ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
All blogs
 

ตอบ TAG ล้อมวงทานอาหารกับเพื่อน


emoemoemoemoemo

ได้รับ TAG เกี่ยวกับชวนเพื่อนทานอาหารจากแม่น้องแปงแปง
ที่จริง TAG นี้คุณเหมี่ยว Fleuri ณ แคนนาดา เพื่อนบล็อก
แสนน่ารักของ จขบ. เธอก็เคยเล่นสนุกกับ TAG นี้เหมือนกัน
รอดจากเธอแล้วนึกว่าจะตลอดรอดฝั่งแล้วเชียว ไม่รอดไปเสียได้
แต่ก็ไม่เป็นไร เราขี้โกงเอาทั้งเพื่อนคุณเหมี่ยวกับคุณแม่น้องแปงแปง
ส่ง TAG ไปให้เป็นผู้รับ TAG แล้วกันนะคะ นั่นก็คือถือว่า
ทุกคนที่ได้รับ TAG ได้ทำ TAG นี้ส่งเป็นการบ้านไปหมดแล้ว
อาหารที่นำเสนอในวันนี้ มีทั้งความอร่อยและคุณประโยชน์ ดังนี้ค่ะ




1. ส้มตำไทย แสนอร่อยและมีคุณค่าจากสมุนไพรไทย
มีสูตรส้มตำไทยแสนอร่อย มาแนะนำกัน ดังนี้
*มะละกอดิบหั่นฝอย 2 1/2 ถ้วยตวง
*ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )
*น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูตามชอบ
*น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้)
*มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง) กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง
*กระเทียมสด 5 กลีบ ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง


ใครจะเถียงว่าส้มตำไทยไม่อร่อย อันนี้คงขึ้นกับฝีมือการปรุงนะคะ
คุณค่าจากพืชสมุนไพรที่เป็นองค์ประกอบในส้มตำ มีดังนี้ค่ะ
*มะละกอ เป็นยาบำรุงน้ำนม ขับพยาธิ แก้บิด แก้เลือดออก
ตามไรฟัน แก้ริดสีดวงทวาร ช่วยย่อยอาหาร ขับน้ำดีน้ำเหลือง
*มะเขือเทศ แต่งสีและกลิ่นอาหาร ช่วยระบาย บำรุงผิว
*พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อนช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย
*กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ
ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคผิวหนัง น้ำมันกระเทียมยับยั้งเชื้อรา
แบคทีเรีย ไวรัส ลดน้ำตาลในเลือดและไขมันในหลอดเลือด
*น้ำมะนาว รสเปรี้ยว ละลายเสมหะ แก้ไอ ฟอกโลหิต
*นอกจากสมุนไพรยังมีถั่วลิสงและกุ้งแห้งที่ให้โปรตีนจ้า
กินส้มตำ ให้คุณค่าทางโภชนาการและไม่อ้วนด้วยนะคะ




2. ปลาแซลมอนย่างชิ้นใหญ่น่าทาน
"แซลมอน" ได้ชื่อว่าเป็นปลาจากแหล่งบริสุทธิ์ที่ไร้มลพิษ
และมีคุณค่ามากมาย เพราะระหว่างที่อยู่ในทะเล แซลมอนจะ
สะสมไขมันจากการกินแพลงตอนและสาหร่ายทะเล ซึ่งเป็น
ไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ต้องการแต่สร้างขึ้นเองไม่ได้
นั่นคือกรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเมกา-3 ซึ่งมีประโยชน์มาก


ปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีโอเมกา-3 สูงกว่าปลาทะเล
ชนิดอื่นๆ ซึ่งกรดไขมันโอเมกา-3 นี้จะประกอบไปด้วยกรด
EPA และ DHA มีคุณประโยชน์ของโอเมก้า-3 ดังนี้
- สามารถลดคอเรสเตอรอลและไขมันที่ชอบสะสมตาม
ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ชะลอการปวดบวมของโรคกล้ามเนื้ออักเสบโรครูมาตอยด์
- ลดการเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม
- ช่วยลดความดันโลหิต เมื่อรับประทานเป็นประจำ
กรด DHA จะช่วยพัฒนาสมอง สายตาความจำและการเรียนรู้
- ช่วยระงับอารมณ์ ยับยั้งอาการป่วยและความห่อเหี่ยวทางจิตใจ
- ลดอาการเย็นของมือและเท้าในผู้ป่วยโรคเรย์นอค
ส่วนไขมันและคอเรสเตอรอลนั้นต่ำมาก และยังสามารถทดแทน
โปรตีนที่ได้จากเนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์อื่นๆ นอกจากนี้นักวิจัย
ยืนยันมาว่าหากรับประทานบ่อยครั้ง จะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
ที่มา : ตัดความจาก "//onknow.blogspot.com"




3. ก๋วยเตี๋ยวแคะหรือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้
อาหารแบบก๋วยเตี๋ยวกินแล้วไม่อ้วน เนื่องจากแคลอรี่ไม่มาก
และยังมีคุณค่าทางโภชนาการจากลูกชิ้นเต้าหู้เครื่องก๋วยเตี๋ยว


