บัญญัติ 10 ประการ บริหารรักให้แข็งแรง
ลองมาสำรวจความรักของคุณดูซิว่ายังคงมั่นคงแข็งแรงเสริมใยเหล็กมากน้อยแค่ไหนหรือว่ามันค่อยๆ สั่นคลอนลงไปทุกวัน ชีวิตคู่นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป จากรักแรกพบที่เคยหวานอาจเปลี่ยนเป็นรักขมเมื่อเวลาผ่านไป นั่นก็เพราะความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่หมั่นรดน้ำพรวนดินให้ต้นรักแข็งแรง มีหวังรักนี้ร่วงโรยแน่ๆรู้จักขอบคุณและเห็นคุณค่าสิ่งที่มีอยู่คุณอาจลืมไปแล้วว่าคุณและเขาหรือเธอคนนั้นคือโซลเมทของกันและกันและคู่แท้ก็ไม่ได้หากันง่ายๆ เสียด้วย จะด้วยพรหมลิขิตหรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณทั้งสองได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน สิ่งนั้นย่อมเป็นเรื่องที่พิเศษสุดๆ บอกให้รู้ว่าเขาสำคัญ และมีความหมายกับคุณแค่ไหน คุณเองก็เป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่หลงลืมคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ทว่ามีความหมายยิ่งใหญ่นี้ไปไม่ว่าจะบอกด้วยวิธีไหน เชื่อเถอะว่าคำพูดง่ายๆ เพียงไม่กี่คำจะเป็นภูมิคุ้มกันความรักได้เป็นอย่างดีทีเดียวรู้จักมองตาประเภทตาไม่ดูแต่หูฟัง (หรือฟังบ้างไม่ฟังบ้าง) บางครั้งก็ไม่เวิร์คนักหรอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เขาหรือเธอกำลังพูดเรื่องสำคัญให้คุณฟัง แสดงความใส่ใจสักนิดด้วยการ eye contact หากยังนึกไม่ออก ลองนึกถึงตอนที่คุณและเขาสบตากันวิ๊งๆ ครั้งแรกดูสิสัมผัสกายยังไม่ต้องคิดไกล เอาง่ายๆ แค่เริ่มต้นด้วยการกอดกันและกันเป็นต้นว่าเวลาคุณกลับบ้านหลังกรำงานหนักมาทั้งวัน ลองเข้าไปสวมกอดคนที่คุณรักดูหน่อยเป็นไร ประเภทกอดแน่นๆ แบบจริงใจ การสัมผัสทางกายเป็นเหมือนเครื่องย้ำเตือนให้รู้ว่าคุณและเขารู้สึกต่อกันอย่างไรโดยไม่ต้องใช้คำพูดเลยสักคำอยู่เคียงข้างเสมอบอกให้คนพิเศษของคุณรู้ว่าไม่ว่าชีวิตจะหนักหนาสักเพียงใด คุณจะอยู่เคียงข้างเสมอ การล่องนาวาฝ่าคลื่นอุปสรรคไปด้วยกันจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองแน่นปึกยิ่งกว่าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก คนเราจะรักกันมากขึ้นก็ยามลำบากด้วยกันนี่แหละมีอารมณ์ขันและรู้จักชมเสียงหัวเราะคือยาวิเศษ มองเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่อง ขำขำ ไปเสียบ้าง รวมไปถึงการรู้จักศิลปะในการชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเปลี่ยนทรงผมใหม่หรือเรื่องใหญ่ๆ อย่างได้เลื่อนขั้น รับรองว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขาจะไม่มีวันเหี่ยวเฉารู้จักให้อภัยคำพูดสุดอมตะที่ว่า รักคือการให้อภัย คือ คาถาชั้นยอดที่ทำให้สัมพันธ์รักนี้คงกระพัน ต่อให้เจออุปสรรคแห่งความไม่เข้าใจแค่ไหน เชื่อเถอะว่าคุณทั้งสองก็จะผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีปล่อยวางความเครียดไว้นอกบ้านในเมื่อบ้านคือวิมานของเรา เรื่องอะไรเล่าที่คุณจะพกความเครียดจากที่ทำงานมาบ้านด้วย