ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
เจ็บใจ...ระวัง! อาจถึงตายได้นะ

โรคหัวใจขาดเลือด
โดย นายแพทย์ภาณุ สมุทรสาคร
อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจ



เจ็บหน้าอก กับโรคหัวใจขาดเลือด
อาการเจ็บหน้าอก เป็นอาการที่สำคัญอย่างหนึ่ง
ของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ก็อาจจะเป็นอาการของโรคอื่นๆ
ที่ไม่ใช่โรคหัวใจก็ได้ คนทั่วไปมักจะคิดว่า
อาการเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเจ็บหน้าอกด้านซ้าย
เกิดจากโรคหัวใจ จึงเกิดความกังวล ความกลัวว่า
จะมีอันตรายถึงชีวิตจากหัวใจวาย โดยทั่วไป
อาการเจ็บหน้าอกพบได้บ่อย ในชีวิตประจำวัน
ของคนทั่วๆ ไป อาการเจ็บหน้าอก เกิดได้จากหลายสาเหตุ


เช่น อาการเจ็บในหลอดอาหาร ปอด เยื่อหุ้มปอด หรือในกล้ามเนื้อ
และพังผืดผนังหน้าอก นอกจากนี้ยังเกี่ยวเนื่องไปถึง
กระดูกหน้าอก กระดูกซี่โครงอ่อนด้านหน้า และข้อต่อของกระดูก

อาการเจ็บในหลอดอาหาร มักเกิดขึ้น ระหว่างรับประทานอาหาร
บางทีเกิดระหว่างกลืน บางทีอาจเกิดจาก หลังรับประทานอาหาร
มักมีอาการจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ และใต้กระดูก หน้าอก
เกิดเนื่องจาก กรดในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนกลับ
ไปที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบ ของหลอดอาหารได้


อาการเจ็บจากปอด และเยื่อหุ้มปอดมักจะมีอาการเจ็บ
ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเข้าลึกๆ ลักษณะการเจ็บ
จะมีอาการเจ็บแปล๊บๆ ขึ้นมาได้ บางครั้งอาจมีอาการบวม
และกดเจ็บบริเวณที่มีการอักเสบ ของกระดูกข้อต่อ
ระหว่างกระดูกหน้าอก และกระดูกซี่โครงอ่อน

อาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ล้วนทำให้ผู้ที่เกิดอาการ
มักไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดหรือไม่


โรคหัวใจขาดเลือด
เกิดจากเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดอาการตีบ
ทำให้เลือด ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้ กล้ามเนื้อหัวใจ
ขาดออกซิเจนชั่วขณะ เกิดอาการเจ็บหน้าอก
อาการจะทุเลาเมื่อพัก และถ้าเส้นเลือดที่ตีบ
เกิดอุดตันอย่างเฉียบพลัน จะทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง
อาจมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจหยุดเต้น
และเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาลได้


อาการเจ็บหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากการเสียสมดุลย์
ของการใช้ออกซิเจน ของกล้ามเนื้อหัวใจ ในคนปกติ
หรือผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบเล็กน้อย การไหลเวียนของเลือด
เพียงพอที่จะส่งออกซิเจน ให้กล้ามเนื้อหัวใจ แม้ว่าจะทำงานอย่างหนักก็ตาม

ในผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น จะมีอาการเจ็บหน้าอก
เมื่อมีการออกกำลัง เพราะกล้ามเนื้อหัวใจ ต้องการออกซิเจนมากขึ้น
แต่ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจมีจำกัด เนื่องจากหลอดเลือดตีบ
อาการจะดีขึ้นเมื่อพักความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง
อาการเจ็บหน้าอกมักจะเป็นไม่เกิน 10 นาที เมื่อหลอดเลือดตีบมากขึ้น
ระยะเวลาที่ออกกำลังจะน้อยลง อาการเจ็บหน้าอกจะเกิดเร็วขึ้นตามลำดับ
และถ้ามีอาการอุดตัน ของหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ
กล้ามเนื้อหัวใจที่หลอดเลือดตันไปเลี้ยงจะตาย
อาการเจ็บหน้าอก จะเป็นอยู่นาน และต่อเนื่องมากกว่า 15 นาทีขึ้นไป
และอาการจะไม่ทุเลา แม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ เลย


ลักษณะอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจขาดเลือด
เป็นอาการเจ็บปวดเหมือนถูกกดดัน ผู้ป่วยมักจะบรรยายว่า
มีอาการแน่นหน้าอก เหมือนถูกกด ถูกบีบ หรือรู้สึกแน่น กลางหน้าอก
อาการเหล่านี้ อาจร้าวไปยังหัวไหล่ แขน คอ ขากรรไกร หรือหลังก็เป็นได้
บางคนอาจมีความรู้สึกเหมือนมีเชือดรัด หรือมัดรอบหน้าอก
อาจมีอาการเหงื่อออกอย่างมาก ตัวเย็น วิงเวียน คลื่นไส้ และอ่อนแรง
ระยะเวลาของการเจ็บหน้าอก และความรุนแรงของอาการเจ็บ ขึ้นอยู่กับ
สภาพหลอดหัวใจว่าตีบน้อย ตีบมาก หรืออุดตันโดยสิ้นเชิง
และความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
ถ้าออกกำลัง หัวใจต้องทำงานหนัก ต้องการออกซิเจนมากขึ้น
อาการเจ็บหน้าอกก็จะเป็นมาก และนานกว่า
ในขณะพักการทำงานของหัวใจลดลง ความต้องการออกซิเจน
ก็จะลดลง อาการเจ็บหน้าอกจะลดลง



ใครบ้างที่มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
สาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด มักจะเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ได้แก่

1. เพศชาย มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด มากกว่าเพศหญิง 3-5 เท่า

2. อายุ ในเพศชายมักจะเริ่มตั้งแต่ อายุ 35 ปีขึ้นไป
ในเพศหญิงจะเกิดช้ากว่า คือ มักจะเกิดในวัยหมดประจำเดือน อายุ 50-55 ปี

3. สูบบุหรี่

4. ไขมันในเลือดสูง

5. โรคความดันโลหิตสูง

6. โรคเบาหวาน

7. อ้วนและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

8. เครียดง่าย เครียดบ่อย

9. มีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดของคนในครอบครัว

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายข้อ ก็จะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
ได้เร็วกว่าผู้อื่น และมักจะมีความรุนแรงของโรคมากกว่าผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง


การวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือด
การวินิจฉัยเบื้องต้น ที่สำคัญที่สุด คือ อาการเจ็บหน้าอก
ดังได้กล่าวแล้วข้างต้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายข้อ
มีอาการเจ็บหน้าอก เหมือนถูกกดทับ หรือเหมือนถูกบีบรัด
เป็นมากเวลาออกกำลัง ทุเลาลงเวลาพัก อาการมักจะหายไป
ใน 10-15 นาที ในกรณีที่มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง
มีเหงื่อออกมาก วิงเวียน คลื่นไส้ มือเท้าเย็น เขียว
หรือมีอาการหมดสติ พักแล้วไม่ดีขึ้น มักเกิดจาก
หลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยสิ้นเชิง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย
ต้องรีบนำผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลทันที ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตโดยกระทันหันได้

ในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจตีบเล็กน้อย
อาจจะไม่มีอาการเจ็บหน้าอกเลย หรือเจ็บเล็กน้อย
เมื่อเวลาออกกำลังกายหนักเท่านั้น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
จะช่วยวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้
ในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจตีบน้อย คลื่นไฟฟ้าหัวใจมักจะปกติ
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย
การออกกำลังกายทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ต้องการออกซิเจนมากขึ้น
เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ ไม่สามารถนำเลือด และออกซิเจนให้
กล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอาจมีอาการเจ็บหน้าอกเกิดขึ้น
จึงช่วยในการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้
นอกจากนี้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย
ยังช่วยบอกความรุนแรงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
และสมรรถภาพของหัวใจได้อีกด้วย


ปัจจุบันการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย
ทำโดยให้เดินบนสายพาน และมีการบันทึกกร๊าฟของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
และความดันโลหิตตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย
และในระยะพัก หลังออกกำลังกาย เพื่อเปรียบเทียบกับ
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ในขณะที่ยังไม่ได้ออกกำลังกาย

การตรวจพิเศษอย่างอื่น ที่ช่วยในการวินิจฉัย โรคหัวใจขาดเลือด เช่น
การฉีดสารกัมมันตภาพรังสี และใช้เครื่องมือตรวจจับสารเหล่านี้
ซึ่งจะปรากฏที่กล้ามเนื้อหัวใจ และนำภาพเหล่านี้มาเปรียบเทียบกัน
ระหว่างในขณะพัก กับในขณะออกกำลังกาย ในผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือด
หัวใจตีบ ภาพที่ได้ขณะออกกำลังกาย จะมีการขาดหายไป
ของสารกัมมันตภาพรังสี ในบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดไปเลี้ยง


การวินิจฉัยที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยเบื้องต้น
สำหรับวิธีการตรวจเพื่อยืนยัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ คือ
การฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจ
โดยการใช้สายสวนหัวใจเข้าทางหลอดเลือดแดง เข้าสู่เส้นเลือดหัวใจ
และมีการบันทึกภาพขณะฉีดสารทึบรังสี ผ่านเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจ
นอกจากจะเห็นลักษณะการตีบของเส้นเลือดหัวใจแล้ว
ยังช่วยในการวางแผนการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในขั้นตอนต่อไปด้วย



การรักษาโรคหัวใจขาดเลือด
โรคหัวใจขาดเลือดเนื่องจาก เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
เกิดตีบหรืออุดตัน โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง
ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกัน
ไม่ให้เกิดโรคนี้ขึ้น โดยการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น จะชะลอการเกิดโรคนี้
ก่อนวัยอันควรจะเป็น หรืออาจจะไม่เป็นเลยก็ได้


ในผู้ที่มีอาการของโรคหัวใจขาดเลือดเป็นครั้งแรก คือมีอาการเจ็บหน้าอก
เวลาออกกำลังกาย หรือเหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยหาสาเหตุไม่ได้
ควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง
พร้อมทั้งจะได้รับการรักษา และป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปมากขึ้น
กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ยังดีอยู่ จะได้ทำงานเป็นปกติต่อไปได้


การรักษาโรคหัวใจขาดเลือดประกอบไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยการลดปัจจัยเสี่ยง
การลดปัจจัยเสี่ยงเป็นแนวทางที่ สำคัญอย่างยิ่ง
ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
จากเส้นเลือดหัวใจตีบ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้
มีการตีบของเส้นเลือดหัวใจ และยังช่วยลดอัตรา
การเสียชีวิตจากโรคหัวใจลงด้วย การลดปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ
เลิกสูบบุหรี่ เด็ดขาด ลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ
และพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
และความดันโลหิตสูงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับผู้ที่เป็นแล้ว
ในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคเหล่านี้ ควรมีการตรวจเช็คทุก 6 เดือน
เพื่อที่จะได้ควบคุมโดยเร็วที่สุด


การรักษาด้วยการใช้ยา
ในโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ความรุนแรงของโรคมีหลายระดับ ตั้งแต่ไม่มีอาการ
ไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว
ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน เป็นต้น
เพราะฉะนั้น ยาที่ใช้รักษา จึงขึ้นอยู่กับระยะ และความรุนแรงของโรค

ได้แก่ ยาเพื่อป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด
กับผนังของหลอดเลือดแดง ซึ่งมีผลทำให้เกิดการทำลาย
ของผนังหลอดเลือดและทำให้หลอดเลือดตีบ ตันมากขึ้น และอุดตัน


ยาเพื่อช่วยลดอาการเจ็บหน้าอก ลดการทำงานของหัวใจ
ช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น

