สองวัดสองแผ่นดิน : วัดราชนัดดารามวรวิหาร (3)
ทำไมซีรีย์ชุดนี้จึงตั้งชื่อว่าสองวัดสองแผ่นดิน คงมีคำเฉลยแล้วว่า เพราะวัดที่เกี่ยวเนื่องในสมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดีนั้นมีถึงสองวัด เพียงแค่เพียงหนึ่งวัดหลวงที่สร้างขึ้นแก่เจ้านายฝ่ายในก็จัดเป็นความพิเศษ ดังนั้นเมื่อมีการสร้างถึง 2 วัด จึงเป็นเรื่องที่พิเศษมาก แม้กระทั่งก่อนจะเขียนบล็อกนี้ ผมยังเข้าใจว่าเพราะเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนี ของรัชกาล 5 แต่นั่นกลับไม่ใช่ แล้วเพราะเหตุใดกันเล่า คงต้องย้อนไปที่ประวัติศาสตร์ พระนางเจ้าโสมนัสฯ องค์ประสูติเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2377 เป็นพระธิดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักขณานุคุณ กับหม่อมงิ้ว โดยพระบิดาคือพระราชโอรสของรัชกาลที่ 3 กล่าวอย่างภาษาเข้าใจง่ายๆ ว่า พระองค์เป็นหลานนั่นเอง เพียงชันษาได้ 6 เดือนพระบิดาก็สิ้นพระชนม์โดยโรคไข้ป่วง รัชกาลที่ 3 ในฐานะพระอัยกาก็สงสาร จึงนำตัวเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง โดยให้อยู่ในความดูแลของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ซึ่งมีฐานะเป็นพี่สาวของพระบิดา หรือป้านั่นเอง โดยเป็นพระราชธิดาองค์โปรดของรัชกาลที่ 3 โดยในปี พ.ศ. 2379 รัชกาลที่ 3 ได้ทรงโปรดฯ ให้สร้างวัดเทพธิดารามพระราชทานแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2382 พ.ศ. 2388 เมื่อหม่อมเจ้าโสมนัสพระชันษาได้ 11 ปี กรมหมื่นอัปสรสวรรค์ก็สิ้นพระชนม์ ทำให้รัชกาลที่ 3 ยิ่งทรงเมตตา โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงพระยศขึ้นเป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าเพียงองค์เดียวในรัชกาล ในช่วงเวลานั้น พระองค์น่าจะเข้าสู่ช่วงโสกันต์ ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ทำพิธีโสกันต์ที่มีระเบียบพิธีเช่นเดียวกับ งานของเจ้าฟ้า ขาดแต่การสร้างเขาไกรลาสและมยุรฉัตรเท่านั้น
พ.ศ. 2389 รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดราชนัดดารามพระราชทานให้ ซึ่งเป็นวัดที่เราทราบกันดีว่ามีสิ่งก่อสร้างสำคัญ นั่นก็คือ โลหะปราสาท ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธเสฏฐตมมุนินทร์ซึ่งหล่อด้วยทองแดง ที่ขุดได้จากเมืองจันทึก ที่เป็นแหล่งแร่ทองแดงที่ถูกค้นพบในสมัยนั้น สิ่งที่น่าสนใจบันทึกไว้ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ช่วง รัชกาลที่ 3 กล่าวถึงพะระพุทธรูปองค์นี้ว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. 232389 ในขณะที่แห่อัญเชิญ มาจากพระบรมมหาราชวังเพื่อมาประดิษฐานในพระอุโบสถนั้น เจ้าพระยายมราชซึ่งเป็นแม่กองที่รัชกาลที่ 3 เร่งให้สร้างพระอุโบสถขึ้นนั้น ประกาศบอกบุญแก่ราษฎรให้มาช่วยกันชักพระไปตามถนนบำรุงเมือง ผ่านเสาชิงช้าไปถึงประตูผี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนมหาชัย เลียบกำแพงพระนคร ข้ามคลองหลอดถึงวัดราชนัดดาราม ครั้งนั้นมีราษฎรมาร่วมงานบุญครั้งนี้มาก พอชักพระพุทธรูปออกจากกำแพงพระนคร เจ้าพระยายมราชได้ลงมาดูตะเฆ่
ที่วางพระพุทธรูปว่าเชือกที่ผูกสำหรับให้คนช่วยกันชักลากนั้นนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่ เพื่อเตรียมคัดให้เลี้ยวไปตามถนนใหญ่ ยังมิทันอะไร ชาวบ้านได้ยินเสียงม้าล่อ ก็นึกว่าเป็นสัญญาณว่า เริ่มลากได้ เจ้าพระยายมราชวัย 70 ปี ก็กระโดดหนีไม่ทัน ถูกตะเฆ่ทับเสียชีวิต พร้อมด้วยทนายอีก 2 คน สร้างความสลดใจแก้ผู้คนไปหลายวัน