ปล่อยวางมันไว้ที่หน้าประตูบ้านนั่นเลย ก็เวลาที่คุณใช้กับเขาหรือเธอคนนั้นควรเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและผ่อนคลายมิใช่หรือแบ่งปันความฝันลองสำรวจดูสิว่าความฝันและเป้าหมายในชีวิตของคุณและเขาคืออะไรจะให้ดีกว่านั้นควรหมั่นเติมกำลังใจให้กันและกันด้วย น่าเศร้าที่คู่รักหลายคู่ใช้ชีวิตร่วมกันไปวันๆ อย่างซังกะตาย ก็ความรักควรเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่นี่นาเซอร์ไพรซ์! เซอร์ไพรซ์! ไม่ว่าจะเป็นการทำอะไรพิเศษๆ ให้เขาหรือเธอคนนั้นแบบไม่มีเหตุผลไม่อิงวาระหรือเทศกาล แต่ทำเพราะเสียงเรียกร้องของหัวใจ (โอ้วว เย่!) ใครว่าวันวาเลนไทน์มีไว้บอกรักแค่วันเดียวล่ะ ในเมื่อคุณสามารถทำให้ 364 วันที่เหลือเป็นวันแห่งความรักได้เช่นกัน แล้วชีวิตรักที่เคยจืดชืดยิ่งกว่าแกงจืดค้างคืนก็จะกลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง ขอบคุณข้อมูลดีดีที่มาเติมเต็มความรักของทุกคนจาก //women.sanook.com นะคะ
ลักษณะชาย 10 ประการ...ที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ
1. รับผิดชอบ ผู้ชายที่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ จะส่อแววตั้งแต่สมัยเรียนก็รับผิดชอบการเรียนได้ ถึงเวลาทำงานก็สามาถจัดการในหน้าที่ของตัวเองได้ สามารถจัดสรรรายได้สมดุลกับรายจ่ายของตัวเองโดยไม่ต้องเบียดเบียนพ่อแม่ ยิ่งถ้าเขาสามารถจุนเจือครอบครัวได้ละก็ ถือว่าเป็นบุคคลที่น่านับถือทีเดียว เพราะผู้ชายไม่รู้จักโตสมัยนี้มีเยอะ ประเภทที่ทำงานแล้วยังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ร่ำไป รับผิดชอบตัวเองยังไม่ได้แล้วก็อย่าหวังเลยว่า เขาสามารถรับผิดชอบเราได้2. รักครอบครัว การปฏิบัติต่อครอบครัวเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงทัศนคติเกี่ยวกับครอบครัวของเขาได้ ถ้าผู้ชายคนนั้นให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว ปรนนิบัติพัดวี ดูแล พ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง ซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัวปัจจุบันของเขาเป็นอย่างดีแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นว่า หากเขามีครอบครัวของเขาเองในอนาคต (อันมีเราเข้าไปเอี่ยวด้วย) เขาก็น่าจะเป็นคนรักครอบครัวและดูแลสมาชิกอย่างดีด้วยเช่นกัน3. ให้เกียรติเรา ทั้งภายในบ้านและต่อหน้าสาธารณชนทั้งต่อหน้าและลับหลังไม่พยายามแตะเนื้อต้องตัวแม้จะมีโอกาส ไม่เอาเรื่องขายหน้าของแฟนไปนินทาด้วยความคึกคะนองในกลุ่มเพื่อน ไม่ดุด่าว่ากล่าวเราต่อหน้าคนอื่น รวมทั้งต้องไม่มองสาวอื่นจนน่าเกลียดในขณะที่อยู่กับเราด้วย(จขบ. ว่าสงสัยจะหายาก เห็นหื่นๆ กันทั้งนั้นพวกวัยเจริญพันธุ์)4. เสมอต้นเสมอปลาย หายาก ผู้ชายที่จะปฏิบัติต่อคนที่เป็นแฟนเหมือนกับวันที่เริ่มจีบกันวันแรก ส่วนใหญ่ก็มีแต่ประเภทที่ตอนจีบใหม่ๆก็เฝ้าโทร.