ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
All blogs
 

6 ร้านเค้กแสนอร่อยที่ขอแนะนำ


อารมณ์สุนทรีย์นึกอยากเป็นฝรั่งขึ้นมา เลยลอง search หาข้อมูล
ขนมเค้กร้านอร่อยที่น่าสนใจ เลยได้เค้กร้านอร่อยจำนวน 6 ร้านที่ผ่าน
การพิจารณากลั่นกรองจากเนื้อหาที่เขานำเสนอแล้วว่า ท่าจะอร่อยจริง
เลยขอนำข้อมูลเด็ดที่เขาสาธยายยั่งน้ำลายจนสอเอาไว้ มาฝากกันดังนี้ค่ะ


1. ร้านเค้กอร่อยชื่อ “LOVE AT FIRST BITE”
homebaked cakes and pies ตั้งอยู่ในซอยหลังโรงเรียน
เชียงใหม่คริสเตียน ใกล้สะพานนวรัฐ จังหวัดเชียงใหม่


ที่นี่ไม่ได้มีแต่เค้กอร่อยอย่างเดียวเท่านั้น กาแฟก็หอมนุ่มเข้มข้นน่าดื่ม
และนอกจากกาแฟแล้วก็ยังมีเครื่องดื่มอีกมากมายให้เลือก ทั้งโกโก้ ชา
น้ำผลไม้ หรือใครชอบรับประทานไอศครีม ที่นี่เขาก็มีให้เลือกหลายรส





2. ร้านเค้กอร่อยชื่อ "Coffee beans by Dao"
ร้านนี้ตั้งอยู่ในอาคาร CASA VIVA ซอยเอกมัย 12 มานานแล้ว

ถ้าถามคนที่ชอบกินเค้กว่าชอบร้านไหนบ้าง คำตอบจาก 9 ใน 10 คน
จะต้องมีร้าน Coffee beans by Dao อยู่ด้วย แสดงว่า
ร้านนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ความจริงคุณดาวหรือ ณัฐธยาน์
ปางพุฒิพงศ์ สาวสวยซึ่งเป็นเจ้าของร้านนั้นอดีตเคยเป็นแอร์โฮสเตส
ของการบินไทยมาก่อน พอแต่งงานแล้วก็เลยลาออกมาเป็นแม่บ้าน
เมื่อครอบครัวทำธุรกิจอพาร์ตเม้นต์อยู่ในซอยเอกมัย 12 คุณดาวจึง
อาศัยพื้นที่ชั้นล่างเพื่อเปิดเป็น Coffee Corner เล็ก ๆ


ด้วยรสมือที่ไม่ธรรมดาประกอบกับการใส่ใจกับอาหารทุกจาน
จึงทำให้ร้านนี้มีลูกค้าทั้งคนในและคนนอกจนต้องขยายร้านออกไป
จนเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องเค้กแล้วเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก พิสูจน์ได้
จากตู้เย็นที่ใช้โชว์เค้กหน้าร้านนั้นยาวขนาดต้องใช้ถึง 5 ตู้ มาต่อกัน
มีความยาวไม่ต่ำกว่า 8 เมตร มีเค้กสารพัดรสชาติเรียงเต็มแน่นทุกพื้นที่


คุณดาวบอกว่าสูตรเค้กทั้งหมดที่ทำขายนี้เธออาศัยเปิดตำรา cookbook
แล้วเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยเค้กตัวแรกที่ทำขึ้นมาขายคือ
White Chocolate cake ที่แตกต่างจากที่อื่นคือเจ้าตัวบอกว่า
เนื่องจากชอบกินคุกกี้โอริโอมาก เลยเลือกใช้แทนบิสกิต
เฉพาะตัว White Chocolate นั้น คุณดาวจะใช้ของแท้จากสวิส
ที่ให้กลิ่นหอมเนื้อละมุนลิ้น ส่วนเนื้อเค้กแน่นนุ่มชุ่มอร่อยมาก
แล้วขนมเค้กตัวนี้ก็ขายระเบิดเถิดเทิงเป็นตัวเด่นของร้านนี้
จนกลายมาเป็นแม่แบบให้อีกหลาย ๆ ร้านไปเลียนแบบ




นอกจากนี้ยังมี Black Forest Cake เค้กสไตล์สวิสแท้ ๆ
ที่อุดมไปด้วยครีมสดนุ่มหอม ไส้เป็นผลเชอรี่เชื่อมฉ่ำ
สลับชั้นเค้กเนื้อละเอียดลื่นคอยามตักเข้าปาก และที่หารับประทาน
ที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียวคือ Black Forest Roll
ส่วนชีสเค้กของที่ก็อร่อยไม่แพ้กัน มีสารพัดให้เลือก อาทิ
Blueberry, Strawberry, Caramel หรือ Green Tea Cheese Cake
โดยเฉพาะเค้กที่ต้องใช้ผลไม้นั้นจะเลือกผลไม้สด


เค้กทุกชิ้นของที่ร้านนี้เป็นสไตล์โฮมเมดที่ทำอย่างพิถีพิถันและอบกัน
บนเพ้นต์เฮาส์ของคุณดาวบนชั้นที่ 27 ของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เคล็ดลับ
ของความอร่อยนั้นเธอบอกว่าจะเน้นเลือกแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใช้แต่
ของธรรมชาติ อบครั้งละไม่มากเพื่อให้ลูกค้าได้ของสดใหม่ไปกิน มีเค้ก
ประมาณ 200 กว่าชนิดที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันออกมาขายตลอดทั้งวัน



3. ร้านเค้กอร่อยชื่อ "Secret cake&pie"
ตั้งอยู่ที่ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ถนนสุขุมวิท 101/1 กทม.

