► ►► . . เ ห ง า .....ทุ เ รี ย น ...แ ล ะ ห มู ตุ๋ น . ◄ ◄◄
เมื่อคืน ผมรู้สึกว่าตัวเอง “เหงา”
ผมรู้สึกหิวข้าวมากๆด้วย
ผสม ปนเปกัน
ผมว่า ความรู้สึกสองอย่างนี้
อาจจะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกันอยู่
ไม่มาก ก็นิดหน่อย
ขณะที่ผม”เหงา” อยู่นั้น เป็นเวลาดึกมากแล้ว
น่าจะราวๆตีสาม
ผมนั่งกด F5 เพื่อรีเฟรชหน้าบล็อกตัวเอง
ดูว่ามีใคร เข้ามาคอมเม้นต์ว่าอะไรบ้าง?
สลับกับการเข้าไปอ่านสเตตัสในเฟชบุ๊ค
ว่ามีใครอัพเดตสถานะตัวเอง ยังไงบ้าง?
มีใครยังไม่หลับไม่นอน ออนไลน์กลางดึกบ้าง?
ผมอยากคุยกับใครซักคน
แต่ใครอยากจะคุยกับผม ตอนตีสามล่ะ?
ถึงคุยกัน ก็อาจจะไม่รู้เรื่อง เพราะมันดึกมากแล้ว
ถ้าไม่ใช่คนรู้ใจกันจริงๆล่ะก็
อาจจะพากันฝันร้ายตอนหลับไปซะเปล่า
เข้าไปหากระทู้อ่านในพันทิป
พันทิปก็ปิดปรับปรุง เข้าไม่ได้
.
.
.
อีกสองช่วงตึก อาจจะมีใครซักคนกำลังเหงาเหมือนกัน
ใจหนึ่งก็อยากให้มีคนเหงาเป็นเพื่อน
แต่ลึกๆลงไปในขั้วตับอ่อน ก็ไม่อยากให้มีใครเหงา
ความเหงามันทำให้เรานอนแผ่หรา ปล่อยพุง และสะดือจุ่น
เหงาแค่คนเดียว ก็มากเกินพอ
เพื่อนบล็อก เลิฟพาราไดซ์ มาถามเรื่องภาพถ่าย
สวีทตี้ไก่วา มาแซวว่ากลัวเราเบื่อที่เธอมาบล็อกเราบ่อย
เจสซ่ามาขอขี่หลัง เพราะความคิดถึง
.
.
.
.
นอนทำพุงป่อง เจริญสติกรรมฐาน
หยิบหนังสือ “รบปมด้อย “ ของพิงค์ ลำพระเพลิง ขึ้นมาอ่าน
จบ
ยังไม่ง่วง มองซ้าย มองขวา
หนังสือเต็มไปหมด แต่ไม่อยากอ่านแล้ว
นอน พิจารณาความเหงา
ทำไมเราเหงา? ส่วนประกอบของความเหงา มีอะไรบ้าง?
ผมตัดข้าวต้มกุ้ง กับกั๋วยจั๊บญวนออกไป
เพราะคิดว่า น่าจะเป็นอิทธิพลมาจากความหิว
มากกว่าความเหงา
ความเหงา น่าจะประกอบด้วย
ความผิดหวัง 50%
ความน้อยเนื้อต่ำใจ 20%
ความรู้สึกไร้ค่า 30%
ทั้งหมด ปะปนกัน ไม่แยกกันชัดเจน
รวมเรียกว่า “ความเหงา”
.
.
.
.
กลางดึกคืนนี้ ชายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผมเอง
กำลังต่อสู้กับตัวเอง
ผมกำลังต่อสู้กับนิสัยแย่ๆของตัวเอง
แต่รู้สึกว่าตัวเอง ยังไม่มีพลังพอ
ผมแพ้
มีประโยคหนึ่งในหนังสือของพิงค์ เขียนว่า
“ ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้”
ขอยกให้เป็นประโยคทองสำหรับค่ำคืนนี้
ยกให้ตัวเอง
ขอบคุณครับ ตัวเอง
.
.
.