พ.ศ. 2394 รัชกาลที่ 3 เสด็จสวรรคต เหล่าข้าราชการได้อัญเชิญพระวชิรญาณภิกขุ ขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 4 เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ได้มีความเห็นว่า พระองค์เจ้าโสมนัส ขณะนั้นพระชันษาได้ 17 ปี มีความเป็นขัตยนารีคู่ควรที่จะเป็นอัครมเหสีในพระองค์ จึงได้มีพระราชพิธีอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2394 และทรงสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี ต่อมาเพียง 6 เดือนพระองค์ก็ทรงพระครรภ์ แต่ก็ทรงพระประชวรมาตลอด และมีประสูติกาลพระราชโอรส ในวันที่ 21 ส.ค. พ.ศ. 2395 แต่อาการประชวร ของพระนางเจ้าโสมนัสก็ไม่ดีขึ้น ก็ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 10 ต.ค. 2395 รวมพระชนมายุ 18 พรรษา ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่คลองผดุงกรุงเกษมถูกขุดเสร็จ พ.ศ. 2396 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดโสมนัสวิหารที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม พ.ศ. 2399 หลังพระอุโบสถแล้วเสร็จแล้วให้ ประดิษฐานพระประธาน พระพุทธสิริ ขนาดหน้าตัก กว้าง 2 คืบ 6 นิ้ว อาราธนา ซึ่งสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธสิริ) สร้าง และอัญเชิญมาจากวัดราชาธิวาส พร้อมให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรก
หลังจากเสด็จมาเพื่อทำพระราชพิธีฉลองวัด ทรงมีพระราชประสงค์จะทรงสร้างวัด ส่วนพระองค์ขึ้นเป็นการคู่เคียงกับวัดโสมนัสวิหารที่ริมคลองผดุงกรุงเกษมบ้าง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อสวนของราษฎรที่ติดต่อกับวัดโสมนัสวิหาร ใกล้กับป้อมหักกำลังดัสกร รวมเป็นพิเศษผืนใหญ่เพียงพอที่จะสร้างวัดได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กองงานสร้างวัด ได้วางผังวัดให้คล้ายกับวัดโสมนัสวิหาร พ.ศ. 2411 รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานามว่าวัดนามบัญญัติคู่กับวัดโสมมนัสวิหาร ไปพลางก่อนที่ทรงเสด็จสวรรคตลงในปีเดียวกันนั้น ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนชื่อวัดให้ตรงกับพระปรมาภิไธยของรัชกาลที่ 4 คือวัดมกุฏกษัตริยารามซึ่งก็ยังคงคล้องจองกับชื่อโสมมนัสวิหารเช่นเดิม นอกจากนี้ที่บริเวณด้านหลังวิหาร ยังประดิษฐานพระพุทธรูปสององค์ ที่เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 4 และพระนางเจ้าโสมนัสฯ แสดงให้เห็นความตั้งใจของพระองค์ที่จะทรงอยู่เคียงคู่กับพระนางเจ้าโสมนัสตลอดไป
Create Date : 28 พฤษภาคม 2564 |
|
8 comments |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2564 16:03:24 น. |
Counter : 1020 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 28 พฤษภาคม 2564 17:28:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 29 พฤษภาคม 2564 9:58:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 29 พฤษภาคม 2564 16:31:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 31 พฤษภาคม 2564 10:51:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 4 มิถุนายน 2564 9:12:22 น. |
|
|
|
| |