เต้าหู้เป็นอาหารจีนชนิดหนึ่งที่ชาวจีนนิยมชมชอบกันตั้งแต่
สมัยโบราณ สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายวิธี
แถมยังมีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารที่สูงอีกด้วย
ดังนั้น ผู้่บริโภคตั้งแต่ระดับจักรพรรดิไปจนกระทั่งถึงชาวบ้าน
จึงต่างมีความรู้สึกคุ้นเคยและชอบเต้าหู้กันอย่างกว้างขวาง
ที่มา : ตัดความจาก "//thai.cri.cn"




วันนี้ขอนำเสนออาหาร 3 อย่าง เป็นอาหารแนะนำเพื่อนๆ ค่ะ
อร่อยดีมีประโยชน์ และมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายเชียว
เรามาล้อมวงกัน หรืออย่าลืมไปหารับประทานเองก็ได้นะคะ


ป.ล. การบ้านชิ้นนี้ถือว่าทำส่ง คุณมายด์ Mind leaner ไปด้วยเลยนะคะ




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 10:01:11 น.
Counter : 1908 Pageviews.  

tag...เรื่องไข่ๆ





ได้รับ TAG จากคุณเหมี่ยว ณ คานาดาเกี่ยวกับ
We will rock ... ไข่ จึงต้องวุ่นวายอยู่กับ
การหาข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับไข่เพื่อที่จะ
นำมาอัพเป็น blog นี้แหละค่ะ เรียกได้ว่าวุ่นวาย
โดยไม่ต้องเข้าครัวเพื่อปรุงเมนูไข่ด้วยตนเองเลย
ลองมาติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับไข่ๆ กันเลยนะคะ




ไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
มีสารอาหารหลายชนิดอยู่ภายในไข่ ในไข่ขาว
จะมีโปรตีนสูง และเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง
คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
ส่วนในไข่แดงจะมีสารอาหารหลายชนิด ได้แก่
โปรตีน ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ ไขมันใน
ไข่แดงส่วนใหญ่จะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว รวมถึง omega-3
ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ที่ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิด
โรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีคุณค่าเหมือนไขมัน
ในปลาแซลมอลและปลาทะเล ส่วนคลอเรสเตอรอล
จะมีเฉพาะในไข่แดง ไม่มีในไข่ขาว นะคะ
สารอาหารอื่นได้แก่ ธาตุเหล็ก โฟลิกไรโบเฟลวิน
โคลีน วิตามินเอ บี ดี และ อี วิตามินที่ไม่พบในไข่คือ
วิตามินซี (อย่างงี้ต้องกินไข่กับน้ำส้มคั้นค่ะ)




ธาตุเหล็กในไข่ มีคุณค่าเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์
แต่เคี้ยวง่ายไม่เหนียวเหมือนเนื้อสัตว์ จึงเหมาะสม
กับเด็กทารก และคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟัน
โฟลิก เป็นสารที่ป้องกันเลือดจาง และป้องกัน
ความพิการแต่กำเนิด มีความจำเป็นในหญิงที่ตั้งครรภ์
โคลีน เป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างความจำ ช่วย
พัฒนาการในเด็กที่กำลังเติบโต ให้โตอย่างมีคุณภาพ

จะเห็นได้ว่าไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่ามาก ให้สารอาหาร
ที่เกือบครบถ้วน ในขณะที่ราคาถูกกว่าอาหารอื่นๆ ที่มี
คุณค่าทางอาหารเท่ากัน สามารถทำเป็นอาหารได้หลายชนิด


ไหนก็พูดถึงการนำไข่มาทำอาหารแล้ว
เราลองมาดูคำทำนายสนุกๆ กันซิคะว่าหากคุณ
ชอบรับประทานไข่อย่างไหน แล้วเป็นคนอย่างไร




ไข่ลวก
แสดงว่าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเรื่องมาก
ใครๆที่อยู่ใกล้ก็มักสบายใจ เพราะคุณไม่มี
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มายุ่งให้รำคาญใจ คุณเป็น
คนรักความสะอาดและความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย แต่จะว่าไปแล้วคุณเเองเป็น
คนที่ค่อนข้างจะใจร้อนอยู่สักหน่อย
(คงจะประมาณว่าทำอะไรลวกๆ นะคะ)




ไข่ยัดไส้
คุณเป็นคนที่มีการเตรียมพร้อม ชอบท่องเที่ยว
ไปในที่ต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันต้องไม่เป็นที่ที่ไม่
ทำให้ลำบาก เพราะคุณมักจะไม่ค่อยมีความอดทน
กับเรื่องพวกนี้ แม้กระทั่ง การทำงานก็เช่นกัน
หากต้องทุ่มเทกับมันมากๆ คุณก็จะรับมันไม่ค่อยได้




ไข่ดิบ
หากคุณจะเลือกทางเดินชีวิต คุณจะไม่สนใจคนอื่นๆ
ว่าเขาเลือกกันอย่างไร คุณจะมี ทางเดินของคุณ
โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง และคุณ
ก็ไม่ชอบที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นด้วย




