Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ใกล้เกลือกินด่าง



เมื่อมีบล็อกมาได้ 3 ปี ผมเริ่มสำรวจความคิดเห็นกับคนใกล้ตัวหรือคนตัวเป็นๆ คนที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่องทุกวัน หลายคนไม่เคยรู้ว่าผมเขียนบทความสารพัดเรื่องลงบล็อก หรือรู้ก็ไม่อยากไปค้นหาว่ามันเขียนอะไร

หลานสาวคนหนึ่งในจำนวน 18 คนติดใจบล็อกของผมมาก เอ้อ..ไม่ใช่ต้องเป็นลูกของหลานคนหนึ่ง เด็กคนนี้ตั้งใจจะเรียนโบราณคดี เฝ้าเปิดอ่าน และมาที่บ้านผมเพื่อฟังเรื่องเล่าเบื้องหลังการเขียน ผ่านไปแล้ว 2 ปี วันนี้ผมทวงถามว่า ได้เข้ามาดูบล็อกของลุงอีกหรือเปล่า หลานสาวที่คร่ำเคร่งกับการเรียนชั้นมัธยมต้นบอกว่าเดี๋ยวนี้เรียนหนัก ไม่ได้เข้าชมบล็อกเลย ถามกลับมาว่ายังอัพเดทอยู่หรือลุง

เพื่อนคนหนึ่งคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เดี๋ยวนี้มีตำแหน่งใหญ่โตที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งบอกว่า ได้เข้ามาดูแล้ว(หลังจากที่ผมคะยั้นคะยอถึง 2 ครั้ง)เพื่อนบอกว่าเห็นข้อมูลที่ผมเขียนบานเบอะเยอะแยะ ไม่รู้จะดูอะไรก่อน จะบอกว่าขี้เกียจอ่านก็เกรงใจ เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจเพื่อนอุตส่าห์มียาหอมหยอดผมว่าคนที่ทำแบบนี้ไม่เคยเห็นในรุ่นของเรา

สุภาพสตรีท่านหนึ่งอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ ครั้งแรกที่เข้ามาดูบล็อกที่ผมเขียน ไม่ได้แสดงความเห็นว่าอย่างไร เงียบๆไป เมื่อเวลาผ่านไป ผมจึงสำรวจความคิดเห็นอีกครั้ง เธอบอกว่าทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ตอนเย็นหรือวันหยุดทิ้งเลย บอกเป็นนัยๆว่าขนาดคอมพิวเตอร์ชั้นยังไม่แตะ แล้วบล็อกของเธอจะเหลืออะไร

อีกคนเป็นเพื่อนสนิทเรียนจบกฎหมาย ผมอุปโลกน์มันเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว เพื่อนผมคนนี้ไม่ได้ทำอาชีพที่ตัวเองเรียนมา ดันไปเป็นบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ไม่ชอบใช้คอมพิวเตอร์ มีอะไรก็ใช้ลูกน้อง ผมเคยเล่าเรื่องที่ผมเขียนลงบล็อกให้ฟังบ่อยๆ หรือไม่ก็ฟังความเห็นของมันที่มีต่อเพื่อนบล็อกที่คอมเม้นต์ไว้ ถึงกระนั้นก็เถอะ มันไม่เคยคลิกมาชมบล็อกของผมแม้สักครั้งเดียว ได้แต่จินตนาการเรื่องที่ผมเล่าจนคุยกันได้เป็นคุ้งเป็นแคว

คำถามกลับแบบไม่เกรงใจของคนใกล้ชิดบางคนว่า เขียนแล้วได้อะไร

นั่นสิ เขียนบล็อกแล้วได้อะไร คำว่า "ได้" ของผู้ถามกับ "ได้" ของผมอาจคนละมาตรฐานกัน จึงอธิบายไม่ได้ ได้แต่งึมงำไปว่าสงสัยจะได้มั้ง...ถึงวันนี้...พอจะมีคำตอบบ้างแล้ว


Create Date : 15 มกราคม 2554
Last Update : 16 มกราคม 2554 17:04:28 น. 25 comments
Counter : 1176 Pageviews.

