Bloggang.com : haiku :

เสพงานศิลป์ ๑๖

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - ‪Yuhki Kuramoto‬

"Our Beloved The King ธ ทรงเป็นที่รักยิ่ง ปวงไทย"

rak patravadi theatre เชิญชมนิทรรศการศิลปะคอลเลคชั่นที่ ๑๒ ชุด “Our Beloved The King – ธ ทรงเป็นที่รักยิ่ง ปวงไทย” โดยสองศิลปิน ยุทธนา พงศ์ผาสุก และ ธณาเศรษฐ์ ศิรอภิวัลย์

น้ำพระทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาสะท้อนออกมา เป็นแรงบันดาลใจให้สองศิลปินสร้างผลงานในชุดนี้ สำหรับคุณยุทธนา การทำงานครั้งนี้ เป็นผลงานที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นผลงานที่ออกมาจากใจสะท้อนถึงพระกรุณาและความประทับใจในพระราชกรณียกิจที่ทรงกระทำ ตั้งแต่ทรงครองราชย์มาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับคุณธณาเศรษฐ์ ได้แรงบันดาลใจจากคำสอนแห่งพระองค์ท่านที่ได้มอบไว้กับปวงชนชาวไทย ไว้เป็นแนวการปฏิบัติในแต่ละช่วงแต่ละตอนในการเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในวาระต่าง ๆ ซึ่งเป็นคำสอนที่ควรปฏิบัติเป็นสิ่งจริง และการที่พระองค์ท่านทรงงานหนัก เรามักจะไม่ได้เห็นพระองค์ท่านในช่วงเวลาที่ทรงเกษมสำราญ จึงอยากนำเสนอผลงานที่แสดงถึงวาระสำคัญที่พระองค์ท่านมีพระหทัยเบิกบาน รอยพระสรวล แห่งพระองค์จึงเปรียบเหมือนสิ่งที่เป็นพลังและปลุกกำลังใจให้กับพวกเราชาว ไทยในเวลาที่ผ่าฟันอุปสรรคนานา

การสร้างงานในครั้งนี้ ศิลปินทั้งสองนำเสนอผลงานอย่างง่ายให้หลากหลายวิธีการบนงานจิตรกรรม ด้วยดินสอ สีชอลก์ สีน้ำ สีอะะคริลิค ปากกาลูกลื่น และปากกาดำ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาแก่ ประชาชนทุกชนชั้น ในทุก ๆ ส่วนของประเทศไทย

เปิดงานนิทรรศการวันอังคารที่ ๒o พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๙.oo น.
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ ๑o.๓o น.เป็นต้นไป ยกเว้นวันจันทร์ (ไม่คิดค่าเข้าชม)
รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายภาพร่วมสมทบทุน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

นิทรรศการ : “Our Beloved The King – ธ ทรงเป็นที่รักยิ่ง ปวงไทย” 
ศิลปิน : ยุทธนา พงศ์ผาสุก และ ธณาเศรษฐ์ ศิรอภิวัลย์ 
วันที่ : ตั้งแต่วันอังคารที่ ๒o พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เป็นต้นไป 
สถานที : Club Arts (Gallery by the river)
 ติดต่อโทร : o๒-๘๖๖-๒๑๔๓ อีเมล์ : rakkrab@gmail.com 
เว็บไซต์ : //www.clubartsgallery.com

ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com

"นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘o พรรษา"

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษ ๘o พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ เพื่อให้ข้าราชการ ฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะ สำนักงานศาลยุติธรรม โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมไทยนำโดย เชวง ชูศิริ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปะฯ จัดแสดง “นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘o พรรษา” โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก ชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้นเปิดงาน พร้อมด้วย วิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นผู้กล่าวรายงานในครั้งนี้ ณ บริเวณชั้น ๒ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม

ภาพฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

ภายในงานมีข้าราชการตุลาการชั้นผู้ใหญ่และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานอย่าง คับคั่ง อาทิ พล.อ.เชษฐา-คุณหญิงอรวรรณ ฐานะจาโร, ประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมหม่อนไหม, ประพาฬ อนมาน อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้, อุไร คุณานันทกุล และ ผาณิต พูนศิริวงศ์ ไฮไลท์ภายในงานเป็นภาพฝีพระหัตถ์ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นอกจากนี้ยังรวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงกว่า ๓oo ท่าน ร่วมแสดงในนิทรรศการ อาทิ อ.สมาน คลังจัตุรัส, อ.สุจิน ปานสมุทร, อ.นาวิน แสงรบ และ อ.ประหยัด ทิพวันต์ พร้อมบูธผลิตภัณฑ์จากร้านจิตรลดา และผลิตภัณฑ์จากกรมหม่อนไหม ให้แขกผู้มีเกียรติได้เลือกชมเลือกช็อปมากมายอีกด้วย

นิทรรศการเปิดแสดงตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ เวลา ๙.oo-๑๗.oo น. ณ ห้อง JTI ชั้น ๒ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก

ชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี เดินชมนิทรรศการ

ศิลปิน ศมน ทิมทอง กับผลงานภาพวาดสีน้ำมัน "มั่ง มี ศรี สุข"

ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com

ผลงานของทนงศักดิ์ ปากหวาน

รังสรรค์งาน 'ศิลป์' เพื่อคน 'ศิลป์'

ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๑o แล้วกับการมอบทุนและประมูลผลงานศิลปะของศิลปินทั้งหน้าเก่าและใหม่ เพื่อนำรายได้สมทบกองทุนส่งเสริมการศึกษาสร้างสรรค์ศิลปะ ของ มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘o พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผองไทยทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ตามกำลัง โดยพร้อมเพรียงกัน

