+++ การเดินทางของข้าวมันไก่ : Part 1 จุดเริ่มต้น +++
สวัสดีค่ะ ..... ภาพแรกโผล่ขึ้นมาเป็นภาพเจ้าของบลอกโลด อย่าเพิ่งตกใจกันไปก่อนนะคะ ไปเที่ยวด้วยกันก่อนนะคะ ที่จริงเดือนที่แล้วมีแพลนไปเที่ยวเกาหลีกับเพื่อนค่ะ รวมทั้งหมด 6 ชีวิต แต่ไหงกลับกลายเป็นสิงคโปร์ซะงั้น .... เพราะว่าเหตุการณ์ชุมนุมของ Red Shirt คร๊าบบบ ..... เลยทำให้ทุกอย่างหยุดหมด เกดเองชวนน้องสาวไปเกาหลีด้วยค่ะ ประมาณว่าไปเที่ยวเกาหลี เล่นสกี กินสตอเบอร์รี่และหมี่ดำ อิอิอิ คือน้องสาวเกดเป็นคนติดหนังเกาหลีอีกต่างหาก ประมาณว่าถามเรื่องไหนหล่อนรู้หมดค่ะ แถมงานนี้ไปสร้างความหวังไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมค่ะ กว่าจะจองทุกอย่างลงตัวก็เดือนมีนาคมค่ะ ได้ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แถมโปรแกรมอีกยาวเหยียด พอสาวเจ้าไม่ได้ไปก็เริ่มอาการเซ็งค่ะ เลยบอกว่าพี่สาวต้องรับผิดชอบ ..... คิดหนักเลยค่ะ ก็เลยคิดว่าไปไหนง่าย ๆ ใกล้ ๆ ยังดีที่เชียงใหม่มีไฟลท์บินตรงไปสิงคโปร์ค่ะ ของสายการบิน Silk Air ซึ่งก็เป็นสายการบินเครือเดียวกันกับ Singapore Airline ค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกที่ไปกันเองสองพี่น้องค่ะ .... จะตายไหมเนี่ย ภาษายิ่งแข็งแรงอยู่ เอาน่าไม่เป็นไร .... สู้ สู้ สู้ จะไปก็ไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรเลยค่ะ *_*" เปิดดูการเดินทางจากห้องบลู ของพันทิปค่ะ แล้วก็จดโน๊ตไว้ แต่ว่าถึงเวลาเดินทางจริง ๆ ก็ไม่ได้ใช้ บางที่ก็บอกแบบวนไปวนมา อืม .... อย่างบอกว่าถ้ามีเวลาก็เดินเอาค่ะ ทุกที่อยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ ไม่ได้ไกลอย่างที่คิด 
การเตรียมตัว : แทบไม่ได้เตรียมอะไรเลยค่ะ เพราะว่าไปปุบปับมาก ๆ ค่ะ แต่ที่ต้องนำไปก็จะมี พาสปอร์ต เสื้อผ้า ร่มคันเล็ก หมวก แว่นตากันแดด ยาประจำตัว อแดพเตอร์แปลงไฟ (ไฟที่นั่นก็ 220 โวลต์เหมือนบ้านเรานะคะ แต่ว่าเต้าเสียบต่างกันค่ะ) รองเท้าที่ใส่สบาย ๆ นอกจากนั้นหาซื้อได้ง่าย ๆ และที่ขาดไม่ได้คือถุงซิปลอคขนาดใหญ่ เป็นถุงสารพัดประโยชน์ค่ะ ตั้งแต่ใส่ของที่มีของเหลว กระทั่งขนข้าวมันไก่กลับมาเชียงใหม่ค่ะ จริง ๆ นะคะ เกดซื้อข้าวมันไก่กลับมาให้แม่ด้วยค่ะ การจองโรงแรม : ไปเที่ยวนี้เกดเลือกที่พักแบบถูก ๆ ค่ะ เพราะว่ายังมีทริปที่ต้องไปอีกหลายทริปในปีนี้ ขอประหยัดไว้ก่อนค่ะ เกดเลือกจองโรงแรม 81 Osaka ค่ะ ไปเห็นรีวิวของคนที่เพิ่งไปพักค่ะ โรงแรมก็เพิ่งเปิดด้วยไม่ถึงสามเดือน ... เดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยค่ะ สถานี Outram Park ค่ะ เวปไซต์ : เวปไซต์ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ค่ะ มีการให้เราลองวางแผนการเดินทาง //www.yoursingapore.com เวปไซต์ The Singapore Tourist Pass มีโปรโมชั่นและสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ //www.thesingaporetouristpass.com เวปไซต์ของ SMRT ค่ะ เป็นเวปการขนส่งของสิงคโปร์ค่ะ //www.smrt.com.sg