พยายามหาเรื่องกลบเกลื่อนความเหงา โดยการลุกขึ้นไปหาของกิน
ในตู้เย็นประจำห้อง
ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
มีไข่ดิบสองฟอง น้ำอัดลมยี่ห้อโค้ก ขนาดสองลิตร
ทุเรียนกวน ของฝากจากลานสกาหนึ่งก้อนใหญ่
ก่อนหน้านั้นมันเคยมีฝรั่งดิบ สองกิโล
ละมุดครึ่งกิโล ชมพู่หนึ่งกิโล คุกกี้รวมรสสองถุง
แต่มนุษย์ที่หยุดงานเพราะฝนตก
กินไปจนหมดเกลี้ยง เมื่อตอนกลางวัน
ไม่น่าเชื่อว่าผมจะกินล้างผลาญขนาดนี้
ผมกัดทุเรียนกวนตุ้ยๆ ดวดโค้กตามเข้าไปปนกัน
รสชาติ พิลึกพิลั่น
ทุเรียนกวนจากภาคใต้ของไทย สู้กับโค้กจากอเมริกา
ผมเรอเป็นกลิ่นทุโรล่า
ทุเรียน+โคล่า = ทุโรล่า
.
. .
ตื่นมาตอนแปดโมงเช้าของวันที่ 24
ฝนไม่ตก แต่แดดก็ไม่ส่อง เปิดทีวีดูข่าว
ฟังไม่รู้เรื่อง เพราะง่วง ในที่สุดก็หลับไป
ตื่นมาอีกที สิบเอ็ดโมงครึ่ง
อาบน้ำ ไปทำงาน แวะทักป้าแหลม หาของกิน
ไม่มี ขายหมดแล้ว อด
มาถึงย่านสยาม ที่ทำงาน
แวะไปซื้อก๊วยเตี๋ยวหมูตุ๋นซอย 1
นึกสังเวชวิธีแก้ปัญหาพ่อค้าแม่ค้านำของมาขายบนฟุตบาธ
ของเจ้าหน้าที่จุฬา วิธีแก้ของเขาคือ
เอาแผงต้นไม้มาวางขวางแม่มเลย แบบนี้
ทำให้เหลือทางเดินไม่ถึงหนึ่งเมตร
บางช่วงก็เหลือเยอะนิดนึง เมตรกว่าๆ อนุมานเอาเอง ว่ามันเดินคล่องกว่าตอนมีรถเข็นมาจอดขายของ
ใครมีความสามารถเดินได้ ก็เดิน
ใครเดินไม่ได้ ก็ลงไปเดินบนถนนพระราม 1
โชคดีก็จะไม่โดนรถเฉี่ยว โชคซวยก็จะโดน
ตกเย็นมา ก็มีคนมาขายของ เหมือนเดิม
.
.
.
สั่งเส้นเล็ก หมูตุ๋น พิเศษไม่งอก
มาถึงที่ทำงาน
ถึงรู้ว่าลืมเอาถ้วยกับช้อนพร้อมตะเกียบมาจากร้านป้า
แก้ปัญหาด้วยการใช้หลอดน้ำปั่นดูดแทนช้อน
ไม้เสียบลูกชิ้น ใช้แทนตะเกียบ
บางจังหวะ ดูดดีๆ ก็จะได้เส้นติดขึ้นมาตามหลอดด้วย
เกิดไอเดีย นี่ถ้าหลอดใหญ่กว่านี้
มันต้องดูดมาได้ทั้งเส้นแน่ๆ
ไม่ต้องเปลืองช้อนเปลืองตะเกียบ
เอาหลอดดูดเลย ได้ทั้งน้ำทั้งเนื้อ ทำลูกชิ้นอันเล็กๆ
ใส่ถ้วย ดูดเหมือนน้ำปั่น
แต่เป็น “ก๊วยเตี๋ยวดูดสนั่น”
.
.
.
.
อยากจะฝากคำคมไว้ท้ายเอนทรี่ซักบท
แต่คิดไม่ออก
“ แรมโบ้ เก่งเกินคนอย่างประหลาด
คอหวย ย่อมตกเป็นเหยื่อของกองสลาก”
พอได้เนอะ
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
มนุษย์.... เป็นสัตว์ขี้เหงา
ปอลิงกัง. เอนทรี่นี้ตั้งใจ ให้ใช้เวลาอ่าน 6 นาที
ถ้าจบเร็วกว่านั้น แสดงว่าอ่านเร็วไป
จบช้ากว่านั้น ก็อ่านช้าไป
ปอลิงกังที่สอง
เขียนหมวดไดอารี่ กับขำๆครับ ใครจะโหวตให้มั่งน้อ
Create Date : 25 มีนาคม 2554 |
|
33 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2554 0:02:45 น. |
Counter : 1259 Pageviews. |
|
|
|
แบบ.. กลืนผ่านหลอดยักษ์
เช่นเดิม
ขอบคุณค่ะ