ไข่ดาว
ถ้าคุณชอบทำไข่ดาวมาก แสดงว่าคุณเป็นคนที่ชอบ
ความท้าทาย และเป็นคนที่มีความพยายามเป็นอย่างยิ่ง
คุณนั้นเป็นคนที่กระตือรือร้นและไขว่คว้า
หาโอกาสให้กับตัวเอง คุณจะไม่รอให้โอกาสต่างๆ
เข้ามาหาคุณ คุณจะพุ่งเข้าใส่มันเอง




ไข่เจียว
คุณเป็นคนที่มีความยุติธรรม เป็นนักวางแผน
และนักคิด คุณมักคิดและทำอะไรอย่าง
เป็นระบบ คุณมีความเชื่อมั้นในการตัดสินใจของตัวเอง
และคุณก็มักคิดว่า คนอื่นมัก คิดเช่นเดียวกับคุณ




ไข่ต้ม
คุณเป็นคนที่มีความอดทน หากคุณทำงานอะไร
สักชิ้นหนึ่ง คุณก็จะทำให้มันเสร็จไปเลย
ไม่ชอบที่จะค้างมันไว้ เพราะคุณจะหงุดหงิดกับมันมาก
หากคุณทำไม่สำเร็จ คุณมักจะใช้เหตุผล
ในการตัดสินใจทำอะไรสักอย่างอยู่เสมอ


แม้ไข่จะมีสารอาหารที่เป้นประโยชน์มากมาย
แต่ในวงการสุขภาพก็มักจะกล่าวถึงโทษของไข่ด้วยค่ะ




ไข่กับคลอเรสเตอรอลและโรคหัวใจขาดเลือด
ในวงการแพทย์มีความกังวลในคลอเรสเตอรอล
ที่มีอยู่ในไข่ที่อาจจะเป็นเป็นต้นเหตุของไขมันในเลือดสูง
ซึ่งจะก่อปัญหาให้กับอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรค
หัวใจขาดเลือด แต่ในงานวิจัยที่พบภายหลังพบว่า
คลอเรสเตอรอลในไข่มีผลทำให้คลอเรสเตอรอลในเลือด
สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นความกลัวคลอเรสเตอรอล
ในไข่เริ่มลดลง โดยในสมาคมหัวใจของสหรัฐอเมริกา
ได้เปลี่ยนคำแนะนำในการทานไข่ ซึ่งจากเดิม
ไม่ควรเกิน 3ฟองต่อสัปดาห์ เป็นวันละไม่เกินหนึ่งฟอง




เรื่องราวเกี่ยวกับไข่ขอจบท้ายลงที่เพลงพระราชนิพนธ์ค่ะ
ชื่อเพลงเมนูไข่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ 48
ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพครบ 72 พรรษา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวง
นราธิวาส ราชนครินทร์ ด้วยทรงรำลึกได้ว่า
สมเด็จพระเชษฐภคินีโปรดเสวยพระกระยาหารไข่
เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงพระราชนิพนธ์
กอปรกับทรงพบโคลงสี่ "เมนูไข่" ที่สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชนิพนธ์ไว้
เมื่อ พ.ศ. 2518 จึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทาน
ให้พลเรือตรี หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช นำไปแยก
และเรียบเรียงเสียงประสาน เพื่อให้วง อ.ส. วันศุกร์
นำออกบรรเลงและขับร้องในงานพระราชทาน
เลี้ยงฉลองสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ณ ศาลาดุสิตาลัย
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 ดังนี้ค่ะ




เนื้อเพลง
เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน
ไข่เค็มไข่ลวกทั้ง ไข่หวาน กับไข่ต้มสุกนาน เยี่ยวม้า
เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน ไข่ตุ๋นรสเยี่ยมปาน รสทิพย์
ไข่ไก่โอ้เอี่ยมอ้า อร่อยแท้อยากกิน เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน
เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน
เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน


อ้านับว่าวุ่นวายอยู่กับไข่ตามสไตล์หอมกรมาพอสมควรแล้วนะคะ
และนี่คือการบ้าน TAG ที่ส่งให้กับคุณเหมี่ยวที่น่ารักนะคะ
จะว่าไปการทำ TAG ครั้งนี้ก็พอทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับไข่
เพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกองเชียว หรือคุณผู้อ่านทั้งหลายว่าไงคะ




ขอบคุณรูปสวยๆ จาก web ต่างๆ และข้อมูลดีดีจาก
"//www.thaiclinic.com" "//horo.mwake.com"
และ "//royalmusic.panyathai.or.th"




 

Create Date : 30 เมษายน 2552    
Last Update : 30 เมษายน 2552 6:55:18 น.
Counter : 1651 Pageviews.  

