สังสรรค์ยังไร...ไม่ให้อ้วน
วันศุกร์สุดสัปดาห์หลายคนมักไปสังสรรค์กัน ชีวิตจะอับเฉาขนาดไหน ถ้ามัวแต่เก็บเนื้อเก็บตัว อุทิศวันเวลาให้กับการไดเอ็ตและออกกำลัง เมื่อมีโอกาสดีๆ ก็น่าจะเพิ่มสีสันให้ชีวิต ด้วยการออกไปเฉิดฉาย โชว์หุ่นสวย เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เสียบ้าง ไม่ว่าจะไปงาน ปาร์ตี้ที่เลี้ยงแบบค็อกเทล งานเลี้ยงโต๊ะจีน ดินเนอร์แบบฟูลคอร์ส หรือแม้กระทั่งปาร์ตี้วันเกิด แบบเป็นกันเองกับเพื่อนๆ คุณสามารถสังสรรค์ อย่างสนุกได้โดยที่หุ่นไม่เสีย ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เตรียมแผนที่ดี เตรียมการและซักซ้อมมาตรการรับมือ กับบรรดาอาหารหน้าตาน่าลิ้มลองก่อนไปงาน เพื่อให้พร้อมแม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เช่น เตรียมไว้ว่าจะเลือกนั่งตรงไหน จำเป็นต้องให้ไกลโต๊ะบุฟเฟต์ที่สุดหรือไม่ เตรียมวิธีจัดการกับบรรดาชีสเค้กแสนเย้ายวน ในปาร์ตี้เปิดตัวร้านเบเกอรี่ของเพื่อน เตรียมอกเตรียมใจว่า จานเดียวเท่านั้น คิดไว้เลยว่าเมนูไหนบ้างที่ไม่ขอแตะต้อง จะดื่มอะไรดี แค่น้ำแร่หรือยอมจิบไวน์สักแก้ว แพลนไว้คร่าวๆ ว่าใช้เวลากับการออกไปแดนซ์ กับหนุ่มๆ หรือเดินทักเพื่อนให้ทั่วงานมากกว่า จะมานั่งจ่อมอยู่ตรงหน้าจานของอร่อย
2. รองท้องไปก่อน อย่าได้มีความคิดว่าจะเก็บท้องไปกินที่งาน ก็เลย ปล่อยให้ท้องว่างก่อนไปเพื่อจะไปเติมอาหารอร่อยๆ กลับมาอย่างเต็มคราบ ในวันที่ต้องไปงานปาร์ตี้ตอนค่ำ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตารางการกินมากนัก เริ่มต้นด้วยมื้อเช้าคุณภาพที่จะทำให้วันทั้งวันอยู่ได้ อย่างไม่หิวโซ รับมื้อเที่ยงตามปกติ แล้วรองท้องด้วย ของว่างแคลอรี่ต่ำในยามเย็นก่อนออกไปงาน ดีกว่า ปล่อยท้องให้ว่างหิวโซจนขาดความยับยั้งชั่งใจ ในการกิน แล้วก็ต้องมารู้สึกผิดกับตัวเองในภายหลัง
3. เลือกที่ควรเลือก สีสันหนึ่งของปาร์ตี้คือการมีของอร่อยมากมายให้ เลือกลิ้มลอง แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ของกินเหล่านั้น คือกับดักให้เราก้าวตกหลุมแห่งการสวาปาม ถ้าไม่อยากพลาดก็อย่าตาลาย ตั้งสติเลือกกินเมนูแคลอรี่ต่ำ ไว้ก่อน อย่างพวกยำวุ้นเส้น ซุปใส สลัดกุ้งต้ม สำหรับ ประเภทของการปรุงก็ให้มองเลยๆ ของทอดไป แล้วสร้าง จินตนาการความอร่อยกับการปรุงประเภทกริลล์ อบ นึ่ง สำหรับของหวานก็เลือกอร่อยชุ่มฉ่ำกับผลไม้สด ดีกว่า จะเพลินลิ้นกับช็อกโกแลต ไอศกรีม หรือเค้ก ถ้างานที่ไปมีบริกรมาตักเสิร์ฟ ต้องกำชับเขาว่า นิดเดียวพอและไม่เรียกมาเติม อย่างไรก็ตามถ้าอาหาร ในงานรสชาติอร่อยและหน้าตาน่ากินจริงๆ อาจจะยืดหยุ่นกับตัวเองสักนิด เช่น อนุญาตให้กิน ขาหมูทอดได้สัก 2 คำเล็กๆ เป็นต้น
