Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
สองงานพร้อมกันที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร







สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งใจไปไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนไปสักการะถึงสิ้นเดือน ม.ค. 54 ประจวบเหมาะกับมีงานจัดแสดงนิทรรศการ “งานช่างศิลปกรรมและสุนทรียภาพไทย-ญี่ปุ่น” ในโอกาสครบ 100 ปี ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย วันที่ 14 ม.ค. - 13 มี.ค. 54

พระพุทธรูปมงคลโบราณ 9 องค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ประกอบด้วย พระพุทธสิหิงค์ พระหายโศก พระไภษัชยคุรุ พระชัยลงอักขระ พระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ พระพุทธรูปหลวงพ่อนาก พระพุทธรัตนมหามุนี พระแก้วน้อย และพระพุทธรูปคู่ไม้แก่นจันทน์แดง (คลิก) ไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ผู้คนทยอยกันไปกราบไหว้ไม่ขาดสาย ไม่ถึงกับแน่นจนรู้สึกอึดอัด ยังมีที่นั่งที่ยืนให้ถ่ายภาพ ฉากหลังอาจดูรกๆไปหน่อย เพราะอยู่ระหว่างการบูรณะ

การไปกราบพระ 9 องค์นี้ทำให้ผมระลึกถึงความศักดิ์สิทธิแห่งยุคสมัย ที่คนสมัยก่อนพึ่งพาอิทธิปาฏิหาริย์เพราะต้องผจญกับภยันตรายต่างๆนาๆ เมื่อพระทั้ง 9 องค์ได้มาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ คนส่วนใหญ่ย่อมไม่รู้จัก การเอาที่พึงของคนในยุคก่อน มาเล่าเรื่องความเป็นมาให้คนปัจจุบันได้รับรู้ เป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้ม เกิดความตื่นตัวในหมู่คนไทย ได้รู้จักสมบัติสำคัญของชาติและประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์ที่เงียบเหงาอย่างได้ผล

ส่วนงานแสดงศิลปโบราณวัตถุของไทยและญี่ปุ่นนั้น จัดแสดงที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด ห้ามถ่ายภาพหรือแตะต้องสิ่งของที่จัดแสดง เห็นสีหน้าสาวน้อยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ต้องรับภาระดูแลของล้ำค่า ต้องเจอผู้ชมที่แกล้งไม่รู้กติกามารญาติด้วยแล้ว ผมรู้สึกเห็นใจและคอยเอาใจช่วย

ผู้ที่เข้าไปชมบางคนฉวยโอกาสขณะเจ้าหน้าที่เผลอ ผมเห็นอย่างน้อย 2 ราย รายหนึ่งเป็นคนไทยถ่ายภาพวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ เจ้าหน้าที่เข้าไปเตือน แต่คนถ่ายได้ภาพนั้นไปแล้ว อีกคนเป็นชายหนุ่มต่างชาติชาวเอเชียถ่ายภาพเหมือนกัน มือซนมากจับนั่นจับนี่ บังเอิญของบนโต๊ะที่หนุ่มคนนั้นจับต้องเป็นของจำลองทั้งหมด เห็นดังนั้นแล้วผมรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด อีกครั้งที่มีการถ่ายรูปอย่างโจ่งแจ้ง ใช้แสงไฟสว่างวาบ ผมหันกลับไปมองทันที สาวน้อยคนเดิมรีบเข้ามาบอกผมว่านั่นเป็นการถ่ายของเจ้าหน้าที่!

การจัดแสดงในครั้งนี้มีวัตถุโบราณเหล่านี้มาจากพิพิธภัณฑ์สำคัญๆทั้งของไทยและญี่ปุ่น จำนวนถึง 121 รายการ เป็นการเปรียบเทียบวัตถุโบราณของทั้งสองประเทศตั้งแต่สมัยมนุษย์เริ่มคิดประดิษฐ์เครื่องมือมือเครื่องใช้ ข้าวของประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นตัวแทนงานช่างศิลปกรรมและสุนทรียภาพของญี่ปุ่นและไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่สะท้อนความคล้ายคลึงและแตกต่างทางวัฒนธรรม บางอย่างมีความคล้ายกัน เช่น บ้านเรามีกลองมโหระทึก ญี่ปุ่นมีระฆังให้เสียงดังเหมือนกัน บ้านเรามีลูกปัด เขาก็มี บ้านเรามีภาชนะดินเผา เขาก็มี การจัดแสดงครั้งนี้เป็นการประกบกันชิ้นต่อชิ้น ในตู้เดียวกัน ยุคสมัยใกล้เคียงกัน