 
เซกิ คิดว่าได้ไม่มากก็น้อยอ่ะ
อย่างน้อยๆก็จะได้รู้ว่า อดีตเคยบ่น เคยบันทึกอะไรเกี่ยวกับตัวเอง และความเป็นไปของโลก ไว้บ้างอ่ะคะ


โดย: เจ้านู๋เซกิ (KisekiGirl ) วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:1:14:26 น.  

 
เคยคิดเหมือนกันค่ะว่า เขียนบล๊อกได้อะไร..แต่ทุกวันนี้ได้คำตอบว่า ได้ความสุข ไม่ว่าเรื่องราวที่เขียนจะเป็นเรื่องดีหรือเลวร้าย ก็ทำให้เรารู้สึกดีที่ได้เขียนๆ ระบายๆ ที่สำคัญมีความสุขที่มีคนที่เรารู้สึกดีมาคอมเมนท์คิดถึงบ้างไม่คิดถึงบ้างแล้วแต่ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกดีได้เหมือนกัน บางที(เหมือนจะ) เหงา ก็เข้ามาเขียนบล๊อกหรือแค่มาอ่านบล๊อกไม่ว่าของตัวเองที่เขียนไว้หรือของเพื่อนในบล๊อกก็ทำให้เรารู้สึกดี หรือไม่ดี...555555...แต่ก็ทำให้เราคลายเหงา คลายเครียด (หรือเครียดมาก) แต่สรุปได้ว่ามีอะไรให้ทำให้เล่นให้อ่านและให้ความสุขค่ะ...ขอให้คุณมีความสุขมากๆ นะคะ..


โดย: deeplove วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:2:12:18 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่


สำหรับผม
การได้ทำบล็อก
คือ ความสุขครับ 5555











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:6:01:04 น.  

 

Congratulation na. Ka pee I'm,the one who write the one who got ka


โดย: Popang (popang ) วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:7:14:18 น.  

 
นั่นสินะ...

ทำบล็อก เขียนเรื่องลงบล็อกแล้วได้อะไร?

ผมก็เคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้อยู่เหมือนกัน

คุณอิมฯ ทำบล็อกมาสามปี พอ ๆ กับผม

ยังได้ป้ายชื่อห้อยท้าย เท่ออกจะตาย

ผมสิ ป้ายสักอันยังไม่มีเลย แอบเซ็งเหมือนกัน

แต่เอาเถอะ ทำเอาสนุก เอาเพื่อน เอาสังคม

แม้จะแวดวงจำกัด มันก็ยังดีกว่าหายใจทิ้งไปวัน ๆ

ส่วนของผม ตอบได้เต็มปากว่า ได้รวมเรื่องและกลอนที่เขียนในบล็อก เป็นหนังสือทำมือมาสามเล่ม

แม้จะขายไม่ได้สักกี่เล่ม เหลือกองอยู่บานตะเกียง

แต่ก็ภูมิใจอยู่ลึก ๆ

อย่างน้อยที่สุด ก็มีหนังสือแจกงานศพของตัวเอง โดยไม่ต้องเดือดร้อนถึงลูกหลานแล้วละ...

ก็เลยต้องถามย้อนกลับไปว่า

ถ้าไม่ทำแล้วจะได้อะไร?

เจอคำถามแบบนี้ อาจจะตอบยากกว่ากระมัง..


โดย: ลุงแว่น วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:8:31:26 น.  

 
ได้เพื่อนใหม่ๆค่ะ ตอนแรกก็เป็นเพื่อน เป็นญาติๆคนใกล้ๆตัวแม่กะบูนแต่ตอนนี้ก็ห่างหายไปบ้าง กลายเป็นเพื่อนบล็อคซะส่วนใหญ่ ซึ่งตรงนี้เป็นกำลังใจให้แม่กะบูนมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับบล็อคนี้ที่ทำให้คิดถึงคนใกล้ๆตัวนะคะ


โดย: แม่น้องกะบูน วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:10:54:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอิม
+===============================+

วันนี้มีเมนู "ดอกอัญชัน" มายั่วน้ำลายค่ะ อะคึ่ ๆ


ข้าวผัดดอกอัญชัน



น้ำชาดอกอัญชัน


ขณะนี้ จขบ.กำลังจิบชาอัญชันอุ่น ๆ หน้าจอคอมฯ
"สีน้ำชา" สวยเหมือนในภาพ ซึ่งจะมีกลิ่นอ่อนๆ ดอกอัญชัน
หอมกรุ่นตามธรรมชาติ ได้บรรยากาศแบบไทยลูกทุ่งเชียวค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:11:00:00 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่ที่ร่วมทำบุญด้วยกันครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:11:59:58 น.  