4. ตั้งสปีดให้ช้าที่สุด บังคับตัวเองให้ละเลียดกินช้าๆ เคี้ยวแต่ละคำ อย่างประณีต และอย่าก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว แต่สลับด้วยการพูดคุยกับเพื่อนฝูง ทักทายคนโน้นคนนี้ กระบวนการย่อยอาหารเริ่มต้นตั้งแต่การเคี้ยว ไม่ว่าคุณจะทำเวลาในการกินเร็วแค่ไหนก็ตาม สมองจะสั่งให้อิ่มในราวนาทีที่ 20 นับจากเริ่มกิน ดังนั้นการกินช้าๆ จะทำให้รู้สึกอิ่มทั้งๆ ที่กินเข้าไป ไม่มาก ตรงข้ามกับคนที่กินเร็ว กว่าจะรู้ตัวว่า อิ่มก็กินเข้าไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่
5.ดนตรีคือศัตรูตัวจริง มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกิ้นส์เคยทำการศึกษาถึง อิทธิพลที่เสียงดนตรีมีต่อการกิน พบว่า ดนตรีสนุกๆ จะกระตุ้นให้กินเร็วขึ้น ขณะที่ดนตรีช้าๆ ในจังหวะผ่อนคลายทำให้อาสาสมัครกินคำเล็กลง เคี้ยวอาหารนานและช้าลง ทั้งยังรู้สึกพอใจมากกว่า การกินอาหารคลอกับเพลงเร็วๆ รู้อย่างนี้แล้ว อย่าปล่อยให้ดนตรีมีชีวิตชีวาของงานสังสรรค์ กระตุ้นให้กินมากเกินความต้องการล่ะ
6. สัญญากับตัวเองว่าจะออกไปตักรอบเดียว จะกินแค่ครึ่งจาน จิบแค่แก้วเดียว ขอชิมเค้กครึ่งชิ้น แล้วก็ พอ ให้ได้จริงๆ แต่ถ้ายังมีใครคะยั้นคะยอ ให้เตรียมประโยคเก๋ๆ ตอนที่จะหยุดกินไปก่อนเลย เช่น * อ้าว นั่นอิ่มแล้วหรือครับ - อาหารอร่อยเลยกินเยอะจนตอนนี้อิ่มจะแย่แล้วค่ะ * ลองชิมข้าวผัดหนำเลี๊ยบนี่หน่อยสิ - ขอบคุณค่ะ แต่ดิฉันกำลังจำกัดคาร์โบไฮเดรตอยู่ * ไปตักของหวานกัน เค้กช้อกโกแลตนั่นน่ากินมากเลย - เดี๋ยวฉันขอแย่งเธอนิดนึงแล้วกัน * ฯลฯ
7.โกง ลองใช้ทริกเหล่านี้โกงตัวเองดู * ไปงานในชุดสวยที่ฟิตเข้ารูป อย่างชุดคอร์เซ็ทดัดแปลง ซึ่งจะช่วยเก็บส่วนหน้าท้อง และจำกัดการขยายตัว ของกระเพาะอาหารไปในตัว * ทาปากสีสวยๆ จะได้กินอย่างระมัดระวัง * เลือกจานเล็กเข้าไว้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอ้วน สรุปไว้ว่า จานใบเล็กจะช่วยลดปริมาณอาหารที่ตักได้ถึง 20% เพราะคุณจะเห็นโต้งๆ เลยว่าที่ตักมานั้นเต็มจานแล้ว * กินด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด * ฯลฯ
8.ดื่มอย่างฉลาด คุณอาจยังไม่ทราบว่า ไม่ใช่แค่น้ำหวานและน้ำอัดลม ที่เป็นตัวการสำคัญในการเปลี่ยนคุณเป็นสาวอ้วนบวม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่แหละตัวดี เพราะให้พลังงานสูงถึง 7 แคลอรี่ต่อกรัมทีเดียว(โอ!แม่เจ้า) ถ้าไม่อยากให้ความอดทนและอุตสาหะในการงดดื่ม น้ำหวาน-น้ำอัดลมมาทั้งอาทิตย์ ต้องสูญสิ้นไปในคืนเดียว จงเลือกเครื่องดื่มที่ให้พลังงานต่ำเข้าไว้ น้ำเปล่าดีที่สุด แต่ถ้ามันจืดเกินไป ลองเลือกน้ำแร่อัดก๊าซ หรือน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำตาล หรือพันซ์ดีกว่าไวน์หรือเบียร์
