Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร



 ประวัติ


ตามตำนานพระธาตุพนม ในอุรังคนิทานกล่าวว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยทางอากาศ ได้มาลงที่ดอนกอนเนา แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ (เวียงจันทน์) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา จากนั้นได้เสด็จไปตามลำดับ ได้ทรงประทานรอยพระพุทธบาทไว้ที่ โพนฉัน (พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แล้วเสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขง ไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูรณ์ พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงฮังเมืองสุวรรณเขต) แล้วกลับมาทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) ที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ พญาอินทร์ได้เสด็จมาเฝ้าและทูลถามพระพุทธองค์ ถึงเหตุที่มาประทับที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์เมื่อนิพพานแล้ว พระมหากัสสปะ ผู้เป็นสาวก ก็จะนำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน จากนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรงปรารภถึงเมืองศรีโคตบูร และมรุกขนคร แล้วเสด็จไปหนองหารหลวง ได้ทรงเทศนาโปรดพญาสุวรรณพิงคาระ และพระเทวี ประทานรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นั้น แล้วเสด็จกลับพระเชตวัน หลังจากนั้นก็เสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินารา



องค์พระธาตุพนมและพระวิหารหลวงยามค่ำคืน

เมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว มัลลกษัตริย์ทั้งหลายได้ถวายพระเพลิงพระสรีระ แต่ไม่สำเร็จ จนเมื่อพระมหากัสสปะมาถึงได้อธิษฐานว่า พระธาตุองค์ใดที่จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่ภูกำพร้า ขอพระธาตุองค์นั้นเสด็จมาอยู่บนฝ่ามือ ดังนี้แล้ว พระอุรังคธาตุ ก็เสด็จมาอยู่บนฝ่ามือขวาของพระมหากัสสปะ ขณะนั้นไฟธาตุก็ลุกขึ้นโชติช่วง เผาพระสรีระได้เองเป็นอัศจรรย์ เมื่อถวายพระเพลิงและแจกพระบรมสารีริกธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ มาทางอากาศ แล้วมาลงที่ดอยแท่น (ภูเพ็กในปัจจุบัน) จากนั้นได้ไปบิณฑบาตที่เมืองหนองหารหลวง เพื่อบอกกล่าวแก่พญาสุวรรณพิงคาระ ตำนานตอนนี้ตรงกับตำนานพระธาตุเชิงชุม และพระธาตุนารายณ์เจงเวง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่แล้ว เมื่อพญาทั้ง 5 ซึ่งอยู่ ณ เมืองต่าง ๆ อันได้แก่ พญานันทเสน แห่งเมืองศรีโคตบูร พญาจุลณีพรหมทัต พญาอินทปัตถนคร พญาคำแดง แห่งเมืองหนองหารน้อย และพญาสุวรรณพิงคาระ แห่งเมืองหนองหารหลวง ได้พากันปั้นดินดิบก่อแล้วเผาไฟ ตามคำแนะนำของพระมหากัสสปะ แบบพิมพ์ดินกว้างยาวเท่ากับฝ่ามือพระมหากัสสปะ ครั้นปั้นดินเสร็จแล้วก็พากันขุดหลุมกว้าง 2 วา ลึก 2 ศอก เท่ากันทั้ง 4 ด้าน เมื่อก่อดินขึ้นเป็นรูปเตา 4 เหลี่ยม สูง 1 วา โดยพญาทั้ง 4 แล้ว พญาสุวรรณภิงคาระก็ได้ก่อส่วนบน โดยรวมยอดเข้าเป็นรูปฝาปารมีสูง 1 วา รวมความสูงทั้งสิ้น 2 วา แล้วทำประตูเตาไฟทั้ง 4 ด้าน เอาไม้จวง จันทน์ กฤษณา กระลำพัก คันธรส ชมพู นิโครธ และไม้รัง มาเป็นพื้น ทำการเผาอยู่ 3 วัน 3 คืน เมื่อสุกแล้วจึงเอาหินหมากคอยกลางโคก มาถมหลุม เมื่อสร้างอุโมงค์ดังกล่าวเสร็จแล้ว พญาทั้ง 5 ก็ได้บริจาคของมีค่าบรรจุไว้ในอุโมงค์เป็นพุทธบูชา จากนั้น พระมหากัสสปะ ก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ เข้าบรรจุภายในที่อันสมควร แล้วให้ปิดประตูอุโมงค์ไว้ทั้ง 4 ด้าน โดยสร้างประตูด้วยไม้ประดู่ ใส่ดาลปิดไว้ทั้ง 4 ด้าน แล้วให้คนไปนำเอาเสาศิลาจากเมืองกุสินารา 1 ต้น มาฝังไว้ที่มุมเหนือตะวันออก แปลงรูปอัศมุขี (ยักษิณีหน้าเป็นม้า) ไว้โคนต้นเพื่อเป็นหลักชัยมงคลแก่บ้านเมืองในชมพูทวีป นำเอาเสาศิลาจากเมืองพาราณสี 1 ต้น ฝังไว้มุมใต้ตะวันออก แปลงรูปอัศมุขีไว้โคนต้น เพื่อหมายมงคลแก่โลก นำเอาเสาศิลาจากเมืองตักศิลา 1 ต้น ฝังไว้มุมเหนือตะวันตก พญาสุวรรณพิงคาระให้สร้างรูปม้าอาชาไนยไว้ตัวหนึ่ง หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อแสดงว่าพระบรมธาตุเสด็จออกมาทางทิศทางนั้น และพระพุทธศาสนาจักเจริญรุ่งเรืองจากเหนือเจือมาใต้ พระมหากัสสปะให้สร้างม้าพลาหกไว้ตัวหนึ่ง คู่กัน หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อเป็นปริศนาว่า พญาศรีโคตบูรจักได้สถาปนาพระอุรังคธาตุไว้ตราบเท่า 5,000 พระวัสสา เกิดทางใต้และขึ้นไปทางเหนือ เสาอินทขีล ศิลาทั้ง 4 ต้น ยังปรากฏอยู่ 2 ต้น ทางทิศตะวันออก ส่วนอีก 2 ต้น ได้ก่อหอระฆังหุ้มไว้ ส่วนม้าศิลาทั้ง 2 ตัว ก็ยังปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน



องค์พระธาตุพนมยามค่ำคืน

  •     พระธาตุพนมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ การบูรณะครั้งแรกและครั้งที่สอง ไม่ได้บันทึกปีที่บูรณะไว้ การบูรณะครั้งที่สามเมื่อปี พ.ศ. 2157
  •     พ.ศ. 2223-2225 และเป็นรูปแบบที่นิยมในอีสาน
  •     พ.ศ. 2233 พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) ปฏิสังขรณ์พระธาตุให้สูงขึ้น
  •     พ.ศ. 2483 รัฐบาลได้บูรณะให้สูงขึ้น
  •     พ.ศ. 2518 องค์พระธาตุพนมชำรุดล้มลง ทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ ให้คงสภาพเดิม
  •     พ.ศ. 2522 การบูรณะโดยภาครัฐและเอกชน

เมื่อปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร" ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. ด้วยเหตุที่มีฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวันและความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ พระธาตุ

พนมจึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์

และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นบรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม



ผอูบ (เก่า) ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
  • บ่อน้ำวัดพระธาตุพนม

น้ำบ่อวัดพระธาตุพนม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุ บริเวณกำแพงชั้นนอก ห่างจากพระธาตุพนมประมาณ 30 วา (60 เมตร) บ่อ กว้าง 1.50 เมตร ลึก 10 เมตร กรุข้างบ่อด้วยไม้แดง บ่อน้ำเก่าแก่ น้ำใส รสจืดสนิท และมีน้ำอยู่ตลอดปี ราษฎรส่วนมากใช้น้ำในบ่อนี้เป็นน้ำดื่ม และใช้เป็นน้ำอภิเษกของจังหวัดนครพนมมีอยู่เพียงแห่งเดียว สถานที่ประกอบพิธีน้ำอภิเษก คือ บ่อน้ำพระอินทร์บริเวณพระธาตุพนม


ปฏิทินงานวัดพระธาตุพนม

- งานนมัสการพระธาตุพนม ตรงกับขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 รวม 9 วัน 9 คืน

- งานพระธาตุพนมรำลึกและมอบทุนการศึกษา แก่ผู้สอบได้บาลี ตรงกับวันที่ 11 สิงหาคน ของทุกปี

- งานสัตตนาคารำลึก งานรำลึกถึงพยานาคทั้ง 7 ตน ที่ดูแลพระธาตุพนม ตรงกับขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11



  • ประจำปี 2556

วันที่ 9 ตุลาคม ภาคบ่ายตั้งเครื่องสักการะบูชา 18.00 น. ทำวัตรเย็น 20.00 น. เจริญพระพุทธมนต์ 02.00 น. เจริญชัยมงคลคาถา

วันที่ 10 ตุลาคม ภาคเช้าทำบุญตักบาตร 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสามเณร

- งานบูรพาจารย์รำลึก ทำบุญอุทิศให้อดีตเจ้าอาวาส และบูรพาจารย์ของวัดพระธาตุพนมตรงกับขึ้น 8 ค่ำ เดือน11

ดาวน์โหลดกำหนดการวันบุรพาจารย์ ประจำปี 2556

- วันมหาปวารณาออกพรรษา , รำบูชาพระธาตุพนม ตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม 2556

- พระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2556 วันที่ 28 ตุลาคม ตั้งพระกฐินพระราชทาน วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ทอดถวายพระกฐินพระราชทาน

- งานอายุวัฒนมงคล พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ตรงกับวันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปี



ยอดฉัตรพระธาตุพนมองค์เก่า (ทองคำประดับอัญมณี)

วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบันมี พระเทพวรมุนี เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า (เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม



  • ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสามัญ     พระธาตุพนม
ที่ตั้ง     ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม 48110
ประเภท     พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร
นิกาย     เถรวาท
ความพิเศษ     - ประดิษฐานพระอุรังธาตุ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวลาทำการ     05.00-20.00 น.