 

สำหรับอุ้มการได้อ่านบ๊อกที่เพื่อนๆ อัพบ๊อก
เป็นความสุขและได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ จ้า
ว่าแล้วก็ขออนุญาตแอคลงเฟรนลิงค์จ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:14:37:39 น.  

 
ดีใจสำหรับสายสะพายด้วยนะคะ

สำหรับรัชชี่ ก่อนหน้านี้ตอนทำแรก ๆ ก็เป็นเหมือนของเล่นใหม่ มีการตอบโต้กลับมา ไม่ใช่เขียนแค่คนเดียวแล้วไม่มีใครอ่าน

ณ วันนี้ ถ้าถามว่าเขียนบล็อกแล้วได้อะไร ช่วงหลังเวลาน้อยลง ตอนนี้บล็อกคือที่ที่มีเวลาแล้วจะเก็บบันทึกเรื่องราวของตัวเอง ให้รู้ว่าเออนะที่ผ่าน ๆ มาก็มีอะไรผ่านเข้ามาบ้าง ไม่ใช่ว่า "ชีวิตเหมือนกันทุกวัน" ค่ะ

ตอนหลังถ้ามีเวลาเพิ่ม ถึงจะไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนบ้านค่ะ

แต่เห็นด้วยว่าเปิดโลกทัศน์ค่ะ บางเรื่องที่เราไม่เคยรู็้ก็ได้รู้


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:15:09:51 น.  

 
ได้ทำอะไรที่อยู่นอกคอมทำไม่ได้น่ะครับ
บันเทิงจริงๆ แล้วพอถึงวันนี้ที่เกิดมีสายตะพาย
มาแปะ ก็รู้เลยว่า ต้องมีคนได้กะหนูหล่อเยอะ
เลยครับ ยิ่งมีความสุขที่จะบันเทิงต่อไป
ที่นี่เป็นโลกของการแบ่งปันมิตรภาพจริงๆ

ขอให้มีความสุขที่จะเขียนต่อไปนะครับ แค่
เขียนไว้อ่านเองก็มีความสุขแล้วครับ



โดย: nulaw.m วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:16:17:37 น.  

 
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ สำหรับตำแหน่งจากการโหวตในสาขา Best Diarist ที่ได้รับครับ

ทำบล็อกแล้วได้อะไร?

เป็นคำถามที่ผมเคยโดนหลาย ๆ ท่านถามมามากมายแล้วครับ แต่คำตอบหนึ่งที่ผมตอบอยู่ในใจเสมอก็คือ "ทำบล็อกแล้วได้ความสุข" ครับ

แรกเริ่มเลย ผมชอบเขียนผมอยากเขียน ซึ่งแม่ผมก็ให้กำลังใจแก่ผมโดยที่ท่านอ่านเรื่องราวที่ผมเขียนทุกเรื่อง ผมเลยเอาเรื่องที่ผมเขียนลงไว้ในบล็อกเพื่อให้แม่ผมสามารถเข้ามาอ่านเรื่องที่ผมเขียนได้สะดวกขึ้น เพราะว่าแม่ของผมท่านเคยเป็นคุณครูตอนนี้ท่านเกษียณแล้ว ตอนกลางวันท่านอยู่บ้านท่านเลยมีเวลาอ่านบล็อกที่ผมเขียนได้

แค่เหตุผลด้วยนี้ก็เพียงพอที่ผมจะมีความสุขจากการทำบล็อกแล้วครับ

อีกทั้งเรื่องราวในบล็อกของผมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องตลก ถ้าเรื่องราวที่ผมเขียนนั้นสามารถสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้อ่านได้แล้ว ผมในฐานะของผู้เขียนก็มีความสุขเช่นกันครับ

มาให้กำลังใจแก่คนทำบล็อกครับ ขอให้เขียนเรื่องที่ดี ๆ ออกมาอีกเยอะ ๆ นะครับ ผมจะคอยอ่านครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:20:45:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณIM

คำตอบเดียวกับคุณก๋าเลยค่ะ เล่นบล็อคแล้วมีความสุข ได้พูดถึงสิ่งที่เราชอบ แล้วมีเพื่อน ๆ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แล้วยังได้ความรู้ใหม่ ๆ ที่เพือนบล็อคนำเสนอในบล็อคด้วย

ขอบคุณมากที่แวะไปแสดงความยินดีนะคะ ขอแสดงความยินดีกับคุณIMอีกรอบค่ะ


โดย: haiku วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:21:39:07 น.  