เจ้าของร้านเลือกเค้กที่คนอื่นไม่ทำกัน มาลงตัวที่เค้กมะพร้าวอ่อน
กว่าจะมาเป็นเค้กมะพร้าวอ่อนหรือ Fresh Coconut Cake
ที่อร่อยได้ทุกวันนี้ ก็ต้องทดลองทำแล้วโยนทิ้งไปหลายก้อนทีเดียว
เพราะเจ้าของสูตรเลือกแต่วัตถุดิบที่เป็นของดีจากเมืองนอก
ความอร่อยของเค้กมะพร้าวอ่อนร้านนี้ คนที่ชอบพูดกันถึงขนาดว่า
มะพร้าวอ่อนนั้นอร่อยทุกเส้นทีเดียว ซึ่งจะเลือกมะพร้าวที่อ่อน
กำลังดี คือถ้าอ่อนไปจะเป็นวุ้นเมื่ออบแล้วก็จะละลายไม่ได้เนื้อ
แต่ถ้าเลือกมะพร้าวที่แก่เกินไปเนื้อก็จะไม่นุ่มลิ้น และต้องเป็น
มะพร้าวน้ำหอมเท่านั้น แค่หามะพร้าวเพื่อมาทำเค้กก็ยุ่งยากไม่น้อยแล้ว
โดยทุกวันนี้จะต้องไปจองมะพร้าวอ่อนน้ำหอมกันถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา
กันทีเดียว หน้าตาของเค้กไม่มีมะพร้าวขูดมาโรยด้านหน้าเหมือนร้านอื่นๆ
แต่ความขาวสะอาดของเค้กกลับชวนให้อยากลิ้มลองเมื่อแรกเห็น




เพราะเนื้อเค้กจะมีความแน่นนุ่มไม่หวานจัด ระหว่างชั้นเค้กจะมีครีมสด
ผสมด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ซอยเป็นเส้นยาวๆ กัดแล้วอ่อนนิ่มกำลังดี
ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป ที่สำคัญคือมีความหอมของกลิ่นมะพร้าวน้ำหอม
อยู่ทุกคำที่กัดกิน และเพื่อให้เค้กมะพร้าวอ่อนสดจริงๆ นั้น เวลาเก็บ
ก็จะต้องแช่เย็นในอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อรักษาความสดอีกด้วย


สูตรลับของร้านไม่ได้มีแค่นี้ ที่อร่อยจนขนาดคนดังต้องแวะเวียน
มากินทุกบ่อยก็คือเค้กมะตูม ที่คัดมะตูมเชื่อมแบบหวานกำลังดี
มาปั่นให้ละเอียดแล้วผสมลงไปในเนื้อเค้กหน่อยหนึ่งเพื่อให้ได้กลิ่นหอม
ส่วนที่เหลือก็ปั่นทาลงบนเค้กแบบหนา ๆ ให้กินกันสะใจไปเลย
เค้กมะตูมของร้านนี้จะเสิร์ฟแบบสูตรโบราณคือต้องราดด้วยคัสตาร์ทซอส
หรือโยเกิร์ตก่อน จะทำให้เค้กชิ้นนี้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมมากขึ้นไปอีก



4. ร้านเค้กอร่อยชื่อ "Mousses & Meringues "
อยู่ในซอยสุขุมวิท 31 แต่งหน้าร้านสีสันน่ารักเหมือนร้านขนมเมืองนอก

หนิง - สิริรัตน์ ไชยโกมินทร์ เจ้าของร้านเจ้าของสูตรบอกเล่าว่า
เดิมเป็นคนชอบกินเค้กมาก และจะเลือกกินแต่เค้กที่อร่อยเท่านั้น
และเพราะความชอบกินนี่เองจึงสนใจไปเรียนทำเค้กมาเพื่อหวัง
จะทำกินเอง พอทำแล้วได้รับคำชมว่าอร่อยมากๆ เลยหลวมตัว
กลายมาเป็นเจ้าของร้านเค้กนานถึง 12 ปีเข้าไปแล้ว
รสชาติของเค้กร้านนี้ เจ้าของร้านบอกว่าทำตามที่ใจอยากจะทำคือ
ไม่หวานจัด ส่วนรสชาตินั้นก็พยายามดึงจุดเด่นของเค้กตัวนั้น ๆ
ออกมา และที่ร้านนี้จะมีเค้กแบบแปลก ๆ ที่หนิงเป็นคนบุกเบิกตลาด
อย่างการใช้มูสมาประกอบอย่าง White Chocolate Mouss ที่หนิงติดใจ
รสชาติที่เคยไปชิมมาจากโรงแรมแห่งหนึ่ง เธอจึงลองมาทำเองบ้าง


เค้กตัวแรกๆ ที่หนิงทำขายเป็นประเภทช็อกโกแลตเค้กแต่ไม่ใช่
หน้านิ่มเหมือนคนอื่นทำ แล้วก็มาทำเค้กกาแฟ จากนั้นก็มีเค้กตัวใหม่ๆ
เรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ก็มี 40 กว่าอย่างแล้ว ส่วน White Chocolate cake นั้น
เธอบอกว่าเป็นคนคิดสูตรขึ้นมาเอง รสชาติ White Chocolate cake
เนื้อเค้กนุ่มแน่น ตัวครีมจะออกหวานนิดเค็มหน่อย เมื่อผสมรวมกับ
ไวต์ช็อกโกแลตจะได้ความหวานหอมกลมกล่อม สนใจลองแวะไปชิมกันได้





5. ร้านเค้กอร่อยชื่อ "SENSES" ร้านประเภท 5 star coffee shop
อยู่ที่ชั้น 3 เกษรพลาซ่า แถวราชประสงค์ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิร์ล กทม.

นราวดี ศรีกาญจนา หรือยูกิ สาวสวยไฮโซประเภท Working Woman
ที่ไม่เพียงแต่จะทำงานเก่งเท่านั้น แต่เสน่ห์ปลายจวักของเธอก็ลือเลื่อง
เพราะเป็นคนชอบเข้าครัวทำกับข้าวแถมอร่อยแปลกๆ ใหม่ๆ ให้
คนในครอบครัวได้ลิ้มลองอยู่เสมอจนตัดสินใจมาเปิดร้าน
นอกจากเมนูอาหารจานง่ายๆ ที่อร่อยถูกปากลูกค้าขาประจำแล้ว
คนรักเค้กจะรู้กันว่าร้านนี้มีดีซ่อนอยู่อีกอย่างนั่นคือ...
เค้กมะตูมที่สุดแสนจะอร่อย ยูกิบอกว่าเค้กมะตูมของเธอ
ไม่ต้องการแต่งหน้าให้ดูเปรอะไปหมด ดังนั้นจึงมีเพียงหั่นมะตูมเชื่อม
ขนาดชิ้นเท่าลูกเต๋าโรยอยู่หน้าเค้ก ราดด้วยไอซิ่ง อบให้ได้ที่