มาทุกเวลาหลังอาหารแถมด้วยช่วงเบรกระหว่างมื้อและก่อนนอน เทียวรับเทียวส่งเช้าถึงเย็นถึง แต่พอสาวเจ้าตกลงปลงใจคบเป็นแฟนแล้ว พ่อเจ้าประคุณก็เกิดอ้างเหตุผลทางเศรษฐกิจ ประหยัดทั้งค่าโทรศัพท์และค่าน้ำมัน คุยกันวันละครั้งยังบ่นว่าเปลืองทั้งๆที่เราเป็นคนโทร. เฮ้อ...ดังนั้น ถ้าหลังจากคบหากันไปได้สักปีแล้ว คุณพบว่า เขายังปฏิบัติต่อคุณเหมือนเดิมทุกประการแล้วละก็ อย่าปล่อยเขาไปเชียวนะคะ5. มีความเป็นตัวของตัวเอง ถึงแม้ว่าหนุ่มสาวยุคใหม่จะมีความเท่าเทียมกัน แต่ผู้ชายก็ยังต้องเป็นผู้นำครอบครัว ดังนั้น เขาควรจะเป็นคนมีความคิดความอ่าน มีจุดยืน สามารถคิดและตัดสินใจในเรื่องต่างๆด้วยตัวเองได้ แต่ต้องไม่ใช่พวกอีโก้สูงจนไม่ฟังใคร6. อารมณ์ขัน ไม่ต้องถึงกับยกคาเฟ่มาไว้ที่บ้าน แต่หากต้องรู้จักสร้างบรรยากาศที่สดชื่นให้เกิดขึ้นบ้าง เพราะการใช้ชีวิตในสังคมมีเรื่องเครียดๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน ถ้าได้คนใจเย็น คอยกระเซ้าเย้าแหย่ให้คายเครียดได้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น7. ดูแลตัวเองได้ ทั้งเสื้อผ้า บ้านช่อง ดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ใช่ว่าคอยอาศัยให้คนอื่นทำให้อยู่ร่ำไป ถึงเวลาที่ไม่มีใครทำให้ก็ปล่อยให้ห้องกลายเป็นรังหนู เสื้อผ้าไม่ซักกองเป็นภูเขา ปล่อยให้รถโสโครกได้ทั้งปี หรือหาข้าวกินเองไม่เป็น คุณสาวๆ คะถ้าตกลงปลงใจกับผู้ชายแบบนี้ก็เตรียมตัวรับสภาพคุณแจ๋วต่อไปเถิด8. สุภาพ ทั้งต่อเราและผู้อื่น เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ใช่ว่าต้องแสดงความเป็นชายชาตรี พูดคำด่าคำ ไม่พอใจอะไรก็โวยวายขู่ ตะคอก ขยันสร้างศัตรูไว้ทุกมุมเมือง9. ไม่รังเกียจงานบ้าน คู่รักสมัยนี้ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้น งานในบ้านก็ไม่ควรเป็นภาระของฝ่ายหญิงเพียงคนเดียว แล้วคุณผู้ชายก็ทำประหนึ่งท่านเจ้าคุณกลับชาติมาเกิด หากเขาแสดงให้เห็นว่า เขายินดีและไม่รังเกียจที่จะช่วยงานบ้านเล็กๆน้อยๆบ้าง เช่น อาสาล้างจานให้ (หลังจากที่มากินข้าวฟรีหลายมื้อ) หรือช่วยเอาขยะไปทิ้งให้บ้าง ก็น่ารักแล้ว10. มีอนาคต แหม...ก็ไม่ต้องถึงกับว่า แววรัฐมนตรีออกตั้งแต่หนุ่มๆหรอกนะคะ เพียงแต่ขอให้พอมองเห็นความเจริญก้าวหน้าบ้าง ไม่ใช่ประเภทถ้าใครตกลงปลงใจด้วยแล้วเตรียมเกลือไว้คลุกข้าวกินตลอดชีวิตก็พอแล้วละค่ะทั้งนี้และทั้งนั้น สาวๆ ก็อย่ามุ่งมั่นเสาะแสวงหาชายหนุ่มที่มีคุณสมบัติทั้ง 10 ประการอย่างเพียบพร้อมเลย ดีไม่ดีจะต้องไปนั่งรอที่คานทองนิเวศน์กันพอดี ตราบใดที่เราเองก็ยังมีข้อบกพร่องก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะเพอร์เฟ็คท์ไปซะหมดหรอก ถ้าพบใครที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสัก 7-8 ข้อที่ได้กล่าวมาแล้วละก็ ขอบอกไว้เลยว่า...อย่าปล่อยให้หลุดมือ(เอ แล้วถ้ายังไม่เข้ามาอยู่ในมือเราเนี่ย จขบ. สงสัยว่าเราจะไปแย่งเค้ามาให้อยู่ในมือเราได้หรือเปล่าน้า อิอิ)ขอขอบคุณบทความจาก นิตยสาร กุลสตรีโดยอภินันทนาการ คุณตุ๊ดตู่ //www.formumandme.com นะคะ