เกดออกเดินทางจากเชียงใหม่บินตรงไปยังสิงคโปร์นะคะ ด้วยสายการบิน Silk Air เที่ยวบิน MI 701 ออกจากเชียงใหม่เวลา 11.30 น. ถึงสิงคโปร์ก็ 15.10 น. เวลาของสิงคโปร์จะเดินเร็วกว่าที่เมืองไทย 1 ชั่วโมงค่ะ เวลาที่นั่งในเครื่องบินก็ประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ ภาพนี้ถ่ายตอนที่เครื่องออกจากเชียงใหม่ค่ะ จะเห็นว่าฟ้าเป็นสีขาวหม่นกับสีฟ้านะคะ ที่หม่น ๆ นี่ก็คือควันที่คลุมเขตภาคเหนือนะคะ
ภาพนี้ถ่ายก่อนแลนดิ้งค่ะ จะเห็นฟ้าเป็นสีไล่ระดับไม่เหมือนตอนออกเดินทางนะคะ สำหรับการไปสิงคโปร์ไม่ต้องใช้วีซ่านะคะ เราสามารถอยู่ได้ 30 วันค่ะ โดยที่พาสปอร์ตต้องดูว่าวันหมดอายุของหนังสือเดินทางเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนะคะ คราวนี้เป็นการพาหยีไปเปิดซิงพาสปอร์ตด้วยค่ะ อิอิอิ พอเครื่องบินออกมาสักพักก็เริ่มเสริฟ์น้ำกับอาหารค่ะ อาหารมีให้เลือกระหว่างข้าวกับแกงไก่ ซึ่งเรียกชื่อไม่ค่อยถูกค่ะ อีกอย่างเป็นปลากับซอสมะเขือเทศค่ะ แต่ที่นั่งที่เกดได้เป็นแถวสุดท้ายที่เสิร์ฟพอดี เกดกับหยีนั่งกลาง ๆ เครื่องค่ะ ได้ที่ติดหน้าต่าง นั่งกันสองคนค่ะ สงสัยพี่สาวใจดีเค้าเห็นสะพายกล้องไปด้วยก็เลย ให้นั่งตรงข้างหน้าต่างละกัน แอร์โฮสเตสมีประมาณ 6 คนค่ะ เครื่องบินเป็นของแอร์บัสค่ะ A330
อาหารก็ถูกยกมาแล้วค่ะ ข้าวสีเหลือง ๆ อารมณ์ประมาณทานข้าวหมกไก่ค่ะ หอมอร่อยดีส่วนแกงไก่ก็รสชาติไม่เผ็ดค่ะ มีผักต้มคู่มาให้ด้วยทานแก้เลี่ยน เป็นผักที่น่าจะต้มในนมค่ะ
ทานไปแป๊บเดียวก็หมดแล้วค่ะ ...... แถมก่อนวันเดินทางก็นั่งเล่นทำงานซะดึกอีกต่างหาก มีผลไม้เป็นสับปะรดกับแตงโมค่ะ สับปะรดนี่ไม่แน่ใจว่าเป็นสับปะรดกระป๋องหรือเปล่าค่ะ ดูหน้าหยีสิคะว่าอาหารทานได้หรือเปล่า
น้ำก็จะมีน้ำอัดลมแล้วก็น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล เบียร์ ไวน์แดงนะคะ แต่ว่าสาว ๆ อย่างเราไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ค่ะ ขอดื่มน้ำส้มก็พอค่ะ ทานเสร็จก็นั่งอ่านหนังสือเตรียมเที่ยวสิงคโปร์ อ่านแล้วก็งง ๆ
จัดการเอาใบเข้าเมืองมากรอกนะคะ พร้อมกับเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่นตั๋วเครื่องบิน ใบรับกระเป๋า พาสปอร์ต มาเตรียมในกระเป๋าเล็กนะคะ พอเครื่องลงจอดก็เดินไปตามทางที่จะไปรับกระเป๋าเลยค่ะ จะเห็นสัญลักษณ์เป็นรูปกระเป๋านะคะ ของเกดลงที่เทอร์มินอล 2 ค่ะ อากาศวันนี้ดูขมุกขมัวมากเลยค่ะ 
เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับด่านตรวจคนเข้าเมืองนะคะ ตรงนี้หยีเค้าออกแนวกลัว ๆ นิดนึงค่ะ เพราะว่าไม่รู้ว่าจะโดนถามอะไรหรือเปล่าค่ะ ของเกดเฉย ๆ ก่อนเขาไปก็ยืนหลังเส้นก่อนนะคะ พอคนก่อนหน้าเราออกไปค่อยเดินเข้าไปค่ะ แนะนำนิดนึงถ้าเป็นผู้หญิงให้เลือกตรวจกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่เป็นผู้หญิงค่ะ เกดเองก็ไปตรวจกับ ตม. ที่เป็นผู้ชายเพราะว่าคิดว่าในพาสปอร์ตก็ไปมาหลายที่แล้ว ปรากฏว่าสัมภาษณ์นานมาก ถามตั้งแต่ว่ามาทำไม