เราได้เห็นสินค้าจากเมืองไทยที่ส่งไปขายในญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว จนคนญี่ปุ่นรู้จักสินค้าจากเมืองไทยดีกว่าคนไทย เหมือนกับเรารู้จักเครื่องมือช่างจากเยอรมันดีกว่าคนเยอรมัน สินค้าหลายอย่างที่คนญี่ปุ่นนิยม เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเขิน ไหสลักลวดลาย หนังปลาที่เขาเอาไปทำชุดเกราะของนักรบ เหล็กที่เอาไปหล่อเป็นดาบซามูไร เขาชื่นชอบไหจากเมืองไทยที่มีลวดลายของช้างขนาด 5 ซม.(ประมาณด้วยสายตา)หลายตัววิ่งวนรอบไห เขาสั่งจำลองขึ้นใหม่ แต่ลวดลายของช้างลดความคมชัดไป ได้เห็นชุดหุ้มเกราะของนักรบยุคเอะโดะ น่าทึ่งมาก

วัตถุชิ้นเอกอีกชิ้นคือฉากกระดาษที่มีภาพวาดชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านญี่ปุ่น สมัยโมะโมะยามะ พุทธศตวรรษที่ 23 เห็นภาพเรือใบของฝรั่ง เป็นเรือจากยุโรปมาเทียบท่าที่ญี่ปุ่นมีผู้คนทำการงานต่างๆบนเรือลำนั้น น่าจะเป็นเรือลำเดียวกับที่เคยมาทอดสมอในสมัยอยุธยา

สำหรับโบราณวัตถุชิ้นสำคัณอื่นๆของไทย เช่น ภาชนะดินเผาที่ขุดค้นพบในแหล่งโบราณคดีบ้านเมืองบัว จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย อายุประมาณ 2,600-1,800 ปี ธรรมจักรกับกวางหมอบพบที่วัดเสน่หา จ.นครปฐม ซึ่งเป็นศิลปะทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 12-14 และภาพทหารอาสาซึ่งคัดลองจากภาพจิตรกรรมศิลปะอยุธยาที่วัดยม เป็นหลักฐานว่าสมัยอยุธยามีกลุ่มทหารญี่ปุ่นอาสามาช่วยราชสำนักไทยในการศึกสงคราม

ส่วนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุของญี่ปุ่น เช่น เครื่องปั้นดินเผาทรงเปลวไฟ สมัยโจมน อายุ 2,500 ปีก่อนพุทธกาล และรูปปั้นพระไภษัชยคุรุ สมัยนาระ พุทธศตวรรษที่ 14-15 ชุดกิโมโน ผ้าคุรุเมะ กะซุริ ที่แสดงให้เห็นถึงเนื้อผ้า การทอที่เหมือนกับผ้าทอของไทย

วัตถุโบราณหลายชิ้นที่เป็นของไทยถูกค้นพบจากพื้นดินจึงมีคราบสนิมสีเขียวจับ เป็นสมบัติที่แม่พระธรณีช่วยปกปักษ์รักษาไว้ ส่วนวัตถุโบราณของญี่ปุ่นหลายชิ้นเหมือนจะถูกเก็บรักษาอย่างดีมาเป็นเวลายาวนาน เพ่งพิศอย่างไรก็ดูไม่ค่อยเก่าครับ


Create Date : 18 มกราคม 2554
Last Update : 19 มกราคม 2554 21:53:01 น. 34 comments
Counter : 2350 Pageviews.

 
ขอบคุณทีี่เอาข่าวสารดีๆมาบอกค่ะ


โดย: hsttoro IP: 223.206.130.91 วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:9:06:10 น.  