สิ่งที่ควรทำ 18 ประการ เมื่อคุณรักใครสักคน
(1) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงไปรักเขาได้แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้เรารักเขาและต้องรักให้ดีที่สุดก็พอ(2) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ต้องสนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่ควรนึกขอบคุณโชคชะตาที่สร้างให้มีอุปสรรคเพื่อให้เราทั้งสองได้ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน(3) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้างแต่ให้มานั่งถามตัวเองดูว่า วันนี้เราทำอะไรเพื่อคนที่เรารักแล้วหรือยัง(4) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ต้องไปมัวระแวงว่าเขาจะไปมีใครนอกเหนือจากเราแต่ควรระวังใจของตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับใครเข้ามาในใจอีก(5) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเขาว่าเขาเคยมีใครยังไงแต่ให้คิดไว้ว่าทุกวันนี้มีเขาและเราอยู่ด้วยกันอดีต...ถึงอย่างไรก็คืออดีต(6) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขาแต่ควรพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับเขาจะดีกว่า(7) การที่เราจะรักใครสักคน .....เมื่อทะเลาะกัน คำว่าแพ้หรือชนะก็ไม่สำคัญเราจึงยอมให้เขาเป็นฝ่ายชนะเสมอ ถ้าทำให้เขาสบายใจ(8) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ควรหูเบา เพราะอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เรารักได้(9) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ใช่การสัมผัสกันด้วยร่างกาย แต่เป็นการสัมผัสกันด้วยหัวใจต่างหาก(10) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวัน เพราะการที่เราคอยห่วงใยกันอยู่เสมอๆ ก็สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดี แม้สักล้านคำ(11) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่เกี่ยวกับสิ่งของนอกกายใดๆ เลย เพราะความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือแลกมาด้วยทรัพย์สิน(12) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่ต้องคอยนับว่าเขามีข้อเสียมากมายสักกี่ข้อเพราะข้อดีของเขาก็มีมากพอที่จะทำให้เราลืมข้อเสียทั้งหมดของเขาได้(13) การที่เราจะรักใครสักคน .....ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาแค่เรามีเขาอยู่ในใจทุกนาทีก็พอ(14) การที่เราจะรักใครสักคน .....เมื่อเห็นเขาเสียใจ ไม่ต้องรอจนกระทั่งเขาเสียน้ำตาแล้วค่อยเข้าไปปลอบใจ แต่ควรรีบเข้าไปแบ่งเบาความทุกข์ของเขาเสียตั้งแต่เมื่อเราเห็นเขาเงียบๆ ซึมๆ ไปเพราะหากเราปล่อยเขาไว้จนสายเกิน ผลสุดท้ายแล้วคนที่เสียใจที่สุดเมื่อรู้ตัวก็คือเราเอง(15) การที่เราจะรักใครสักคน .....อย่ารอที่จะบอกรัก ให้รีบบอกคนที่เรารักซะ ก่อนที่จะไม่มีเขาคนนั้นให้บอกอีก(16) การที่เราจะรักใครสักคน .....