"นกน้อยทำรังแต่พอตัว"
ศิลปิน ทวี รัชนีกร

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า ความชัดเจนของการดำเนินงานที่ไม่ว่าจะผ่านมากว่า ๑o ปีแล้ว ก็ยังเน้นไปที่การสร้างคนคุณภาพเพื่อให้สร้างชาติด้วยคุณธรรม จึงต้องมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังแนวคิดดังกล่าวในหมู่เยาวชนไทย ซึ่งเชื่อว่าท่านผู้มีจิตอันบริสุทธิ์ที่ให้การสนับสนุนกองทุน และมูลนิธิรัฐบุรุษฯ มาโดยตลอดต่างก็ประจักษ์แจ้งในสาระสำคัญของการจัดโครงงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ โดยขอเรียนไว้ ณ ที่นี้ว่า ไม่ว่าอีกกี่สิบปีข้างหน้าก็ต้องร่วมกันสร้างเครือข่ายเหล่านี้ออกไปเพื่อ ให้สังคมไทยเข้มแข็ง และนี่คือหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันทำ และจะลังเลหรือชะงักงันไม่ได้เลย

สำหรับการประมูลผลงานศิลปกรรมของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินอาวุโส และศิลปินชั้นนำของประเทศรวม ๓๔ ผลงาน อย่างผลงาน "ลูกสาวในหมู่ไม้" โดย ชลูด นิ่มเสมอ ขนาดผลงาน ๘o x ๖o เซนติเมตร เทคนิคสีอะคริลิกบนผ้าใบ ผลงาน “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” ศิลปิน ทวี รัชนีกร ขนาด ๘o x ๖o เซนติเมตร กับเทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงาน "มิติระหว่างโลก" โดย สิโรจน์ พวงบุบผา ขนาด ๑๓o x ๑oo เซนติเมตร เทคนิคจิตรกรรมลายทองร่วมสมัย

สิโรจน์ พวงบุบผา กำลังเล่าที่มาของภาพวาด

ผลงาน “นกเงือกคอแดง แห่งป่าแม่วงก์” ของ ชัยวุฒิ เทียมปาน ขนาด ๙o x ๑๒o เซนติเมตร เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงาน "ที่ทะลเสาบอินเล" โดย สุจินตน์ ตรีณรงค์ ขนาด ๑oo x ๑๒o เซนติเมตร เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงาน "พระพิทักษ์ยุติธรรม" โดย ปัญญา วิจินธนสาร ขนาดผลงาน ๑๗o x ๑๗o เซนติเมตร ด้วยเทคนิคสีอะคริลิก และสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงาน "คลองตะนาวศรียามเช้า" ของ ยรรยงค์ ศิริรัตน์ ขนาด ๑oo x ๘o เซนติเมตร ใช้เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ

ศิลปิน จารุวัตร บุญแวดล้อม กับผลงาน "เดอะ พับบลิค เฟซ" ขนาด ๑๓o x ๑๖o เซนติเมตร ด้วยเทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ ศิลปิน สุวัฒน์ชัย ทับทิม กับผลงาน "พญาครุฑแห่งองค์ราชันย์” ขนาด ๑๕๕ x ๒๕o เซนติเมตร เทคนิคสีอะคริลิก ทองคำเปลว ผลงาน "สู่อิสรภาพ" โดย ทนงศักดิ์ ปากหวาน ขนาด ๘o x ๑๕o เซนติเมตร เทคนิคสีฝุ่นอะคริลิกบนผ้าใบ และผลงาน "เสียงแห่งจิต" ของ ทรงไชย บัวชุม ขนาด ๑๕o x ๑๑o เซนติเมตร ด้วยเทคนิดสีน้ำ สีชอล์ก และสีฝุ่นบนกระดาษ

"ภาพแห่งความทรงจำ"
ศิลปิน เทอดเกียรติ หวังวัชรกุล

“ปีนี้มีสถาบันการศึกษาด้านศิลปะจำนวน ๓๘ สถาบันจากทั่วประเทศ ส่งนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมรับการพิจารณาทั้งสิ้น ๓๔๓ คน ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกนิสิตนักศึกษาภายใต้ระเบียบข้อกำหนดของกอง ทุน โดยมี ๒๖ สถาบันการศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก รวมนิสิตนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้น ๘o คน เพื่อเข้ารับทุนจาก ฯพณฯ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยเงินสนับสนุนที่ได้บริจาคได้นำไปสู่การสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ลูกหลาน ของเราให้ได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง ตลอดจนนำความรู้ความสามารถที่ตนมีอยู่รับใช้ผืนแผ่นดิน โดยการถ่ายทอดและร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติให้สถิตสถาวรสืบไป” ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ ในนามของประธานคณะกรรมการดำเนินงานกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ กล่าวปิดท้าย

"นกเงือกคอแดง แห่งป่าแม่วงก์"
ศิลปิน ชัยวุฒิ เทียมปาน

สำหรับผู้ชื่นชอบในผลงานศิลปะและช่วยแตกหน่อให้งานนิสิต นักศึกษา พร่ำเรียนรู้และฝึกปรือในฝีแปรง ร่วมประมูลผลงานกันได้วันที่ ๑๘ ธันวาคมนี้ ที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ o๒-๒๔๑-oo๘๘

ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net

“มุทิตา"
"Kindness"

คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มีความยินดีขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมเป็นเกียรติ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการของอาจารย์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในนิทรรศการศิลปกรรม มุทิตา

ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ – พ.ศ. ๒๕๕๕ ศาสตราจารย์อิทธิพล ตั้งโฉลก, รองศาสตราจารย์สุรศักดิ์ เจริญวงศ์, อาจารย์สมวงศ์ ทัพพรัตน์, อาจารย์ศราวุธ ดวงจำปา, อาจารย์ธานี กลิ่นขจร, อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรินทร์ รัตนจันทร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์พิชิต ตั้งเจริญ

ประธานในพิธี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ (นายกสภามหาวิทยาลัยศิลปากร) พิธีเปิดนิทรรศการ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.oo น.