แม่นาคพระโขนง-ตำนานรักอมตะแห่งบางพระโขนง



เรื่องราวของแม่นาคพระโขนง ปรากฏอยู่ทั่วไป
ตามความเชื่อของคนไทยร่วมสมัยและตราบจนปัจจุบัน
เช่น เชื่อว่าสี่แยกมหานาค เขตดุสิต มาจากการที่แม่นาค
อาละวาดขยายตัวให้ใหญ่ และรัชกาลที่ 4 ยังเคยเสด็จ
ทอดพระเนตรด้วย หรือเชื่อว่าพระรูปที่มาปราบแม่นาคได้นั้น
คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นต้น
อีกทั้งยังเชื่อว่า สมเด็จ "โต" ท่านได้เจาะกะโหลกที่หน้าผาก
ของแม่นาค มาทำเป็นปั้นเหน่งหรือหัวเข็มขัดเพื่อสะกดวิญญาณ
แม่นาค และได้สร้างห้องเพื่อเก็บปั้นเหน่งชิ้นนี้ไว้ต่างหาก


ปัจจุบัน ความเชื่อเรื่องแม่นาคพระโขนงก็ยังปรากฏอยู่ใน
ความเชื่อของคนไทย ณ วัดมหาบุศย์ เขตสวนหลวง กทม.
มีศาลแม่นาคตั้งอยู่ เพื่อเป็นที่สักการะของคนในและนอกพื้นที่
โดยเขาเหล่านั้นจะเรียกแม่นาคด้วยความเคารพว่า "ย่านาค"
อย่างไรก็ตามบ้างก็เชื่อว่าแม่นาคได้ไปเกิดใหม่แล้ว กระนั้น
วัดมหาบุศย์ ก็ยังเป็นอนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของ
แม่นาคหรือนางนาค ที่มีต่อสามีของตน จวบจนถึงปัจจุบัน




บุคคลแรกที่ทำให้สื่อบันเทิงรู้จักกับเรื่องราวของแม่นาคพระโขนง
ก็คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงษ์
พระองค์ท่านทรงนำเรื่อง อีนาคพระโขนง ออกแสดงเป็นละครเวที
ครั้งแรก ณ โรงละครปรีดาลัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากคนดู
เป็นอย่างมาก มีการแสดงซ้ำอยู่ถึง 24 คืน ถือว่ามากในสมัยนั้น
จากนั้นในทางบันเทิง เรื่องราวของแม่นาคพระโขนงได้ถูกนำมา
สร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ อีกหลายต่อหลายครั้ง
ในรอบหลายปี รวมทั้งยังสร้างเป็นละครพูดมาแล้วด้วยเช่นกัน


ล่าสุดกับการเป็นละครเวทีมิวสิคัล โดย บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ
เรื่องราวของ แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล จะสยอง เศร้า แค้น
หรือรักผูกพันกันแค่ไหน ติดตามได้ในวันที่ 20 พฤษภาคม นี้
ณ โรงละครรัชาดาลัยเธียรเตอร์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเอสพลานาด จ้า




เรื่องย่อ : ถ้าพูดถึงแม่นาคพระโขนง คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้
เพราะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานของผีตายท้องกลม ที่ความตาย
ไม่สามารถพรากความรักของเธอไปได้ และเชื่อกันว่าเรื่องนี้
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ในย่านพระโขนง


ซึ่งมีผัวหนุ่มเมียสาวคู่หนึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน ฝ่ายสามีชื่อนายมาก
ส่วนภรรยาชื่อนางนาค ทั้งสองอยู่กินด้วยกันจนนางนาคตั้งครรภ์อ่อนๆ
นายมากถูกหมายเรียกทหารให้ไปประจำการที่บางกอก ดังนั้น
นางนาคจึงต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพัง จนกระทั่งนานวันเข้า
ครรภ์ของนางนาคก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ จนครบกำหนดคลอด


หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ ทว่าลูกของนางนาคไม่ยอมกลับหัว
และไม่สามารถคลอดออกมาตามธรรมชาติได้ ยังผลให้นางนาค
ได้รับความเจ็บปวดทรมานยิ่งนัก จนในที่สุดนางนาคก็
ทนความเจ็บปวดไม่ไหว สิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้องของตน
กลายเป็นผีตายท้องกลม ศพของนางนาคได้ถูกนำไปฝังไว้
ณ ป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ และนี่คือจุดเริ่มต้นของความสยองขวัญ




กล่าวถึงนายมาก เมื่อปลดประจำการแล้ว ก็กลับจากบางกอก
มายังพระโขนง โดยทียังไม่ทราบความว่าเมียของตนเสียชีวิตแล้ว
เมื่อนายมากกลับมาถึงพระโขนงในเวลาค่ำ จึงไม่ได้พบกับชาวบ้าน
กอปรกับเนื่องจากบริเวณบ้านของนางนาคหลังจากที่นางตายไป
ก็ไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวผีนางนาค ซึ่งเชื่อกันว่า
วิญญาณของผีตายท้องกลมนั้นเหี้ยนและมีความดุร้ายยิ่งนัก


