ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

โยเกิร์ตลดกลิ่นปาก




กลิ่น ปาก ใช่ว่าเรื่องเล็ก ต่อให้รูปสวย รวยทรัพย์ แต่ปากเหม็น ก็หมดกัน คุณ เคนอิชิ โฮโจ และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสึรูมิ ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยและพบว่า แบคทีเรียที่อยู่ในโยเกิร์ต โดยเฉพาะแบคทีเรียชนิด Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus อาจมีผลต่อแบคทีเรียที่ เป็นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นในปาก ของคนเราได้

โดยจากการทดลองพบว่า การกินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน วันละ 6 ออนซ์ (ประมาณ 1 ถ้วย) จะช่วยลดปริมาณสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปาก อย่างเช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์

นอกจากนี้ ในบรรดาผู้ที่ชอบกินโยเกิร์ตนั้น มักจะมีปริมาณคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (plaque) และอาการของโรคเหงืออักเสบน้อยกว่าคนทั่วไป

แม้ว่าจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยมากกว่านี้เพื่อยืนยันผลที่ได้ แต่นักวิจัยก็อ้างว่า การกินโยเกิร์ตน่าจะเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยในการป้องกันปากเหม็น


ข้อมูลเพิ่มเติมสุขภาพดีด้วยโยเกิร์ตแหล่งพลังงานจากนม

นม ๆ ปัจจุบันนี้นมถูกปรับเปลี่ยนไปใช้ในรูปแบบที่ต้องการ ทั้งในด้านการบริโภค อุปโภค จนกระทั้งปัจจุบันนี้ถูกปรับมาเป็นเครื่องสำอาง เพราะในตัวของน้ำนมอุดมไปด้วยต่างๆ มากมายในตัวของนม

โดยถ้าพูดไปแล้ว โยเกิร์ตก็คือนมสดที่นำมาหมักกับเชื้อจุลินทรีย์ จนน้ำตาลแลกโตสในนมเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก ทำให้นมมีรสเปรี้ยวและมีความข้นขึ้นจนเป็นลิ่ม การกินโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยให้ลำไส้มีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ช่วยแก้อาการท้องเสียเรื้อรังได้

ซึ่งในการกินโยเกิร์ตนั้นให้สารอาหารครบถ้วนเหมือนการดื่มนม แต่ไม่ทำให้ท้องเสียเหมือนที่บางคนมักเป็นเวลาดื่มนม นอกจากนั้นโยเกิร์ตยังมีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนติบอดี้ และเพิ่มปริมาณสารอินเฟอร์รอน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค

โดยในตัวของโยเกิร์ตยังมีสารไขมันธรรมชาติมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน ที่เรียกว่าพรอสตาแกลนดิน อี 2 (Prostaglandin E2) ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องผนังกระเพาะจากสารกระตุ้นต่างๆ

อเช่น แอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะฉะนั้น แทนที่จะปล่อยให้ท้องว่าง ก็กินโยเกิร์ตรองท้องสักถ้วยก็คงดี และการกินโยเกิร์ตยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งบริเวณเนื้อเยื่อกระดูก และช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งได้อีกด้วย

ปิดท้ายด้วยการแถมสูตรพอกหน้าด้วยโยเกิร์ตให้กับสาวๆ ขั้นแรกล้างหน้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง แล้วนำโยเกิร์ตชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลึงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง รับรองผิวหน้าจะเปล่งปลั่งสดใสแน่นอน

โยเกริ์ตถึงจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมแต่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารเพียบที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและสมอง



ขอบคุณ : เฮลล์คร์อนเนอร์ และ postjung




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2554    
Last Update : 17 สิงหาคม 2554 7:47:22 น.
Counter : 1112 Pageviews.  

กิน อยู่ คือ (ผักพื้นบ้านต้านเบาหวาน) 15 สิงหาคม 2554







 

Create Date : 16 สิงหาคม 2554    
Last Update : 16 สิงหาคม 2554 22:02:34 น.
Counter : 1148 Pageviews.  