วันที่ : ๒๖ ตุลาคม – ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพมหานคร (ทุกวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ เวลา ๑o.oo – ๑๘.oo น. / หยุดวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์)

ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com

"มุมมองใหม่บนภาพถ่าย"

เลอ เมอริเดียน กรุงเทพจัดงาน ‘มุมมองใหม่บนภาพถ่าย กับ แนนซี่ บราวน์ โดยภายในงาน แนนซี่จะมาบรรยายเกี่ยวกับมุมมองของเธอกับหนังสือชื่อ ‘Simply China’ นอกจากนี้เธอจะมาสาธิตการถ่ายภาพนิ่งแบบย่อเพื่อเป็นการพีอาร์เวิร์คช็อป

ในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ จะเป็นเวิร์คช็อปถ่ายภาพ โดยแบ่งเป็นสองช่วงเช้าและบ่าย ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา o๘.oo – ๑๒.oo น. แนนซี่จะสอนเทคนิคการถ่ายภาพ ว่าถ่ายภาพอย่างไรให้ขึ้นแท่นเป็นรูปที่ขายดีในหมวดเว็บไซต์รูปต่างๆ และจะสมทบด้วยคุณ ฮิลดิ์ มารี โจฮันเซ่น สไตล์ลิสต์ภาพถ่ายชื่อดังที่จะมาให้คำแนะนำในการสไตล์ลิ่งองค์ประกอบรูป ในช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา ๑๔.oo – ๑๗.oo น. แนนซี่จะบรรยายเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพท่องเที่ยวและขั้นตอนการตีพิมพ์ หนังสือที่เธอจะมาแชร์เคล็ดลับที่ทำให้เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตำนานของ นิค่อน และถ่ายภาพอย่างไรจึงที่ได้รวบรวมเป็นหนังสือและได้ถูกตีพิมพ์มาแล้วถึง ๔ เล่ม โดยเล่มล่าสุดคือ ‘Simply China’

เวิร์คช็อปถ่ายภาพและสัมมนาทั้งวัน ราคา ๓,ooo บาทสุทธิต่อท่าน ราคา ๒,ooo บาทต่อท่าน สำหรับช่วงเช้า และราคา ๑,๕oo บาทสุทธิต่อท่านสำหรับช่วงบ่าย

เกี่ยวกับ แนนซี่ บราวน์ แนนซี่ บราวน์เป็นช่างภาพเชิงพานิชย์มาร่วม ๓o ปีโดยมีความเชี่ยวชาญทางภาพถ่ายแนว ไลฟ์สไตล์และบิวตี้ สำหรับ เอเจนซี่โฆษนา นิตยสาร หนังสือ และ เอเจนซี่ เภสัชกรต่าง ๆ

โดยแรกเริ่มเธอเข้ามาในวงการด้วยการเป็นนางแบบ และเป็นผู้อยู่บ้างหน้าจอแก้วมาตลอด แต่หลังจากได้เพิ่มพูนประสบการณ์มากมายเกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพและบวกกับ ความมีสไตล์ของการถ่ายภาพที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เธอกลายเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงและได้รับเลือกให้ถ่ายภาพโฆษณาหลาย ชิ้น อาทิ โฆษณา Maybeline, Kodak, Canada Dry and Maidenform หลังจากนั้นเธอได้ร่วมงานกับเอเจนซี่ โฆษนา ประชาสัมพันธ์ เภสัชกรมากมายในมหานครนิวยอร์ก และที่สุดท้ายคือBoca Raton ที่ฟลอริด้า ที่หนังสือภาพถ่ายของเธอจำนวน ๔ เล่มได้รับการตีพิมพ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตำนานของ นิค่อนในปี ๒๕๔๔

ภาพถ่ายของเธอส่วนใหญ่ได้รับการประชาสัมพันธ์ในเว็บ Getty และรูปภาพของเธอนั้นจะขึ้นชาร์ตขายดีอันดับต้นๆ นอกจากนี้เธอได้เขียนหนังสือใว้อีก 3 เล่ม “Photographing People for Stock, “Nude Beauty Photography” และเล่มล่าสุดคือ “Simply China

เกี่ยวกับงานเปิดมุมมองใหม่  เลอ เมอริเดียนนำแนวคิดประสบการณ์การสร้างสรรค์ในโลกแห่งศิลปะมารังสรรค์ให้ทรงคุณค่า โดยริเริ่มจัดงานเปิดตัว ‘A New Perspective’ หรือกิจกรรมการสร้างสรรค์มุมมองใหม่ ซึ่งจะจัดอย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานศิลปะ แนวคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมร่วมสมัย แปรเปลี่ยนให้เลอ เมอริเดียนกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร

กิจกรรมสร้างสรรค์มุมมองใหม่ หรือ ‘A New Perspective’ ที่จัดอย่างต่อเนื่อง จะให้ความสำคัญกับศิลปินทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์วัฒนธรรมที่มีแบบฉบับเฉพาะด้าน และเปิดโอกาสให้แขกที่มาร่วมงานได้สัมผัสหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ใหม่ ๆ และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในงาน ‘A New Perspective’ ศิลปินผู้เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละชุดจะประกอบไปด้วยศิลปินร่วมสมัย กูรูในวงการงานศิลปะ และแขกผู้มีความคิดสร้างสรรค์ในท้องถิ่น เพื่อที่จะทำให้งานศิลปะเกิดความน่าสนใจ ความคิดริเริ่ม และที่สำคัญที่สุดคือให้แขกผู้มาเยือนเลอ เมอริเดียนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆทางด้านศิลปะ

นอกจากนี้ เลอ เมอริเดียนได้แต่งตั้ง คุณเจอโรม ซานส์ (Jerôme Sans) ผู้นำด้านนวัตกรรมศิลปะสมัยใหม่เป็นภัณฑารักษ์ศิลปินผู้บุกเบิกทางด้านงาน ศิลปะฝรั่งเศส เพื่อริเริ่มความคิดสร้างสรรค์ในการปรับโฉมของแบรนด์ในจุดต่าง ๆ ที่แขกสามารถ สัมผัสได้กับประสบการณ์โต้ตอบที่แปลกใหม่และแตกต่างไปจากเดิม

