|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เส้นทางปราสาทหิน สาย 24
ขอเริ่มทริปท่องเที่ยวโบราณคดีซีรี่ยส์ใหม่ ปีก่อนนู้น พาเที่ยวโบราณสถานยุคล้านนาในภาคเหนือไปแล้ว ปีที่แล้วก็พาเที่ยวเมืองโบราณยุคทวารวดีในภาคกลางตอนล่าง และเมืองโบราณของภาคใต้ตอนล่าง มาครั้งนี้จะพาไปชมซากโบราณสถานจากยุคขอม หนึ่งในอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์นี้เคยมีมา แม้ว่าศูนย์กลางความเจริญของยุครุ่งเรืองต่างๆจะอยู่ในเขตประเทศกัมพูชาปัจจุบัน แต่มีโบราณสถานของขอมหลายแห่งอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ยันภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งสมัยหนึ่งดินแดนเหล่านั้นอยู่ในครอบครองของขอมมาก่อน โบราณสถานของขอมที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากอาณาจักรอื่นๆคือ "ปราสาทหิน" เป็นศาสนสถานที่ก่อด้วยหินก้อนใหญ่ มีปราสาทประธาน ระเบียงคด บรรณาลัย และสระน้ำที่เรียกว่าบารายประจำศาสนสถานแต่ละแห่ง
บริเวณที่พบปราสาทหินมากที่สุดก็คือดินแดนที่อยู่ใกล้ประเทศกัมพูชาแถบอีสานใต้นั่นเอง และโชคดีที่มีถนนตัดพาดผ่านจังหวัดต่างๆในดินแดนอีสานใต้นี้แบบยาวๆอยู่สามสายคือ 24 เส้นยาวตรงดิ่งสู่เมืองอุบลราชธานี 226 ที่ตัดผ่าน 4 ตัวเมืองจังหวัดในอีสานใต้ และ 202 ที่ตัดผ่านเส้นทางร้างผู้คนอันยาวไกล เกิดเป็นเส้นทางให้ท่องเที่ยวปราสาทหินที่อยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นหลักได้อย่างง่ายดาย ปราสาทหินคือจุดแดงๆที่ผมมาร์คไว้ในแผนที่นี้ครับ อันนี้ลงเฉพาะปราสาทหินที่เคยไป และจะพูดถึงในซีรี่ยส์นี้ แต่ปราสาทหินทั้งหมดมีมากกว่านี้ 3-4 เท่าได้ ขอมโบราณนี่สุดยอดสรรค์สร้างจริงๆ
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่)
บล็อกแรกของซีรี่ยส์ขอพาผ่านเส้น 24 ที่นักเที่ยวปราสาทหินใช้กันมากที่สุดก่อนแล้วกันครับ เส้นนี้ต่อกับสายมิตรภาพที่ อ.สีคิ้ว แล้วผ่าน อ.นางรอง ที่มีปราสาทเขาพนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ รวมทั้งเป็นทางลงไปปราสาทหินที่อยู่ติดเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างปราสาทตาเมือนธม หรือปราสาทเขาพระวิหารด้วย
อันนี้เป็นทริปเมื่อวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์... เมื่อปีที่แล้ว ดองเค็มได้ที่เลย (อะไรนะ? เค็มไปเหรอ? เดี๋ยวผมขึ้นซีรี่ยส์อยุธยาที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2012 แล้วจะหนาว) แล่นมาตามเส้น 24 จากนั้นขึ้นไปที่ปราสาทศีขรภูมิเป็นจุดหมายสุดท้าย แล้วกลับลงมาทางเดิม
