► ►► . . ก รุ ง ธ น ......ผั ก ต บ ...แ ล ะ แ ม ว . ◄ ◄◄
วันจันทร์ ที่ 21 มีนาคม หลังพุทธปรินิพพาน 2554 ปี
จำเนียรกาลหลังพุทธปรินิพพานานเห็นปานนั้น
วันนี้ เป็นวันที่ผม ไม่ต้องไปทำงาน
เป็นวันอู้ เป็นวันที่การนอนตื่นเช้า เป็นเรื่องประหลาด
เป็นวันที่อากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย และร้อนเมื่อตอนสายๆ
เป็นวันที่กองทัพสหรัฐและพรรคพวก ยิงถล่มตาเฒ่ากัดดาฟี่จอมเพี้ยน
เป็นวันที่ 2 และกัดดาฟี่เฒ่าจอมโหด ก็ประกาศสู้ตาย
และคาดว่า คงได้ตายสมใจเร็วๆนี้
เป็นวันที่10 หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่ญี่ปุ่น
เป็นวันที่เมื่อวาน เจ้าคนุต หมีขั้วโลกผู้อาภัพ ตายไปอย่างกระทันหัน
สิริอายุได้เพียง 4 ปี งวดนี้ ใครจะวิ่ง 4 ก็ลองเสี่ยงดวงกันดู
และเป็นวันที่นักการเมืองไทย เริ่มจับขั้วฮั้วผลประโยชน์กันก่อนเลือกตั้ง
แบบไม่อายประชาชน ไม่รู้ใครเลือกพวกมันเข้าไป
ก็ประชาชนนี่หว่า อ้าว? ก็เราสินะ?
ไหงไม่มีคนดีๆให้เลือกมั่งเนอะ
.
.
.
.
วันนี้สะพายกล้อง เดินออกจากอารามหลังจากดูฮาจะเกร็งจบ
แดดกำลังร้อนฉ่า ชวนให้หน้าดำเป็นตาเทพเทือกเป็นอย่างยิ่ง
มองเห็นเมฆฝนครางอือๆอยู่ฝั่งธน ท่าทางจะตกหนัก
เดินฝ่าเปลวแดดอันแผดเผาและเสียงหมาเห่า ออกไปปากซอย
นั่งรถประจำทาง ตั้งใจจะไปสะพานซั่งฮี้หรือสะพานกรุงธน
ตั้งใจจะไปหัดถ่ายภาพ ให้สมกับคนเพิ่งมีกล้องซะหน่อย
.
.
.
ปัญหาของการถ่ายภาพอย่างหนี่งสำหรับผมก็คือ
ยังไม่สามารถบ่งชี้ลงไปชัดๆ ว่าต้องการสื่ออะไรกับคนดู
พูดง่ายๆคือ ยังตอบไม่ได้ว่า “ เอ็งถ่ายภาพนี้มา เพราะอะไร?”
แค่เห็นชาวบ้านเขาถ่ายกันทำนองนี้ ก็เลยถ่ายมั่ง
ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่า แรกๆที่เริ่มถ่ายภาพ
ใครๆเขาก็คงเป็นกันทั้งนั้นแหละ
ปัญหาอีกอย่างคือ เวลาจะถ่ายภาพ
ผมมักจะลืมหลักการไปหมดขณะที่กำลังหาโฟกัสอยู่นั่นแหละ
เรียกว่า ยังตื่นเต้นอยู่
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นทำไม?
อันไหนจะใช้กฎสามส่วน จุดตัดเก้าช่อง
จุดตัดหอยโข่ง หรือสามเหลี่ยมทองคำ ปนกันไปหมด
กลายเป็นจุดตัดสามเหลียมหอยโข่งทองคำไปซะนี่
.
.
.
อย่างภาพแรก ถ่ายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ตั้งใจจะถ่ายให้เห็นความขัดแย้งของรูปปั้นเก่าแก่กับตึกทันสมัย
สะท้อนให้เห็นว่าเพราะมีผู้เสียสละ จึงมีตึกสวยๆเกิดขึ้น
โฟกัสได้ มีที่ว่างให้ผู้ชมได้หายใจทางขวามือ ใช้ได้
แต่ปรากฎว่า เท้าของรูปปั้น หายไป
แถมมานั่งดู แล้วคิดว่า น่าจะเหลือที่ว่างด้านซ้ายของภาพ
ให้เยอะกว่านี้หน่อย
.
