขั้นพลัดหลงตกรถไปก็ยังเคย55555555.........เข้าใจอาการแบบพี่อิมเลย......................
ถ้ามีโอกาสต้องไปให้ได้เลยค่ะ ชอบสถาปัตยกรรมแบบนี้จัง ดูเป็นจีนผสมๆพื้นเมืองยังไงอยู่
เครื่องถ้วยนั้นสีเหลืองเหมือนคุ้นๆตาอยู่ค่ะ เครื่องเคลือบจากเวียดนามเข้ามาเมืองไทยมาก ส่วนมากเท่าที่เคยทราบมักเป็นรูปสัตว์หรือวิวทิวทัศน์ธรรมชาติค่ะ


โดย: popang IP: 110.168.108.78 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:18:45:58 น.  

 
ภาพเยี่ยมเรื่องเยี่ยมเปี่ยมสาระ
ไม่ใช่บล็อกยกขยะมาเป็นโขยง
ขอนับถือคารวะว่าจรรโลง
สารคดีมีเชื่อมโยงความรู้คม

ต้องตั้งใจสร้างสารงานสร้างสื่อ
ต้องเปี่ยมด้วยฝีมือคือสั่งสม
สั่งสมประสบการณ์ผ่านสังคม
ไม่จ่อมจมอยู่กับตนเช่นคนโพสต์

(คือผมครับ)

แฮ่ ๆ หมู่นี้ไม่ค่อยสบายอีกแล้วครับ เลยไม่ค่อยได้เข้าบล็อก


โดย: ลุุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:20:18:21 น.  

 

มาติดตามทัวร์เวียตนามตอนกลางภาค 2 ครับ

อ่านแล้วก็คิดเปรียบเทียบกับครั้งที่ไปมา

ทำให้ได้คิดทบทวนเหตุการณ์และสถานที่ต่าง ๆ

ภาพความวุ่นวายคล้ายจลาจลบนถนนสายต่าง ๆ ของเวียตนาม

นับเป็นอะไรที่ประทับใจพวกเราคนไทยมาก

ไม่อยากเชื่อว่า รถราบ้านเขาไม่ค่อยติดนะ ทั้งที่รถวิ่งกันขวักไขว่ บีบแตรกันหนวกหู

รถแต่ละคนหลบกันไปมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

ส่วนพระราชวังที่เห็นนั่น เหลือรอดจากสงครามกลางเมืองมาได้

เพราะเหตุการรุกใหญ่วันตรุษของฝ่ายเวียตกง

ครั้งนั้นเซ่นสังเวยชีวิตของทั้งสองฝ่ายจำนวนหลายพันคน

ไม่น่าเชื่อว่า เพียงไม่กี่สิบปีให้หลัง

เวียตนามจะสามารถฟื้นจากความบอบช้ำของสงคราม

ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศแนวหน้าประเทศหนึ่งในเอเชียอาคเนย์ที่มีการพัฒนาก้าวกระโดดมากที่สุด

คิดแล้วก็ต้องย้อนกลับมามองประเทศไทยเรา

แล้วก็หดหู่ห่อเหี่ยวพิกล...

ตุ๊กตาไม้รูปสาวญวนใส่ชุดประจำชาติ

ตอนอยู่ที่โน่น อาจจะเพราะเห็นมาก เห็นทุกแห่งที่ลงแวะ

ก็เลยไม่คิดอยากซื้อติดมือกลับบ้าน

พอมาเห็นในบล็อกคุณอิมแล้ว ก็เกิดอาการเสียดาย

ดูมันน่ารักน่าสะสมเหลือเกิน

นี่แหละหนา เขาเรียกว่าใกล้เกลือกินด่าง

อ้อ มีของที่ระลึกอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยชอบซื้อ

นั่นคือเสื้อยืดสกรีนรูปสาวญวนในชุดประจำชาติ

ไก้ด์คณะผม ให้ข้อสังเกตมาว่า

สาวญวนที่เห็นบนเสื้อนั่น ร้อยทั้งร้อยจะยืนหันหลังให้

ไม่เคยปรากฎว่ามีภาพไหนเห็นหน้าสาวญวนเลย

พอได้เวลาลงเดินช็อปจริง ๆ

ก็เห็นดังที่ไก้ด์ตั้งขอสังเกตเหมือนกัน

ทำให้สงสัยอยู่ครามครันว่า

เหตุใดดีไซน์เนอร์ จึงพากันดีไซน์ไปแนวเดียวกันเช่นนั้น

จะว่าสาวญวนไม่สวย จนต้องหันหลังให้กล้อง

ก็ไม่ใช่ เพราะเท่าที่เห็น หน้าตาเจ้าหล่อนก็สวยไม่แพ้สาวชาติไหน

หรือว่าเจ้าหล่อนมัวแต่เหนียมอาย...

หรือมีเหตุผลอื่นใด?

อันนี้ต้องฝากไว้เป็นการบ้านแก่ทุกท่านไว้ตรงนี้แล้วละครับ...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:20:38:51 น.  

 
เห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยวเวียดนามบ้างจังเลยค่ะ


โดย: ตุ๊กตาหนังโอปอเช่ (is_handmade ) วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:0:59:22 น.  

 
ไปเวียดนามแล้วให้ความรู้สึกว่าสถาปัตยกรรมของไทย มีดีมากมาย ถ้าเราอนุรักษ์ไว้

แต่รู้สึกหดหู่เล็ก ๆ กับความลำบากที่ชาวเวียดนามเจอมาตามที่
ไกด์เล่า แต่ในเสียก็มีดี เพราะรู้สึกว่าชาวเวียดนามจะค่อนข้างเป็นคนอดทน ขยัน


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:14:30:40 น.  

