ข้อแนะนำสำหรับการรับประทานอาหารทอด ปิ้ง ย่าง
อาหารปิ้งย่าง รมควัน และทอด การปิ้งย่าง รมควัน และทอด นอกจากจะเป็นขบวนการ ในการทำอาหารให้สุกแล้ว ยังทำให้เกิดกลิ่นหอม ชวนรับประทาน มากขึ้นด้วย แต่ในขบวนการดังกล่าว จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งแฝงมาด้วย ได้แก่
สารที่เกิดจาการเผาไหม้ไขมัน PAH (สาร Polycyclic aromatic hydrocarbons) สารนี้เกิดจากการสันดาปไม่สมบูรณ์ของไขมัน พบสารนี้ในอาหารรมควัน ปิ้งย่าง ทอด หรือคั่ว สารนี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งในคน การกินอาหารที่มีสารนี้ปริมาณมาก อาจทำให้ เกิดมะเร็งเต้านม ปอด และกระเพาะอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม การสูดดมสารพีเอเอชจากควันบุหรี่ หรือมลพิษทางอากาศ มีความสำคัญกับการเกิดมะเร็ง ระบบทางเดินหายใจ ชัดเจนมากกว่าการกิน
สารที่เกิดจากการเผาไหม้โปรตีน HAA (สาร Heterocyclic aromatic amines) สารนี้เกิดจากการเผาไหม้กรดอะมิโนที่อุณหภูมิสูง พบสารนี้กว่า 20 ชนิด ซึ่ง 10 ชนิด ทำให้เกิดมะเร็ง ในสัตว์ทดลอง และลิง โดยทำให้เป็นมะเร็งตับ ลำไส้ ผิวหนัง และเต้านม เป็นต้น ปริมาณสารนี้ขึ้นอยู่กับชนิดอาหาร เวลา และอุณหภูมิที่ใช้ ตลอดจนวิธีการหุงต้ม เช่น การใช้ความร้อนสูง และเวลานานๆ จะพบสารนี้มากกว่าใช้ความร้อนต่ำ และเวลาสั้น การต้ม หรือตุ่น จะพบสารนี้น้อยกว่าปิ้งย่างกับเปลวไฟโดยตรง อย่างไรก็ตาม คนได้รับสารนี้ จากการสูบบุหรี่มากกว่า ได้จากอาหารเกือบ 10 เท่า และปริมาณที่คนได้รับในแต่ละวัน ต่ำกว่าปริมาณที่ทำให้สัตว์ทดลองเป็นมะเร็งหลายหมื่นเท่า
สารอะครีลาไมด์ (Acrylamide) ผลการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ พบสารอะคริลาไมด์ในอาหาร ที่ใช้ความร้อนสูง เช่น มันฝรั่งกรอบ หรือขนมปัง เกิดจากกรดอะมิโนแอสพาราจีน จะทำปฏิกิริยากับน้ำตาล ที่อุณหภูมิสูง (185 องศาเซลเซียส) หากใช้เวลาในการอบ หรือทอดนาน จะทำให้เกิดสารนี้มากขึ้น สารนี้เป็นพิษ ต่อระบบประสาททั้งในคน และสัตว์ มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ในสัตว์
ดังนั้น ถ้าไม่สามารถลดการบริโภคอาหารดังกล่าวได้ เพราะติดในรูปลักษณ์ที่ชวนรับประทาน รสชาติที่เอร็ดอร่อย กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อไร เป็นเหตุให้น้ำย่อยมาคอยจ่อรอคอยอาหาร ก็ขอเสนอวิธีการปิ้งย่างอาหาร ที่สามารถลด การเกิดสารพีเอเอชไว้ในที่นี้ด้วย อยากให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนักกันว่าเมื่อใด ที่จะปิ้งหรือย่างอาหารล่ะก็ ขอให้ทำตาม คำแนะนำดังต่อไปนี้คือ