เค้กชิ้นนี้จะออกมาเป็นสีเหลืองทองสวยงามมาก ส่วนตัวเค้ก
จะออกสีน้ำตาลเข้มเพราะใส่น้ำตาลทรายแดงแทนน้ำตาลทรายขาว
จึงทำให้เนื้อเค้กนุ่มและฉ่ำกัดแล้วจะเจอเนื้อมะตูมที่หั่นเป็นชิ้น ๆ
ปนลงไป ในเนื้อเค้กด้วย เวลาจะกินจะต้องไปอบให้ร้อนเล็กน้อย
เพื่อให้น้ำตาลที่เกาะอยู่อ่อนตัวจะได้เนื้อเค้กที่นุ่มอร่อย มีวิปครีม
เคียงมาเพื่อลดทอนความหวาน สำหรับคนไม่ชอบหวาน
ยูกิบอกว่าเค้กของที่ร้านเป็นสไตล์โฮมมี่ที่เหมือนทำกินกันเองในบ้าน
ดังนั้นจึงเลือกใช้แต่วัตถุดิบที่ดี ถ้าคนที่ชอบกินเค้กจะรู้สึกได้เลย
ว่าเค้กร้านนี้ใช้แต่ครีมสดมาทำ โดยไม่ใช้ครีมเทียมเพราะไม่ดีต่อสุขภาพ
น่าสังเกตว่าเค้กร้านนี้ไม่ทำเนยแต่งหน้า แต่ใช้ครีมสดแต่งเรียบ ๆ เท่านั้น





6. ร้านเค้กอร่อยชื่อ ร้าน "ครัวแม่ยุ้ย"
อยู่ต้นซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 พญาไท กทม. ร้านนี้อยู่ติดกับ"บ้านราชครู"

บลูเบอรี่ ชีส เค้ก เป็นเค้กยอดนิยมอีกตัวหนึ่งที่ใคร ๆ ก็มักจะถามหากัน
แต่ร้านที่ไปชิมมาแล้วอร่อยมาก ๆ กลับเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ต้นซอย
อารีย์สัมพันธ์ 1 เป็นร้านอาหารที่ใช้บ้านหลังเก่า ๆ ปกคลุมด้วยร่มไม้ใหญ่
ที่ชื่อร้านครัวแม่ยุ้ย ร้านนี้อยู่ติดกับ"บ้านราชครู" เนื่องเพราะเจ้าของร้าน
คือคุณอัจฉรา เชี่ยวสกุล หรือแม่ยุ้ย ซึ่งเป็นลูกสาวของพล.ต.อ.เผ่า
และคุณหญิงอุดมลักษณ์ ศรียานนท์ และตามปกติบ้านราชครูนั้น
จะเปิดต้อนรับแขกอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้แม่บ้านต้องเตรียมสำรับกับข้าว
มารับแขกทั้งวัน คุณอัจฉราจึงได้รับการถ่ายทอดตำรับตำราอาหาร
ติดมือมาด้วยโดยเฉพาะอาหารฝรั่งเพราะลูก ๆ ชอบกิน ช่วงที่ลูก ๆ
ไปเรียนอยู่เมืองนอกคุณอัจฉราก็ต้องไปอยู่ด้วยเพื่อดูแลลูก ยามว่างจึง
เข้าไปเรียนที่กอร์ด็อง เบลอ สถาบันสอนทำอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
จากนั้นก็นำสิ่งที่เรียนมาทดลองดัดแปลงรสชาติให้เข้ากับลิ้นคนไทย
แล้วจึงมาเปิดร้านครัวแม่ยุ้ย ที่คัดเมนูเด็ดของบ้านราชครูมานำเสนอ


ร้านครัวแม่ยุ้ยถือว่าเป็นสไตล์โฮมเมดของแท้ เพราะนอกจาก
จะมีเมนูง่าย ๆที่ขายประจำแล้ว ถ้าวันใดที่แม่ยุ้ยเข้าตลาดแล้ว
เจออะไรที่น่าสนใจก็จะหยิบติดมือกลับมาทำเมนูอร่อยขายกัน
อย่างขนมเค้กนั้น แม่ยุ้ยบอกว่าสนใจทำมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม
พอได้ไปเรียนมาก็ดัดแปลงสูตรแล้วก็ทำให้คนรอบข้างชิมซึ่งใคร ๆ
ก็ชมว่าอร่อย เค้กแม่ยุ้ยมีจุดเด่นคือรสชาติเข้มข้น เนื้อเค้กนิ่ม
ครีมจะไม่หนักมาก วัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นล้วนแต่เลือกของคุณภาพ
ทั้งครีมแท้และเนยสด เป็นต้น ไม่มีสารเคมีเจือปน และเป็นเค้ก
ที่ใหม่สดทำแบบวันต่อวัน ส่วนสูตรบลูเบอร์รี่ ชีสเค้กที่ได้มานั้น
เวลากัดลงไปจะเจอแป้งกรอบร่วนไม่ยุ่ย ส่วนตัวชีสเค้กนั้นก็
หอมมันนุ่มนวล อมรสเปรี้ยวนิด ๆ มันหน่อย ๆ แถมหนาเป็นพิเศษ
ส่วนบลูเบอร์รี่ที่ราดนั้นจะหนา กินเข้าไปแล้วได้เนื้ออร่อยเต็มคำ
เค้กขายทั้งเป็นชิ้นและเป็นก้อน นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเค้กให้ลิ้มลอง



emoemoemoemoemoemoemoemo




ที่มา : ร้านที่ 1 แนะนำโดย Boonnada Supiyaphun แห่ง blog.
tourismthailand.org
และ ร้านที่ 2 ถึง 6 แนะนำโดยปรับปรุง
จากข้อมูลของ kookkai แห่ง "www.expert2you.com" จ้า




 

Create Date : 04 กันยายน 2552    
Last Update : 5 กันยายน 2552 10:07:40 น.
Counter : 3925 Pageviews.  

Tag...มือถือ



ได้รับ TAG มือถือจากคุณแป๊ว คุณแม่ของน้องแปงแปง ที่น่ารัก
คน Low Tech อย่างเราก็นึกอยู่นานว่าจะทำบล็อกอย่างไรดี
เพราะเรื่องโทรศัพท์มือถือของเรามันไม่น่าสนใจเท่าไหร่
แต่เอาหละ ไหนๆ แล้ว ก็ต้องอัพอยู่ดี ขอนำเสนอเลยนะคะ


1.ใช้มือถือ รุ่นไหนอยู่ ?



Nokia 6070 จ้า
แบบว่าส่วนใหญ่ใช้เพื่อสะดวกในการติดต่อสื่อสารอย่างเดียว
ไม่ต้องการความหรูเลิศอลังการมาก ก็เลยยังใช้ได้อยู่



2. เครื่องที่เท่าไหร่ ใช้รุ่นไหนมาก่อนบ้าง ?