เริ่มแรกออกจากกรุงเทพขึ้นสาย 1 มาเลยครับ ผ่านปทุมธานึ อยุุธยา สระบุรี เปลี่ยนเข้าสาย 2 มุ่งไปประตูสู่ภาคอีสาน จะเห็นป้ายต้อนรับการออกเดินทางสองอัน เบียร์สิงห์บอกว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา (เอ็งอยู่บ้านเฮอะ) ส่วนป้ายเบียร์ช้างบอกว่า ชีวิตของเรา...ใช้ซะ (เอ็งไปเที่ยวซะ) ไม่รู้จะเชื่อใครดี
ถ้ามาเส้นนี้ออกเช้าหน่อยก็ดีครับ ปีใหม่ 2557 ผมไปขอนแก่นเส้นนี้รถติดนรกมาก แต่วันที่ไปอีสานใต้เป็นช่วงเดือน ก.พ. รถไม่เยอะเท่าตอนปีใหม่ อากาศก็กำลังเย็นสบาย ออกจะหนาวด้วยซ้ำ นั่งกินข้าวเช้าแถวลำตะคลองเห็นนกเกาะสายไฟเรียงกัน 12 ตัวเพราะหนาว |  | วันนี้มาถึงโคราชอย่างรวดเร็วครับ ก่อนเข้าสู่เส้น 24 ก็แวะไปวัดหลวงพ่อโตของสรพงษ์ซะหน่อย แต่เนื่องจากมันอยู่บนเส้นสาย 2 ก็ขอยกไปเล่าถึงงวดหน้าแล้วกันครับ เราผ่าน อ.ปักธงชัย และโชคชัยมาจนถึงจุดมุ่งหมายแรกของทริปปราสาทหินครั้งนี้ นั่นคือ ปราสาทบ้านถนนหัก ที่ อ.หนองบุญมาก เกือบออกไปบุรีรัมย์แล้ว สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16
บล็อกนี้คงบรรยายโบราณสถานแต่ละแห่งน้อยหน่อยนะครับ เพราะลักษณะปราสาทหินเกือบทั้งหมดก็ตามมาตรฐานปราสาทหินนั่นแหละ ประวัติความเป็นมาก็ทราบแค่สร้างโดยใครราวๆศตวรรษไหน เนื้อเรื่องก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประวัติศาสตร์ชาติไทยมากนัก เล่าไปก็ไม่ได้อรรถรส
พอเข้าถึง อ.นางรอง บุรีรัมย์ก็ได้เวลาเที่ยวปราสาทเขาพนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำที่โด่งดัง แต่คัดรูปแล้วพอๆกับจำนวนรูปของปราสาทอื่นๆในเส้น 24 รวมกันทั้งหมดเลย ขอยกไปเป็นอีกบล็อกหนึ่งต่างหากเลยดีกว่า 
ขอข้ามมาช่วงเย็นเลยครับ ที่ อ.โนนดินแดงใกล้เขื่อนลำนางรองมี ปราสาทหนองหงส์ อยู่ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เป็นปราสาทสามหลังก่อบนฐานศิลาแลงเดียวกัน อันนี้ต้องตั้งใจดิ่งมาโดยเฉพาะ เพราะอยู่ห่างจากเส้น 24 พอสมควรเลยครับ
ย้อนกลับขึ้นมา และเลยเข้ามาในเขต อ.ปะคำ จะมี ปราสาทโคกงิ้ว สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เจ้าแห่งการสร้างปราสาทหิน ในพุทธศตวรรษที่ 18
บางที่เป็นปราสาทเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก ต้องฝ่าถนนลูกลังเข้าไปนิดหน่อย แต่การได้เห็นอะไรที่ชาวบ้านไม่ค่อยได้เห็นย่อมเป็นความภาคภูมิใจของนักเดินทางครับ ปราสาทหินอย่างพิมายหรือพนมรุ้งมันเมนสตรีม มันเจ๋งจนคนเที่ยวเยอะแล้ว เที่ยวแล้วไม่เท่ มาส่องทิวทัศน์หลังปราสาทโคกงิ้วที่ให้ความรู้สึกถึงดินแดนอันห่างไกลฝูงชนแบบนี้กันดีกว่า ...จะว่าไปมันก็แค่ทุ่งนาแล้งๆในช่วงหน้าหนาวไม่ใช่เรอะ?