ผัดเปรี้ยวหวานเจ



ผัดเปรี้ยวหวานเจ


ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปึก 1 ช้อนชา
ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ
โปรตีนเกษตรแช่น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศผลใหญ่หั่นชิ้นพอคำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหูหนูหั่นชิ้นพอคำ 1/4 ถ้วยตวง
ฝักถั่วลันเตา 1/4 ถ้วยตวง
ดอกข้าวโพดอ่อน 5 ดอก
หน่อไม้ฝรั่งหั่นชิ้นพอคำ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ

1. สูตรอาหารผัดเปรี้ยวหวานเจก็เริ่มจากการใส่น้ำมันพืช ซอสมะเขือเทศ น้ำตาลปึก ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ ผัดจนหอม ใส่โปรตีนเกษตร ผัดพอเข้ากัน

2. ขั้นตอนต่อมาของสูตรอาหารก็คือการใส่สับปะรด เนื้อมะเขือเทศ เห็ดหูหนู ฝักถั่วลันเตา ดอกข้าวโพด และหน่อไม้ฝรั่ง ผัดพอเข้ากัน ใส่น้ำส้มสายชู แล้วใส่ส่วนผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าลงไปผัดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วสูตรอาหารนี้ก็พร้อมจัดรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2554    
Last Update : 16 สิงหาคม 2554 7:52:53 น.
Counter : 1544 Pageviews.  

ไข่อิเหนาเข้าเฝ้า



ไข่อิเหนาเข้าเฝ้า


ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หมูสับ 1/2 ถ้วย
กุ้งสับ 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง 3 หัว
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1.ทอดไข่ดาวให้ไข่แดงสุกๆ ตักขึ้นใส่จานพักไว้

2.ซอยหอมแดงบางๆ ให้เสมอกัน แล้วนำไปเจียวในกระทะ ตักขึ้นใส่ชามพักไว้

3.ใส่หมูสับลงไปรวนในน้ำมันหอมเจียวจนสุก ใส่กุ้งตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ (ถ้าแห้งเกินไปเติมน้ำได้นิดหน่อย)

4.ตักราดบนไข่ดาว โรยหน้าด้วยหอมเจียวและผักชี






 

Create Date : 15 สิงหาคม 2554    
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 7:40:25 น.
Counter : 1705 Pageviews.  

แซลมอนระเริงไฟ



แซลมอนระเริงไฟ


ส่วนผสม
(สำหรับ 5 ที่)

เนื้อปลาแซลมอนหั่นชิ้นหนา 2 ซม.
5 ชิ้น (ชิ้นละ 280 กรัม)ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้3 ช้อนโต๊ะ( 45 กรัม)น้ำมันงา3 ช้อนโต๊ะ ( 30 กรัม)ปลาแห้งญี่ปุ่น10กรัมน้ำเปล่า3 ถ้วยตวง เห็ดโคนญี่ปุ่นหรือเห็ดหอมสด1 ถ้วยตวง ( 200 กรัม) หน่อไม้ฝรั่ง1 ถ้วยตวง( 200 กรัม)มะเขือเทศเชอร์รี่ 1ถ้วยตวง( 200 กรัม)ซอสหอยนางตราแม็กกี้5 ช้อนโต๊ะ( 75 กรัม)

วิธีทำ
  1. หมักเนื้อปลาแซลมอนกับซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ เคล้าให้เข้ากันพักไว้ประมาณ 10 นาที
  2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง พอกระทะเริ่มร้อนนำเนื้อปลาลงไปทอดบนกระทะให้เนื้อปล าสุกเหลืองทั้งสองด้านจัดลงจานพักไว้
  3. ใส่น้ำมันงาลงในกระทะ พอร้อนใส่เห็ดโคนญี่ปุ่น หน่อไม้ฝรั่งลงผัดและใส่น้ำเปล่า และปลาแห้งญี่ปุ่นปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ พอเดือดใส่มะเขือเทศลงไปผัดพอเข้ากัน ตักใส่จานปลาที่เตรียมไว้พร้อมจัดรับประทานกับน้ำซุป และบีบน้ำมะนาวตามชอบ




 

Create Date : 14 สิงหาคม 2554    
Last Update : 14 สิงหาคม 2554 10:33:41 น.
Counter : 1761 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.