นอกจากเครื่องนี้ที่ซื้อมาใช้เองซึ่งราคาไม่แพง เผลอ
วางทิ้งไว้ก็คงไม่หาย เพราะขายไม่ได้ราคาเท่าไหร่
ก่อนหน้านั้น ก็จะใช้ของมือสองตกทอดมาจากคนในบ้าน
อย่างสองเครื่องแรกได้แก่ Nokia 2110 และ Motorolla T190





3. มีฟังก์ชั่น อะไรมั่ง ?

กล้องดิจิตอล VGA ในตัวสำหรับถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
ข้อความมัลติมีเดีย (MMS) วิทยุ FM สเตอริโอ
รองรับระบบ 3 คลื่นความถี่พร้อมด้วย xHTML เบราเซอร์และอีเมล์
ที่เด่นๆ คงมีเท่านี้แหละ ราคาไม่เท่าไหร่จะเอาอะไรมาก อิอิ



4.ใช้เครือข่ายอะไรอยู่?



AIS เหมือนกันทั้งบ้าน รักเดียวใจเดียวตลอดกาลจ้า
โฆษณาหน่อย ของเขาใช้ดี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเครือข่ายไม่พอ



5. จ่ายค่าโทรเดือนละกี่บาท?



ไม่เกิน 300 บาท ขาดตัวจ้า ใช้มากเปลืองโดยไม่จำเป็น
อ้อ ยกเว้นบางครั้งนานที่ปีหน ไปต่างประเทศกับเขาบ้าง
แล้วโทรศัพท์กลับมาบ้าน ก็จะแพงหน่อยเป็นพันเลยจ้า



6. ถามจริงๆ ปลื้มฟังก์ชั่น อะไรมากสุด?

ชอบฟังวิทยุจ้า ถ่ายภาพบ้างแต่ไม่บ่อยเปลือง memory จ้า



7. อีกนานมั้ยจะซื้อใหม่ ?


ยังไม่มีกำหนดซื้อใหม่ อยู่แบบเศรษฐกิจ "พอดี" จ้า
ถ้าทำตามความอยากของตนเองเกรงว่าจะได้เครื่องชนิด
ราคาเป็นหมื่นมาไว้ในครอบครอง แล้วก็ต้องคอยระวัง
เพราะถ้าขืนไปเผลอลืมไว้ คงมีคนช่วยเอาไปขายแน่นอน




แต่ถ้าจะซื้อใหม่จริงๆ ที่เล็งๆ ไว้ก็เห็นจะเป็นโทรศัพท์รุ่นนี้
สมัยนี้ต้องมีสอง SIM สองระบบแล้วค่ะ เทคโนโลยีก้าวไกล
เราต้องก้าวตามให้ทัน iLink iL8800T Duo เขาโฆษณาไว้ว่า
โดดเด่นด้วยการรองรับระบบสองซิมการ์ดทำงานพร้อมกัน
และยังรองรับในรูปแบบของ GSM+GSM หรือ GSM+CDMA
เป็นเครื่องแรก มาในรูปทรงบาร์ไทป์ลักษณะภูมิฐาน
หน้าจอเคลือบกระจกอย่างดี ให้โทนสีที่แตกต่าง โดยแสดงผล
ด้วยขนาด 2.6 นิ้ว 262K สี ความละเอียด QVGA ซึ่ง
iL8800T DUO เครื่องนี้พกความสามารถมาอย่างเต็มขีดจำกัด
ไม่ว่าจะเป็น TV Tuner, MP3 Player, MP4 Player, FM Radio,
โมชั่นเกมส์, ระบบเขย่าเปลี่ยนเพลง / ภาพพื้นหลัง, เล่นอินเตอร์เน็ต,
รับส่งข้อความ SMS/MMS, Bluetooth 2.0 รองรับ A2DP
และยังติดกล้องดิจิตอล 1.3 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอได้
ซึ่งของแถมในกล่องก็สุดหรู มีซองใส่โทรศัพท์แบบหนังสีน้ำตาล
และแบตเตอรี่สองก้อน พร้อมหูฟัง, สาย USB เคเบิ้ล, ฟิล์มกันรอย,
microSD 1GB และฐานชาร์จแบตเตอรี่มาให้ด้วย โฆษณาให้เขาหน่อย
อ้อ ราคาไม่แพงด้วยนะ ห้าพันกว่าบาทเท่านั้นเอง สนมั๊ยเอ่ย



8. มีอะไรจะบอกมั้ย เกี่ยวกับโทรศัพท์เครื่องนี้น่ะ?

ถ้ามีตังค์มากหน่อย จะเปลี่ยนไม่ใช้แกแล้วหละ เริ่มเบื่อ
ซึ่งก็คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ยากได้ใคร่ดีไม่รู้จบจ้า



9. ส่งต่อให้ใครดี

ขอไม่ส่งแล้วกันจ้า แบบว่าเล่นกันเยอะแล้วหงะ
ใครหลงมาอ่านก็เสียใจด้วยนะจ๊ะ กับการนำเสนอ
เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือรุ่นโบราณบานบุรีที่ใช้อยู่นี้




emoemoemoemoemoemo




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 13:48:50 น.
Counter : 2985 Pageviews.  

สูตรในการทำมาม่าให้อร่อย


สูตรมาม่า เป็น FWD Mail อ้างอิงใน "www.bknowledge.org"





[สูตรที่ 1 > ไข่แดงพิโรธ !! (7 - 10 บาท)
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ไข่ 1 ฟอง , พริกป่น , น้ำปลา

1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม (ปริ่มมาม่า) ตอกไข่ลงไป
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 100c ระยะเวลา 3.50 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา และน้ำปลา พริกป่นตามใจ





Reaction :
" ไข่แดงพิโรธ !! คือการหลอมรวมอย่างลงตัวของโปรตีนและแป้ง
ไข่ขาวเป็นก้อนนิ่ม ๆ เหมือนเจลลี่ ส่วนไข่แดงก็ละม้ายคล้ายปีโป้
รสชาติที่ได้ คือความธรรมดาๆ ในรูปแบบของสูงสุดคืนสู่สามัญ..."