แม้ว่าอาจทำให้เราตาบอด แต่ก็ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจว่าความสุขจากการที่เราได้รักใครสักคน มันมีมากมายแค่ไหน(17) การที่เราจะรักใครสักคน .....จงเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากๆ(18) การที่เราจะรักใครสักคน .....ง่ายยิ่งกว่าการพยายามลบเขาออกไปจากหัวใจความรักเป็นบทเรียนดีๆที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตนเองความรักทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทำให้เราเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นความรักทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบนี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้...จากการที่เราได้ รัก ใครสักคนคุณเคยรักใครสักคนหรือยัง .....ขอบคุณบทสรุปของความรักที่ดีเยี่ยมจากคุณซุ่ม : //www.narak.com
สัญญาณเตือนรักร้าว 6 ประการ
คุณคบกับเขามานานแค่ไหนแล้ว และความสัมพันธ์ของคุณลึกซึ้งขนาดไหน แล้วทำไมรักนี้มันไปไม่ถึงไหนซักทีจะได้แต่งกับเขาหรือเปล่า หรือแต่งแล้วจะอยู่กันยืดแค่ไหน ลองศึกษาสัญญาณอันตรายที่ส่งออกมาเตือนภัยให้รู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณครั้งนี้ คงถึงกาลอวสานแล้วเป็นแน่สัญญาณที่ 1 จำไม่ได้ว่าโรแมนติกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เรื่องกุ๊กกิ๊กสุดโรแมนติกนั้นเป็นเรื่องที่ช่วยยืดอายุรักหวานให้คงอยู่สำหรับคู่แต่งงานแล้ว (จขบ. ขอเน้นว่าสำหรับคู่แต่งงานแล้วเท่านั้น ยังไม่แต่งอย่านะ) การมีเซ็กซ์ตามปกติอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อย่าให้เขาหรือคุณอ้างว่าทำงานจนเหนื่อยหมดแรงแล้วไม่สามารถเล่นสนุกบนเตียงกันได้ หากเหนื่อยกันจริง ๆ คุณทั้งสองสามารถหยอกล้อสร้างสีสัน แอบโรแมนติก ด้วยการชวนกันไปดินเนอร์หวาน ๆ หรือชวนกันไปนอนนวดแก้เหนื่อยเมื่อยล้าก็ได้ แค่นี้ก็โรแมนติกแล้ว หากขาดสีสันในข้อนี้ไปด้วยการที่คุณทั้งสองหมดอารมณ์จะคิดทำอะไรหวาน ๆ กันซะอย่างนั้น ไม่ต้องไปหาแม่หมอให้ช่วยคาดเดาอนาคต ดูเองก็ได้ว่าอยู่กันได้อีกไม่นานหรอกสัญญาณที่ 2 เขาไม่ยินดีไปกับคุณในเรื่องที่คุณดีใจสุด ๆหากคุณได้รับโปรโมทเลื่อนตำแหน่ง ได้ขึ้นเงินเดือน ได้งานใหม่ที่แสนจะเลิศสุด ๆ ทั้งที่คุณนั้นยิ้มแก้มแทบปริ และเล่าให้เขาฟังอย่างสุขใจถึงเรื่องนี้ แต่เขากลับไม่ยินดียินร้าย ทำตัวเฉยสุด ๆ กับการนี้ ทั้งยังไม่เคยเอ่ยปากแสดงความยินดี หรือชวนคุณไปฉลอง หากเป็นเช่นนี้คิดได้ 2 ประการ คือ เขาอิจฉาในความสำเร็จของคุณหรือเขาไม่สนใจในเรื่องราวของคุณอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะข้อใด นับเป็นสัญญาณอันตรายทั้งสิ้น คนรักกันย่อมไม่อิจฉากันและต้องให้ความใส่ใจกันในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย หากคุณได้ดีเขาควรจะยินดีอย่างจริงใจ และหากคุณมีปัญหาเขาควรยื่นมือเข้ามาช่วยโดยไม่ต้องร้องขอสัญญาณที่ 3 เขาหงุดหงิดทั้งที่คุณไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยทั้งที่คุณก็ทำตัวเหมือนปกติที่เป็นมา เดินช้า ไม่ค่อยรู้ถนนหนทาง