 
ทำบล็อกได้อะไร

เริ่มต้นก็เพื่อคุยค่ะ กึ่ง ๆ ทำรายงาน ว่าไปไหนมามีอะไรบ้าง

อยากให้คนอ่านรู้ ... นิสัยคงอยากเป็นครู

ได้คุยค่ะ

เริ่มแตก line แปล joke เพราะชอบอ่านของคุณเซียงบัวแปลส่งให้เพื่อน ๆ อ่าน ก็เลยถือโอกาสเอามาลงด้วยเพราะไหน ๆ ก็ออกแรงแล้ว พอคุณเซียงบัวท่านไม่มีเวลา เราก็ไปหาอ่านจากเน็ต แปล ... เราว่าคุณเซียงบัวเป็นครูของเรานะคะ

ได้ฝึกอ่านและแปลภาษา แรก ๆ ท้อมากเลยค่ะ

เริ่มลงเรื่องอาหารเพราะ บ้านแต่ละบ้านคงต่างกัน ก็เอาของเรามาแชร์

เรื่องอาหาร ทำไปทำมาอ่านไปอ่านมา เราก็ได้เรื่องรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของอาหาร เบสิกของอาหารเพิ่มจากเดิมที่ไม่รู้เลย เพราะก็ต้องอ่านมากเหมือนกันน่ะค่ะ

ไปค้นเจอรูปเก่า เมื่อก่อนไม่เคยแลเลย พอเอามาลงก็ต้องมาวิเคราะห์ ค้นคว้า

เราว่าเราได้รู้จักการประมวลผล

เรื่องร้านอาหาร ไหน ๆ ก็ทานอาหารนอกบ้านเยอะ ก็เลยคิดว่าร้านที่เราพอใจก็น่าสนับสนุนให้เขาอยู่ได้เราจะได้มีที่กินด้วย

ลงเรื่องเพลงก็เพราะ ... อยากนำเสนอสิ่งที่หล่อหลอมความเป็นเรามา

เขียนเรื่องโคราชเพราะคุณ VET53 บอกว่า การค้นหาถิ่นที่อยู่ก็เป็นการตอบแทนซึ่งบุญคุณ

จนเดี๋ยวนี้เหมือนกับเป็นหน้าที่แล้วละค่ัะ ว่าอยากให้คนที่มาอ่านได้รู้จักคนรุ่นเราที่เป็นอยู่ ที่เป็นมา

หากถามว่า สมควรได้สายสะพายในสาขาไหนไหม
เราคิดว่าเราเป็นคนที่จะไม่ได้เด่นอะไรซักอย่าง ... เราคือเป็ดตัวจริง


แต่เราเป็น ordinary people ที่มีชีวิต ความนึกคิด ความถนัดที่แสนจะธรรมดา เราจึงพอใจในความเป็นธรรมดาที่แสนจะธรรมดานี่เองค่ะ


สรุป เราเขียนบล็อก คงเพราะได้ทำงานที่รัก ตามที่คุณก๋าว่า ... ที่แฝงอยู่ในตัวเรา และอย่างที่หนูหล่อว่าน่ะค่ะว่า ถ้าอยู่นอกคอมคงทำไม่ได้


หรือคุณอิมว่าไง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:23:26:28 น.  

 
ผมคิดว่าทุกท่านที่เขียนบล็อกมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นผู้มีจิตสาธารณะ(ขอยืมคำขวัญวันเด็กปีนี้) สมัยเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว หนุ่มสาวรุ่นนั้นก็ได้รับการปลูกฝังเรื่องนี้อย่างฝังห้ว แต่นั่นแหละทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