.
.
ภาพที่สอง ไม่มีอะไร แค่อยากเห็นหน้ารูปปั้นชัดๆ
เลยซูมเข้าไปดู แต่ความจริง ภาพนี้ ควรจะถ่ายแนวตั้ง
.
.
.
ภาพต่อมา อยากถ่ายชุมชนริมน้ำ
แต่มุมที่สวยที่สุด น่าจะอยู่ใต้สะพาน
ต้องนั่งเรือ เลยถ่ายมันข้างบนนี่แหละ
ภาพนี้ เลยไม่มีจุดน่าสนใจอะไร
.
.
.
.
ภาพต่อมานี่ ซูมกอผักตบ
อยากสื่อให้เห็นว่ามันเคว้งคว้างจริงๆนะ ไอ้กอผักตบเนี่ย
แต่ก็เลือกผิดกอ น่าจะเลือกกอที่ไกลๆ และซูมเห็นพื้นน้ำ
กว้างกว่านี้หน่อย จะได้เห็นว่ามันเคว้งและอ้างว้างจริงๆนะเออ
.
.
.
ภาพนี้ ถ่ายการทำซ้ำของวัตถุ
และใช้เป็นเส้นนำสายตาด้วย
รวมๆแล้ว คิดว่า น่าจะกดกล้องลงมาต่ำ ให้เห็นพื้นเยอะกว่านี้
และเห็นโครงสะพานมากขึ้นด้วย
.
.
.
ต่อมา ถ่ายวิถีชีวิตของเจ้าพระยา
แต่แสงแรงไปนิด ลืมปรับ
แต่ไม่วางวัตถุไว้กลางภาพ ถือว่า ใช้ได้
.
.
.
.
ภาพนี้ ถ่ายย้อนแสงได้ถูกใจตัวเองเป็นครั้งแรก
แต่มุมซ้ายของภาพ ก็มีอะไรติดมา ก็ไม่รู้
น่าจะเป็นฝุ่นที่เลนส์ ไม่งั้นก็จานบินต่างดาว
มาแอบดูเป็ดสวรรค์หัดถ่ายรูป
นี่ถ้าเหล็กบังพระอาทิตย์ไปหมด น่าจะเข้าท่า
ขยับกล้องออกไปทางถนนอีกนิด น่าจะดี
แต่กลัวรถเฉี่ยวมือขาดนี่
.
.
. .
อันนี้ชอบ เป็นการส่วนตัว
แต่ถ้าเหลือที่ว่างข้างหน้าทิศทางที่วัตถุกำลัง เคลื่อนไปอีกนิด
จะดีทีเดียว
ตอนนั้น คิดไม่ทัน เห็นอารมณ์เหน็ดเหนื่อยของพี่แก
แล้วก็กดเลย แคนดิดชัดๆ
.
. .
ปิดท้ายด้วยภาพชัดตื้นของแมวตัวนึง
ซึ่งกำลังคิดถึงแมวที่มันรัก
แต่ตากล้องมือเบี้ยว
สายไฟที่โผล่มา ก็ดูเกะกะจัง
. . .
ภาพทั้งหมด ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง
ถูกใจ คนชอบถ่ายวิว อย่างผม พอสมควร
ไว้คราวหน้า จะไปถ่ายใหม่
ซักวันหนึ่ง คงจะหามุมมองแบบไม่เหมือนใครเจอ
เจ้าแม่ตะเคียน เอาใจช่วยลูกด้วยเถิด
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
อยากเขียนฟักนิวส์ชะมัด แต่จัดเวลาไม่ลงตัว
พี่น้้องเอ๋ย
ใครจะกรุณาโหวตให้ซักนิด โหวตไดอารี่ละกันน่อ
Create Date : 22 มีนาคม 2554 |
|
52 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2554 0:25:38 น. |
Counter : 1935 Pageviews. |
|
|
|
โดยเฉพาะรูปรถไอติม
เห็นคนขายแล้ว อยากกินไอติมมะพร้าวอ่อนขึ้นมาทันทีเรยอ่ะ