 

สวัสดีค่ะ.... แวะมาทักทายยามสายๆ ของวันอังคารจร้าาาา เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

มีความสุขมากมายนะคะคุณim


โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:10:19:29 น.  

 
อ่านแล้วยิ่งอยากไปมากๆ เลยค่ะ

หวังว่าจะได้พาแม่ไปไหว้หละค่ะ แหะๆ

ถ้าได้ไหว้จะมาอัพให้จขบ.อ่านบ้างนะคะ ฮี่ๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:13:19:12 น.  

 
ตั้งใจว่าจะไปอยู่เหมือนกัน
ไปพรุ่งนี้เลยดีกว่าเนอะ
ชอบมากเลยค่ะเรื่องราวแบบนี้


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:15:32:54 น.  

 
บางทีถ่ายภาพพระพุทธรูปเก่า ๆ มาลงก็ออกเสียว ๆ จะหายเหมือนกันค่ะ

เคยคุยกับเจ้าอาวาสวัดหนึ่งท่านก็ว่า มันก็บาป บุญ คุณโทษ ละนะโยม ใครทำใครได้


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:15:38:27 น.  

 
มาเยี่ยมชมครับ อะไรที่ห้ามว่าอย่า ห้ามนะ คนเรามักจะฝ่าฝืนคำสั่งเสมอแหละครับ ทุกสัญชาตินั่นละผมว่า


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:16:58:57 น.  

 
แวะมาทักทายยามเย็นนะคะ

อยากไปชมค่ะ




โดย: jamaica วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:17:24:30 น.  

 
พรุ่งนี้คุณอิมช่วยมาวิจารณ์งานตะพาบด้วยนะครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:23:38:12 น.  

 
ขอบคุณพี่อิมที่เอามาลงนะคะ เพราะนกได้ชวนกะคุณแฟนว่าอยากจะไปแต่ไม่รู้ว่าเปิดให้ถึงวันไหน ดีจังเลยยังทัน เมื่อหลายเดือนก่อนไป พระที่นั่งพุทไธสววรค์ยังปิดซ่อมอยู่เลยต้องอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปไว้ตึกใน
ที่จริงต้องบอกว่าชอบที่วังหน้านี้มาก ตั้งแต่เรียนอยู่ก็เดินเข้าเดินออกเรื่อยค่ะ เป็นห้องเรียนปวศ.ศิลป์และอีกหลายๆวิชา คิดแล้วน่าทึ่งว่าที่นี่เคยเป็นวังหน้าอันโอ่อ่ามาก่อนนะคะ


โดย: popang (popang ) วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:6:09:18 น.  

 
มาชม พระพุทธรูปโบราณ ครับผม


โดย: Kavanich96 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:8:24:42 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
คนไทยนื่ยังต้องพัฒนาอีกเยอะในเรื่องวินัยค่ะ คุณimว่าไหม ?บางสถานที่ห้ามถ่ายรูปหรือห้ามอะไรก้แล้วแต่ ก็ยังมีฝืนกฏสังคม น่าอายชาวยุโรปในเรื่องนี้จริงๆค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:8:43:33 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:5:56:12 น.  

 
แวะมาขอเป็นเพื่อนบล๊อกสักคนนะครับ
อ่านบล๊อกนี้แล้วรู้สึกชอบ
เรื่องราวน่าสนใจจนน่าจะทำเป็นหนังสือนะครับ



โดย: peeradol33189 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:10:56:12 น.  

 
เมื่อวานได้ไปมาแล้วค่ะ ไปทานหอยทอดที่ท่าพระจันทร์ก่อน
แล้วก็ซื้อพวงมาลัยพวงที่คิดว่าสวยที่สุดไปไหว้พระ
หลังจากที่ได้กราบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์แล้ว
ก็เลยเดินชมพิพิธภัณฑ์เผลอแป๊บเดียวสี่โมงเย็น(มาถึงบ่ายโมง)
ก็เลยยังเดินดูได้ไม่ครบ ต้องไปใหม่อีกครั้งค่ะ คงต้องไปเช้าๆค่ะ



โดย: hellojaae IP: 124.120.70.47 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:11:42:08 น.  