หรือขี้เกียจทำกับข้าวบ้างในบางครั้ง เรื่องแบบนี้เมื่อก่อนเขาก็ว่าไม่เป็นไรนี่นาเดินช้าก็น่าเอ็นดู ไม่รู้ทางเขาก็คอยบอก หรือไม่อยากทำกับข้าวเขาก็ยิ้มชวนไปกินข้าวนอกบ้าน ทำไมวันนี้ทุกเรื่องที่เคยเป็น กลับทำให้เขาหงุดหงิด โมโห ซ้ำยังพาลดุคุณชะอีกว่าทำไมทำตัวแบบนี้ สัญญาณเตือนนี้แรงนักว่ามันชักจะมีอะไรทะแม่ง ๆ แล้ว ไม่เขามีคนอื่น ก็เขาเบื่อคุณแล้วแน่ ๆ คงต้องนั่งลงคุยกันให้รู้ความจริงว่าทำไมเขาจึงเปลี่ยนไปสัญญาณที่ 4 วันพิเศษสุดหวานของสองเราเริ่มจืดจางวันวานที่ยังหวาน ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะพลาดวันสำคัญ ทั้งดอกไม้ช่อโตสุดเซอร์ไพรภ์ในวันวาเลนไทน์ ของขวัญสุดพิเศษในวันเกิด ดินเนอร์สุดหรูวันครบรอบแต่งงาน แต่ทำไมพอถึงวันนี้ทุกครั้งที่วันพิเศษกำลังจะเวียนมาถึง ดูเขาเซ็ง ๆ พิกล พอคุณเอ่ยปากถามถึงแพลนหวานที่ปกติต้องมีเขาก็เฉย ๆ ซะงั้น กลายเป็นว่าที่เคยมีของขวัญคิดมุกสุดปิ๊งมาให้คุณทุกเทศกาล พอคราวนี้เขาเริ่มไม่มีอะไรจะให้ หรือลืมไปเฉย ๆ ซะอย่างนั้นจะว่ายุ่งจนลืมก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเขาก็ยังออกไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่ตลอดถ้าเป็นเช่นนี้คงต้องเริ่มสงสัยบ้างแล้วว่ากำลังมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่นอนสัญญาณที่ 5 เขาหลงใหลในตำแหน่งและชื่อเสียงสำหรับคู่ที่คบกันตอนที่ต่างคนต่างยังไม่มีอะไร แล้วในวันหนึ่งเขาก็ได้มาซึ่งตำแหน่ง ลาภยศสรรเสริญ จากหนุ่มขี้อาย ถ่อมตน เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่กับบ้าน มีชีวิตพอเพียง ถึงวันนี้ที่เขาประสบความสำเร็จเกินคาดหมายแทนที่จะเอาเงินทองที่ได้มาปรับปรุงบ้าน ชื้อของขวัญชิ้นแพงให้คุณ หรือจัดการชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวให้อยู่สุขสบายขึ้น กลายเป็นว่าเขาเอาเวลาที่มีไปให้กับงานสังสรรค์ เข้าก๊วนตีกอล์ฟกับเพื่อนระดับสูงกว่ายามใครชวนคุยถึงเรื่องการงาน ก็ได้ทีคุยโม้โอ้อวดอย่างเมามันส์แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ต้องห่วงเลยว่าเขามีโอกาสที่จะนอกใจคุณมากขนาดไหนสัญญาณที่ 6 มีข้ออ้างสำหรับการใช้เวลากับเราถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้เขาแทบจะมาขลุกอยู่กับคุณทุกนาทีที่มีเวลาว่างทั้งพาคุณไปเที่ยวทุกที่ที่คุณอยากจะไป ถ้าเขาจะไปติ๊ดชึ่งกับเพื่อนก็ชวนคุณไปด้วยทุกครั้ง หรือไม่ถ้าคุณขี้เกียจออกจากบ้าน เขาก็ขอแค่มานั่งดูทีวีที่บ้านคุณก็พอแล้ว แต่ทำไมวันนี้เขาถึงไม่มีเวลาให้คุณเลย ทั้งงานยุ่งเกือบ 24 ชั่วโมง มีนัดกับเพื่อนทุกครั้งที่คุณชวน จะขอไปด้วยก็บอกว่าไม่ได้จริง ๆ ต้องคุยธุระจำเป็น หากเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้แล้วล่ะก็ ทำใจรอเลิกไว้ได้เลยสนับสนุนข้อมูลดีๆ โดย นิตยสาร HAIRที่มา : www.love4home.com(ที่นี่เขามีเรื่องดีดีมากมายอย่าลืมไปเยี่ยมกันนะคะ)บทส่งท้าย : สำหรับคนรักร้างอีหนูเอ๋ย อย่าไปคิดมากเลย