เวิร์คช็อปถ่ายภาพและสัมมนาทั้งวัน ราคา ๓,ooo บาทสุทธิต่อท่าน ราคา ๒,ooo บาทต่อท่าน สำหรับช่วงเช้า และราคา ๑,๕oo บาทสุทธิต่อท่านสำหรับช่วงบ่าย

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับงาน ‘มุมมองใหม่บนภาพถ่าย’ ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ กรุณาติดต่อ 0๒-๒๓๒-๘๘๒๕ หรือ อีเมล Khemwanta.tangon@lemeridien.com  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับงานเวิร์คช็อปถ่ายภาพในวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ กรุณาติดต่อ o๘๕-o๖๒-๔o๓๑ หรือ อีเมล dcdk@codyphoto.com

ภาพและข้อมูลจาก
นสพ.คม ชัด ลึก ๒๕ ต.ค. ๒๕๕๕
artbangkok.com

“ต้นธารศิลปะสันติภาพ ภราดรภาพ ประชาธิปไตย”

โครงการภาพยนตร์นานาชาติ ฝ่ายศิลปกรรมสถาบันปรีดี พนมยงค์ ร่วมกับมูลนิธิไชยวนา (ครูองุ่น มาลิก)
ขอเชิญร่วมงาน ต้นธารศิลปะสันติภาพ ภราดรภาพ ประชาธิปไตยฉายภาพยนตร์คลาสิก จัดนิทรรศการทัศนะวิจารณ์ภาพยนตร์-ระดมความคิด ชมภาพยนตร์ขาวดำที่อยู่เหนือกาลเวลา

กำหนดการ
วันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๑.๒๐ น. ณ หอประชุมพูนศุข พนมยงค์ ชมภาพยนตร์เรื่อง
พระเจ้าช้างเผือก (THE KING OF THE WHITE ELEPHANT 1941) Audio Thai B&W Running Time 100 minutes A film by Pridi Banomyong

ภาพยนตร์ที่เป็นต้นธารของการสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมสันติภาพของชุมชนศิลปวัฒนธรรม สถาบันปรีดี พนมยงค์

เวลา ๑๓.๐๐ น.
นำเสนอคำอธิบายการเชื่อมโยงทางความคิดเรื่องการตีความสันติธรรมในงานศิลปะของคณะราษฎร
และในงานศิลปะเรื่องพระเจ้าช้างเผือกสู่การแปรเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน โดย สินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย ระดมความคิดวิจารณ์ทัศนะที่นำเสนอ โดยผู้เข้าร่วมงาน

ฉายภาพยนตร์เรื่อง
WINTER OF THREE HAIRS (SANMAO) 1949 (สร้างครั้งแรก)
Audio Mandarin / Thai Subtitles B&W Running Time 74 minutes
Director by GOND YAN, MING ZHAO
From The Novel by HANSHENG YANG

ภาพยนตร์เรื่องแรกหลังการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับความนิยมสูงสุด
นักแสดงผู้รับบท SANMAO ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักแสดงเด็กที่เก่งที่สุดในโลกภาพยนตร์จีน
ไม่เคยฉายตามโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย แปลบทบรรยายไทยใหม่เพื่อการฉายครั้งนี้โดยเฉพาะ
ภาพยนตร์ที่เสมือนจุดเริ่มต้นทำให้เกิดภาพลายเส้น ‘เจ้าแกละ’ ของสินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย

ฉายภาพยนตร์เรื่อง
SHOUDER ARMS 1918
SiIent with Thai Subtitles B&W Running Time 46 minutes
Written, Director, Produced, Scored, Starring by CHARLES CHAPLIN
ภาพยนตร์เงียบต่อสู้การรุกรานของอธรรมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ด้วยอารมณ์ขัน
จบรายการ

แนวคิดอุดมการณ์สันติธรรมและประชาธิปไตยสมบูรณ์ของท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ผู้เป็นแกนหลักและมันสมองของคณะราษฎรซึ่งทำการอภิวัฒน์เปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์พระมหากษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย มาเป็นระบอบประชาธิปไตย พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ นั้น ในเวลาต่อมาสถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้ทำการสืบทอดปณิธานอันยิ่งใหญ่นี้ โดยอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมของสถาบันให้ประสานสัมพันธ์อย่างเหมาะ สมกับปัจจุบัน เสริมสร้างความเข้าใจอันดีในด้านทัศนคติที่เกี่ยวเนื่องกับเจตนารมณ์เพื่อ ให้ราษฎรทั้งหลายมีความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม

กล่าวสำหรับการสร้างสันติธรรมและประชาธิปไตยสมบูรณ์ผ่านงานทางศิลปวัฒนธรรม ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ และคณะราษฎร ให้ความสำคัญมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่างานทางด้านอื่น อีกทั้งยังคิดค้นรูปแบบวิธีการสร้างสรรค์จนเกิดเป็นสายธารศิลปะเพื่อ ประชาธิปไตยขึ้น สร้างสัญลักษณ์ ผ่านศิลปะเพื่อกระตุ้นเตือนสำนึกรู้และตอกย้ำในเรื่องสันติภาพ ภราดรภาพ ประชาธิปไตย เป็นการวางรากฐานให้กับงานศิลปวัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าแก่สังคมไทย

ฝ่ายศิลปกรรมสถาบันปรีดี พนมยงค์ เล็งเห็นคุณค่าและถือเป็นภารกิจสำคัญต่อการสืบสานพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมภาย ใต้แนวความคิดปรีดี พนมยงค์ โดยจะเห็นได้จากการจัดโครงการศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ตั้งแต่เปิดดำเนินการเป็นต้นมา

