ผู้ชายเรื่องมาก (11) - เคล้าเคลียคือคุกคาม?
การที่ผู้ชายไม่ชอบการเคล้าเคลียไม่ใช่ความผิดของฉัน
ถ้าฉันเป็นคนที่ชอบแสดงเช่นนั้นต่อเขาๆจะเป็นฝ่ายสูญเสีย
ถ้าเขาพยายามเก็บซ่อนมันเอาไว้
ความรู้สึกลึกซึ้งคือสิ่งที่คุณสัมผัสได้ทางกาย โดยไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ เช่นการสวมกอด การกุมมือกัน การโอบไหล่ การจูบราตรีสวัสดิ์ก่อนนอนหรือก่อนออกไปทำงาน รวมทั้งการนอนกอดกันหน้าโทรทัศน์ ความรู้สึกดื่มด่ำนี้เป็นการสัมผัสกายกัน โดยไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้เลยไปถึงการถึงจุดสุดยอด
แต่การแสดงความรักแบบนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสัมผัสแตะต้องร่างกาย ซึ่งผู้ชายบางคนรู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะมันแสดงถึงความใกล้ชิดสนิทสนมอย่างแท้จริง มันแสดงถึง ฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันรักคุณ ฉันอยากอยู่ใกล้ๆคุณ ฉันไม่ได้ต้องการพิสูจน์อะไรหรอก ไม่มีการหวังผล ไม่มีการเรียกร้อง และไม่มีการคาดหวัง
หลังจากมีเซ๊กส์กัน สามีของเมลานีจะนอนหันหลังให้เธอแล้วหลับไป เขากล่าวหาว่าเธอเรียกร้องต้องการจากเขามากเกินไปเมื่อเธอขอให้เขากอดเธอ ทำให้เมลานีรู้สึกแย่และคิดว่าตัวเองผิด แฟนของตีน่าเกลียดการกุมมือกัน ไม่ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่ ทำให้คนทั้งสองมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องดังกล่าว แต่ตีน่าก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้
ผู้ชายมองว่าการแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมแบบนี้เป็นเครื่องหมายของความเป็นผู้หญิง เป็นสิ่งที่พวกแม่ทั้งหลายชอบทำ ถึงแม้ว่าเวลาที่ผู้ชายแสดงความรักแบบนี้แก่ลูกๆของเขา จะเป็นสิ่งที่ยอมรับกันทั่วไปแล้วก็ตาม
ทั้งเมลานีและตีน่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ที่ต้องการการสวมกอดและการจูงมือกัน---เพราะมันคือการแสดงออกถึงความรักใคร่ใยดีกันที่น่ารัก แต่แฟนของเธอทั้งสองอาจจะคิดว่าการแสดงออกเช่นนั้น เป็นการคุกคามความเป็นชายของพวกเขา หรือไม่ก็เพราะพวกเขาคิดว่ามันมีผลต่อความเชื่อแบบเก่าเรื่องการถูกควบคุมบงการ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือทำตามที่ผู้หญิงเรียกร้องมากเกินไป เสียเวลาเปล่าจริงๆ
ผู้หญิงมีสัญชาติญาณในการชอบเคล้าเคลีย
อริสโตเติ้ล