โดยโปรนี้จะมีถึงแค่สิ้นเดือนมกราคม 2564 เท่านั้นค่ะ รายละเอียดก็ตามนี้เลยนะคะ Dec 2020 - Jan 2021 Promotion : Kaviari Kristal Caviar From France
โปร Copper Member Card
ทานบุฟเฟต์ 999 มา 10 ที่ รับฟรี 1 Set มูลค่า 2,500 บาท
(*งดส่วนลด หรือสมาชิกสามารถ แลกซื้อ Caviar 1 set ได้ในราคา 2,500 บาท)
และดีลสุดพิเศษบนแอปเพื่อคุณ
Hungry Hub 'Caviar Experience'
สามารถสำรองที่นั่งได้ในราคาแพคเกจเดี่ยว 2,599/1 Set สำหรับ 1 ท่าน
และราคาแพคคู่ 3,699 / 1 Set สำหรับ 2 ท่าน
รวมราคาบุฟเฟ่ต์และ Caviar Set เรียบร้อยแล้ว
เราเองนี่ก็เป็นคนหนึ่งที่เมื่อก่อนไม่ได้รู้หรอกนะคะว่าทำไมคาร์เวียร์ถึงได้แพงนักหนา รู้แต่ว่ามันเป็นวัตถุดิบที่ราคาสูง ส่วนใหญ่อยู่เฉพาะในร้านอาหารระดับสูงกัน จนวันที่ไปคอปเปอร์ ถึงได้รับความรู้จากทีมงานของ Caviari ซึ่งเป็นแบรนด์คาร์เวียร์ระดับโลกที่เชฟมิชลินใช้กันมากที่สุด ว่าทำไมคาร์เวียร์ถึงได้แพงค่ะ มาค่ะ มารู้ไปพร้อมๆ กันนะคะ แฮร่...
คาเวียร์คืออะไร ที่มาของคำนี้มาจากภาษา “เปอร์เซีย” มีความหมายว่า “ไข่ปลาปรุงรส” ซึ่งเป็นไข่ของ sturgeon (ปลาสเตอร์เจียน) ปลาสเตอร์เจียนเป็นปลาโบราณ ถือเป็นสัตว์รุ่นดึกดำบรรพ์ประมาณไดโนเสาร์เลยค่ะ โดยปลาสเตอร์เจียนนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะให้ไข่ที่มีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป
ประเทศที่ถือเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมการทานคาเวียร์คือประเทศรัสเซีย เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ราชวงศ์ และชนชั้นสูง เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารมงคล จากนั้นจึงได้แพร่หลายไปสู่ประเทศอื่นๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย
ทำไมคาเวียร์ราคาสูง เพราะก่อนจะมาเป็น caviar ได้นั้น ต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 7 – 12 ปี หรือบางพันธุ์ 25 ปี กว่าปลา sturgeon จะวางไข่และสามารถเก็บผลผลิตได้ แต่ขั้นตอนไม่หมดแค่นั้น เมื่อได้ไข่ปลาจากปลาสเตอร์เจียนแล้ว ก็ยังคงเป็นแค่ไข่ปลา ยังไม่ใช่ caviar ไข่ปลาเหล่านี้จะกลายเป็น “คาเวียร์” ได้ก็ต่อเมื่อมีการปรุงรสด้วยเกลือในปริมาณที่เหมาะสมและผ่านการ age หรือ หมักบ่ม เรียบร้อยแล้วเท่านั้นค่ะ
นอกจากนั้นในปัจจุบันยังคงห้ามจับปลาสเตอร์เจียนตามธรรมชาติแล้วนะคะ ต้องเป็นปลาที่มาจากการทำฟาร์มเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีตรงที่ผู้ผลิตคาร์เวียร์เองก็สามารถจะควบคุมคุณภาพของคาร์เวียร์ได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
สำหรับขั้นตอนการทำคาร์เวียร์นั้น หลังจากผสมเกลือในปริมาณที่เหมาะสมในไข่ปลาแล้ว จะนำไข่ปลาไปใส่ใน original tin น้ำหนักประมาณ 1.7 kg และมาถึงขั้นตอนการหมักบ่ม (caviar ageing) ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 เดือนขึ้นไป ปัจจัยหลักในการ ageing คือ อุณหภูมิ (temperature), ความชื้น (humidity), และ เวลา (time)
เพราะเหตุนี้ คาเวียร์จึงติดหนึ่งในอาหารที่มีราคาสูงที่สุดในโลก Kaviari Kristal Caviar