9.ทำใจให้สบาย สนุกกับการสังสรรค์ มองโลกในแง่ดี เจ้าภาพอุตส่าห์เตรียมอาหารอร่อยๆ ไว้รับรอง แขกอย่างเรา ไม่ควรให้เจ้าภาพเสียน้ำใจ ถ้าอาหารรสชาติดีจริงๆ ก็จง อร่อยกับมัน แค่อย่าเพลินจนเกินขนาด วันพระไม่ได้ มีหนเดียว วันนี้ถึงจะกินมาก แต่พรุ่งนี้และมะรืน ถ้าไม่ยอมกินขนาดนี้อีกก็คงไม่อ้วนหรอก จริงไหม
10.กำกับเวลาอย่าสนุกเพลินจนกลับบ้านดึกเกินไป เพราะถ้าคืนนี้นอนไม่พอ วันรุ่งขึ้นคุณอาจจะกินมาก เป็นสองเท่าโดยไม่รู้ตัว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะมีการวิจัย พบว่า ในคนพักผ่อนน้อย ร่างกายจะเร่งการเผาผลาญ มากขึ้น จึงทำให้คุณรู้สึกหิวมากกว่าปกติ จนต้องหาอะไรใส่ท้องบ่อยขึ้นนั่นเอง
11.ชดเชย เช้ารุ่งขึ้นห้ามโอ้เอ้ โยเยว่าเพลีย ให้ลุกขึ้นมา ออกกำลังกายเร็วกว่าเดิม เพื่อชดเชยที่ได้กินเข้าไปมาก เมื่อคืนนี้ แต่ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองหนักขนาดวิ่งเพิ่ม อีกครึ่งชั่วโมงอะไรทำนองนั้น แต่น่าจะลองอะไรแบบว่า อาทิตย์นี้จะเดินไป-กลับระหว่างสถานีรถใต้ดินไปที่ ตึกออฟฟิศ อาทิตย์นี้จะกินกาแฟดำ หรือจะหยุดกิน ขนมหวาน 1 อาทิตย์ ถ้าทำได้ให้ลองทำต่อไป อีก 1 อาทิตย์ มีหรือจะอ้วนกว่าเดิม
ไม่อยากให้คุณกังวลหรือเครียดจนหมดสนุกกับ การสังสรรค์นะคะ 11 ข้อที่ว่ามานี้ ถ้าทำไม่ได้ ไม่ครบก็ไม่เป็นไร แค่เอ็นจอยอีตติ้งได้อย่างมีสติ ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ
มี Tips ส่งท้ายก่อนจากมาฝากกันค่ะ ต้องไถ่บาปขนาดไหนถ้าดื่ม... * ไวน์ขาว แบบดราย 1 แก้ว(ประมาณ 85 แคลอรี่) : ต้อง...เดิน 22 นาที (4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หรือปั่นจักรยาน 13 นาที(15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หรือว่ายน้ำ 10 นาที(3.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) * มาร์ตินี่ (140 แคลอรี่) : ต้อง...เดิน 37 นาที หรือปั่นจักรยาน 22 นาที หรือว่ายน้ำ 17 นาที * ไลท์เบียร์ (105 แคลอรี่) : ต้อง
เดิน 28 นาที หรือปั่นจักรยาน 17 นาที หรือว่ายน้ำ 13 นาที (ป.ล. จขบ. ว่าไม่ดื่มได้แหละดี ดื่มสุราตกนรกนะจ๊ะ)
อยากสุขภาพดีหรือไม่ คุณเลือกได้นะคะ นั่นคือเลือกที่จะลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพตนเองเสียแต่วันนี้ หรือว่าจะปล่อยให้ชีวิตเป็นไปเหมือนที่ผ่านมาค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีเหล่านี้จาก... //women.sanook.com/health/tips
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550 |
|
39 comments |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 21:38:37 น. |
Counter : 863 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณนะคะที่แวะไปทักทาย ว่างๆอย่าลืมแวะไปให้กำลังใจกันอีกนะคะ