ติดต่อวัดพระธาตุพนม

ที่อยู่ : วัดพระธาตุพนม 183/13 ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม 4 8 1 1 0

เว็บไซต์ : //www.watthat.com , //www.songnkp.com , //www.songnkp.info

เบอร์ติดต่อ : 08 6459 8797 , 08 2843 3340 , 08 7220 9497

Fax : 0 4252 5026


อ้างอิง

  •     วัดพระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
  •     ธาตุพนมดอตคอม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
  •     สวัสดีนครพนมดอตคอม
  •     ธรรมะไทย

ขอบคุณภาพและข้อมูล วิกิพีเดีย

ตกแต่งบล็อกภาพสวยๆจาก....
  • lozocat
  • Paradijs
  • เนยสีฟ้า
  • คุณชมพร
  • เรือนเรไร
  • ดอกหญ้าเมืองเลย
  • กุ๊กไก่




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2557
8 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 10:49:56 น.
Counter : 5321 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณ Opey ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนานมาก
พอดีเดินทางค่ะ กลับมาก็ยุ่งๆๆๆ เลยทิ้งไปบล๊อกไปเป็นเดือนๆเลย
คุณ Opey สบายดีนะคะ

พระธาตุพนมแอ๊กเห็นครั้งแรกตอนยังเล็กๆอยู่เลย
ตอนนั้นพ่อไปราชการประจำอยู่ที่นครพนมปีนึง
แม่ก็เลยต้องหอบหิ้วพวกเราไปเยี่ยมพ่อทุกเดือน
ครั้งแรกที่เห็นพระธาตุพนมตื่นเต้นมาก เพราะโตมาแถวชลบุรี
ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ สวยมากๆเลยค่ะ
เห็นภาพสถานที่สวยๆของไทยแล้วคิดถึงบ้านจังเลย
ยิ่งช่วงนี้ยุโรปอากาศร้อนได้ที่เลย คิดถึงทะเลไทยสุดๆเลยค่ะ

 

โดย: ปลาทอง9 26 พฤษภาคม 2557 14:09:39 น.  

 

Opey Art Blog ดู Blog


ชอบไปชมวัดต่างจังหวัด มีศิปะเก่าแก่ให้ชื่นชมด้วยกันทั้งนั้นค่ะ

 

โดย: ดอยสะเก็ด 26 พฤษภาคม 2557 17:43:01 น.  

 

Opey Art Blog ดู Blog
ฝันไว้ว่าชีวิตนี้ก่อนตาย ขอให้ได้ไปกราบนมัสการองค์พระธาตุนครพนมสักครั้งหนึ่งขอรับ

 

โดย: ขุนเพชรขุนราม 27 พฤษภาคม 2557 1:36:50 น.  

 

เคยไปไหว้ครั้งหนึ่งตอนเป็นนักศึกษา
บ้านเพื่อนอยู่นครพนมค่ะ
หวังว่าสักวันจะต้องไปไหว้อีกครั้ง
โหวตค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
สมาชิกหมายเลข 861805 Food Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
Opey Art Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: pantawan 28 พฤษภาคม 2557 21:27:55 น.  

 

Opey Art Blog ดู Blog


ศิลปะวัฒนธรรมแบบโบราณที่สวยงามหาดูได้ตามวัดแทบทุกวัด

 

โดย: เวียงแว่นฟ้า 28 พฤษภาคม 2557 22:22:21 น.  

 

บูรณะครั้งล่าสุดแล้วยิ่งงามกว่าเดิมครับ
เป็นศิลปะที่เรียบๆแต่วิจิตรบรรจงมาก

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Opey Art Blog ดู Blog



 

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 29 พฤษภาคม 2557 9:21:16 น.  

 

ขอบคุณค่ะสำหรับคะแนนโหวต.. ไว้ว่างๆจะเดินไปเยี่ยมทุกท่านจ้ะ

 

โดย: Opey 30 พฤษภาคม 2557 6:36:16 น.  

 

 

โดย: belle1 2 มิถุนายน 2557 1:53:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


โอพีย์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




Occupation A Certified Nursing Assistant(CNA)@ USA
and Blogger at Bloggang Thailand.




BlogGang Popular Award #10

BlogGang Popular Award #11

Free counters!
Friends' blogs
[Add โอพีย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.