กลับเมื่อไหร่ มากี่ครั้งแล้ว ขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับ ใบจองโรงแรม ... สงสัยจะเป็นเพราะว่าหน้าตาดีเกินเหตุ เพราะว่าหยีโดนถามจาก ตม. ที่เป็นผู้หญิงแค่ว่า มาเป็นครั้งแรกแล้วจะไปไหนบ้าง แค่นั้นค่ะ สั้นจริง ๆ ออกมาก็ไปรับกระเป๋า แล้วก็ไปขึ้นรถไฟฟ้า MRT เข้าไปในเมืองค่ะ สำหรับบัตรขึ้นรถไฟฟ้าของสิงคโปร์ก็จะมีให้เลือกอยู่ 3 แบบนะคะ สำหรับแบบแรกจะเป็น แบบบัตร Singapore Tourist Pass ดูรายละเอียด " ที่นี่ " แบบบัตร EZ Link Card ดูรายละเอียด " ที่นี่ " แบบบัตร Store-value card ดูรายละเอียด " ที่นี่ " เกดเลือกเป็น EZ Link Card นะคะ เพราะว่าคิดว่าบัตร Singapore Tourist Pass ใช้แล้วไม่ค่อยคุ้มเท่าค่ะ เพราะว่าต้องเสียเป็นรายวัน วันละ 8 เหรียญ สำหรับการใช้เค้าจะนับวันแรกที่ซื้อเลยค่ะ ไม่เหมือนกับ Japan Rail Pass ที่กำหนดวันการเริ่มใช้งานได้ บัตร EZ Link Card ก็สามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟฟ้าที่จอดที่เทอร์มินอล 2 นะคะ จะลงบันไดเลื่อนหรือว่าลงลิฟท์ก็ได้ค่ะ ถ้าเห็นบันไดเลื่อนก็เดินตรงไปหน่อยก็เป็นลิฟท์แล้วค่ะ การใช้บัตรก็เหมือนเวลาที่เราขึ้นรถไฟฟ้าในกทม. ค่ะเอาบัตรแตะแล้วที่กั้นก็จะเปิดให้เข้าไปได้ค่ะ นี่เป็นแผนที่รถไฟฟ้าค่ะ 
From : //www.smrt.com.sg/trains/network_map.asp ลองไปอ่านรายละเอียดเอานะคะ มีวิธีการเดินทางไปที่ต่าง ๆ ในสิงคโปร์ค่ะ ลองเทียกับสถานที่ที่เราต้องการไปค่ะ ตอนที่เราเดินทางไปลงรถไฟฟ้าก็จะผ่านเคาท์เตอร์ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์นะคะ สามารถหยิบโบรชัวร์และแผนที่มาอ่านได้ค่ะ การเดินทางไปที่โรงแรมก็แล้วแต่ว่าเลือกจองโรงแรมไหนไว้นะคะ สำหรับเกดเลือกไว้ก็ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ Outram Park ค่ะ ขึ้นรถไฟจากสถานีสนามบิน Changi Airport >> ผ่านสถานี Expo >> มาเปลี่ยนรถที่สถานี Tanah Merah เพื่อเปลี่ยนรถไฟค่ะ คือยังไงก็ต้องลงที่สถานีนี้ค่ะ สายที่จะเข้าเมืองต่อไปก็จะเป็นสาย East-West Line (EW) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสายสีเขียวค่ะ นั่งไปจนถึงสถานี Outram Park ค่ะ ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีที่เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายสีม่วงที่เป็นสาย North-East Line (NE) ได้ด้วยค่ะ จากนั้นก็จัดการไปเชคอิน พร้อมสำหรับการเที่ยวต่อค่ะ เริ่มจากไปหาของทานที่ไชน่าทาวส์กันก่อนนะคะ ...... แต่ว่าคนเขียนสิคะ เริ่มไม่ไหวแล้ว ถ้ายังไงขอพักเอาแรงก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อค่ะ เอาภาพอาหารมาให้ดูเป็นน้ำจิ้มก่อนนะคะ 
บายกันด้วยภาพของหยีค่ะ ...... บายค่ะ ขอแว๊บไปอัพเดตของในเวป www.pastelpied.com ก่อนนะคะ จะได้มีเงินไปเที่ยวอีกค่ะ 
Create Date : 07 เมษายน 2553 |
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 20:27:16 น. |
|
10 comments
|
Counter : 2756 Pageviews. |
 |
|