[สูตรที่ 2 > สามแม่ครัวร้อนรัก !! ( 15 - 20 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำกุ้ง 1 ซอง, ปลากระป๋อง, มะนาว, น้ำปลา

1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) เทปลากระป๋องลงไป
---ปลากระป๋องไม่ควรเทหมด คัดเอาเฉพาะที่พอกิน
---ไม่ควรเทน้ำปลากระป๋องลงไปหมด เพราะจะเลี่ยนจนทานไม่ลง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา น้ำปลา และมะนาว(เยอะหน่อยก็ดี)






Reaction :
"สามแม่ครัวร้อนรัก !! คือสูตรลับเฉพาะของพวกที่มีวัตถุดิบเหลือ
ประมาณว่าที่บ้านรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งมา แล้วอยากลองทำ
ต้องกะแต่เพียงพอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป มิเช่นนั้นจะไม่น่ากิน
หากมากไปก็จะทำให้เลี่ยน เพราะน้ำมันในปลากระป๋อง นั่นทำให้มันแย่
ส่วนผสมของปลากระป๋องกับมาม่า นั่นคล้ายกับสามแม่ครัวกำลังสวิงกิ้ง
คลุกเคล้าความเป็นต้มยำกุ้ง (แต่ไม่มีตังค์ซื้อกุ้งมาใส่) เรียกได้ว่า
...อร่อยร้อนแรง...แต่แฝงไว้ด้วยความสุข(ส่วนตัว)"


คำเตือน : "ปลากระป๋องใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้...แล้วแต่คนจะชอบนะ "






[สูตรที่ 3 > ยาจกพิโรธ !! (5 บาท) )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ซอสพริก (แบบขวดหรือแบบแถม

1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า)
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 2.30 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่อง และซอสพริกลงไป ตามลำดับความค่นแค้น


Reaction :
"ยาจกพิโรธ !! คือสูตรง่าย ๆ ที่ทำให้คุณเสพซึ้งถึงความร้อนแรงได้
โดยเฉพาะเวลาคุณมีซอสพริกที่แถมมากับข้าวไข่เจียว หรือหอยทอด
เหลืออยู่เต็มบ้าน ไม่รู้จะจัดการอย่างไร วิธีนี้ช่วยคุณได้อย่างมากแน่
ด้วยราคาที่ประหยัดสุด ๆ แถมเป็นการรีไซเคิลวัตถุดิบที่เหลือใช้....
จึงเรียกได้ว่าเป็นสูตรสำหรับคนยากจนผู้ตระหนี่อย่าง แท้จริง..."


คำเตือน :
"หากใส่หยาดน้ำตาแห่งความอาภัพลงไปด้วย จะอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ"






[สูตรที่ 4 > ไฮโซบ้านนอก !! ( 20 - 100 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง, หมูยอ, แหนม, ปูอัด,
ไส้กรอก, ผักนานาชนิด, มะนาว, น้ำปลา, ซีอิ๊วขาว, น้ำมันหอย

1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ท่วมมาม่า)
---เทอาหารประเภทเนื้อลงไป รวยมากใส่มาก รวยน้อยใส่น้อย
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา บวกผักนานาชนิด
---เครื่องปรุงที่เหลือใส่ตามระดับความ "เค็ม"


Reaction :
"ไฮโซบ้านนอก !! คือสูตรลับเฉพาะของคนในแวดวงคุณหญิงคุณชาย
ที่มีเครื่องเพชรเต็มบ้าน แต่ยังคงความประหยัด อยากกินมาม่าแบบไฮโซ
เพราะฉะนั้นส่วนประกอบจึงอลังการดาวล้านดวง มากกว่ามาม่าโลโซทั่วไป
สารอาหารที่ครบครัน ช่วยเสริมสร้างบารมีแห่งความอวบเข้าไปในทรวดทรง
เป็นไฮโซแต่แฝงไว้ด้วยความบ้านนอกอย่างทัดเทียม..."


คำเตือน :
"ด้วยราคาประมาณนี้...แนะนำให้ไปกินอาหารตามสั่ง ดูจะฉลาดกว่า"







[สูตรที่ 5 > บาร์เทนเดอร์รำลึก !! (5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง

1. แกะซองออก เอาเครื่องปรุงออกมา เอามือบีบให้เส้นละเอียด
2. เทเครื่องปรุงลงไปในซอง เริ่มจากน้ำมัน และพริกตาม
3. เขย่าอีกกี่ครั้ง ก็แล้วแต่ความพอใจ (ยิ่งมากยิ่งดี )


Reaction :
"บาร์เทนเดอร์รำลึก !! คืออารมณ์ของการย้อนกลับไปเป็นเด็กวัยขบเผาะ
ลองนึกถึงตอนที่คุณไปเข้าค่ายสิ ไม่ว่าจะลูกเสือ เนตรนารี หรือ ร.ด.
เป็นสูตรที่เรียกได้ว่า "สากลโลก" ไม่ว่าใครก็ต้องเคยลองกันมาแล้ว
นอกจากจะได้อรรถรสในรสชาติแล้ว ยังได้ออกกำลังไปในตัวด้วย...
ยิ่งเขย่ามากเท่าไหร่ ยิ่งแข็งแรงเท่านั้น...ประโยชน์รอบด้านจริง ๆ ...
และที่สำคัญมันสามารถนำไปเป็นกับแกล้มในวงสุราได้อีก ด้วยนะเนี่ย
...ยกเว้นก็แต่โรคกระเพาะจะถามนั่นแหละ... "


คำเตือน :
" ตอนกินควรกินด้วยกันหลาย ๆ คน...เพื่อเข้าสู่ Mode ระลึกชาติ






[สูตรที่ 6 > มาม่า GMO !! (5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง, มะนาว, น้ำปลา, กุ้งแห้ง
ผักชี, คื่นช่าย, หรืออะไรก็ตามที่เขาใส่ในข้าวต้มหมู...
ข้าวสวย 1 ป๊าบ ( เอ่อ...มันคือช้อนใหญ่ ๆ ผมเรียกไม่ถูก ^ ^" )

1. เทข้าวสวยลงไปในถ้วย เทมาม่าและน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) พร้อมกุ้งแห้ง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องที่แถมมาลงไป นอกนั้นใส่ตามความต้องการ


Reaction :
"มาม่า GMO !! คือการดัดแปลงพันธุกรรมของมาม่า โดยนักโภชนาการ
ผลที่ได้คือส่วนผสมของมาม่าและข้าวต้ม เป็นลูกครึ่งข้ามขีดทางสายพันธุ์
ประมาณว่าได้อรรถรสในต้มยำของมาม่า และเมล็ดข้าวต้มที่ชอนไชผ่านลิ้น
ส่วนผสมดังกล่าวนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่อย่างใด...
และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกที่ชอบหุงข้าวเหลือนะครับ "


คำเตือน : " โปรดระวังกลุ่มกรีนพีช จะมาประท้วงที่หน้าบ้าน………"

โปรดทราบ จขบ. ไม่รับรองความอร่อยแต่อย่างใดจ้า
ใครทำแล้วมาเล่าสู่กันฟังนะ เศรษฐกิจอย่างงี้ ลองเรียนรู้
สูตรปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหน่อยก็ดีเหมือนกันนะคะ






 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 7:35:21 น.
Counter : 4407 Pageviews.  

