ศึกเชียงตุงในรัชกาลที่ 4 การตีความใหม่ชี้“กันท่า” มากกว่า “ยึดครอง”
กรฤกษ์ นานา นักวิชาการทางประวัติศาสตร์
การรบในศึกเชียงตุงเป็นการแผ่อิทธิพลของสยามอย่างผิวเผินเพื่อความเป็นต่อทางการเมืองเท่านั้น มิได้ถูกตั้งเป็นนโยบายหลักเพื่อการขยายอำนาจในรัชกาลที่ ๔ เลย ผลของสงครามจึงจบลงอย่างสูญเปล่าโดยปริยาย และเป็นบทเรียนราคาแพงในประวัติศาสตร์การรบของไทยยุครัตนโกสินทร์ที่ถูกเปิดเผยน้อยที่สุด
สยามเกิดความคาดหวังสูง เพราะไปรบกับเมืองขึ้นขนาดกระจ่อยร่อยที่ไร้พิษสง และไม่อาจจะต้านทานกองทัพขนาดมหึมาของสยามได้ อีกทั้งพม่าก็กำลังติดพันในสงครามกับอังกฤษ สยามจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบในเบื้องต้น และเนื่องจากมีเดิมพันสูง เพื่อรักษาเมืองขึ้นเก่าแก่ของสยามคือเชียงรุ้งเอาไว้ เป็นการเสริมบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยองค์ใหม่ (รัชกาลที่ ๔) ที่เพิ่งจะขึ้นครองราชย์
ทั้งอังกฤษซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจก็ยังมิได้สนใจเมืองเชียงตุง สยามจึงปราศจากความกดดันทางการเมืองจากภายนอกประเทศ จึงมีความเป็นไปได้สูง และเป็นทางลัดที่สยามจะได้แสดงแสนยานุภาพทางการรบที่เคยมีเหนือพม่าอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการตัดไม้ข่มนามบรรดาเมืองขึ้นอื่นๆ เช่น ดินแดนล้านช้าง เขมร และมลายู มิให้ได้ใจหรือหยิ่งผยองได้ ศึกเมืองเชียงตุงจึงเกิดขึ้นดังพระราชปณิธานและพระราชดำรัสขององค์รัชกาลที่ ๔ เองที่ตรัสว่า “เราไม่โลภอยากได้บ้านเมืองสิบสองปันนา แต่จะใคร่ได้แต่เกียรติยศให้เจ้าเมืองเชียงรุ้ง”
ศึกเชียงตุงในรัชกาลที่ 4 การตีความใหม่ชี้“กันท่า” มากกว่า “ยึดครอง”
________
คลิกชมภาพและอ่านต่อ....
Create Date : 08 มีนาคม 2557 |
Last Update : 8 มีนาคม 2557 7:09:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1158 Pageviews. |
|
|
|
|
|