คุณตาพัน หมอดังเมืองพัทลุง
คุณตาพันสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองพัทลุง มีเรื่องลึกลับเกี่ยวกับชีวิตของคุณตามากมาย ผู้เขียนรับทราบมาเพียงส่วนหนึ่ง เพื่อเผยแพร่ชีวิตคนตัวเล็กๆ ชาวปักษ์ใต้คนหนึ่งที่ทำคุณประโยชน์ให้กับชาวบ้าน ซึ่งผู้คนหลงลืมไปแล้ว ผู้เขียนจึงขอนำเรื่องของคุณตาพันมาเล่าให้ฟัง
คุณตาพันเกิดที่อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ปัจจุบันอายุ 75 ปี เมื่อวัยหนุ่มอายุ 15 ปี ได้หายไปในป่าช้า (ป่าช้าสมัยก่อนจะอยู่กลางทุ่งนา เป็นที่ฝังศพ หรือเผาศพ ไม่ได้อยู่ใกล้วัด) ญาติๆช่วยกันตามหากันเท่าไรก็ไม่เจอ คุณตาพันหรือที่ถูกต้องแล้วคือชายหนุ่มชื่อนายพันขณะนั้น เขาหายไปในป่าช้าถึงหนึ่งเดือน หลังจากออกจากป่าช้าด้วยร่างกายที่ผ่ายผอมแล้ว คุณตาได้เล่าให้ญาติๆฟังว่า ช่วงที่หายไปในป่าช้านั้น ได้ไปศึกษาวิธีการรักษาโรคด้วยยาไทยขนานต่างๆ โดยอาจารย์ที่ไม่มีตัวตนได้สอนตำรายาไทยโบราณผ่านการเขียนไว้ที่โขดหิน หรือตามพื้นดิน คุณตาพันเป็นคนจำแม่นสามารถจำสูตรยาโบราณได้หมด
สมัยนั้นการอนามัยยังไม่เจริญ โรงพยาบาลก็อยู่ไกลถึงในตัวจังหวัด คุณตาพันจึงเป็นหมอรักษาผู้คนในถิ่นนั้น ด้วยเพราะท่านเป็นผู้รับมรดกความรู้จากผู้ที่ตั้งใจหมอบหมายให้ท่านสืบต่อ ทั้งๆที่คุณตาพันไม่เคยมีความรู้ในเรื่องนี้มาก่อน อาชีพหลักคือทำนา คุณตาพันเริ่มรักษาคนป่วยตั้งแต่ พ.ศ. 2490 ด้วยความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ที่ไร้ตัวตน! คุณตาเพิ่งหยุดรักษาคนเมื่อ ปี พ.ศ. 2545 นี้เอง
ลูกๆของคุณตาพันเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยเมื่อคุณตายังหนุ่ม ชื่อเสียงดังมาก ในเมืองพัทลุงใครๆก็รู้จัก หมอพัน ผู้คนที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ เดินทางมาจากทุกสารทิศมาหาหมอพัน รักษาฟรีทุกราย เพียงคนป่วยให้สัจจะว่าถ้าหายแล้วจะกลับมาทำกับข้าวเลี้ยงกัน ขั้นตอนการรักษาก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแต่จุดธูป เทียน แล้วนั่งทางในก็จะรู้ว่าคนป่วยเป็นโรคอะไร จะต้องใช้ยาขนานไหน สามารถสั่งยาแผนโบราณจากความทรงจำ แล้วบอกลูกของแกช่วยเขียนลงกระดาษให้ญาติของคนป่วย รายชื่อยาแต่ละโรคไม่เหมือนกัน ใช้สูตรต่างๆกันไป การรักษาได้ผลดีมาก ลูกๆเล่าว่า คุณตาพันเคยรักษาคนบ้าหาย เสียดายที่ตำรายาทั้งหมดที่รักษาแต่ละโรคนั้น ไม่มีบันทึกเก็บไว้เลย นี่คงเหมือนกับที่คนโบราณเรียกว่า ยาผีบอก ที่รักษาเผ่าพันธุ์ของเราให้คงอยู่มาจนถึงเดี๋ยวนี้
คุณตาพันยังมีความสามารถพิเศษ นั่นคือ หากหนุ่มๆพาลูกสาวบ้านใครหนีมาที่บ้านคุณตาพัน เพื่อหลบญาติๆของฝ่ายหญิงที่กำลังติดตามมา คุณตาจะให้ขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เมื่อญาติๆของสาวเจ้าตามมาถึงจะไม่พบอะไรเลย แกมีวิธีพรางตาทำให้มองไม่เห็นหนุ่มสาวที่มาหลบภัยนี้เลย
ปัจจุบันคุณตาพันไม่ยอมพบปะใครๆมา 2 ปีแล้ว มีชีวิติอยู่เหมือนคนปกติ จะใช้เวลาวันๆคุยกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น ภารกิจประจำวันคือ เช้ารับประทานโอวันติล กินข้าว 2 มื้อ กลางวันและเย็น แล้วนอนคุยทั้งวัน หลับเป็นบางช่วง อาจมีเดินบ้างระหว่างเตียงนอนกับห้องน้ำ วันหนึ่งลูกของตาพันคนที่คอยปรนนิบัติ เข้าไปนั่งใกล้เพื่อฟังว่าแกพูดอะไร ได้ยินเสียงคุณตาพันคุยกับใครบางคนที่มองไม่เห็น มีสองเสียงคือเสียงใครคนหนึ่งกับเสียงของตาพัน โต้ตอบกันไปมาไม่ได้หยุดหย่อน ทุกวัน...และทุกวัน พวกลูกๆที่อยู่ใกล้ชิดบอกว่า คนที่แกคุยด้วยคือพ่อแก่ แม่แก่ที่ช่วยปกปักรักษาลูกหลานให้พ้นภัย ผมเข้าใจเอาเองว่า พ่อแก่ แม่แก่ อาจเป็นบรรพบุรุษรุ่นแรกๆของตระกูลเจ้าเมือง?
ปัจจุบันบ้านหลังเก่าได้รื้อไปแล้ว ได้ปลูกบ้านหลังใหม่แทน อยู่ที่ตำบลนาโหนด อำเภอเมืองพัทลุง องค์ฯ(สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบครัวนับถือ) ต่างๆที่คุณตามีอยู่ประมาณ 7-8 องค์ ได้เชิญมาอยู่บ้านหลังใหม่ด้วย บางองค์ฯที่ครอบครัวอื่นที่ลูกหลานไม่นำพาต่อ เขาก็จะเชิญมาไว้กับคุณตา ผู้เขียนคิดว่าวันนี้ องค์ฯต่างๆน่าจะมาอยู่กับคุณตาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ้านหลังใหม่นี้ลูกหลานบางคนที่รู้จะไม่กล้ามานอนบ้านคุณตา เพราะในห้องนอนไม่มีความสงบเงียบเลย ทั้งๆที่ไม่มีใครสักคน!
บ้านหลังเก่าที่พัทลุงกับหลานสาวของคุณตาพัน เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
หลานๆของคุณตาพัน นั่งเล่นกันที่หน้าบ้าน
หลานของคุณตาพันในปัจุบัน
Create Date : 28 พฤษภาคม 2551 |
|
7 comments |
Last Update : 9 มกราคม 2553 22:06:19 น. |
Counter : 7089 Pageviews. |
|
|
|