ท่านอนแต่ละท่ามีความหมาย

ไม่ว่าคุณจะนอนหงาย นอนคว่ำ นอนตะแคง หรือ
มีท่านอนพิสดาร รวมทั้งท่านอนแบบที่เรียกว่า
พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ เราก็มีคำวินิจฉัย
เกี่ยวกับท่านอนต่างๆ ทั้ง 15 ท่ามาฝากกัน ดังนี้ค่ะ


นอนหงาย:
1. กางแขนกางขา: ช่างรักอิสระเสรี
อะไรขนาดนั้น ท่านอนบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองอย่างแรง
รักความสะดวกสบาย รักสวยรักงาม จับจ่ายใช้สอยสุรุ่ยสุร่าย
แต่ก็หาเงินเก่งพอๆ กัน ที่แย่หน่อยคือ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน
และสนุกกับ การตั้งสโมสร ซะด้วยซิ...




2. นอนเอาขาไขว้กันแบบไขว่ห้าง:
ท่านว่า คนที่นอนท่านี้ ไม่ค่อยกล้ายอมรับความเปลี่ยนแปลงใด
ได้ง่ายๆ แถมยังชอบหมกมุ่นอยู่กับ เรื่องของตนเอง รักที่จะ
อยู่คนเดียว ข้อดีก็คือ ช่างมีน้ำอดน้ำทนกับเรื่องรอบๆ ตัวได้ดีจริงๆ


3. นอนเอามือไพล่ประสานกัน รองศรีษะ:
เขาว่า คนนอนท่านี้เป็นนิจ เป็นคนฉลาด
ปราดเปรื่อง ปัญญาเฉียบแหลม ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบ
บางครั้งก็มีความคิดแปลก แหวกแนว ที่ชาวบ้านตามไม่ทัน
เป็นคนน่ารัก ที่ให้ความสนใจครอบครัว อยู่เสมอ... แต่มันสำคัญที่ว่า...
ช่างเป็นคนที่รักคนยาก ซะเหลือเกิน... ช่างเลือกเกินไปหรือเปล่า ?




นอนคว่ำ:
4. นอนคว่ำ: ถ้านอนท่านี้ได้ทั้งคืน
ก็ให้รีบสำรวจได้แล้วว่า เป็นคนใจคอคับแคบ หรือเปล่า
มักจะเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ และต้องการให้ใครต่อใครทำตาม
ความต้องการของตัวเองอยู่เสมอๆ แถมยังเป็น คนสับเพร่า
จับจดเสียด้วยนะ........รีบเปลี่ยนท่านอนซะเถอะ


นอนตะแคง:
5. นอนตะแคง: ท่านี้ เป็นท่านอนของคนที่
มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็มักจะก้าวไปสู่
ความสำเร็จ ด้วยความอุตสาหะ มานะ พยายาม อย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านว่า คนที่ชอบ นอนตะแคงขวา เหยียดแขนขวา
ไปเหนือศรีษะละก็... อำนาจ วาสนา ดีนักแล... ?




6. นอนตะแคงงอขาขึ้นข้างหนึ่ง:
ไม่ดีละมั้ง... ท่านว่า ขี้ระแวง สงสัยอยู่ไม่สร่าง โดยไร้เหตุผล
จู้จี้ขี้บ่นไม่รู้เวลา นอกจากจะขาด ความเป็นตัวของตัวเองแล้ว อาจจะ
พาลเป็น โรคประสาทได้ง่ายๆ... ทั้งตัวเอง และคนข้างเคียงน่ะแหล่ะ!


7. นอนงอตัว: นี่ก็อีกคน...
น่าจะเป็น คนขี้อิจฉาตาร้อน กลัวใครเขา จะได้ดีไปกว่าตนซะหมด
พูดง่ายๆ ก็คือ ค่อนข้างจะเป็น คนเห็นแก่ตัวอย่างแรง แถมยัง
เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบพยาบาทรุนแรงด้วยนะ... ระวังหน่อย!




8. นอนทับแขนตัวเอง:
คนนี้ตรงกันข้ามกับ คนนอนงอตัวท่าที่ 7 เลย.... ช่างสุภาพอ่อนโยน
จริงใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก อะไรจะปานนั้น... แต่ดูเหมือน
จะมีกรรมมาบัง เพราะเขาจะเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง
และขาดความอบอุ่นในชีวิต.. น่าสงสารนะ


ท่าพิสดาร:
9. นอนคุดคู้: เป็นคนขี้เหงาอย่างแรง
ซึมเศร้าง่าย เพราะไปฝังใจกับเรื่องเศร้าๆ เรืองผิดหวัง หรือสูญเสีย
ในอดีต เป็นคนขี้ระแวง และมีความลังเล ไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา
ทำให้รู้สึกว่า ขาดความรักความอบอุ่น.. เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม




10. นอนคลุมโปง: เชื่อไหมว่าภายนอก เขาคนนี้
อาจจะดูผึ่งผาย น่าเชื่อถือมาก แต่ลึกลงไปแล้ว เขาขี้อาย
จิตใจอ่อนแอ... เขาชอบมีความลับ และเก็บความลับเก่งด้วยนะ
มีอะไร ก็จะแอบเก็บไว้ในใจ แล้วเก็บเอาไปกังวล วุ่นวายใจ
วนเวียนอยู่กับปัญหานั้น คนเดียว ไม่รู้จบรู้สิ้นสักที...
ไม่รู้ว่า นอนขมวดคิ้วนิ่วหน้า ด้วยรึเปล่า ?