 
โชคดีได้มาอ่าน เว้ ดานัง ฮอยอัน ตอน 2 ก่อนจะหายไปค่ะ

อีกสองวันก็จะไปดูแลหลานคนทีทื่ 4 ค่ะ คงไปซักสองสามอาทิตย์ และคงไม่ได้เข้าบล๊อกเลย ให้เวลาเขาหน่อย

แล้วค่อยเจอกันนะคะ

ตุ๊กตาไม้สาวเวียตนาม เดี๊ยนก็มีค่ะ เพื่อนซื้อมาฝากจากเวียตนาม เก็บไว้อย่างดีค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:15:13:25 น.  

 
อยากไปเที่ยวบ้างจัง ต้องมีตังค์สักเท่าไหร่ ถึงจะไปได้คะ


โดย: ตุ๊กตาหนังโอปอเช่ (is_handmade ) วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:18:24:10 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามเช้าของวันจันทร์ค่ะ หายไปเสียหลายวัน ไม่ได้ไปเที่ยวเลยค่ะ มีแต่งานยาวเหยียด จนไม่มีเวลามาทักทายเพื่อนๆเลย วันนี้เริ่มเบาแล้วคงได้มาหากันตามปกติ ระลึกถึงเสมอค่ะคุณim(จะแวะมาอ่านช่วงเย็นนะคะ)


โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:9:37:54 น.  

 

แวะมาทักทายยามค่ำ มาเชิญไปฟังเพลงเพราะๆ ที่เรือนนะคะ ....เจ้าของเรือน
สร้างกริตเตอร์

คุณimสบายดีนะคะ


โดย: เรือนเรไร วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:20:21:12 น.  

 
เห็นภาพถ่ายแล้วน่าไป เว้ ดานัง ยังไม่เคยไปเลยค่ะ
จำองค์เชียงสือและองค์เชียงซุนได้ดีเพราะสมัยเรียนมัธยม ต้องออกไปรายงานหน้าชั้นเรื่องนี้แหละค่ะ ตอนนั้นค้นคว้ากันตาลุกตาวาวเลยทีเดียว หวังเพียงคะแนน ที่ไหนได้มาคิดออกเอาตอนนี้ "ถูกครูหลอกลวงเต็มคราบ" แต่ก็ทำให้รักวิชาประวัคิศาสตร์ชนิดเต็มหัวใจเลยทีเดียว ประกอบกับมาเห็นภาพที่เจ้าของบล็อกนี้ลงไว้อีกจึงนึกเหตุการณ์ในสมัยนั้นได้กระจ่างแม่นยำ

ถ้ามีโอกาสคงได้ไป น่าสนใจค่ะ


โดย: nathanon วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:22:00:28 น.  

 
เวียดนามกำลังโตไล่ๆกับเมืองไทนเชียวนะคะ
แต่ก็อยากไปเยือน
ก่อนที่อะไรๆจะสูญหายไปกับความศิวิไลซะหมด



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:23:05:38 น.  

 
สวัสดีวันสีชมพูค่ะ คุณIMคงจะหนุ่มขึ้นแน่ๆเลย เพราะมีไกด์สาวพาเที่ยว สุดท้ายก็ภาพวาดของสาวๆ อยากให้สาวชาวไทยกลับไปเป็นแบบนั้นอีกรอบค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:15:02:00 น.  

 
ตามมาเที่ยวเวียตนามต่อค่ะ เป็นเมืองที่น่าเที่ยวนะคะ ดูแล้วคนไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเป็นวันหยุดหรือเปล่าคะ

ดูภาพแล้วนึกถึงละครของแดนกะเจนนี่เรื่อง "ฮอวยอันฉันรักเธอ" ไปถ่ายทำที่เวียตนาม โลเกช่ั่นแต่ละฉากสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ


โดย: haiku วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:22:05:30 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

ขอตามมาเที่ยวเวียดนามด้วยคนนะครับ
ยังไม่เคยไปเยือนเลยครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:7:03:45 น.  

 
ตามมาเที่ยวอีกคนค่ะ


โดย: แม่น้องกะบูน วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:14:10:30 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายค่ะ วันนี้อ่างทองฝนชุ่มฉ่ำทั้งวัน น้ำในแม่น้ำน้อยขึ้นสูงแล้ว ปีนี้กลัวน้ำท่วมเหลือเกิน คุณim สบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:17:21:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่


ที่ผมแอบสงสัยก็คือ
เวียดนามน่าจะมีพายุเข้าปีนึงหลายครั้งนะครับ
เพราะเวลาดูรูปตามเว็บต่างๆ
ส่วนใหญ่ฟ้าจะทึมเทา
แทบไม่เห็นฟ้าเป็นฟ้า้เลยครับ

แม่ผมไปเที่ยวเวียดนามกลับมา
ผมนั่งทำรุปให้
ท้องฟ้าก็ครึ้มๆทึมเทาแบบนี้เลยล่ะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:5:15:35 น.  

 
มาปูเสื่อรอตอนต่อไปค่ะ คุณ IM

พรุ่งนี้ฉายรึป่าวเอ่ย


โดย: Oops! a daisy วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:14:57:58 น.  

 
ไปภาตสาม


โดย: แมวหง่าว (chaiwatmsu ) วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:19:12:03 น.  

 
ตามมาตอนที่ 2 อีกครับ


โดย: wicsir วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:16:45:00 น.  

 
ชวนไปอ่านเรื่องราวของชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม
ที่บล๊อกผมบ้างนะครับ
ที่กรุ๊ปบล๊อก นาจอก ณ นครพนม


โดย: peeradol33189 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:14:16:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.