ครั้นเมื่อนายมากกลับมาอยู่ที่บ้าน นางนาคก็พยายามคอยรั้งให้
นายมากอยู่บ้านตลอดเวลา ไม่ให้ออกไปพบใคร เพราะเกรงว่า
นายมากจะรู้ความจริงจากปากชาวบ้าน นายมากก็เชื่อเพราะรักเมีย
ไม่ว่าใครที่มาพบเจอจะบอกนายมากอย่างไร นายมากก็ไม่เชื่อ
ว่าเมียตัวเองตายไปแล้ว จนกระทั่งในวันหนึ่งขณะที่นางนาค
กำลังตำน้ำพริกอยู่บนเรือน นางทำมะนาวหล่นไปใต้ถุนบ้าน
ด้วยรีบร้อนนางจึงเอื้อมมือยาวลงมาจากร่องบนพื้นเรือน เพื่อเก็บ
มะนาวซึ่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ขณะที่นายมากบังเอิญผ่านมาเห็นเข้าพอดี
จึงปักใจเชื่อเต็มร้อย ว่านางนาคเมียของตนเป็นผีตามที่ชาวบ้านว่ากัน




นายมากจึงวางแผนหลบหนีผีนางนาค โดยได้หนีไปพึ่งพระที่วัด
แต่นางนาคไม่ลดละพยายาม และด้วยความเจ็บใจที่ชาวบ้านคอย
ยุแยงตะแคงรั่วผัวของตน ทำให้ผีนางนาคเริ่มออกอาละวาด
หลอกหลอนชาวบ้าน จนต่างพากันหวาดผวาไปกันทั้งบางพระโขนง
แต่แล้วในที่สุดนางนาคก็ถูกหมอผีมือดีจับใส่หม้อถ่วงลงในน้ำ


เรื่องราวจึงสงบได้พักใหญ่ จนกระทั่ง ตายายคู่หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องราว
เพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ เก็บหม้อที่ถ่วงได้ขณะทอดแหจับปลา
นางนาคจึงถูกปลดปล่อยเป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง แต่ในท้ายที่สุด
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ก็สยบแม่นาคลงได้ โดยท่านได้นำ
กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของนางนาคมาทำเป็นปั้นเหน่งหรือ
หัวเข็มขัดโบราณ เพื่อสะกดวิญญาณ และนำนางนาคไปสู่สุคติ




ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก "www.rachadalai.com"

บล็อกนี้ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเริ่มการแสดงในอีกสองเดือนข้างหน้าค่ะ
ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ กับการแสดงละครเวทีแบบ musical ของคุณบอย
ตามประสาคนดูแบบระดับบ้านๆ อย่างเรานะคะ ดังนั้น มีเดอะมิวสิคัลเมื่อใด
เป็นต้องไม่พลาดที่จะติดตามไปดูเมื่อนั้นค่ะ ดูความคืบหน้าเพิ่มเติมที่ link
ด้านล่างขวามือ เกี่ยวกับแม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล นะคะ บ๊าบ บาย






 

Create Date : 19 มีนาคม 2552    
Last Update : 20 มีนาคม 2552 6:45:46 น.
Counter : 3402 Pageviews.  

ยิ้มบอกนิสัย


วันนี้มีข้อมูลดีดีจาก "//hi.spiceday.com"
มาฝากกันค่ะ เผื่อว่าเราจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นไงคะ
มาดูกันซิคะว่าคุณเป็นคนยิ้มแบบไหนกันแน่


emoemoemoemoemo

ยิ้มกว้างเปิดเผย
การยิ้มที่สามารถมองเห็นฟันของคนยิ้มได้อย่างชัดเจน
นิสัยใจคอของคนที่มีกิริยาอาการยิ้มแบบนี้ บ่งบอกถึง
การเป็นคนกระตือรือร้นอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นคนที่
ชอบแสดงออกเอามากๆ หากได้รับการมอบหมาย
ให้ทำการใดๆในกลุ่มคนจำนวนมาก ก็จะสามารถ
ทำได้ดี โดยไม่มีอาการเก้อเขินหรือเอียงอายใดๆทั้งสิ้น
และยังคบหากับคนทั่วไปได้โดยง่าย นอกจากนี้
ยังเป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวมาก มักเสียเงิน
ไปกับเรื่องนี้ทีละมากๆ โดยไม่เสียดายเลย


emoemoemoemoemo

ยิ้มเม้มปาก
การยิ้มลักษณะนี้ จะไม่เห็นฟันของคนยิ้ม
มีเพียงรูปปากที่แย้มออกเท่านั้น ที่บอกว่า
เขากำลังยิ้มอยู่ สำหรับอุปนิสัยของคนที่
มีการยิ้มแบบนี้นั้น ออกจะเป็นคนที่มีการ
ระมัดระวังตัวสูงอยู่สักหน่อย แถมยังมีโลกส่วนตัว
มากๆอีกด้วย ชอบที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า จึงมี
น้อยคนที่จะสามารถเข้าหา จนถึงขั้นสนิทสนมด้วยได้
นอกจากนี้ ยังมีความที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
รักสันโดษ ชอบใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อม
ที่เป็นธรรมชาติ อย่างเช่น ชนบท มากกว่าในเมืองใหญ่