ก่อนปิ้ง ย่างเนื้อสัตว์ที่ติดมันควรตัด ส่วนที่มีมันออกไปเพื่อลดไขมันที่จะหยดลงไปบนถ่าน
ควรใช้ใบตองหรือกระดาษฟอยล์ห่อหุ้มอาหาร ก่อนที่จะทำการปิ้ง ย่าง เพื่อไม่ให้ไขมัน จากอาหารหยดลงไปบนถ่าน จนทำให้เกิด สารก่อมะเร็วลอยขึ้นมาเกาะที่ผิวเนื้ออาหารได้
สำหรับผู้ที่ติดใจในกลิ่นเนื้อย่าง ถ้าเป็นไปได้ควรนำเนื้อสัตว์ที่จะย่าง ไปอบ ต้ม หรือเข้าไมโครเวฟเพื่อให้เนื้อสุกก่อน เวลาที่ใช้ในการย่างจะสั้นลงก็สามารถลดการเกิด PAH ได้
ควรทำการปิ้ง ย่างอาหารโดยใช้ เตาไฟฟ้า (ไร้ควัน) ซึ่งสามารถควบคุมระดับ ความร้อนได้สม่ำเสมอกว่าการปิ้งย่างด้วยเตาถ่าน
ถ้าไม่มีเตาไฟฟ้าก็ขอเสนอให้ปิ้ง ย่างบนเตาถ่าน ที่ใช้กันทั่วไป แต่เชื้อเพลิงที่ใช้ควรเป็นถ่านที่อัดเป็นก้อน ไม่ควรใช้ถ่านป่นละเอียด หรืออาจใช้ฟืน ที่เป็นเนื้อแข็งเพราะการเผาไหม้จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
เมื่อทำการปิ้ง ย่างเนื้อเสร็จควรตัด ส่วนที่ไหม้เกรียมออกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ส่วนการปิ้ง ย่างเนื้อสัตว์บางประเภท ที่ย่างกันเป็นตัวเลย ก็ขอเสนอให้ใช้เตาย่าง ที่มีการให้ความร้อนด้านข้าง มีแกนสำหรับเสียบ อาหารที่จะย่าง แล้วหมุนด้วยมอเตอร์หมุนไปเรื่อยๆ จนเนื้ออาหารสุก ถ้านึกไม่ออกก็ขอให้นึกถึง เตาที่ไก่ยางห้าดาวใช้ แต่ไม่ต้องเป็นตู้ อย่างนั้นก็ได้ เพียงแต่ออกแบบเตาถ่านให้ความร้อน กระจายไปด้านข้างที่เนื้อสัตว์ถูกหมุน เพื่อไม่ให้ น้ำมันหยดลงบนถ่านทำให้ไม่เกิดสารพีเอเอช
หรือถ้าไปนั่งทานตามร้านอาหาร ก็อย่าลืมสั่งผักลวก หรือผัดผักตามไปด้วย เพราะนอกจากจะช่วย ลดความเลี่ยนของอาหารแล้ว ผักยังทำให้ ระบบกำจัดสารพิษในร่างกายของเราทำงานได้ดีขึ้น เพียงเท่านี้เราก็จะลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ที่เกิดจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารได้ระดับหนึ่ง
"ของฝากจากอินเตอร์เน็ต" โดย รศ.ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ กัลยารัตน์ เครือวัลย์ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิยาลัยมหิดล
ที่มา : //healthnet.md.chula.ac.th และ advisor.anamai.moph.go.th/healthteen
Create Date : 25 ธันวาคม 2550 |
|
39 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 9:53:05 น. |
Counter : 1273 Pageviews. |
|
|
|
กลัวตายเร็ว.....อิอิ
เมื่อวันอาทิตย์เลือกตั้งแล้วไปนครปฐมกะเพื่อนอีกรอบ
ได้ซื้อขมิ้นขาว มาจิ้มน้ำพริกสมใจอยาก
ตอนนี้พยายามหัดทานน้ำพริกกะผักเยอะๆ ง่ะ
แล้วไปอ่านหนังสือพบว่า
ทานเห็นสามอย่าง
นำมาต้มทาน อร่อยมาก
ลองทำแล้ว ตอนนี้กลายเป็นเมนูประจำบ้านเลยจ๊ะ