ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างไรหลังออกกำลังกาย

แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
ปฎิกิริยาต่อการออกกำลังกายเกิดขึ้นในหลายส่วน
และมีลักษณะต่างๆ กัน จะกล่าวถึงเฉพาะที่สำคัญ ๆ ดังนี้

(ต่อไปนี้ลอกเขามาทั้งนั้นค่ะ จขบ. ไม่ได้คิดเองหรอก)



1. กล้ามเนื้อ
การออกกำลังทุกครั้งต้องอาศัยกล้ามเนื้อหดตัว
ดึงกระดูกซึ่งประกอบเป็นแขนขาและส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง

2. หัวใจและหลอดเลือด
เมื่อมีการออกกำลัง หัวใจจะได้รับการกระตุ้น
ทางระบบประสาทให้เต้นเร็วและแรงขึ้น
สูบฉีดเลือดได้ปริมาณมากขึ้น
หากต้องทำการเช่นนี้บ่อย ๆ
หัวใจก็จะปรับตัวโดยเพิ่มขนาดของเส้นใย
(แบบเดียวกับกล้ามเนื้อแขนขา)
ทำให้ผนังห้องหัวใจหนา
มีแรงสูบฉีดและกำลังสำรองมากขึ้น

3. ปอดและการหายใจ
ในการหายใจตามปกติ "ศูนย์หายใจ" ซึ่งอยู่ใน
ส่วน "ท้ายสมอง " (medulla oblongata) สั่งการให้
กล้ามเนื้อซี่โครงและกะบังลม หดตัว
ทำให้ทรวงอกขยาย อากาศภายนอกดันผ่านจมูก
หลอดลมคอ และหลอดลมปอดเข้าไปในถุงลม

4. ระบบประสาท
การออกกำลังเกิดขึ้นเพราะสมองสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัว
เมื่อกล้ามเนื้อทำงานไปเรื่อย ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลง
ทางประสาทและเคมีย้อนไป "กด" ศูนย์สั่งการในสมอง
มากขึ้นๆ โดยลำดับในที่สุดเมื่อออกกำลังกายเหนื่อย
ถึงขีดหนึ่ง (ซึ่งขึ้นอยู่กับความเ คยชินต่อการออกกำลัง)
ศูนย์สั่งการก็ถูกกดจนต้องหยุดทำงานคือ ถึงระยะ
"เหนื่อยจนหมดแรง" (ซึ่งที่จริง "แรง" ยังมีแต่สมองไม่สั่งการ)

5. ระบบและส่วนอื่น ๆ
การออกกำลังอย่างค่อนข้างหนักและอย่างหนัก
ย่อมทำให้เกิดปฎิกิริยาอย่างมากในร่างกาย
นอกจากที่กล่าวมา แล้วข้างต้นยังมีที่ควรทราบอีกดังต่อไปนี้

5.1 กระดูกที่ถูกกล้ามเนื้อดึงจะมีผิวหนาและแข็งแรงขึ้น
ในเด็ก กระดูกบางชิ้นจะยาวขึ้นด้วย ทำให้ร่างกายสูงใหญ่
5.2 เลือดจะมีสีเม็ดเลือด (เฮโมโกลบิน)
และจำนวนเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ปริมาตรเลือดสำรอง
ที่เก็บไว้ในม้ามและที่อื่นๆ จะมากขึ้น
5.3 ต่อมน้ำเลี้ยงภายในที่หลั่งฮอร์โมนบางอย่าง เช่น
ต่อมหมวกไต ต่อมใต้สมอง (พิทูอิทารี) ถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้น
ทำให้เกิดผลเสมือนฉีดฮอร์โมนนั้น ๆ เข้าในร่างกาย
5.4 มีการสะสมสารเคมีบางอย่างไว้
สำหรับใช้ระหว่างการออกกำลัง
5.5 ระบบควบคุมอุณหภูมิกาย
จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น



จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังกายได้พอเหมาะแล้ว

ต่อไปนี้เป็นวิธีง่าย ๆ สำหรับใช้กับตัวเอง
หรือแนะนำผู้อื่นในเวลาออกกำลัง

1. อาการเมื่อย เหมาะสำหรับใช้กับกายบริหาร
กำหนดดูว่าส่วนที่กำลังใช้อยู่นั้นเริ่มมีอาการเมื่อยเมื่อใด
(ตัวอย่างเช่น เริ่มเมื่อยเมื่อ "ชกลม" ได้ 10 ครั้ง)
ลองทำต่อไปอีกประมาณ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 4 ของที่ทำแล้ว
จึงหยุด สังเกตว่าอาการเมื่อยที่เกิดแต่ต้นนั้นจะคงอยู่ต่อไป
อีกนานสักเท่าใด ถ้าหายไปในเวลาสองสามชั่วโมง
แสดงว่าที่ทำแล้วยังไม่พอ ควรจะเพิ่มได้อีก
ถ้าหายภายใน 24 ชั่วโมง แสดงว่าที่ทำนั้นมากเกินควร
ครั้งต่อไปต้องลดลง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลัง

ข้อพึงจำคือหากออกกำลังเป็นประจำจนสมรรถภาพสูงขึ้นแล้ว
ถ้าเว้นว่างไปเสีย สมรรถภาพจะลดลง
ภายในหนึ่งสัปดาห์สมรรถภาพที่สูงขึ้นจะกลับลดลงไป
ประมาณร้อยละ 30 และหมดสิ้นไปภายในสามสัปดาห์

2. อาการเหนื่อย วิธีนี้เหมาะสำหรับการออกกำลังประเภทอดทน
เช่น วิ่งเหยาะ (วิ่งช้า ๆ เพื่อให้ได้ระยะทางมาก)

3. อัตราชีพจร ผู้ที่สนใจการออกกำลังอย่างจริงจัง
ควรนับชีพจร ของตนเองอาจนับที่ข้อมือหรือที่คอก็ได้
วิธีหนึ่งคือใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางกดปลายลงไป
ในร่องข้างเอ็นข้อมือทางด้านโคนนิ้วหัวแม่มือ
(ของอีกมือหนึ่ง) ขยับจนรู้สึกการเต้นของหลอดเลือดเป็นจังหวะ

ถือนาฬิกาที่มีเข็มวินาทีไว้ในมือที่ถูกคลำ
(หรือสวมไว้ในมือที่ใช้คลำ) นับการเต้นของชีพจร
ตามไปขณะที่ตาดูนาฬิกา นับชั่ว 10 วินาทีแล้วคูณด้วย 6
เป็นอัตราใน 1 นาทีก็ได้ (วิธีนี้ไม่แม่นทีเดียว)
แต่ดีพอสำหรับการกีฬา

4. ผลตามหลัง ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังมาก่อน
หลังจากออกกำลังครั้งแรก อาจมีอาการปวดข้อ
ตึงกล้ามเนื้อหรือปวดกล้ามเนื้อด้วยในวันเดียวกันนั้น
หรือวันรุ่งขึ้น และอาจเป็นอยู่ต่อไปนี้หนึ่งหรือสองวัน
เช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาแต่ถ้าอาการยังอยู่
เกินสองวัน ควรสงสัยว่าการ ออกกำลังที่ได้ทำนั้น
อาจจะมากเกินไปครั้งต่อไปควรทำให้น้อยลง




เมื่อไรควรงดออกกำลัง

1. เมื่อรู้สึกไม่สบาย เวลาที่รู้สึกเพลียไม่แข็งแรง
เหมือนปกติ อาจต้องงดออกกำลังชั่วคราว อาการดังกล่าว
อาจเป็นการบอกล่วงหน้าของโรคที่รุนแรงหากเสียกำลังไป
ในการบริหารกายอาจลดความต้านทานของร่างกาย
และช่วยให้โรครุนแรงขึ้น แต่อาการที่ว่านี้ไม่ใช่
ข้อห้ามเด็ดขาดทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ใน
วัยฉกรรจ์และร่างกายแข็งแรง เวลารู้สึกไม่สบายเล็ก ๆ น้อย ๆ
เช่น ทำท่าจะเป็นหวัด หากออก กำลังให้เหงื่อออกเล็กน้อย
อาจจะกลับเป็นปกติก็ได้ ทั้งนี้เป็นเรื่องของบุคคล
ความแข็งแรงและความเคยชินทางที่ปลอดภัยคืองดไว้ก่อน