ในวาระครบรอบ ๘๐ ปี การอภิวัฒน์ประชาธิปไตยสยามนี้เห็นควรให้มีการจัดโครงการต้นธารศิลปะ สันติภาพ ภราดรภาพ ประชาธิปไตย เพื่อนำเสนอการทำงานภายใต้ความคิดดังกล่าวให้สาธารณชนประจักษ์

โครงการชื่อ ต้นธารศิลปะสันติภาพ ภราดรภาพ ประชาธิปไตย

วัตถุประสงค์
๑. เพื่อเชิดชูอุดมการณ์สันติธรรม และประชาธิปไตยสมบูรณ์ของท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ในวาระครบรอบ ๘๐ ปี อภิวัฒน์ประชาธิปไตยสยาม
๒. เพื่อนำเสนอความคิดการทำงานศิลปวัฒนธรรมของฝ่ายศิลปกรรมสถาบันปรีดี พนมยงค์
๓. เพื่อเปิดพื้นที่รับฟังคำเสนอแนะการสร้างสรรค์กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อสันติธรรม ภราดรภาพ ประชาธิปไตย

กลุ่มเป้าหมาย ตัวแทนชุมชนทางศิลปวัฒนธรรม สถาบันปรีดี พนมยงค์
ตัวแทนเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมทั่วไป
ตัวแทนองค์การชมรม กลุ่ม ผู้สร้างเสริมสันติภาพประชาธิปไตย
ตัวแทนนิสิตนักศึกษา / ผู้สนใจทั่วไป

สถาบันปรีดี พนมยงค์ เลขที่ ๖๕ / ๑ ถ.สุขุมวิท ๕๕ (ซอยทองหล่อ) กรุงเทพฯ
เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ (ทางออกที่ ๓) Tel : o๒-๓๘๑o-๓๘๖-๑
E-mail : banomyong_inst@yahoo.com/ //www.pridiinstitute.com/ Facebook : pridi banomyong Inst

ภาพและข้อมูลจากเวบ
นสพ.จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ
thaingo.org
pridiinstitute.com

“นิทรรศการศิลปกรรม ครั้งที่ ๕”

อ.ชาลี สดประเสริฐ ประธานชมรมจิตรกรวันหยุดแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑o โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสอนผู้ที่สนใจในงานศิลปะแต่ไม่ได้เรียนในสถาบัน โดยตรง ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้หลักการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ซึ่งได้เปิดสอนมาเป็นเวลา ๔๕ ปี แล้ว โดยมีหลักการว่า “สอนให้เขียนรูปเป็นและดูศิลปะเป็นเพราะการสร้างสรรค์งานศิลป์ ถ้ามีหลักตั้งแต่แรกก็จะต่อยอดเองได้”

“นิทรรศการศิลปกรรม ครั้งที่ ๕” เป็นการนำผลงานจิตรกรรมของสมาชิกชมรมฯ มาจัดแสดงเพื่อต้องการถ่ายทอดผลงานให้ผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะได้ชื่นชม โดยใช้งานศิลป์เป็นสื่อกลางในการแสดงออกและเป็นการสะท้อนแนวคิดทาง สุนทรียศาสตร์แบบหลากหลายลีลา ตามรูปแบบที่ตนเองถนัดในการสร้างสรรค์ผลงาน

ขอเชิญชม “นิทรรศการศิลปกรรม ครั้งที่ ๕” ผลงานของชมรมจิตรกรวันหยุดแห่งประเทศไทย ระหว่าง วันที่ ๕ – ๓๑ ตุลาคม ศกนี้ ตั้งแต่เวลา o๙.oo – ๒๑.oo น. ณ บริเวณลานนิทรรศการ ชั้น ๓ ของโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ รายได้จากการจำหน่ายภาพบางส่วนบริจาคสมทบทุนองค์กรการกุศล

ภาพและข้อมูลจากเวบ
นสพ.คม ชัด ลึก ๒๕ ต.ค. ๒๕๕๕
hiclasssociety.com

"ความงามในความไร้ระเบียบของสังคมเมือง"

จากความรีบเร่งและความวุ่นวายในสังคมเมือง ประกอบกับทัศนียภาพที่แออัดของสิ่งปลูกสร้างที่ไร้ระเบียบ มีทั้งที่กลมกลืมกัน ทั้งที่ขัดแย้งกัน อันเนื่องมาจากความหลากหลายทางความคิด ชนชั้น เชื้อชาติ ศาสนาค่านิยม และวัฒนธรรม ก่อให้เกิดเอกลักษณ์ ระบบระเบียบแบบแผนทางสถาปัตยกรรม สิ่งปลูกสร้างอันมีลักษณะเฉพาะตามแต่ละชาติ ภาษาและวัฒนธรรม เช่น ผังเมือง สีสัน โครงสร้างสถาปัตยกรรม องค์ประกอบต่างๆที่รวมตัวกันขึ้นก่อให้เกิดเป็นโครงสร้างของเมืองที่เมื่อ มองผ่านความงามทางสุนทรียศาสตร์แล้ว ทำให้ เจษฎา ขำเพ็ง ศิลปิน หนุ่มรุ่นเยาว์ กลั่นกรองความคิดแลจิตนาการ สื่อสารออกมาเป็นภาพเขียน ในชื่อชุด “ความงามในความไร้ระเบียบของสังคมเมือง” และนำผลงานทั้ง ๓o ชิ้นนี้ มาจัดแสดง ณ พื้นที่ศิลปะ ชั้น ๒ (Art Zone) ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ระหว่างวันที่ ๒๕ ตุลาคม – ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