 
ขอสวัสดีอีกรอบค่ะ ตอนแรกคิดในใจว่าเอ..บล๊อกนี้คุ้นๆว่า
เคยอ่านเจอเรื่องอะไรน้า คุ้นๆว่าจะเป็นวัดหงส์ที่ฝั่งธน
เพราะอ่านเรื่องวัดหงส์ตอนนั้นและชอบมาก
ใช่จริงๆแฮะ...ดีใจค่ะ...
ตอนนั้นที่อ่านเจอเรื่องวัดหงส์(ชอบวัดสมัยอยุธยาค่ะ)
ก็ไปแต่เค้าปิดตอนนั้น เลยยังไม่ได้ไปอีกต้องไปให้ตรงกับวันพระ
เมื่อวานที่ไปเดินพิพิธภัณฑ์เจอของโบราณอยู่ชิ้นหนึ่ง
ที่เป็นเครื่องนับพระ(ติ้วทำจากงาช้าง)บอกได้มาจากวัดหงษ์
เลยจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งค่ะ
วันพระใกล้ๆนี้ต้องหาโอกาสไปกราบพระแสน ที่วัดหงส์ให้ได้ค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งที่หาข้อมูลดีๆมาบอกกล่าวกันค่ะ


โดย: hellojaae IP: 124.120.70.47 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:11:53:07 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ผมเพิ่งจะทราบนะครับว่าในพิพธภัณฑ์แห่งชาติมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ด้วย ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปตั้งหลายครั้งแต่ไม่เคยทราบเลยครับ ขอบคุณมากครับที่นำข่าวดี ๆ นี้มาบอกครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:16:43:23 น.  

 

ดีจังค่ะ
บล็อควันนี้ two in one เลย

จะหาเวลาไปกราบซักวันค่ะ






โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:17:36:50 น.  

 
อยากให้อ่านก็เอามาแปะค่ะ

คลิก


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:17:54:44 น.  

 
อยากไปเที่ยวจัง แต่ไปทีไร หลงทู้ก ครั้งเชียว
ก้อบ้านนอกเข้ากรุงน๊ะ..


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:21:19:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ไชโย เราไม่ตกยุคแว้ววว !


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:12:35:11 น.  

 
เข้ามาส่งความคิดถึงค่ะ




โดย: jamaica วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:14:52:11 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะคุณอิมฯ
+========================+

สาระความรู้ที่นำมาเล่าตามสไตล์ จขบ.
ชวนให้ติดตามศึกษาค้นหาเรื่องราวประวัติศาสตร์ค่ะ

ซึ่งปกติ ไม่ชอบอะไรที่เป็นวัตถุโบราณหรือสถานโบราณมากนัก
(แม้ว่าตัวเองจะมีแนวคิดแบบหัวโบราณ อะคึ่ ๆ)
หากช่วงเวลาที่ผ่านมา(วัยเปลี่ยน) จึงเริ่มศึกษาย้อนรอยอดีตบ้าง หุ หุ

จขบ. สรรหาข้อมูลนำเสนอแบบกระชับจับใจความพอดี)ไม่มากเกินไป)
ช่วยให้เข้าใจถึงรากเหง้าหรือความเป็นมาในวิถีชีวิตได้เป็นอย่างดีค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:21:07:19 น.  

 

เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง
สวัสดียามค่ำค่ะคุณim


โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:22:22:56 น.  

 


แวะพาหลานๆ มาเยี่ยมจร้า


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:22:51:12 น.  

 
ขอบคุณมากเลยนะครับพี่
ที่ทำบุญร่วมกันครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:22:51:15 น.  

 
กลับมาจากนอกบ้านก็มาร้องเพลงค่ะ

พรุ่งนี้ไปตีกบค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:22:51:55 น.  

 
สบายดีครับพี่อิม

น่าสนใจมากๆ เลยครับ

บางครั้งที่มีโอกาสได้ชมโบราณวัตถุ ทำให้คิดว่าโบราณวัตถุนั้นช่วยบอกความเป็นมาและความสัมพันธ์ของดินแดนในอดีตกาลที่วัตถุเหล่านั้นอยู่ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แต่คนปัจจุบันส่วนใหญ่กลับชอบมองมันในเชิงมูลค่ามากกว่าทางคุณค่าอะครับ


โดย: bite25 วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:0:07:04 น.  