พรสวรรค์พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ:
11. นอนเอามือจับอวัยวะเพศของตัวเอง: คนนี้มาแปลก...
ท่านว่าจะชอบหมกมุ่น อยู่ในกามารมณ์ มีความต้องการทางเพศสูง
ใจร้อน โกรธง่ายหายเร็ว รักใครหลงใครละก็ เป็นได้หัวปักหัวปำ
แบบกู่ไม่กลับ ทั้งๆ ที่เป็นคนมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด อยู่หรอกนะ




12. นอนละเมอ: จะซีเรียสอะไรกันได้ขนาดนั้น ก็ไม่รู้...
เขาเป็นคนคิดมาก ยังฝังจิตฝังใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
ไม่ยอมลีม... สังเกตดีๆ จะเห็นว่า เขาขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
และจะคล้อยตามคนอื่นอยู่เสมอ... ถ้าเขาละเมอบ่อยมาก
และรุนแรงขึ้นละก็ น่าจะเตือนให้เขาปรึกษาแพทย์หรือผู้รู้ซะได้แล้ว


13. นอนกัดฟัน: นี่ก็คนเก็บกด...
โบราณว่า เป็นคนอาภัพ ซึ่งเขาอาจจะ คิดไปเอง ก็เลยอมทุกข์
เก็บกดความทุกข์ไว้ในใจ หน้าฉากอาจจะดูรื่นเริง
แต่แอบไปนอนกัดฟันกรอดๆ ทุกคืน...
ปล่อยวางซะบ้างเถอะ จะเอาอะไรกันนักหนากับชีวิต




14. นอนอ้าปาก: ชวนเขาไปตรวจสุขภาพ
ร่างกายบ้างเถอะ เพราะโบราณท่านว่า คนนอนท่านี้ มักจะมีโรคภัย
เบียดเบียน ให้สุขภาพไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะพาลอายุไม่ยืนซะเปล่าๆ


15. นอนลืมตา : ถ้าไม่ได้เป็นผลมาจาก
ทำตา 2 ชั้น ละก็ ท่านให้ระวัง จะถูกใส่ร้าย ใส่ความ หรืออาจจะเกิด
อุบัติเหตุได้ เตือนๆ ให้ระมัดระวัง รอบคอบ อย่าประมาท ก็แล้วกันนะ


emoemoemoemoemoemo

ที่มา : ขอบคุณสำหรับข้อมูลสนุกๆและรูปน่ารักๆ จาก
คุณ panachon แห่ง "www.fwdder.com/topic/157333" จ้า





 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 8:15:04 น.
Counter : 2599 Pageviews.  

แม่นาคพระโขนงในแบบที่ฉันชอบ



บล็อกนี้สปอยด์แน่นอน ใครไม่อยากรู้ก่อนดูอย่าอ่านจ้า
แต่ถ้าใครคิดว่าคงไม่ได้ไปดูแน่ๆ เชิญอ่านตามสะดวก


ขอหยิบเนื้อเพลงตอนประทับใจในละครเวทีเรื่องแม่นาค
พระโขนงของคุณบอย ถกลเกียรติ มารำลึกถึงหน่อยน๊า


โอ๊ย..โอ๊ยโอย..โอยโอยโอ่ย...
ไม่ไหวทนไม่ไหว เจ็บปวดทรมานเกินทน

**************************
เอาเบ่งเลยเต็มที่..เอ้าลอง
เอาเบ่งเลยเต็มที่..เอ้าแรง
เบ่งดูอีกครั้งลองอีกครั้ง มึงจะต้องทำให้ได้
เบ่งมาอีกครั้ง ลองอีกครั้ง...เอ้ามึงต้องเบ่ง เอาแรงๆ
เอาเบ่งเลยเต็มที่เอ้าลอง...
เอาเบ่งเลยเต็มที่ให้แรง...
พี่มากอยู่ไหน..จะทนไม่ไหว......อ๊าย....
**************************

ฉิบหายแล้ว อีนาคมันต้องทั้งกลม



เมื่อมากกลับมาจากเกณฑ์ทหาร ก็ได้พบกับแม่นาค
ซึ่งตายกลายเป็นผีไปแล้ว โดยมากยังไม่รู้ความจริง
เมื่อนาคและพ่อมากได้พบกัน นาคก็ร่ำไห้ด้วยความดีใจ


*******************************
คิดว่าจะไม่เจอแล้ว...ไม่ได้กอดเธออีกแล้ว(นาค)
เช็ดน้ำตาคนดี จากนี้จะไม่ห่างหาย...(มาก)
จะกอดเธอไว้ให้กายแนบกาย ตราบนานเท่านาน
อยากให้รู้..พี่คิดถึงเธอแค่ไหน ..
ขอพี่ประคองกอดเธอ..จนตราบสิ้นลมหายใจ...
...จะกอดเธอไว้จนตายจากกัน...




และแล้วเมื่อมากได้รู้ความจริง จึงหนีจากแม่นาคไป
แม่นาคจึงอาละวาดทำร้ายคนในบ้านบางพระโขนง
ที่คอยยุแหย่เล่าให้พ่อมากได้รู้ความจริง จนมีคนตาย
ชาวบ้านจึงไปตามอาจารย์คงจอมขมังเวทย์มาปราบ
อาจารย์คงซึ่งเคยต่อสู้กับผีแม่นาคมาก่อนครั้งหนึ่งแล้ว


**********************
จะมีฤทธิ์เพียงใด..เก่งกาจสักเพียงไหน
เมื่อมึงกล้าทำให้กูเจ็บ มึงจะต้องมอดม้วยมลาย
จะตามล้างแค้นทำลาย ให้มึงแพ้พ่าย
มึงจะต้องพินาศ มึงจะต้องสิ้นซาก
อีนาคพระโขนง.......................
**********************




ฉากแม่นาคต่อสู้กับอาจารย์คงอย่างสนุก
เอเฟคแพรวพราวเกินกว่าจะนึกฝันว่า
ละครเวทีจะทำได้..แต่งานนี้บอยทำได้

*******************
เป็นไงนางผี..อยากจะลองดีกับกู
มึงจะได้รู้..มึงจะต้องทรมาน
ถึงกรีดร้องไป ให้ดังทั่วบาง ก็ไม่มีใครอยากช่วยมึง
ผีพรายตายโหง นี่อาหารของพวกมึง
กัดกินรุมทึ้ง อย่าให้เหลือแม้เพียงซาก
*******************

ร่ายมนต์คาถา..มนต์จากโลกดำ..
เจ้าผีพรายจงฟัง..กัดกินมันเข้าไป..
*******************