“ผมเห็นความงามอันประกอบด้วยโครงสร้างทางทัศนธาตุของรูปทรง สี จุด เส้น น้ำหนักแสง-เงา พื้นผิว และพื้นที่ว่าง จังหวะ ลีลาความเคลื่อนไหว แสง เสียง กลิ่น สัมผัสที่แวดล้อมอันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในอารมณ์ความรู้สึก ในทัศนคติของผม สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์เป็นสภาวะทางอารมณ์ เป็นองค์ประกอบทางศิลปะที่มีความงามในเชิงสุนทรียศาสตร์ เป็นโครงสร้างของเมืองที่สะท้อนวิถีชีวิตสังคมเมือง สะท้อนภาวะทางอารมณ์ของคนเมืองซึ่งในที่นี่คือตัวผมเอง” เจษฎากล่าว

โครงสร้างแห่งความไร้ระเบียบที่ถูกบดบังด้วยความเหมือนจริงตามตาเห็นนั้น สร้างความประทับใจให้แก่ศิลปิน และได้แปลให้เป็นภาษาศิลปะที่มีชั้นเชิงและสวยงาม เป็นภาษาที่ไม่ได้มองแค่ด้วยสายตา ไม่ได้สัมผัสแค่สิ่งที่เห็นว่าเป็นหรือมีอยู่จริง ความงามนี้ถูกขัดเกลาออกมาในลักษณะลดทอน การเบลอภาพความจริงเพื่อให้เห็นความความงามและความจริงแท้ และนี่คือสิ่งบันดาลใจในการนำเสนอมุมมองความงาม และมิติทางอารมณ์ส่วนตัว ผ่านผลงานจิตรกรรมสีอครีลิคในรูปแบบศิลปะกึ่งนามธรรมและนามธรรม

ขอเชิญผู้สนใจและรักในงานศิลปะ ร่วมชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับศิลปินได้ตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น

ภาพและข้อมูลจากเวบ
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ๒๕ ต.ค. ๒๕๕๕
rivercity.co.th

"พลงรัก เพลงเด็ก เพลงผี เพลงดี ครูมนัส ปิติสานต์ จินตนาการไม่รู้จบ"
( Rustic Scenery of the past )

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จัด Bangkok Music Forum ครั้งที่ ๒ เชิญครูมนัส ปิติสานต์ ศิลปินเจ้าของบทเพลงรักและเพลงผีอันโด่งดัง อย่าง เสน่หา ฝันกลางฤดูฝน แม่นาคพระโขนง ปอบผีฟ้า ฯลฯ มาเล่าชีวิตและผลงานซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมพูดคุยกับลูกศิษย์ในวงการ และฟังเพลงดังจากวงกอไผ่ นับเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากในการที่จะได้ร่วมฟังและพบปะพูดคุยกับศิลปินเพลง ชั้นครูผู้นี้ ในเสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา๑๕.๓o น. เป็นต้นไป ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น ๕

การจัดงาน Bangkok Music Forum ครั้งที่ ๒ นี้ มีชื่องานว่า “เพลงรัก เพลงเด็ก เพลงผี เพลงดี ครูมนัส ปิติสานต์ จินตนาการไม่รู้จบ” เพื่อเสวนาเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี โดยครูมนัส ปิติสานต์ ผู้ซึ่งมีการสร้างสรรค์งานดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเพลงประกอบละครโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผี เพลงรัก และเพลงประกอบภาพยนตร์ อาทิ เพลงแม่นาคพระโขนง เพลงหุ่นไล่กา เพลงห้องหุ่น เพลงปอบผีฟ้า เพลงดาวพระศุกร์ เพลงพิภพมัจจุราช ฯลฯ ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจศึกษาถึงการสร้างสรรค์ผลงานของท่าน

นอกจากนี้ มีการพูดคุยถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน และแรงบันดาลใจที่ส่งอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงาน ประกอบกับการแสดงความเห็นจากผู้สร้างสรรค์ผลงานในแวดวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งแวดวงบันเทิงหรือรายการโทรทัศน์ ศิลปินด้านศิลปะการแสดง นักวิชาการทางด้านดนตรี พบกับการแสดงดนตรีจากวงกอไผ่ และการนำบทเพลงจากปลายปากกาของครูมนัสมาขับร้องโดยลูกศิษย์มากมาย และกล่าวถึงผลงานที่เคยสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ โดยมีตัวอย่างการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ อันหลากหลายมาแสดงให้ผู้ชมได้รับชมด้วย

โครงการ Bangkok Music Forum ของหอศิลปกรุงเทพฯ เป็นกระบวนการหนึ่งในการรณรงค์ให้สังคมรู้รักศิลปการแสดงดนตรี ในแง่มุมที่ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของศิลปวัฒนธรรม เป็นการกระตุ้นให้ผู้คนในสังคมมีการเปิดรับความรู้และได้รับชมการแสดงดนตรี และการเสวนาเกี่ยวกับเนื้อหาสาระทางดนตรีที่หลากหลายรูปแบบ เรียนรู้การแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างศิลปินและผู้ชม เพื่อเป็นเวทีของการแสดงจากศิลปินหรือผู้สร้างสรรค์ผลงานให้ได้มีพื้นที่ แสดงงานสู่สังคม และเกิดการเชื่อมโยงระหว่างผู้เล่นดนตรีและผู้ฟังดนตรี เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์กันในเชิงของการเสพสื่อศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง

พบกับเรื่องราวการสร้างสรรค์ผลงานเพลงกับ ครูมนัส ปิติสานต์ ผู้สร้างตำนานให้วงการเพลงไทย พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของครู รศ.ดร.กาญจนา อินทรสุนานนท์, ประดิษฐ์ ปราสาททอง, กพล ทองพลับ พร้อมรับฟังบทเพลงไพเราะจากปลายปากกาของครูมนัส โดยวงกอไผ่ และนักร้องรับเชิญ อาทิ ฝันกลางฤดูฝน เสน่หา ดาวพระศุกร์ ขุนแผนผจญภัย หุ่นไล่กา ห้องหุ่น พิภพมัจจุราช ขวานฟ้าหน้าดำ แม่นาคพระโขนง ดำเนินรายการโดย อาจารย์อานันท์ นาคคง

*ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการร่วมเสวนา*

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร o๒-๒๑๔-๖๖๓o-๘ ต่อ ๕๓o

กำหนดการเสวนา Bangkok Music Forum ครั้งที่ ๒
“เพลงรัก เพลงเด็ก เพลงผี เพลงดีครูมนัส ปิติสานต์ จินตนาการไม่รู้จบ”
ด้านหน้าห้องออดิทอเรียม จัดแสดงนิทรรศการเรื่องผลงานครูมนัส ปิติสานต์ และงานศิลปะที่เกิดจากละครโทรทัศน์สยองขวัญ

๑๕.๓o น. ชมวิดีทัศน์ผลงานเพลงครูมนัส และวิดีทัศน์สัมภาษณ์
๑๖.oo น. พิธีกรกล่าวต้อนรับ วงกอไผ่บรรเลงเพลงรัก
สเน่หา - เปลวไฟรัก – ระฆังใจ : อุมาพร บัวพึ่ง
เธอก็รู้ –เหมือนคนละฟากฟ้า : ผศ.ชาญชัย อินทรสุนานนท์
สามปอยหลวง : รศ.ดร.กาญจนา อินทรสุนานนท์
ดาวพระศุกร์: จตุพร ใจฟอง
เจ้าสาวชุดสีดำ : ยุวรินทร์ ประกอบสุข
ฝันกลางฤดูฝน: โสภิดา เกษมโกสินทร์

๑๖.๓o น. เชิญครูมนัส ปิติสานต์ เสวนาเรื่องชีวิตและผลงาน

๑๗.oo น. ชมวิดีทัศน์ละครสยองขวัญและละครจักรๆวงศ์ๆสำหรับเด็ก

๑๗.o๕ น. วงกอไผ่ บรรเลงเพลงเด็กและเพลงผี
แม่นาคพระโขนง : ยุวรินทร์ ประกอบสุข
ปอบผีฟ้า : จตุพร ใจฟอง
และนักร้องวงกอไผ่ในเพลงขุนแผนผจญภัย
- หุ่นไล่กา
– พิภพมัจจุราช
- ขวานฟ้าหน้าดำ
- กระสือ
- ห้องหุ่น

๑๗.๔๕ น. เสวนา แรงบันดาลใจจากงานเพลงครูมนัสกับงานสร้างสรรค์
โดย ประดิษฐ ปราสาททอง, รศ.ดร.กาญจนา อินทรสุนานนท์
อ.อานันท์ นาคคง ดำเนินการเสวนา

๑๘.๑๕ น. ถาม-ตอบ และบทสรุป

๑๘.๓o น. มอบของที่ระลึก และปิดงาน

ภาพและข้อมูลจาก
นสพ.จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ ๒๕ ต.ค. ๒๕๕๕
bacc.or.th

"จาก"โทนี่-จา"สู่กราฟฟิตี้พ่นจินตนาการ"

หลายคนคิดว่ากลุ่มกราฟฟิตี้มีหน้าที่แค่พ่นสีสเปรย์บนกำแพง หากใครได้มาชื่นชมผลงานของพวกเขาในโครงการ ๘๔ พรรษา เทิดพระเกียรติ ๗ แรงบันดาลใจเทิดไท้องค์ราชัน ภายใต้แนวคิด "Pride of the Nation # 1 TONY JAA" อาจจะทำให้เปลี่ยนทัศนคติก็เป็นได้ เพราะต่างรวมพลังสำแดงฤทธิ์จินตนาการจากศิลปินกราฟฟิตี้ทั้งไทยและต่าง ประเทศ

วิทิตนันท์ โรจนพานิช หรือ "พี่หนึ่งเอเวอเรส" ผู้พิชิตหลังคาโลก และเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้งโครงการ เผยว่า เมื่อ ๙ ปีที่แล้ว ตัวเองได้รับมอบหมายจากสหมงคลฟิล์มสอนการแสดงให้กับโทนี่ จา หรือ จา-พนม ยีรัมย์ ซึ่งต่อมาก็ได้สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับประเทศไทย และสำหรับตัวเองก็ไปพิชิตเทือกเขาเอเวอเรส ซึ่งเป็นความฝันที่อยากจะทำเพื่อคนไทยอีกเช่นกัน พอมาในปีนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับโทนี่ จา อีกครั้งในโปรเจ็กต์ของสหมงคลฟิล์ม และได้พูดคุยถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา จึงนำไปสู่แนวคิดที่ว่า การที่คนไทยคนหนึ่งไปสร้างกระแสความสนใจเกี่ยวกับความเป็นประเทศไทย เราก็ไม่น่าจะปล่อยให้เป็นเพียงกระแส จึงอยากทำในสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยมูลนิธิฟื้นฟูเมืองและสมาคมเยาวชนกรุงเทพมหานคร

"พี่หนึ่ง" ขยายความถึงแรงบันดาลใจที่ลุกขึ้นมาทำโครงการนี้ว่า "โทนี่ จา" เป็นเหมือนคนบันดาลของเด็กรุ่นใหม่ในมุมมองการต่อสู้ การนำเอาศิลปะมวยไทยมาประยุกต์ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี สมบูรณ์พร้อมทั้งเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ อันบ่งบอกถึงความเป็นไทยที่มีความหลากหลาย ทางศิลปวัฒนธรรมเป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็น สร้างความภาคภูมิใจแก่คนในชาติมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยกระแสโลกาภิวัตน์ในยุคปัจจุบัน การหลั่งไหลเข้ามาของข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางการสื่อสารอันทันสมัย ทำให้ความภาคภูมิใจในทางด้านศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ต้องถูกบั่นทอนลง อยู่ในสภาวะวัตถุอยู่เหนือจิตใจ จึงอยากหล่อหลอมจิตใจให้กับเยาวชน โดยใช้ศิลปะแบบป็อปอาร์ตที่เข้าใจง่าย และให้แง่คิดที่ว่า การที่บุคคลหนึ่งถ้าจะทำสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ต้องทำอย่างไรบ้าง"