ได้เวลาเข้าที่พัก วันนี้พักที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ครับ ที่พักไม่สวยเลยไม่ขอเอามารีวิว ช่วงเช้ามาหาข้าวกินใน ตลาดสดเทศบาลประโคนชัย ตลาดเบ้อเร่อเบ้อร่า ดันแทบไม่มีร้านขายอาหารแบบที่พอจะเป็นมื้อได้
เติมอาหารเช้าใส่ท้องแล้วก็กลับลงมาเส้น 224 ต่อ นี่เป็นถนนสายหลักที่อยู่ล่างสุดของภาคอีสานแล้วครับ เช้านี้เราจะเที่ยวปราสาทหินแถบชายแดนกัน แต่ก่อนอื่นขอแวะชมเตาเผาสมัยขอมที่ อ.บ้านกรวดสักหน่อย อันนี้คือ เตานายเจียน ครับ แถวๆนี้ยังมีซากเตาโบราณอีกหลายแห่ง เพราะเป็นนิคมเก่าสมัยนั้น แต่ตัวเตาเองก็ไม่ได้อลังการเรียกแขกแบบกลุ่มเตาทุเรียงหลายร้อยเตาที่ศรีสัชนาลัยหรือเตาเผาแม่น้ำน้อยที่สิงห์บุรี
ขับลงมาจากเส้น 224 เข้าเขตจังหวัดสุรินทร์ไปกิ่งอำเภอพนมดงรัก จะมีด่านตรวจเข้าไปยังเส้นทางสู่กลุ่มปราสาทตาเมือน ที่นี่เปิด 9.00 น. ครับ แต่ไปถึง 8.30 น. เขาก็ให้ผ่านเข้าไป ตอนนี้เราอยู่บนเส้นทางสู่พื้นที่ชายแดนแล้ว
ถึงจะเคยเป็นเขตอันตราย แต่ตอนนี้มีทหารรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และเปิดเป็นเส้นทางให้ท่องเที่ยว ถนนไปยังชายแดนเป็นถนนเส้นเดียวและแทบไม่มีรถวิ่งเลย แต่บรรยากาศก็ไม่ได้อันตรายอะไร เทียบกับตอนไปหาเมืองโบราณยะรังที่ปัตตานีไม่ได้ ปราสาทแรกที่รอต้อนรับเราบนเส้นทางนี้คือ ปราสาทตาเมือน เป็นที่พักคนเดินทาง มีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน
เข้ามาต่ออีก 2.5 กม. จะพบ ปราสาทตาเมือนโต๊ด เป็นอโรคยาศาลสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พร้อมๆกับปราสาทตาเมือน
และสุดชายแดนคือ ปราสาทตาเมือนธม (ธม = ใหญ่, ชื่อปราสาทขอมที่ลงท้ายด้วยธมจะล้วนมีขนาดใหญ่โต เช่น ปราสาทธม, ปราสาทสด๊กก๊อกธม) จะเข้าไปตรงนี้ต้องลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ก่อน ว่าเข้าไปแล้วมันกลับออกมาครบมั้ย หรือเข้าไป 4 คน กลับมา 5 คนอะไรแบบนี้เขาจะได้ส่งกลับเขมรได้ถูกตัว
เดินตามเส้นทางที่เขากั้นไว้ ถ้าออกนอกเส้นทางโดนระเบิดขึ้นมาเดี๋ยวจะหาว่าทหารไม่เตือน ในที่สุดเราก็มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์ของทริปนี้ นั่นคือปราสาทตาเมือนธม
ปราสาทแห่งนี้สร้างคร่อมหินธรรมชาติที่มีรูปร่างคล้ายศิวลึงค์และใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 จากนั้นจึงมีการสร้างปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนตามมาทีหลัง
ตัวปราสาทตั้งอยู่บนสันเขาพนมดงเร็ก หันหน้าไปทางทิศใต้ เข้าหาเมืองพระนครในกัมพูชา เลยแนวต้นไม้ไปนั่นคือประเทศกัมพูชาแล้วครับ สัญญาณมือถือก็เด้งขึ้นมายินดีต้อนรับเข้าสู่ประเทศกัมพูชาเลย
ถึงไทยกับกัมพูชาจะมีปัญหาระหองระแหง แต่คนแถวชายแดนหรือกระทั่งทหารไทยและกัมพูชาเองไม่ได้อยากรบกันให้เลือดตกยางออกเหมือนพวกที่ท้าให้ตีกันแหยงๆอยู่แถวๆเมืองหลวงหรอกครับ ในภาพนี้พี่สองคนที่สวมผ้าพันคอเป็นทหารไทย ส่วนพี่ๆสามคนด้านหลังเป็นทหารกัมพูชา ออกแนวร่วมกันเฝ้าปราสาทที่เป็นสมบัติของทั้งสองประเทศมากกว่าเข้ามาแสดงความเป็นเจ้าของ (ผมชอบภาพที่มีคนถ่ายทหารไทย-กัมพูชาแบ่งโดนัทกินกัน) สมัยก่อนปราสาทเขาพระวิหารก็เป็นแบบนี้ละครับ จนกระทั่งมันถูกเอามาใช้จุดประเด็นทางการเมืองและเราก็ไม่มีโอกาสไปเที่ยวเขาพระวิหารอีกเลย หลังจากปี 2551 ที่มีความขัดแย้งเรื่องการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกและยื่นจดพื้นที่ทับซ้อน ความขัดแย้งของไทยโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรและรัฐบาล ปชป. กับประเทศกัมพูชาก็ลุกลามบานปลายมาเรื่อย มีการปะทะกันหลายครั้ง แม้แต่พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมก็เพิ่งจะรบกันจนมีผู้เสียชีวิตนับสิบรายเมื่อปี 2554 นี้เอง
ขับออกจากเส้นชายแดนมา (อาห์.....หายใจทั่วท้อง) ขึ้นไปตามเส้น 214 ไปยังปราสาทบ้านไพล-บ้านพลวงในอำเภอปราสาทก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาเที่ยวตลาดช่องจอมครับ ปราสาทบ้านไพล เป็นศิลปะแบบบาปวน รุ่นเดียวกับปราสาทตาเมือนธม
ระหว่างทางกลับมายังตัวอำเภอปราสาท เจอ ปราสาททนง อยู่ข้างทาง เละเป็นกองหินไปแล้วครับ
กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ไปต่อ สำหรับ ปราสาทบ้านพลวง ที่นี่เก็บค่าเช้าชมนะครับ แสดงว่าเป็นของดีพอตัว ....แต่ด่านเก็บตังค์ไม่มีคนอยู่เลยจ้ะ และเหมือนจะถูกทิ้งร้างมานานแล้วด้วย เลยข้ามรั้วเข้ามาเองเฉยเลย ปราสาทนี้ลักษณะเฉพาะต่างจาปราสาทอื่นๆ เพราะก่อด้วยหินทรายสีขาวหลังเดียวอยู่บนฐานศิลาแลง ทั้งขอบประตู หน้าบัน และทับหลังมีลวดลายแกะสลักงดงามทุกด้าน