การเขียนบล็อกของผมเริ่มจากการตอบแทนท้องถิ่นที่จากมา อย่างที่คุณตุ๊กว่า ผลได้ที่เป็นรูปธรรม เมื่อทราบว่าข้อเขียนของผมเป็นแรงบันดาลใจให้กรรมการรัฐวิสาหกิจชุมชนดำเนินสะดวกรื้อฟื้นตลาดน้ำดำเนินฯขึ้นมาใหม่ (ในส่วนที่เป็นตลาดน้ำในอดีต) ได้ข่าวว่าจะมีการจัดงาน "แต่งงามหมู่" ในวันที่ 14 ก.พ. ปีนี้

ความภูมิใจเล็กๆอีกเรื่องหนึ่งคือ คุณครูที่บ้านเกิดของผมได้นำเรื่องผลไม้ในท้องถิ่นดำเนินสะดวกไปประกอบการเรียนของเด็กๆ

ต่อมาผมได้มิตรสหายที่เป็นนักเขียนบล็อกเข้ามาคอมเมนต์ อย่างบล็อกลุงแว่นมิตรคนแรกๆเขียนบล็อกที่มีคุณภาพมาก ไม่แต่เท่านั้น คนที่สนใจในเรื่องเฉพาะก็เข้ามาให้ความเห็น ทหารผ่านศึกในบล็อกเกี่ยวกับเครื่องหมาย คนรักศิลปะในบล็อกศิลปะ...ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ที่เพิ่งรู้จักเป็นครั้งแรกครับ

มีคนที่ไม่ใช้ log in มาเช็คความถูกต้องในบทความของผมอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งให้ความเห็นทางวิชาการซะยาวเหยียด น่าดีใจครับ

สำหรับรางวัลที่ผมได้ best diarist blog อันดับ 2 นั้น ถือว่าเป็นเกียรติมากและเกินความคาดหมายครับ ในโลกของ bloggang มีบล็อกที่มีคุณภาพอีกมากที่ควรได้รับรางวัล ผมขอให้กำลังใจทุกท่านครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:8:49:25 น.  

 

มาชวนไปดู รำซัดชาตรีกันค่ะ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาทักทายกันในวันหยุด วันนี้หนาวมาก หวัดถามหาเลยค่ะ ใส่เสื้อหนาๆทำตัวให้อุ่นกันนะคะ ระลึกถึงค่ะคุณim


โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:10:24:13 น.  

 
ยินดีด้วยค่ะ ปีหน้าเอาใหม่นะคะที่ 1 รออยู่
แม้ไม่ได้หวัง แต่การได้รางวัลก็คือกำลังใจ
ภูมิใจที่คนบ้านเดียวกันทำได้แบบนี้


โดย: ลูกสาวเมืองโอ่ง (fuzz_zi3 ) วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:11:53:48 น.  

 
เข้ามาอ่านความเห็นของคุณอิม และอื่น ๆ ต่อค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:14:48:00 น.  

 
ผมเอง ก็เคยชักชวนเพื่อนๆและน้องๆที่ทำงาน ชักชวนเพื่อนๆและน้องๆจากมหา-ลัย ชักชวนเพื่อนสนิท ชักชวนญาติๆ แต่ละคนมีข้ออ้างต่างๆกัน แต่โดยสรุปว่าไม่อยากเขียน

อย่างไรก็ตาม บางคนยังไม่ถึงกับเบือนหน้าเสียทีเดียว มีบ้างที่แอบเข้ามาอ่าน แล้วบอกว่าเรื่องอะไรที่ได้อ่าน บางคนถูกใจถึงขนาด ก๊อปURL ส่งไปให้เพื่อนของตนเอง แล้วก็โทร.มาบอก

เรื่องชักชวน ตอนหลังๆผมจะไม่เอ่ยแล้ว สงสัยจะโน้มน้าวชักจูงใคร มือไม่ถึง

ก็เขียนบล็อกแบบเงียบๆ สม่ำเสมอ ไม่มีใครเข้ามาอ่านก็ไม่เป็นไร เพราะบล็อกอยู่คงทนอยู่นาน นับ 50 60 70 80 ปี ดีกว่ากระทู้เยอะ

โชคดี ที่เว็บสถิติที่ตัวผมวางเอาไว้ในบล็อกตัวเอง บอกว่า ณ ช่วงเวลาที่ผมเปิดบล็อกทุกครั้ง ไม่เคยขาดผู้คนนั่งอ่านบล็อกอยู่ บางทีก็ 13 16 20 ....25 คนก็ยังมี

อันนี้เป็นแรงจูงใจที่ดี ทำให้ผมไม่ขี้เกียจ Up Blog

……………………

ขอร่วมยินดีกับคุณอิม บล็อกคุณภาพ ที่ได้รับรางวัล Best Diarist อันดับ 2
สมแล้วครับ เขียนดีครับ




โดย: yyswim วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:15:42:43 น.  