emoemoemoemoemo

ยิ้มปุ๊บปั๊บ
คนที่มีลักษณะการยิ้มแบบเร็วๆ แล้วหุบยิ้มเสีย
จะว่าไปก็คือ การยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริงซักเท่าไร
แต่เป็นการยิ้มตามมารยาทมากกว่า ส่วนลักษณะนิสัย
ของคนที่มีการยิ้มเช่นนี้ บ่งบอกถึง การเป็นคนที่มีพลัง
กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา และจะตื่นเต้นได้ง่าย
กับสิ่งเร้าใจที่แปลกๆใหม่ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะเป็น
คนที่สับสนได้ง่ายกับสิ่งที่คลุมเครือ เพราะจะเป็นคนที่
ค่อนข้างใจร้อน และชอบในความชัดเจนมากกว่ายิ้มยั่วยวน


emoemoemoemoemo

ยิ้มยั่วยวน
ยิ้มแบบยั่วยวนนั้น ส่วนใหญ่มักจะเห็นในผู้หญิง
มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในนิตยสารแฟชั่นต่างๆ
แต่รอยยิ้มของเหล่านางแบบนั้น อาจเสแสร้งทำขึ้นมา
เพื่อความเหมาะสมกับท่าทางและเสื้อผ้า แต่ทว่า
สำหรับคนที่มีรอยยิ้มเช่นนี้อย่างแท้จริงนั้น
นิสัยมักจะเป็นคนที่ชอบจนถึงกับขั้นหลงไหลในเรื่อง
ความรักเป็นพิเศษ และยังชอบเพ้อฝันกับเรื่องสวยๆงามๆ
มากกว่าที่จะสนใจความเป็นจริงของชีวิต จึงมักมี
ความสามารถสูง ในเรื่องเกี่ยวกับความสวยงาม หรือ ศิลปะ


emoemoemoemoemo

ยิ้มมุมปาก
ลักษณะการยิ้ม ที่เป็นเพียงแค่กระตุกมุมปากเสียหน่อย
เหมือนไม่ค่อยเต็มใจจะยิ้มสักเท่าไหร่นั้น บ่งบอกถึง
อุปนิสัยที่เป็นคนค่อนข้างเข้าใจยากทีเดียว เพราะ
มักจะมีความซับซ้อนในตัวเองสูง อารมณ์แปรเปลี่ยนรวดเร็ว
แต่ว่าก็จะเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งคมคาย เพียงแต่อาจ
แปลกและแตกต่างจากคนทั่วไปมาก จนบางทีคนอื่นถึงกับ
ตามไม่ทัน นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการเป็น
นักจิตวิทยา ที่พูดจาปลุกเร้าผู้คนจำนวนมากได้ไม่ยากเลย


emoemoemoemoemo

ยิ้มตาหยี
สำหรับคนที่เวลายิ้มแล้ว ตามักจะหยีหรือย่นนั้น
บ่งบอกถึงนิสัยของการเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเอามากๆ
เพราะถึงแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างไร
ก็จะสามารถหัวเราะได้อย่างน่าแปลกใจทีเดียว นอกจากนี้
ยังบ่งบอกถึง การเป็นบุคคลที่มีอารมณ์ขัน ชอบทำให้
คนรอบข้างยิ้มแย้มอยู่เสมอ และยังเป็นคนที่สามารถ
นำประสบการณ์ของตน มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้
อย่างมีคุณค่าแทบทุกเรื่อง เรียกว่าไม่มีวันเสียหล่ะ
ที่จะปล่อยให้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนนั้นไร้ประโยชน์


emoemoemoemoemo

ยิ้มเยือกเย็น
สำหรับบุคคลที่มีรอยยิ้มเยือกเย็นนี้ คงไม่ต้องอธิบายอะไร
มากหรอกนะ เพราะเพียงแค่ยิ้มออกไป คนที่มองรู้สึกได้ไม่ยาก
ถึงความเย็นจากรอยยิ้มนั้น ส่วนอุปนิสัยของคนที่มีรอยยิ้มเช่นนี้
ก็มักจะเป็นคนที่มีบุคลิกน่าเชื่อถือ และไว้วางใจให้เห็นเป็นอันดับแรก
แต่ลึกๆลงไปข้างใน จะเป็นคนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ
ทีเดียว ทั้งยังเป็นคนที่ซื่อเอามากๆ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมซับซ้อน
กับใครเขาเลย และมีความเป็นนักประนีประนอมสูงอีกด้วย


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ลองส่องกระจกดูตัวเองหรือสอบถามคนข้างๆ
หรือยังค่ะว่าคุณยิ้มแบบไหน ดูซิว่าคำทำนายตรงกับตัวคุณหรือเปล่า
จขบ. ประเมินคนเองแล้วใช้ได้ค่ะ เลยนำมาฝากกันไว้ในวันนี้




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2552 8:29:45 น.
Counter : 4000 Pageviews.  