 
ไปไหว้พระมาแล้วค่ะ ...คนเยอะมาก แต่เป็นการเข้าแถวที่ปลาบปลื้มใจ
ที่ได้เห็นผู้คนมากมายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่เคยเหงาคนไทย แต่มากมายด้วยชาวต่างชาติ
ผลพลอยได้จากการจัดงานไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็คือ คนไทยได้เดินเที่ยวชมสิ่งจัดแสดงในอาคารต่างๆ ด้วย
เสียงบอกกล่าวกันว่า "มีอะไรดีๆ เยอะเนาะ เอาไว้มาเดินใหม่" ปลื้มใจมากกกกก

ส่วนอีกงานนั้นยังไม่ได้ไปค่ะ คงจะไปเดือนหน้านี้แหละ เพราะช่วงนี้ยุ่งมาก
แม้จะไปไว้พระอีกรอบ (แบบว่าอยากถ่ายรูปให้ชัดกว่าครั้งก่อน) ก็ยังไม่สามารถจัดเวลาได้

+++++
ขอบคุณที่แวะไปเดินเที่ยวชุมชนด้วยกันที่ blog นะคะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:21:18:17 น.  

 


วันนี้ ขอนำเสนอ ข้อคิดจากหนังสือ"ห้องสมุดชีวิต พัฒนาความคิดบวก"
โดย น้อง"กลิ่นดอย"

ได้สาระบางตอนมาฝากเพื่อนค่ะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:21:38:41 น.  

 
เห็นภาพแล้วคิดถึงจังเลยค่ะพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเนี่ย

เรื่องถ่ายรูป ต้องอาศัยจิตสำนึกกันจริง ๆ ค่ะ ตอนป้าเดซี่ไป เห็นเด็ก ๆ ไทยที่ไปทัศนศึกษามีกล้องถ่ายรูปติดไม้ติดมือกันทั้งนั้น อยู่นอกอาคารก็โพสท์ท่าถ่ายรูปกันมันหยด แต่พอเข้าตัวอาคารปุ๊บ ก็หยุดถ่าย หรือไม่ก็มีการสะกิดคนถ่ายกันให้วุ่นวาย น่ารักอ่ะค่ะ

ชอบไอเดียที่เค้าจับคู่สิ่งของแนว ๆ เดียวกันมาไว้ด้วยกันจังเลย น่าสนใจนะคะ

คนทำงานทางนี้ ต้องมีไอเดียเป็นเลิศ ในการที่จะทำให้เรื่องน่าเบื่อกลายเป็นเรื่องน่าสนุก ในการทำให้ของที่ตายแล้วกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งนะคะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:21:40:02 น.  

 
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร กับไหว้พระพุทธรูปศักสิทธิ์ 9องค์ น่าสนใจมากครับ ผมก็อยากไปไหว้อยู่เหมือนกัน ถึงสิ้นเดือนนี้

พูดถึงคนสมัยนี้ ก็น่าเบื่อนะครับ พอมันเป็นกล้องดิจิตอลแล้วนี่ ไปไหนก็จะถ่าย ไม่ว่ากัน แต่ไม่ค่อยรู้จักมารยาทและกติกาสากลเลย ผมทำทัวร์ผมจะคอยบอกนักท่องเที่ยวตั้งแต่ๆประโยคแรกๆ ที่มาถึงเมืองไทย บางอย่างไม่มีป้ายห้ามแต่เราก็ควรสอบถามเขาก่อน


โดย: dj booboo วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:23:14:10 น.  

 
แวะมาเยี่ยมชมครับขอฝากเว็บแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวขอบคุณครับ


โดย: travelplace1 (loveyoupantip ) วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:14:46:40 น.  

 
แนะนำเว็บท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม


โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:23:01:35 น.  

 


โดย: register (nrokas_1 ) วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:17:03:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.