ภายในงานมีผลงานจาก ๑๓ ศิลปิน อาทิ พัชรพล แตงรื่น (ALEX FACE), อธิศา บุษยะกนิษฐ์, ดนัยพัฒน์ เลิศพุทธิตระการ (BON), ชัยวัฒน์ เสริมสุธีอนุวัฒน์, พีรพงศ์ อุทัยแพน (Zing), Tikky waw และเซเซ่ นอบรี (หยิก) เป็นต้น

"7 Prides of The Nation" จะมีคนบันดาลใจทั้งหมด ๗ ศิลปิน ได้แก่ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบลู, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, บอย โกสิยพงษ์, บัวขาว บัญชาเมฆ และ จา-พนม ยีรัมย์ ที่ในวันนี้ได้เกิดผลงานจากศิลปินกราฟฟิตี้ และได้นำมาจัดแสดงเป็นที่เรียบร้อย


ตัวอย่างผลงานจาก "บอน" ดนัยพัฒน์ เลิศพุทธิตระการ มือพ่นที่ขอแหวกแนวโดยการละเลงสีสเปรย์บนเศษอิฐและเศษแผ่นปูน พร้อมเชื่อมโยงกับวีดิทัศน์เรื่อง "พฤกษา" ถ่ายทอดเรื่องราวของช้างไทยที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้เล่าว่า พอรู้ว่าคนต้นแบบครั้งนี้ คือ โทนี่ จา สิ่งแรกที่นึกถึงคือช้าง เพราะเป็นภาพแรกที่เขาเองได้สัมผัสและเห็นในภาพยนตร์ จึงลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลที่อยุธยา พบว่าช้างที่มีอยู่ในปัจจุบันมีจำนวนน้อย และดูเหมือนค่อย ๆ จะหมดความสำคัญลงไปเรื่อย ๆ


"ช้างถูกลดความสำคัญลงในยุคนี้ จากบทบาทที่นำทัพออกรบ กลายเป็นสัตว์ใหญ่ที่คนไทยหลงลืม และแห่แหนไปชื่นชมหมีแพนดา ซึ่งมองว่าไม่ใช่สำนึกที่ถูกต้อง ผลงานชิ้นนี้จะให้คุณค่าการตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของช้าง ตลอดจนโทนี่ จา ทำให้คนไทยกลับมาสนใจช้างผ่านการถ่ายทอดในภาพยนตร์" บอนกล่าว

อีกผลงานหนึ่งในมุมมองของศิลปินกราฟฟิตี้ชาวบราซิล เซเซ่ นอบรี หรือ "หยิก" ที่มีความโดดเด่นและสะท้อนความเป็นฮีโร่ของไปอย่างชัดเจน ผ่านการพ่นสีเปรย์บนผืนผ้าใบ โดยใช้สีเขียว เหลือง และน้ำเงิน ของธงชาติบราซิล เซเซ่เผยว่า เคยได้ดูภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 1 ในปี 2004 เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นและการถ่ายทอดความสวยงามของลีลาการต่อสู้ และการมีจิตสำนึกรักในชาติ จึงรู้สึกว่าโทนี่ จา เป็นเหมือนต้นแบบของคนไทย การที่ได้รับเชิญมาครั้งนี้จึงสะท้อนผลงานที่เรียกว่า ภาพบุคคลที่บ่งบอกถึงความเป็นฮีโร่ในใจของชาวบราซิล ด้วยมีความคล้ายคลึงกับชาวบราซิลในด้านของการมีจิตสำนึก และทำให้เรานึกไปถึงบรรพบุรุษที่สร้างประเทศด้วย จึงเป็นที่มาของการนำสีของธงชาติมาสะท้อนในผลงานที่ชื่อว่า "Protecter" หรือผู้คุ้มครองนั่นเอง

นิทรรศการผลงานของเหล่ากราฟฟิตี้จัดแสดงถึงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ณ อาร์ทเทอรี่ โพสโมเดิร์น แกลเลอรี่ สีลม ซอย ๑๙ เปิดให้เช้าชมในเวลา ๑o.oo - ๑๙.oo น. ทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ พร้อมกับติตามผลงานจากคนต้นแบบ ๖ ท่านได้ที่ //www.arterybangkok.com ในการจัดแสดงผลงานครั้งต่อไ

ภาพและข้อมูลจาก
thaipost.net blog.streetinnature.com

"ความฝันของหญิงสาวในยามราตรี"

โรทุนดาและการ์เด็นท์ แกลเลอรี่ เนลสัน เฮ ไลเบรลี่ ขอเชิญเข้าร่วมงานนิทรรศการภาพพิมพ์อะคลิลิคสื่อผสม ผลงานศิลปะของ ลีซ่า มอสซิส “ความฝันของหญิงสาวในยามราตรี”

รายได้ส่วนหนึ่งจากงานแสดงผลงานศิลปะครั้งนี้ ร่วมสนับสนุน กิจกรรมของเดอะโซลด์ โปรเจค เดอะโซลด์ โปรเจคเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายสำคัญในการดำเนินกิจกรรมป้องกันการค้ามนุษย์ ในเด็ก

วันเปิดนิทรรศการ : ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.oo ณ – ๒o.๓o
นิทรรศการ : ความฝันของหญิงสาวในยามราตรี ศิลปิน : ลีซ่า มอสซิส วันที่ : ๓ พฤศจิกายน – ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ สถานที่ : โรทุนดาและการ์เด็นท์ แกลเลอรี่ เนลสัน เฮ ไลเบรลี่ ติดต่อโทร : o๒-๒๓๓-๑๗๓๑

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 25 ตุลาคม 2555

0 comments

Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 19:03:15 น.

Counter : 23602 Pageviews.