 


มีความสุขทุกเวลานะคะ


โดย: deeplove วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:16:47:43 น.  

 
คำตอบของป้าเดซี่ คือ ได้ความสุขค่ะ

เรามีความสุขที่ได้เขียนนี่คะ แค่เขียนเอง-อ่านเองก็สุขแล้ว ยิ่งเขียนแล้วมีคนอ่าน คนเม้นท์ โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปเชื้อเชิญเค้าก่อนตามมารยาท ให้เค้ามีมารยาทตามกลับมาอ่านบล็อกเรา นั่นล่ะ สุขแล้วค่ะ

หลายบล็อกที่ปิดเม้นท์ เพราะไม่มีเวลาไปอ่าน-ไปเม้นท์บล็อกเค้าจริง ๆ ดูเพจวิวก็ยังมีคนเข้ามาอ่าน หรือหลังไมค์มาเม้นท์อยู่ นั่นล่ะ ปลื้มสุด ๆ

หรือว่าคนที่ไม่มีล็อกอิน ไม่มีบล็อก แต่เข้ามาอ่านบล็อกเราทุกบล็อก (สามร้อยกว่าบล็อกค่ะ-มีจริง ๆ) นั่นละ ... น้ำตาซึม


โดย: Oops! a daisy วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:19:37:53 น.  

 

เขียนบล็อคได้ประโยชน์ 2 สถาน

1.กับ จขบ.
ตรงที่ได้จัดเก็บเรื่องราวที่เราสนใจเป้นหมวดหมุ๋
แทนที่จะจดเป็นบันทึกหรือเก็บเป็นเอกสารเฉยๆ

2.กับผู้อื่น(เพ่อนบล็อค)
ได้ทราบเรืองราวต่างๆ

3.ได้แลกเปลี่ยนและ share ความรู้สึกดีๆ

คิดว่าไม่ต่างไปจากนี้มากนักนะคะ




บล็อคแก้งค์เริ่มต้น คือ มีผู้ทำให้
โดยในปีแรกเป็นการเอารูปมาใส่
แทนที่เราจะเก็บในอัลบั้ม ก็มาอยู่ในblog ซะ
ไม่มีคนมาเม้นท์ซักเท่าไหร่ งมๆอยู่ 10 กว่าคน
ซ้ำๆกัน

มาปีที่ 2 ถึง ลงรูปและบันทึกเรื่องราวจริงจัง
มีเล่นเกมส์ถามคำถามกะเพื่อนๆจากรูปและสถานที่
เพื่อนเริ่มรู้จักและมาเม้นท์เยอะขึ้น

ปีที่ 3 เริ่มพบปะตัวเป็นๆเพื่อนๆหลายๆคน
ตามที่ที่ไปทำงานใน จว.ต่างๆ
เป็นประสบการณ์ที่ดี และเจอเพื่อนดีๆค่ะ



เพื่อนๆน้องๆที่ทำงาน
เข้ามาดูบ้างเพราะบางทีเป็นเรื่องของเขา
บางคนเข้ามาเจอโดยบังเอิญ เช่น Click แค่ เริงฤดี
ทำไมมีเรื่องราวของพี่อ้อโผล่มา อิ อิ
เหล่านี้เป็นต้น


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:23:10:55 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทาย คุณim สบายดีนะคะ


โดย: เรือนเรไร วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:9:50:05 น.  

 
อืมม์...

ของเรานี่ก็มีไม่กี่คนที่เป็นเพื่อนในชีวิตแล้วได้อ่านบล็อกค่ะ

ถามว่าทำแล้วได้อะไร

สำหรับเราเอง เราแค่อยากเล่า อยากให้ไว้เป็นข้อมูล เพราะอยากเขียน อยากเล่า และหวังว่าจะเป็นประโยชน์น่ะค่ะ

ยังไงก็เป็นหนึ่งกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ นะคะ


ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:10:42:16 น.  

 


พาหลานมาเยี่ยมจร้า :)


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:20:53:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.