ในโลกแห่งแฟนตาซี : Chiki Chiki Bom! : ฟุยูมิ โซเรียว
มิอุ เด็กหนุ่มจากบ้านเด็กกำพร้า วิ่งหนีตำรวจลงมาในอุโมงค์ระบายน้ำอย่างความลนลาน จนพลัดตกลงน้ำทั้งตัวเขาและเพชรที่ขโมยมาด้วย พอรู้สึกตัวก็พบแต่ความมืดรอบด้าน มีเพียงแสงสว่างเรืองรองที่ส่องจากไข่ใบโต มิอุหยิบไข่ใบนั้นขึ้นมาดูเพราะความประหลาดใจ แต่แรงสั่นสะเทือนทำให้ไข่แตกออกและปรากฏร่างเด็กน้อยตัวกะเปี๊ยกคนหนึ่ง .... ชิกิ นั่นเอง! . เมื่อชิกิวาดสีเทียนกลางอากาศเนรมิตประตูบานหนึ่งเพื่อออกจากห้องมืด มิอุไม่รอช้ารีบกระโจนตามออกไปทันที แต่หลังประตูบานนั้นกลับเป็นท้องฟ้าเหนือมหาสมุทร ที่มีช้างหางเป็นปลา บนฟ้ามีปลาที่บินได้!! มิอุ นี่นายเข้ามาอยู่ที่ไหนกันเนี่ยยยยย!!! . นี่คือโลกอีกมิติหนึ่ง ซึ่งประตูบานนั้นคือเส้นแบ่งมิตินั่นเอง ส่วนเจ้าตัวเปี๊ยกนั่นก็คือ เจ้าหญิงชิกิ แต่เพราะว่ามิอุไปรบกวนการหลับที่ยังไม่ครบรอบหนึ่งหมื่นปีจึงปรากฎตัวออกมาในวัยเด็กแบบที่เห็น กริฟฟิน ปู่ปลามีปีก ได้เล่าให้ฟังว่าในระหว่างที่ชิกิหลับอยู่ โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รู้สาเหตุ สรรพสัตว์ที่เคยพบเห็นอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยเหตุนี้ ชิกิ กริฟฟิน และมิอุจึงร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาสาเหตุ โดยที่มิอุจะได้ เจ้าโรโดสหายติดปีก เป็นพาหนะ และในระหว่างทางพวกเขาจะได้พบเจอสิ่งต่างๆ เป็นคีย์เวิร์ดที่นำไปสู่การคลี่คลายปริศนาทีละขั้นๆ.. . และสำหรับมิอุนั้น เงื่อนไขการกลับไปยังโลกมีทางเดียวคือต้องรอให้ถึง วันที่พระจันทร์ทางทะเลสาบตะวันตกโคจรซ้อนกันสามดวง เมื่อนั้นจะปรากฏทางเชื่อมสู่โลกมนุษย์ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น! . มิอุ / ชิกิ และกริฟฟิน Chiki Chiki Bom! การ์ตูนแฟนตาซีผจญภัยใสใสของ อ.ฟุยูมิ โซเรียว ซึ่งเป็นแนวที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักนับจากเรื่อง หัวใจสีชมพู ( Pink na Kimi ni Blue na Boku) ในปี 1985 แม้ความยาวของ Chiki Chiki Bom! มีเพียงสองเล่มจบ ซึ่งอาจดูน้อยไปนิด แต่มีความน่าสนใจสอดแทรกในเนื้อหาอยู่ไม่น้อย อย่างแรกที่ชอบคือการดีไซน์ตัวละครทุกตัวที่ผสมผสานระหว่างเรื่องจริงกับจินตนาการได้โดดเด่นและลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ช้างหางปลา ปลามีปีก เต่าขาอูฐ ม้าหน้าดอกไม้ จนถึงปิศาจพลังสูบหัวงวงช้างที่มาพร้อมลูกตาติดปีก .
สัตว์และปิศาจในโลกของชิกิ จากซ้าย : ช้างหางปลาที่มิอุเจอตอนทะลุประตูออกมา เกลโกส ที่ผสมผสานจนตนาการระหว่าง ดอกไม้ ผีเสื้อ ม้า และหางที่เหมือนผมมนุษย์ ได้สวยงาม และปิศาจพลังสูบ หัวงวงช้างมาพร้อมกับลูกตาติดปีก . . ChikiChikiBomกับมุมมองธรรมมะ . “ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรากำหนด” ทาร่าเจ้าของปราสาทบันไดวงกตจะตั้งคำถามกับผู้มาเยือนที่ย่ำกรายเข้ามาว่า “อะไรคือข้างบน และอะไรคือข้างล่าง” หากตอบคำถามไม่ได้ ก็จะถูกสาปให้กลายเป็นหิน เป็นปู่โสมเฝ้าปราสาทจนนิรันดร์ …. “ ไม่มีข้างบนไม่มีข้างล่างทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรากำหนด” คือคำตอบที่ทำให้มิอุและชิกิเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งเมื่อมองในแง่ธรรมะแลนี่คือการปล่อยวาง ไม่ยึดติดสิ่งใด เมื่อเราทำได้ เมื่อนั้นใจของเราก็จะเป็นอิสระต่อทุกสิ่ง . ซ้าย : เจ้าเต่าอูฐ พาหนะที่ใช้เดินทางไปหาแม่เฒ่าทาร่าในดินแดนทะเลทราย ขวา : ปราสาทบันไดวงกตของทาร่า . . "โลภ โกรธ หลง คือรากเหง้าของอกุศล" ตอนที่ทั้งสามต้องหลบปิศาจพลังสูบ แต่มิอุกลับเป็นพะวงที่จะเก็บเพชรซึ่งหล่นตรงหน้าทั้งที่เสี่ยงตาย ปู่ปลาถึงกับบ่นกับชิกิอย่างเบื่อหน่ายว่า “พวกมนุษย์ก็อย่างนี้ล่ะ เวลาถูกความโลภครอบงำแล้วจะลืมนึกถึงชีวิตของตัวเอง” . เพราะเดิมทีนั้น “โลก” เป็นดวงดาวแสนสงบ ไม่มีความโลภและความเกลียดชัง แต่พอมนุษย์กำเนิดขึ้น ก็เกิดสงครามและการทำลายล้างขึ้นตามมาด้วย บรรพบุรุษของที่นี่จึงแยกโลกออกเป็นสองส่วน กลายเป็น “โลกสวรรค์” และ “โลกมนุษย์” . ในวันที่รู้ว่ามนุษย์อย่างมิอุหลงเข้ามา สิ่งมีชีวิตบนโลกสวรรค์ต่างก็ระแวงระวังอยู่ไม่น้อย ขนาดมิอุใช้แค่หนังสติ๊ก หรือมีดในการพิฆาตศัตรู ก็สร้างความตื่นกลัวให้ชิกิและกริฟฟินเป็นอันมาก ชาวโลกสวรรค์จึงมองว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่มีชีวิตด้อยความเจริญ ไร้ค่า แต่เมื่อชิกิและกริฟฟินได้ร่วมผจญภัยไปพร้อมกับมิอุ เธอก็เริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่เคยคิดมันก็ไม่ใช่เสมอไป… . นั่นแปลว่า หากเราค่อยๆ ละความโลภ โกรธ หลง ลงไปจนหมด เราอาจจะมีโลกที่แสนสุขเหมือนโลกสวรรค์ของชิกิก็เป็นได้ (ตื่นก่อน...! ) . .
ซ้าย : ปกเล่ม 1เวอร์ชั่นญี่ปุ่น : ภาพจากอินเตอร์เน็ต ขวา : หากชิกิหลับครบหมื่นปีคงได้ออกมาในรูปของสาวสวยเช่นนี้ : ภาพจากกิฟท์ แม็กกาซีน . Chiki Chiki Bom! เคยถูกตีพิมพ์ในบ้านเราในยุคไพเรท โดย สนพ.วิบูลย์กิจ ลงเป็นตอนๆ ในกิฟท์แม็กกาซีน ตั้งแต่เล่ม 3/1989 ไปจบในเล่ม 4/1990 ในชื่อ Chiki Chiki Bom! บุกมิติสู่แดนมหัศจรรย์ และฉบับรวมเล่ม 2เล่มจบโดยสนพ. สยามสปอร์ต ในชื่อ พิภพมหัศจรรย์ แม้จะเป็นผลงานที่เขียนมานานแล้ว แต่หยิบมาอ่านเมื่อไรก็ยังได้อรรถรสอยู่เสมอ . Chiki Chiki Bom! チキチキBOM! เรื่องและภาพ : ฟุยูมิ โซเรียว (Fuyumi Souryo) ความยาว 2 เล่มจบ ปีที่เขียน :1989 สถานะ : ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย. . ชวนอ่าน x ChikiChikiBomhttps://www.facebook.com/comeonreading
Create Date : 07 พฤษภาคม 2564 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2564 22:09:35 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1518 Pageviews. |
|
|
เมื่อตะวันสาดแสง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=myluckyfriday&month=20-04-2021&group=14&gblog=38
ES
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=myluckyfriday&month=23-01-2021&group=14&gblog=10
MARS
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=myluckyfriday&month=12-09-2020&group=13&gblog=8