และแล้วแม่นาคของเราก็เพลียงพล้ำจากการต่อสู้
************************
ต้องถูกทำร้ายอีกสักเท่าไหร่ ถึงจบเสียที
คนที่รักกลับร่วมมือ ไอ้คนชั่วช้ามาย่ำยี
นี่เองใช่มั๊ย ที่พี่ต้องการ ที่พี่เห็นดี
หรือจะเห็นนาคต้องทนทุกข์ทรมาน ต้องเจ็บเช่นนี้
พี่คงพอใจ..ใช่มั๊ย....
************************


แล้วในขณะที่นาคถูกอาจารย์คงทำร้ายอยู่นั่นเอง
ยอดซึ่งเสียสติไปแล้ว ก็เตลิดเข้ามาในพิธีเพื่อช่วยนาค
อาจารย์คงจึงบันดาลโทสะ ใช้มีดหมอแทงยอดจนตาย

******************************
เขา..ผิดตรงไหน..ไยจึงต้องฆ่ากันให้ตาย
เขา..แค่คนบ้า..อาจารย์ช่างอำมหิตไร้คุณธรรม
******************************


อาจารย์คงกำลังได้เปรียบในการทำร้ายนาคอย่างบ้าคลั่ง
จึงพลั้งปากเผลอพูดความจริงออกมาให้มากได้รู้เรื่องราว

**************************
ใครที่มาทำร้ายกู กูจะเอาคืนพวกมัน
อย่างงี้ไงนี่รอยแผลที่อีกนาคทำกับกู กูต้องทวงแค้น
อุตส่าห์ร่ายเอาเวทย์กูชุบมึงลุกฟื้นขึ้นมา
จะเอาลูกมึงทำลูกกรอก ไม่ต้องเป็นผีที่เร่ร่อนเหมือนอย่างมึง
**************************


อาจารย์เป็นคนทำ เป็นคนปลุกนาค!
***********************

และมากก็ได้รู้ความจริงจากปากของอาจารย์คงว่า
อาจารย์คงเป็นสาเหตุให้ผีแม่นาคไม่สงบออกอาละวาด




หลังจากได้รับความทุกข์ทรมานจากการทำร้ายของผีพราย
นาคก็รำพึงรำพันเสมือนจะเป็นการสั่งลาจากครั้งสุดท้าย

***********************************
เจ็บจนไม่ไหว...วิญญาณของฉันจวนเจียนสลาย...
แต่ในภวังค์เลือนลางกลับมีภาพเธอข้างกาย
ได้ยินสัญญาที่ให้กัน เธอเคยบอกฉัน
จะคอยปกป้องดูแลห่วงใย จะกอดฉันไว้จนวันสุดท้าย
แล้วไยเธอเปลี่ยนผัน ทำให้ฉันเดียวดาย
เธอหมดรักในใจ ชีวิตฉันก็ไร้ความหมาย...
ทุกอย่างจบลงเมื่อเธอแปรเปลี่ยน
จะฝืนทนเพื่ออะไร จะทนอยู่เพื่อใคร
เมื่อความรักจบลงแล้ว..ไม่มีเธอแล้ว..ไม่มีอีกแล้ว..
***********************************


และแล้วหลังจากเหตุการร้ายผ่านพ้น นาคก็ปลงตก
******************************
นาคคงผิดมากใช่มั๊ย ที่ไม่ยอมจากไปไหน
เพียงต้องการจะอยู่ กับคนที่รักสุดใจ
แค่ต้องการจะฝืนชะตา อยากจะรั้งพี่ไว้ข้างกาย
แต่สิ่งนานาเลวร้ายมากขึ้นทุกที..
คนมากมายต้องเดือดร้อน และต้องตายด้วยมือนี้
คงต้องพอเสียที จากนี้ต้องยอมหยุดยั้ง
บาปที่ทำเกินให้อภัย คงต้องลาไปชดใช้กรรม
ต้องปล่อยพี่ไปจากฉัน ขอยอมเอ่ยลา...
******************************




มากรำพึงรำพันเมื่อจะต้องจากนาคไปตลอดกาล
***************************
สัญญาวันนั้น เคยให้เธอไว้ สุดแสนเสียใจ ที่ไม่ได้ทำให้เธอ
จำเถิดจำไว้..พี่ยังรักนาค..เสมอ..
ไม่ว่าแสนนานสักเพียงใด..จะไม่ขอรักใครใดนอกจากเธอ
***************************

จะกอดเธอไว้ให้กายแนบกายตราบนานเท่านาน
อธิษฐานให้เราพบกันอีกครั้ง ถ้าชาติหน้ามีอยู่จริง
จะกลับคืนมารักเธอ..เพื่อกอดเธอไว้จนชั่วนิรันดร์
***************************




แม่นาคเอ่ยคำลาสุดท้าย โดยบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง
**************************
ถึงเวลา..จากกันด้วยดี ถึงเวลา..ปล่อยวางทุกอย่าง
ดังสายธารที่รินไหลไป..ไม่มีทางกลับมาพบพาน
เหลือแต่ความหลังให้เก็บอยู่ในหัวใจ...
เรื่องวันวานที่ทำร้ายใคร..เรื่องใดใดที่ทำไม่ดี..
เคยทำผิดต่อใครมากมาย ไม่ได้อยากเป็นไปเช่นนี้
เธอรู้มั๊ยฉันทำด้วยเหตุ..อันใด...
แค่เพียงผู้หญิง..หนึ่งคน..ที่ใจมั่นคงด้วยรัก
มีรักก็ห่วงก็หวงเหมือนคนทั่วไป...
นี่คือเหตุผล..ที่ฉันรั้งเธอเอาไว้ ..
จะร้ายหรือดีเพียงใด จำไว้เพราะฉันรักเธอ..

**************************
ยามนึกถึงเรื่องของฉัน...จำไว้ในใจเสมอ...
ฉันทำไปเพราะรักเธอ...ผู้..เดียว.....
**************************


และนี่คือความประทับใจของ จขบ. ที่ได้รับจากละครเวที
The Musical แบบไทยๆ ที่ฉันชอบ
กับรักอันแสนประทับใจระหว่างคนกับผี-มากกับนาค
อัพบล็อกไปฟังเพลงประกอบละครเวทีจาก CD ไป
ได้อารมณ์จริงจริ๊ง...มันช่างแสนสุขใจอะไรเช่นนี้..





 

Create Date : 04 มิถุนายน 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 16:07:43 น.
Counter : 4615 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.