คิดเสียว่าทำบุญร่วมกันมาแค่นี้เสียใจไปก็เท่านั้น gone with the windจขบ. เพิ่มให้อีกถ้าไม่อยากรักร้าง ก็ไปทำบุญร่วมกันบ่อยๆ ซิคะ หมั่นเติมบุญใหม่ เผื่อบุญใหม่จะเกื้อหนุน ตักบาตรร่วมกันปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ปล่อยโคกระบือ ให้ชีวิตคนอื่นก็ได้ความสุขใจที่เรานะอีหนูนะ แต่ถ้ามันยังอยากจะจากไปอีกก็ปล่อยมันไปเถอะจากเป็นดีกว่าจากตายหนอ นะโม ตัสสะ นะโม ตัสสะ นะโม ตัสสะ
อิสระเสรีเหมือนอย่างนกในธรรมชาติ
อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเป็นโฆษณากางเกงในยี่ห้อหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยนะคะโป๊ตายเลย คิดได้ยังไงนะ ไอ้พวกที่ไม่ชอบใส่กางเกงในเนี่ยเอาหละเข้าเรื่องดีกว่า วันนี้ จขบ. ยังอยู่ในช่วงสุขใจดื่มด่ำกับธรรมชาติอยู่ค่ะ ดังนั้นใครที่เข้ามาเยี่ยมจึงจำเป็นอยู่เองที่ต้องดื่มด่ำกับธรรมชาติตาม จขบ. ไปด้วย อิอิว่าแล้วเราก้อมาดื่มด่ำกับธรรมชาติกันเลยแล้วกันนะคะวันนี้ว่าด้วยเรื่องของนกค่ะ มีภาพของนกสวยๆ ตามธรรมชาติมาฝากกันด้วยเมื่อพูดถึงนกเรามักจะนึกถึงความเป็นอิสระเสรีค่ะ เพราะนกในธรรมชาตินั้น มันช่างมีอิสระเสรีเสียเหลือเกิน ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของใครที่ชอบบังคับให้เราต้องเชื่อ ต้องศรัทธา ต้องทำอย่างที่เขาบงการทำให้ จขบ. ต้องไปขอยืมโคลงที่กล่าวถึงความมีอุดมการณ์ความมีอิสระเสรีเหมือนอย่างนก มาฝากกันค่ะผิวโพยมผ่องพริ้ว เมฆามวลหมู่วิหคพา สู่ห้วงทยานสู่มรรคา อาบอุ่น ตะวันแสงผ่องโลมปีกป้อง น่านฟ้า เริงลม ฯงามสิ่งใจสื่อสร้าง โดยดลจักผ่องงามสากล แซ่ซ้องโบยบินอยู่อย่างคน ใจแกร่ง ในทางโลกจึ่งนับวิถีก้อง บ่งเจ้า เสรี ฯอุดมการณ์เจิดแจ้ง ใจดลงามอยู่ในตัวตน บ่งชี้กลัวใดเล่าทุกข์ทน เที่ยวเอ่ย รำพันเฉกเช่นชีวิตนี้ ดั่งเจ้า โบยบิน ฯนกเสรีห่มห้วง เมฆาบินอยู่โดยศรัทธา พร่างพร้อยบินเถอะสู่นภา ตามแต่ แรงโบยโลกกล่าวกว้างมากน้อย ย่อมแพ้ เจ้าบิน ฯโดยคำ ส.ผาติสุวัณณ (ลานเทวา)โดยลำนำ ตรงวิจารณ์สื่อสารงานถ้อยร้อยเรียง เป็นปากเป็นเสียงประชาชนที่มา : www.praphansarn.comธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใครก่อน (ยกเว้นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติเช่นพายุนะ)มนุษย์นั่นแหละเป็นผู้ทำลายสมดุลตามธรรมชาติ ด้วยความเห็นแก่ได้ของตัวเองเมื่อสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลายลง ธรรมชาติจึงย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์ให้สาสมกับที่มนุษย์ได้ทำกับธรรมชาติไว้มนุษย์จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง ขอบคุณภาพนกสวยๆเหล่านี้จาก//www.doonokthai.com และ //www.shutterphoto.comไว้ณ ที่นี้ด้วยนะคะ รักคนเข้ามาเยี่ยมชมทุกคนเลยค่ะใครชอบดูรูปนกสวยๆ และรู้จักนกชนิดต่างๆ อย่าลืมแวะเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซด์ที่บอกไว้นะคะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [