Tokyo Tower : แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว
เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา กับหนังสือที่จะอ่านแล้วรักแม่มากขึ้น TOKYO TOWER แม่กับผม..และพ่อในบางครั้งคราว
ว่ากันว่าบุคลิกและนิสัยที่ติดตัวเรามา ถูกสร้างขึ้นโดยขอบเขตที่กว้างกว่าบ้านและครอบครัว . บ้านแต่ละบ้านต่างก็มีวิถีชีวิตของใครของมัน อย่างเช่น บ้านของ มาคุง (มาซายะ) เด็กน้อยจากโคคุโระ มาคุงมีพ่อขี้เมา ชอบกลับมาอาละวาดที่บ้านและมาคุงก็โดนลูกหลงอยู่บ่อยครั้ง ส่วนแม่เป็นคนใจดี เอาใจใส่คนรอบข้าง และคอยเซฟมาคุงเสมอๆ มาคุงได้อยู่กับพ่อและแม่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็ถึงแค่ตอน 3ขวบ พอ4ขวบ แม่ก็พาเขาย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับญาติ จะด้วยเหตุผลอะไรนั้นก็เกินความเข้าใจของมาคุง . ความสัมพันธ์ฉัน พ่อ แม่ ลูก มีแต่เพิ่มพูน แต่ความสัมพันธ์ฉันครอบครัวไม่เพียงเพิ่มพูน เท่านั้น แต่ยังลดลงได้เช่นกัน . พอขึ้นชั้นประถม มาคุงยังได้กลับไปเยี่ยมย่าและพ่อที่บ้านหลังเดิมในช่วงปิดเทอมซึ่งแม่ได้ไปด้วย และถึงทั้งคู่จะแยกกันอยู่แต่พ่อกับแม่ก็ยังไม่หย่ากัน มาคุงไม่ค่อยรู้สึกว่าพ่อเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ก็พ่อก็คือพ่อของเขา สิ่งที่ยังตราตรึงในควาามทรงจำของมาคุงก็คือเรือรบลำเล็กที่พ่อเป็นคนประดิษฐ์ให้ ในขณะที่แม่ เป็นเหมือนที่พักพิงใจของมาคุง เรียกได้ว่าเมื่อใดที่มาคุงงร้องไห้โยเยเพราะไม่เห็นแม่ แป๊บเดียวเท่านั้นแม่ก็จะมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ทุกที่ของมาคุงจะมีแม่อยู่เสมอ . วิธีการให้ความสำคัญระหว่างอนาคตกับอดีตจะช่วยพยากรณ์อนาคตของแต่ละคนได้ .. ตอนนั้นแม่ทำงานร้านอาหารและจะกลับมาตอนที่มาคุงเข้านอนไปแล้ว แม้ที่บ้านจะไม่มีฐานะเท่าไหร่ แต่แม่ก็ซื้อชุดใหม่ๆ ให้มาคุงเสมอทั้งที่ตัวเองใช้แต่ของเดิมๆ นี่คงเป็นเพราะความทรงจำแบบที่เคยได้รับจากคุณตาติดตัวแม่มานั่นเอง เขาและแม่ยังย้ายที่อยู่อีกหลายครั้ง หนึ่งในนั้นก็เป็นห้องเช่าที่เคยเป็นโรงพยาบาลเก่า ซึ่งมันหลอนมากๆ . เมื่อไม่ก้าวเท้าออกมา ก็ไม่มีวันได้เริ่มต้น . หลังจบ ม.3 แม่ให้มาคุงไปเรียนต่อที่โรงเรียนออกแบบที่เมืองเบ็บพุ นี่เป็นครั้งแรกที่มาคุงจะต้องห่างแม่ เมื่อไม่มีคนปลุกตอนเช้า เลยตื่นสาย จึงขาดเรียนบ่อย ทำให้อาจารย์ต้องมาปลุกถึงที่ เรียกได้ว่าเรียนจบก็เพราะอาจารย์คนนั้นเลยก็ว่าได้ และมาคุงก็ได้เขาเรียนมหาวิยาลัยที่เมืองมุซาชิโนะ ในโตเกียว มาคุงมีงานจ้างงานแรกในระหว่างเรียน คืองานวาดภาพประกอบลงวารสารที่เพื่อนอีกคณะมาจ้างทำ คนที่ภูมิใจที่สุดหนีไม่พ้นแม่ ซึ่งได้ขอให้มาคุงออกแบบป้ายร้านอาหาร “กัปปะ” ที่เธอทำอยู่ให้ด้วย (ฉากที่มาคุงต้องแยกจากแม่วันแรก มาคุงนั่งกินข้าวทั้งน้ำตาบนรถไฟกินใจมากจริงๆ) . ในโลกนี้มีทั้งคนที่เดือดร้อนเพราะลูก กับคนที่วิงวอนขอให้มีลูก . มาคุงรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ดีนักจนเรียนไม่จบในสี่ปี แต่แม่ก็ขอร้องให้พยายามจนสำเร็จในปีที่ห้า แต่พอเรียนจบยิ่งเคว้งใหญ่ เพราะงานก็ยังไม่มีทำ ที่พักก็ต้องหาใหม่ ชีวิตช่วงนี้ของมาคุงดูจะสะบักสะบอมที่สุด มาคุงเติบโตขึ้นในขณะที่แม่แก่ลง เขาเปรียบเทียบว่า ”ร่างกายแม่ค่อยๆ เล็กลงเหมือนยางลบ” และแม่ในวัย 60 ก็ตรวจพบมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งหากผ่าตัด เสียงก็จะหาย จึงใช้วิธีกินยาสลับกับฉายแสง . เมื่อวิถีการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป คนที่ได้พบปะพูดคุยก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย . จากนั้นอีกไม่กี่ปีมาคุงได้ลืมตาอ้าปากได้เพราะกัลยาณมิตรที่ดีอย่างเอโนะโมโตะ เขาได้เช่าห้องที่ชั้น7 ของตึกสถานีรถไฟ ที่มีเสียงอึกทึกแทบตลอดวัน และมาคุงได้ชวนแม่มาอยู่ด้วย มาคุงรู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เขามีสมาธิในการทำงานที่สุด แม่ปลุกเขาทุกเช้า มีอาหารวางบนโต๊ะ เตรียมน้ำอุ่นให้อาบ เหมือนได้ย้อนกลับไปวัยเด็กอีกหน แม่เป็นคนไม่อยู่เฉยและชอบบำเพ็ญประโยชน์ จึงสมัครเข้าชมรมผู้สูงอายุ ด้วยความมีมนุษยสัมพันธ์ทำให้เพื่อนที่ทำงานและคนรู้จักของมาคุงแวะเวียนเข้าออกที่บ้านเพื่อมาหาแม่และร่วมกินอาหารที่แม่ทำไว้เป็นประจำ ในระหว่างนี้มาคุงก็ยังเจอกับพ่อเป็นครั้งคราว . มาคุงเคยสงสัยว่าแม่ทำงานมาเยอะ แต่แทบไม่ใช้จ่ายของส่วนตัว แล้วเงินเก็บแม่ไปไหนซะหมด แม่หยิบใบปริญญาบัตรของมาคุงขึ้นมา แล้วบอกว่า นี่คือทรัพย์สมับติทั้งหมดของแม่ (อ่านมาถึงตรงนี้คือจุกมาก) .. เมื่ออายุมาก ต้องหาวิธีอยู่ร่วมกับอาการเจ็บป่วยมากกว่าจะรักษาให้หาย . แต่โรคที่แม่เป็นดูจะไม่มีทางรักษาให้หายขาด มาคุงเห็นร่างกายของแม่ที่ค่อยๆ ทรุดลง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยขึ้น เหล่าป้าๆ น้าๆ ของแม่และเพื่อนของมาคุงก็ยังมาเยี่ยมอยู่เสมอ รวมถึงพ่อด้วย มาคุงรู้สึกว่านี่อาจเป็นคำอธิษฐานของแม่ที่อยากให้เราทั้งสามคนมาอยู่ร่วมในที่เดียวกันอีกครั้งหนึ่ง และแม่ในวัย69… ก็จากเขาอย่างไม่มีวันกลับ จากไปโดยไม่ทันได้ไปใช้ชีวิตในบ้านเช่าหลังใหม่ที่มาคุงเตรียมไว้ และยังไม่ทันที่เขาจะพาแม่ไปดูวิวบนโตเกียวทาวเวอร์ด้วยกัน ….แต่แม่ยังคงอยู่ในมโนสำนึกของมาคุงทุกๆ วัน . ในโลกนี้มีอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่มีสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่กว่าความห่วงหาอาทรของพ่อแม่ที่มีต่อลูกเลย . วันที่ไปเก็บของๆ แม่ มาคุงเจอกระดาษแผ่นหนึ่งแทรกในไดอารี่ เขาไม่รู้ว่าแม่เป็นคนเขียนเองหรือคัดลอกมาจากไหน และนี่คือข้อความนั้น.. แม่... คือผู้ที่ไม่ต้องการสิ่งใด แม่ไม่หวังให้ลูกเป็นใหญ่เป็นโต ไม่หวังให้ลูกร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่หวังจากใจจริงว่า ขอให้ลูกสุขถาพดีทุกวัน แม่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ขอแค่คำพูดอ่อนโยนเพียงคำหนึ่งเท่านั้นแม่ก็สุขเกินพอ ผู้เป็นแม่ คือผู้ที่ไม่ต้องการสิ่งใดทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่ไม่สมควรทำที่สุดก็คือ การทำให้แม่ร้องไห้ (อันนี้คือร้องอีกแล้ว) . ไม่ว่าจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่มากมายสักแค่ไหน แน่นอนว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องเสียใจว่า น่าจะทำอย่างนั้น น่าจะทำอย่างนี้เพื่อเขาให้มากกว่านี้ . โตเกียวทาวเวอร์ เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของ ลิลี่ แฟรงกี้ (นาคางาวะ มาซายะ) ผู้เขียน และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งการพิมพ์ซ้ำ การผลิตเป็นทีวีซีรี่ส์ปี 2007จำนวน11ตอน และเป็นภาพยนตร์ออกฉายในปีเดียวกัน ซึ่งเราเคยได้ดูเวอร์ชั่นซีรี่ส์ จากที่สถานีไทยพีบีเอสเอามาฉาย ในชื่อไทยว่า แม่ครับผมรักแม่ ตอนนั้นจะเรียกว่าแอบๆ ดู ก็ไม่ผิดเพราะดูแล้วตองร้องไห้ทุกตอน ไม่อยากให้คนที่บ้านเห็น 55 .  ซ้าย ซีรี่ส์ / ขวา ภาพยนตร์ (ภาพจากอินเตอร์เน็ต) . นอกจากเรื่องราวของครอบครัวที่ถ่ายทอดความรักของแม่ที่มีต่อลูก และความรักของลูกที่มีต่อแม่แล้ว โตเกียวทาวเวอร์ยังมีข้อคิดและมุมมองการใช้ชีวิตที่ผู้ขียนได้กลั่นกรองออกมา อย่างเช่นข้อคิดที่เรายกมาคั่นในแต่ละย่อหน้าก็มาจากเล่มนี้ด้วย นี่เป็นหนังสือที่อ่านครั้งไหนก็ต้องมีน้ำตา เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรักแม่มากขึ้น และเป็นหนังสือที่เหมาะจะอ่านซ้ำๆ อ่านแล้วมองชีวิตอย่างเข้าใจมากขึ้น ไม่ตีโพยตีพายกับชะตาชีวิต และมีความสุขกับสิ่งตนเป็นอยู่ หวังว่าหนังสือเล่มนี้ก็จะถูกใจใครหลายๆ คนเช่นกัน ...สุขสันต์วันแม่นะครับ . . Tokyo Tower 東京タワー オカンとボクと, 時々, オトン โตเกียว ทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว ผู้เขียน : ลิลี่ แฟรงกี้ ผู้แปล : ทิพย์วรรณ ยามาโมโตะ แพรวสำนักพิมพ์ . . ชวนอ่าน x โตเกียว ทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว https://www.facebook.com/comeonreading
Create Date : 12 สิงหาคม 2564 |
|
33 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2564 20:14:35 น. |
Counter : 1576 Pageviews. |
|
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณทนายอ้วน, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณปรศุราม, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณชีริว, คุณnewyorknurse, คุณเนินน้ำ, คุณInsignia_Museum, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณ**mp5** |
| |
โดย: ทนายอ้วน 12 สิงหาคม 2564 17:22:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 12 สิงหาคม 2564 21:33:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 13 สิงหาคม 2564 0:01:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 13 สิงหาคม 2564 6:27:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 13 สิงหาคม 2564 20:34:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 13 สิงหาคม 2564 21:19:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 สิงหาคม 2564 6:30:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 14 สิงหาคม 2564 17:20:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 สิงหาคม 2564 22:54:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2564 6:23:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 15 สิงหาคม 2564 20:40:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2564 23:18:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 สิงหาคม 2564 7:09:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 16 สิงหาคม 2564 20:07:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 16 สิงหาคม 2564 20:22:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 17 สิงหาคม 2564 6:47:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 17 สิงหาคม 2564 15:30:00 น. |
|
|
|
|
|
นึกว่าจะได้อ่านเรื่องของ จขบ. ซะอีก อิอิ
ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ อ่านหรือไม่อ่านก็รักแม่มากอยู่แล้วค่ะ
สุขสันต์วันแม่อีกครั้งนะคะ