เข้ามาเส้น 2122 ค่อนข้างทุรกันดารสักนิด ที่นี่มี ปราสาทเบง ซึ่งเป็นปราสาทขอมยุคไพรกเมง ที่เก่าแก่และมีน้อยแห่งในประเทศไทย ปราสาทนี้มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 ยุคทวารวดีรุ่งเรืองเลย ตอนนั้นขอมยังไม่เก๋ามากครับ ยังเป็นอาณาจักรเจนละอยู่เลย
กลับมาเส้น 214 อีกครั้ง ขับมาทางตะวันออกจะมีทางลงไปชายแดนไทย-กัมพูชา แต่คราวนี้ไปเที่ยวตลาดครับ ตลาดช่องจอม เป็นจุดผ่านแดนไปประเทศกัมพูชาที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดสุรินทร์และเปิดเป็นช่องทางการค้ามายาวนาน สินค้าก็เหมือนตลาดชายแดนทั่วไป เน้นเสื้อผ้า กระเป๋า มือถือ ซีดีเถื่อน และจักรยาน ถึงจะอยู่ในเขตประเทศไทย แต่พ่อค้า-ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชานะครับ
ขับออกจากชายแดนมาทางตะวันออกจนถึง อ.สังขะ ที่นี่มี ปราสาทภูมิโปน นับเป็นปราสาทหินที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ยุคไล่เลี่ยกับปราสาทเบงครับ บริเวณนี้เป็นนครโบราณกฤตชญนคร เมืองของอาณาจักรเจนละบก อิฐแต่ละก้อนดูแนบสนิทเหมือนใช้ตัวประสานบางอย่าง ผิดกับปราสาทขอมยุคหลังๆ
อันที่จริงถ้านับสิ่งก่อสร้างสมัยเจนละที่ยังไม่เป็นปราสาทหินก็มีโบราณสถานเมืองเตยที่ จ.ยโสธร เก่าแก่กว่าภูมิโปนอีกนะครับ เดี๋ยวบล็อกปราสาทหินเส้น 202 จะเล่าประวัติศาสตร์ขอมตั้งแต่สมัยเจนละยันก่อสร้างพระนครให้ฟัง
ใกล้ๆกันมี ปราสาทตามอญ มีแค่แท่งนี้แท่งเดียวละครับ ขับรถจากภูมิโปนมา 10 นาทีก็ถึง
กลับขึ้นมาเส้น 24 เพื่อเตรียมไปยังปราสาทศีขรภูมิ ปราสาทขอมที่งดงามและโด่งดังของสุรินทร์ แต่ก่อนอื่นแวะไปเยี่ยม ปราสาทยายเหงา ก่อนครับ กลัวยายแกจะเหงา พอไปถึงกำลังบูรณะกันอยู่เลย
เนื่องจากศีขรภูมิอยู่บนเส้น 226 ขอยกไปเล่าในบล็อกหน้าแล้วกันครับ แค่นี้บล็อกถนนสาย 24 ก็มีปราสาทอัดแน่นเอี๊ยดแล้ว ขากลับแวะ ปราสาทตะเปียงเตีย สักหน่อย ต้องเข้าไปจากถนนใหญ่ค่อนข้างลึก แล้วเวลานี้ก็โพล้เพล้แล้วด้วย พอเห็นตัวปราสาทนี่โคตรไม่คุ้มเลยครับ นี่มันโบราณสถานสมัยอยุธยาชัดๆ ป้ายท่องเที่ยวบอกว่าสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 23-24 งั้นก็อย่าตั้งชื่อนำหน้าว่าปราสาทเซ่!
วันนี้หาที่นอนใน อ.สังขะ ครับ เอา โรงแรมมณีสังขะ ที่ติดถนน 24 นี่หละ โรงแรมหรูผิดคาด ไม่นึกว่าเมืองห่างไกลจะมีโรงแรมสวย ได้ห้องเตียงคู่ มีแอร์ ทีวี ตู้เย็น และที่ฉีดตูดครบถ้วน แถมถูกด้วยนะครับ คืนนี้ 450.- เท่านั้น!