สำหรับคาเวียร์ที่ผลิตมาพิเศษเพื่อ Copper Buffet โดยเฉพาะนั้น คือ Kristal Caviar ซึ่งเป็นคาเวียร์ที่เชฟ และร้านอาหารที่ได้รับรางวัล Michelin star ทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด (นี่กลับไปดูรีวิว Robuchon ที่เคยกินก็น่าจะพันธุ์เดียวกันเลยค่ะ) ลักษณะเม็ดกลมขนาดใหญ่ปานกลาง สีเหลือบทอง ซึ่งเมื่อกินจะได้รส 3 อย่าง เริ่มจาก รสแรกคือ sea salt คือรสเค็ม ตามด้วยรสที่ 2 จะมีความเป็นถั่วๆ ประมาณ chestnut (เกาลัด) หรือ almond กลิ่นอัลมอนด์อ่อน ตามด้วยรสสุดท้าย buttery กลิ่นเหมือนเนยหอมมันจางๆ ค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น แพ็คเก็จไข่คาร์เวียร์นี้ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์จึงเป็นการผลิตของบริษัท Carviari ที่ฝรั่งเศส และนำเข้ามาค่ะ เป็น Special Caviar Box Set ‘Copper x Kaviari โดยเฉพาะเลยหละค่ะ
และด้านหลังบ็อกเซ็ตคาร์เวียร์นี่จะมี tag บอกรายละเอียดของคาร์เวียร์ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งชี้อย่างหนึ่งว่าเป็นคาร์เวียร์ที่ผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายนะคะ
Kaviari Kristal Caviar with Condiments
เซ็ทคาเวียร์ที่ทาง Copper Buffet จัดเสิร์ฟ มาพร้อม condiments หรือเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่เวลากินแล้วเข้ากันกับ caviar เป็นอย่างดี และทุกอย่างในเซ็ททำแบบ in-house ในครัวของคอปเปอร์ ไม่ว่าจะเป็นซอสมะม่วงเสาวรส หรือแม้แต่ sour cream และขนมปังก็ทำเองค่ะ ในเซ็ทประกอบด้วย
- Special Caviar Box Set ‘Copper x Kaviari’ 15g (นำเข้า) เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง ได้แก่
- Hard Boiled Egg (Yolk & White) ไข่ขาวต้ม ไข่แดงต้ม
- Mango Passion Fruit Spread ซอสมะม่วงเสาวรส (ข่าวว่าขนาด Kaviari เองยังอยากได้ซอสนี้ไปเลยค่ะ 555)
- Sliced Brioche แผ่นขนมปังบริยอช (อร่อยฝุดๆ ค่ะ)
สำหรับวิธีการกินทางร้านแนะนำให้ขนมปังบริยอชเป็นพื้นก่อน (แน่สินะ 555) แล้วก็ทาด้วยซอสมะม่วงก่อนค่ะ จากนั้นก็ไล่ลำดับไปเลยคือหอมแดงสับ ไข่ขาว ไข่แดง ซาวครีม แล้วก็ค่อยโรยด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ค่ะ ซึ่งตอนแรกที่เห็นราคาก็แบบคาร์เวียร์นี่ให้มาเยอะน้อยแค่ไหนกั๊น ปรากฏว่ากล่องนี้นี่ ขนาดกินกับขนมปังแล้ว ขนมปังหมด ยังเหลือคาร์เวียร์อยู่อีกเลยค่ะ เยอะมาก คุ้มสุดๆ เทียบกับที่เคยกินร้านอื่นๆ แล้ว กับราคานี้นี่...เรียกว่าคุ้มค่าจนไม่รู้จะคุ้มค่ายังไงเลยค่ะ เพราะบางทีอาหารเมนูเดียวก็ราคาเท่ากับคาร์เวียร์ทั้งกล่องนี้แล้ว แต่ใส่คาร์เวียร์น้อยกว่านี้หลายเท่าค่ะ
รสชาตินะคะ เราเริ่มจากการลองกินทั้งคาร์เวียร์เปล่าๆ ซึ่งได้รับรสครบทั้งสามรสแบบที่ได้รับการอธิบายค่ะ คือ เค็มมาก่อน แต่ไม่เค็มจัดแบบคาร์เวียร์บางที่ที่เคยกิน จากนั้นสักพักจะมีความมันหอมแบบถั่วแนวแอลมอนด์มา ตามติดด้วยความเป็นเนยๆ นิดๆ และมีรสไม่เชิงหวานค่ะ บอกไม่ถูกเป็นรสปลายๆ ด้วย จะซ่านไปที่คอหน่อยๆ
ส่วนพอกินพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ในเซ็ตก็จะได้รสชาติที่มีความหลากหลาย ละุมนและให้รสที่อร่อยยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ อันนี้กินเพลินมากๆ เป็นคอนดิเมนท์ที่จัดมาได้อย่างเหมาะสมมากค่ะ ทำให้เป็นการกินคาร์เวียร์ที่เพลิดเพลิน อร่อยที่สุดมื้อหนึ่งที่ได้กินคาร์เวียร์เลยแหละค่ะ
นอกจากนั้นก็ยังได้ชิมเมนูใหม่ๆ ที่ทางคอปเปอร์เองก็มีการใส่มาเรื่อยๆ ทำให้ต่อให้ไปกินซ้ำก็จะยังมีเมนูแปลกใหม่ที่น่าลองด้วยค่ะ ซึ่งทางคอปเปอร์เอง ก็ยังคงมีมาตรการป้องกันโควิด-19 นะคะ นั่นคือนอกจากมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน มีแอลกอฮอล์ให้ล้างมือก่อนเข้าร้าน และลดจำนวนที่นั่งต่อรอบแล้ว อาหารก็จะไม่มีการให้ลูกค้าตักเองค่ะ แต่ทางร้านจะทำให้เป็นชุดๆ เลย แต่ยังคงรับได้ไม่จำกัดจนกว่าจะหมดเวลากิน 2 ชั่วโมงเหมือนเดิมนะคะ
วันนี้ขอลงเฉพาะเมนูที่รีวิวก่อนหน้านี้ไม่มีแล้วกันนะคะ 555
- กุ้งถัง อร่อยมากกกกกกกกกก เชียร์สุดๆ ว่าห้ามพลาดค่ะ วันที่ไปไม่มีใครสั่งมากินเลย พอเราสั่งมา กินตัวแรกเข้าไปนี่ เชียร์ให้คนอื่นกิน มีแต่คนชมค่ะ อร่อยมากกกกก ซอสของเชฟฝนนี่ทำรสชาติดีมาก มีทั้งพริกไทยดำ มีทั้งหมาล่าและอะไรก็ไม่รู้ รสหลากหลายมาก อร่อยมาก แนะนำให้กินด้วยมือนะคะ จะได้รสชาติ สุดมาก อร่อยค่ะ
- หอยนางรมเซลีน เมืองแคนเกล ประเทศฝรั่งเศส เจือเค็มนิดๆ จากน้ำทะเลแต่ไม่เค็มจัดค่ะ อร่อยดีนะคะ เราชอบ จะกินกับซอสที่ทางร้านทำไว้ก็ส่งรสดี ไม่กลบรสของน้ำหอย ส่วนถ้าใครสายแซ่บก็น้ำจิ้มซีฟู้ดได้ค่ะ
- ปลากะพงทอดน้ำปลา เนื้อปลาชิ้นหนา ขอกี่ชิ้นก็ได้ค่ะ ถ้ากินหมด 555 น้ำปลาก็รสดีมาก ไม่เค็มไป เจือหวานกำลังดี กินเพลินมากค่ะ
- ข้าวมันปู พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ อร่อยค่ะ ใครชอบมันปูนี่ได้มันปูมาเต็มมาก (ตัวนี้เฉพาะแพ็คเก็จที่จองผ่านฮังกรี้ฮับนะคะถ้าจำไม่ผิด)
- เนื้อตุ๋นซอสไวน์แดง เนื้อนุ่มนวลมาก ใช้เนื้อวากิวนะคะ
- สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดซอสหมึกดำ ตัวนี้ไม่ได้ชิมค่ะ เพื่อนสั่งมา เราถ่ายรูปมาให้ชมเฉยๆ นะคะ แหะๆ
- เต้าหู้ซอสฟัวร์กราส์ (เฉพาะการสั่งดีลิเวอรี) ตัวนี้เป็นเมนูโปรดค่ะ ฟัวร์กราส์นี่กลิ่นเด้งมาก ชัดมาก อร่อยสุดๆ
- ตบท้ายด้วยของหวานที่มากี่รอบก็สั่งกินตลอดค่ะ โมจิไส้ไข่เค็มลาวากับไอติมแบบรวมทุกรส
รอบเวลาให้บริการ Copper Buffet
วันจันทร์ – พฤหัสบดี มี 3 รอบ
12.00 – 14.00 น.
16.30 – 18.30 น.
19.00 – 21.00 น.
วันศุกร์ มี 4 รอบ
11.00-13.00 น.
13.30-15.30 น
17.00-19.00 น.
19.30 -21.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ มี 4 รอบ
10.00 – 12.00 น.
12.30 – 14.30 น.
16.00 – 18.00 น.
18.30 – 20.30 น.
สรุปสำหรับโปรฯ นี้นะคะ สำหรับคนที่ต้องการได้รับประสบการณ์การกินคาร์เวียร์ที่ประทับใจในราคาที่คุ้มค่า เป็นโปรฯ หนึ่งที่ดีงามมากค่ะ ดีจนกระทั่งตัวแทนบริษัท Kaviari เองยังบอกว่าขายราคานี้จริงๆ เหรอ? แล้วนี่เป็นราคาที่ขายเฉพาะแพ็คเก็จบ็อกซ์คาร์เวียร์ยังไม่รวมบุฟเฟต์หรือเปล่า ซึ่งพอรู้ว่าราคารวมบุฟเฟต์แล้วเค้าก็ดูอึ้งๆ ไปเลยค่ะ 555 เพราะฉะนั้นเชียร์สุดๆ นะคะ เป็นโปรฯ หนึ่งที่ไม่ควรพลาด และจะได้มีกล่องตัวนี้ไว้เป็นที่ระลึกด้วยค่ะ (เราว่าคอปเปอร์ทำโปรฯ นี้มาให้เป็นของขวัญปีใหม่ลูกค้าแหละ)
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+8339745=9809441/14685/1935
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