2. เมื่อเป็นไข้ เมื่อมีไข้ชัดเจนควรงดออกกำลังทุกอย่าง
เพราะตอนนี้ร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรค จำต้องรวบรวม
กำลังทุก ๆ ท างเพื่อเอาชนะให้ได้ การออกกำลังในเวลาเป็นไข้
มีอันตรายเป็นพิเศษสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่หัวใจไม่ค่อยปกติ
เนื่องด้วย ไข้ทำให้หัวใจมีงานมากกว่าธรรมดาอยู่แล้ว
หากออกกำลังเพิ่มภาระให้อีก หัวใจอาจล้มเหลวได้


3. เมื่อมีอาการอักเสบ หากมีอาการเจ็บปวด ขัดยอก
หรือบวมแดงที่ข้อกระดูกหรือกล้ามเนื้อแสดงถึง
การอักเสบภายใน ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานมากไป
ควรงดออกกำลังด้วยส่วนนั้นชั่วคราว
เพื่อป้องกันการกำเริบมากขึ้น
และเปิดโอกาสให้ส่วนนั้น ๆ ฟื้นตัว


4. เมื่อกระเพาะเต็ม หลังจากกินอาหารอิ่มใหม่ ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินอาหารหนักและมาก
ร่างกายอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสำหรับออกกำลังกาย
เนื่องจากกระเพาะอาหารและลำไส้แบ่งเลือดไปใช้
ทำให้การหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อบกพร่องไป
กระเพาะอาหารที่เต็มขัดขวางการ ทำงานของกะบังลม
และอาจทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้เมื่อกระเทือน
จากการวิ่งหรือเคลื่อนไหวอย่างอื่นที่รุนแรง


5. เมื่ออากาศร้อนอบอ้าว เมื่ออากาศร้อนจัดและชื้น
ทำให้มีความรู้สึกอบอ้าวอึดอัด สมรรถภาพของร่างกาย
ลดต่ำลง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ที่หัวใจไม่ค่อยแข็งแรง
ไม่ควรออกกำลังหนัก หากไม่อยากจะงดเสียเลยก็ควร
ออกกำลังประเภทที่เบา ๆ หรือหนักเพียงปานกลาง
เพื่อป้องกันอันตรายต่อหัวใจ


อ่า อัพบล็อกมาถึงตอนนี้คาดว่าอาหารย่อยได้ที่แล้ว
สงสัยต้องไปจ๊อกกิ้งเสียหน่อย เพราะพุงชักงอกใหญ่แล้ว อิอิ
ขอบคุณสาระดีดีจากแหล่งข้อมูลไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ที่มา : //kanchanapisek.or.th




Create Date : 18 กรกฎาคม 2550
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 9:18:10 น. 7 comments
Counter : 5226 Pageviews.

 
คุงนุทมะค่อยได้ออกกำลังกายเลยอ่ะค่ะ

ไม่เอาแระ week นี้จะเริ่มไปว่ายน้ำแบบเอาจริงเอาจัง <รอบที่พันห้าร้อยยี่สิบเก้า> แล้วล่ะ

สัญญา <กะตัวเอง> ต้องเป็นสัญญา


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:06:44 น.  

 
มารับความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายค่ะ
และเมื่อไรที่ควรงดออกกำลังกาย ได้ความรู้ดีจังเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆนะค่ะที่เก็บเอามาเล่าสู่กันฟัง

emoemoemoemoemo


โดย: whitelady วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:53:23 น.  

 

ฮิฮิ มาออกกำลังกายด้วยคน ฮิฮิ


โดย: hawaii_havaii IP: 67.34.180.188 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:25:27 น.  

 





พาเจ้าเหมียวหน้าทะเล้นมาส่ง"น้องมือหอม"เข้านอนอ่ะจ่ะ
ไม่อยากอ่านข้างบนเลย...
มาง...สะ แหลง จายย...




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:26:16 น.  

 
เข้ามาหาความรู้ จะว่าไปพักนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย ต้องหาเวลาออกกำลังกายบ้างละ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:19:04 น.  

 

ฮาโหยยย....บายยย...ดีป่าวว...ค้ราา...
เปง..งาย..ม่าง...
ปวกเมื่อยตรงหนายม่างคร้า....



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:35:57 น.  

 
ว้าวววววววววขอบพระคุณค่ะ


โดย: Bernadette วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:09:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.