GPS: 14.620898, 103.853277
ตื่นเช้ามาก็ดิ่งกลับกรุงเทพครับ ย้อนกลับเส้นเดิมนั่นหละ แต่จะแวะเที่ยวปราสาทที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของถนนบ้าง มาที่แรกเลย ปราสาทเต่าทอง อันนี้เห็นแล้วตะลึง!! ยิ่งกว่าตะเปียงเตียอีกครับ เหลือแค่กองอิฐกับรูปปั้นเต่า!! ที่นี่เคยมีปราสาทมาก่อน (ใช่แล้วครับ ปัจจุบันมันคือเศษๆอิฐข้างๆเต่านั่นแหละ) แต่ชาวบ้านสร้างศาลาทับเพราะขุดเจอสมบัติ เลยต้องการปกป้องไม่ให้ใครเอาไป แม้แต่กรมศิลป์ก็เข้าไปขุดค้นบูรณะไม่ได้ครับ งั้นนักท่องเที่ยวคนนี้ขอบ๊ายบายก่อนนะจ๊าาาา
มาดูอันนี้ดีกว่า ปราสาทหมื่นชัย และ ปราสาทบ้านปราสาท ตั้งติดกันเลยครับ เที่ยว 1 แถม 1 อันนี้ปราสาทหมื่นชัย
ทางนี้ปราสาทบ้านปราสาท สร้างสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นอโรคยาศาล
ตอนนี้ 7 โมงเช้า ภาคอีสานเดือนกุมภาก็หนาวบ่ใช่เล่น แต่พระอาทิตย์หน้าหนาวนี่สวยนะครับ
ขับมาถึงนางรองตอนเก้าโมง กินขาหมูลักษณาที่โด่งดัง (ขอยกไปเล่าบล็อกปราสาทเขาพนมรุ้งพร้อมขาหมูจิ้งนำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม) พออ้วนได้ที่แล้วก็ออกเดินทางต่อครับ กลับมาถึงโคราชแวะเที่ยวปรางค์สระเพลงข้างทาง เห็นในแผนที่เหมือนจะอยู่ติดถนนใหญ่ ที่ไหนได้ ต้องแล่นบนคันนาเข้ามาลึกเหมือนกัน
ตัวปราสาทก็อย่างที่เห็นเนี่ยครับ ไม่คุ้มสิ้นดี
ลงมาเส้น 224 ต่ออีกนิดจะมีปรางค์พะโค อันนี้เข้าท่าครับ อยู่ติดถนนเลย สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16
เสร็จแล้วกลับเส้น 24 ดิ่งกลับบ้านจ้า เป็นไงครับเส้นทางปราสาทหินดินแดนอีสานใต้ เดี๋ยวคราวหน้าจะพาเที่ยวบนเส้น 226 และ 202 ต่อครับ ยังมีปราสาทหินน่าสนใจที่เราไม่รู้จักรออยู่อีกมากมาย
ปลายเดือนนี้ขอพักบล็อกหนีเที่ยวกระบี่ครับ แน่นอนว่าโดดตะพาบอีกเช่นเดิม 
Create Date : 27 กรกฎาคม 2558 |
|
53 comments |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2558 21:04:06 น. |
Counter : 10988 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: ชีริว 27 กรกฎาคม 2558 20:41:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 27 กรกฎาคม 2558 21:45:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 กรกฎาคม 2558 22:29:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: แซงค์ (ชายคาตะวัน ) 28 กรกฎาคม 2558 1:22:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 28 กรกฎาคม 2558 6:28:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 กรกฎาคม 2558 7:18:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 28 กรกฎาคม 2558 8:07:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 28 กรกฎาคม 2558 11:21:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 28 กรกฎาคม 2558 11:51:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 28 กรกฎาคม 2558 23:58:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 29 กรกฎาคม 2558 0:40:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 กรกฎาคม 2558 7:38:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam IP: 124.122.245.175 29 กรกฎาคม 2558 20:56:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 กรกฎาคม 2558 22:45:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 29 กรกฎาคม 2558 23:57:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 กรกฎาคม 2558 7:08:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 30 กรกฎาคม 2558 12:53:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 31 กรกฎาคม 2558 6:32:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 31 กรกฎาคม 2558 6:49:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 31 กรกฎาคม 2558 6:55:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 31 กรกฎาคม 2558 8:04:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 31 กรกฎาคม 2558 9:58:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 31 กรกฎาคม 2558 10:00:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 31 กรกฎาคม 2558 10:05:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 31 กรกฎาคม 2558 13:38:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: kai (aitai ) 31 กรกฎาคม 2558 14:31:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: au_jean 31 กรกฎาคม 2558 15:47:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 31 กรกฎาคม 2558 18:01:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 1 สิงหาคม 2558 16:35:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 1 สิงหาคม 2558 22:17:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 4 สิงหาคม 2558 0:41:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|