New Year Tag

ได้รับ Tag จากคุณพู่ นามปากกาใน bloggang ว่า JewNid
เจ้าของรางวัล Best Photo Blog และ Best Diarist และ
Best Friendly Blogger อันดับ 1 ประจำปีนี้ คนอะไรเก่งมากมาย
ได้มันสามที่หนึ่งเลย นี่ขนาดเราโหวตแบบยั้งๆ แบ่งคะแนนไปให้
คนอื่นบ้างแล้วนะเนี่ย เธอก็ยังได้เป็นขวัญใจมหาชนเสียขนาดนี้
สามปีซ้อนแล้วมั๊งคะเนี่ย ถ้าจำไม่ผิด (ขออภัยตอนประกวดปีที่
1 และ 2 ไม่ได้ติดตามข้อมูล ไม่รู้ว่า 5 ปีซ้อนหรือเปล่า อิอิ)
ในเมื่อคนเด่นคนดังร้องขอ แล้วเราจะไม่ทำให้เธอได้อย่างไร
ชอบไม่ชอบก็ต้องทำหละ เอาหละเรามาเริ่มกันเลยจะได้เสร็จไป




New Year Tag กติกามีดังนี้ค่ะ
ส่งคำถามให้เพื่อนอีก 3 คน คนที่ได้รับ tag ให้ copy คำถาม
ไปเปลี่ยนเป็นคำถามของตัวเอง ส่งคำถามโดยระบุว่าส่ง tag
ไปให้ใครอีก 3 คน ให้ขึ้นชื่อหัวข้อว่า New Year Tag


emoemoemoemoemo

ข้อที่ 1 เรื่องดีๆที่ประทับใจที่สุดในปี 2008
อ่า บอกไปจะเชื่อมั๊ยเนี่ย ปลื้มปิติในบุญทุกบุญ
ที่เราได้สั่งสมมาดีแล้วตลอดปี ทำให้ภูมิใจว่าเราไม่ประมาท
มั่วเมาในชีวิต รู้จักสั่งสมบุญกุศลไว้ไปใช้ในภพเบื้องหน้าค่ะ


ข้อที่ 2 เรื่องแย่ๆ ที่ฝังใจที่สุดในปี 2008
ไม่มี๊ ไม่มี คนอย่างเรานะเหรอเชอะ จะทำอะไรเรื่องแย่ๆ แต่ก็
มีบางที่บางครั้งไม่รู้ตัวว่าการกระทำคำพูดของเราอาจไปกระทบใจ
คนอื่นที่อยู่แวดล้อมทำให้เขารู้สึกไม่ดี อันนี้ต้องระวังมากขึ้นค่ะ




ข้อที่ 3 คุณได้พบเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ในปี 2008 บ้างหรือไม่?
เพื่อนใหม่ในบล็อกแก๊งค์มีบ้างค่ะ ได้พบกันทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
เนี่ยแหละค่ะ เพื่อนๆ น่ารักทุกคนเลย เพราะคนไหนไม่น่ารัก
เราไม่นับเขาเป็นเพื่อนค่ะ ดังนั้นเราจึงมีแต่เพื่อนน่ารักๆ อิอิ


ข้อที่ 4 คุณได้รับโชคลาภแบบไม่คาดคิดบ้างหรือไม่ ในปี 2008
เออ รางวัลที่หนึ่งก็ไม่ยักกะถูกนะ ล็อตเตอรี่ก็ซื้อบ่อยออก
เลขท้ายถูกมั่งหรือเปล่าหว่า จำไม่ได้เสียแล้วซิเรา


emoemoemoemoemo

ข้อที่ 5 อะไรในปี 2008 ที่คุณได้ทำแล้วรู้สึก "มีความสุขจังที่ได้ทำแบบนี้"
เออ น่าจะเป็นการได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับญาติเป็นครั้งคราวค่ะ
เพราะการได้ออกไปนอก กทม. เห็นขุนเขา เห็นลำน้ำ เห็นบรรยากาศ
ที่สดชื่นรอบๆ ตัวในต่างจังหวัด แค่นี้ก็มีความสุขแล้วหละค่ะอิฉัน


ข้อที่ 6 อะไรที่คุณคิดจะทำในปี 2008 แต่เอาเข้าจริงคุณกลับ
ไม่ได้ทำ จนรู้สึกว่า "เสียดายชะมัด ฉันควรจะได้ทำสิ่งนี้นะ"

เฮ้อ ไม่ยักมีแหะ แหมเราเนี่ยช่างไม่มีความมุ่งมั่นกับเรื่องอะไร
กับเขาเสียเลย ปล่อยชีวิตล่องลอยไปตามกระแสน้ำกระแสโลก




ข้อที่ 7 สัตว์ หรือคนใกล้ตัวที่คุณสังเกตเห็นว่าเติบโต
หรือเปลี่ยนแปลงไปมากจังเมื่อเทียบต้นปีกับปลายปี

ว่ากันว่าถ้าเราอยู่ใกล้ชิดกับสิ่งใด เราก็มักจะคุ้นชิน
และไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของสิ่งนั้น ด้วยเหตุผลนี้
จึงไม่ค่อยเห็นอะไรที่ใกล้ตัวมันเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่
เช่น ต้นกล้วยไม้ที่บ้านมันแตกใบใหม่ ดอกกุหลาบ
ดอกกล้วยไม้ที่บ้านมันหุบๆ บานๆ ก็เป็นเรื่องปกติของมันนะคะ


ข้อที่ 8 สัตว์ หรือคนใกล้ตัวที่คุณสังเกตเห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลง
หรือช่างเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อเปรียบเทียบต้นปีกับ ปลายปี

ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เหมือนเดิมแหละค่ะ เนื่องจากเราอยู่ใน
สิ่งแวดล้อมเดิมๆ เราจึงเห็นว่าทุกอย่างมันเหมือนเดิมนะ


emoemoemoemoemo

ข้อที่ 9 ทัศนคติ รสนิยม หรือความเชื่อของคุณในปี 2008
ได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมในปี 2009 เรื่องนั้นคือเรื่องอะไรเอ่ย

ไม่เลย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น ทั้งในเรื่องสังคม การเมือง
ยังเหมือนเดิม และจะทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมาขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ


ข้อที่ 10 ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะกลับไปแก้ไข
เหตุการณ์อะไรไหมในปี 2008

แก้เหตุการณ์อะไรมั๊ยเหรอ ไปคอยตีมือตัวเองเวลา
ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายดีมั๊ยคะ แหมมันเผลอใจเป็นประจำหงะ




ข้อที่ 11 ถ้าซานตาคลอส พระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ให้พรได้จริงๆ คุณจะเลือกพรข้อไหน?

แหม เอาแบบรวยสวยฉลาดสมปรารถนา รวมอยู่ในข้อเดียวกัน
ได้มั๊ยคะ ถ้าไม่ได้เอาพยางค์แรกแล้วกัน รวยๆๆๆ อิอิ


ข้อที่ 12 ถ้าเลือกได้ คุณอยากอยู่กับใครหรือกลุ่มใด
ในช่วง countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
และทำไมคุณถึงเลือกคนๆ นี้ หรือ กลุ่มๆนี้

ฮ่า ฮ้า ไม่อยากบอกเลยว่า countdown นอนหลับอุตุค่ะ
เพื่อที่จะได้ตื่นเช้าไปทำบุญตักบาตรอย่างสดชื่นแจ่มใสไงคะ
ปล่อยให้คนอื่นเขา countdown กันไปเถอะ นอนดีก่า อิอิ


emoemoemoemoemo

ข้อที่ 13 สมมติมีคูปองศัลยกรรมที่ปลอดภัย 100% และ
ศัลยกรรมให้ฟรี 1 อย่าง คุณคิดจะใช้คูปองนี้เองทำศัลยกรรม
ส่วนไหน หรือมอบคูปองให้ใครไปทำศัลยกรรมส่วนไหน

อ๊าก ทิ้งไปค่ะ ไม่ทำศัลยกรรมเด็ดขาด กลัวสุดๆ เลย
ได้ยินมาว่าอะไรที่มันเป็นของแปลกปลอม พอแก่ตัวแล้ว
มันจะเริ่มมีปฏิกิริยาสร้างความทุกข์ทรมานให้กับร่างกายค่ะ


ข้อที่ 14 สมมติมีคนเอาเงินให้คุณ 1 หมื่น สำหรับให้นำไปทำบุญหรือ
ทำประโยชน์ให้สังคมเท่านั้น คุณจะนำเงินทำบุญนี้ให้ใคร อย่างไรบ้าง

อ่า ไปทำบุญในพระพุทธศาสนาค่ะ ปัจจัยมีน้อยใช้สอยประหยัด
ดังนั้น จึงขอไปทำบุญกับเนื้อนาบุญก่อนนะ ปล่อยให้คนรวยกว่า
ไปทำบุญบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์กันแล้วกัน ขอตัวย่องเข้าวัดค่ะ



ข้อที่ 15 ข้อสุดท้ายค่ะ...เพื่อนๆที่คุณจะส่ง tag ไปให้เค้า จำนวน 3 คน
ข้อนี้ตอบง่ายมากเลยค่ะ "ขอไม่ส่ง" ค่ะ
เอ้า ใครชื่อ "ขอ" ชื่อ "ไม่" ชื่อ "ส่ง" มารับ tag นี้ไปเด้อ




เออ ตอบไปตอบมาก็สนุกดีเหมือนกันนะเนี่ย เพราะทำให้เรา
ย้อนกลับไปสำรวจตัวเองในรอบปีที่ผ่านมาว่าเราได้ทำอะไรบ้าง
เผื่อเราพบว่าตัวเองยังมีข้อบกพร่องอยู่ในเรื่องใดก็จะได้แก้ไขไงคะ


emoemoemoemoemo

ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ขอให้ "หล่อรวยสวยฉลาดสมปรารถนา" จ้า

Comment Hi5 Glitter


สุข สดชื่น แจ่มใส และมีความสุขมากๆ ในเทศกาลตรุษจีนนะคะ




 

Create Date : 26 มกราคม 2552    
Last Update : 26 มกราคม 2552 6:44:38 น.
Counter : 1013 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.