ยาเพื่อใช้ละลายลิ่มเลือด ที่อุดกั้นเส้นเลือดหัวใจที่ตีบอย่างเฉียบพลัน
เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย จะได้ประโยชน์มาก
ถ้าให้ได้เร็วที่สุด หลังจากที่เส้นเลือดหัวใจมีการอุดตันอย่างเฉียบพลัน
ถ้าเกิน 6 ชั่วโมงไปแล้วจะได้ประโยชน์น้อย หรืออาจจะไม่ได้ประโยชน์เลย


ยาอื่นๆ ที่ใช้รักษาภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ยาขับปัสสาวะ
ยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
ยาพวกนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นเท่านั้น

การขยายเส้นเลือดหัวใจโดยบอลลูน เป็นวิธีการขยายเส้นเลือดหัวใจ
โดยการให้สายสวนหัวใจผ่านทางเส้นเลือดแดงที่โคนขา
เข้าไปจนถึงเส้นเลือดหัวใจที่ตีบ และขยายเส้นเลือดโดย
ทำให้บอลลูนที่ปลายของสายสวนหัวใจพองขึ้น
เพื่อที่จะดันเส้นเลือดที่ตีบให้ขยายออก จะได้มีเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น


การรักษาโดยการผ่าตัดต่อเส้นเลือดหัวใจใหม่
โดยการใช้เส้นเลือดแดง หรือเส้นเลือดดำที่ขา มาต่อเส้นเลือดหัวใจ
เพื่อเพิ่มทางเดินของเลือด ที่จะมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น


การรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ที่เกิดจากเส้นเลือดหัวใจตีบ
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่มาพบแพทย์
ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดก็ตาม โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด
ต้องการการรักษาต่อเนื่องตลอดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบมากขึ้น
หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่จะตามมาซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ภาวะหัวใจล้มเหลว
และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้




ที่มา : //www.ram-hosp.co.th
(ป.ล. ถึงเรื่องราวนี้จะยาวสักหน่อย แต่อ่านเถอะมีประโยชน์จริงๆ นะจ๊ะ)


Create Date : 28 มกราคม 2551
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 12:13:47 น. 43 comments
Counter : 1668 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากจริงๆด้วย ตอนนี้กำลังเป็นโรคหัวใจพองโตเป็นสีชมพูค่ะ อิอิ


โดย: meowlady วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:10:44:33 น.  

 
ขอบ คุน ก้าบบบบบบบบ

ที่ แวะ เข้า มา คุย กับ ป๋ม

อบ อุ่น จัง เยยยยยยย ก้าบบบบบบบ

กาแฟ อา หย่อย ก้ายยยยยย

โอว

โรค หัว จัย

มี้บอก ว่ามีประโยชน์มากก้าบบบบบ


โดย: dogamania วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:11:24:20 น.  

 
ดีครับ
แว่บมาทักทายครับ
ว่างไปฟังเพลงที่บลอกผมได้นะครับ


โดย: ชัช (กู่ฉิน ) วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:12:17:17 น.  

 
เยียม กัน หั้ย หัว ใจ Y ไป

เยยย ก้าบ




โดย: dogamania วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:13:35:20 น.  

 
มารับความรู้ไปเต็มๆเลยล่ะ


โดย: IMO วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:14:01:04 น.  

 
เข้ามาอ่านสาระดี ๆ ค่า...

ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: แม่ไก่ วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:15:05:56 น.  

 
ความเจ็บทางจิตใจมีผลต่อกายค่ะ ยืนยันๆ emo

ขอบคุณสำหรับกาแฟนะคะ emo


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:15:12:28 น.  

 
emoemoemo

แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ ขอให้สุขภาพใจพี่หอมกรแข็งแรงๆ นะคะ จุ๊บๆ

emoemoemo


โดย: pataramin วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:15:23:17 น.  

 
ดีจังค่ะ เด๋วให้แม่มาดู เพราะพ่อบอกว่า แม่จาเปงแม่หมู แย้ว ต้องระวัง เด๋วเปงเบาหวานพอดี


โดย: มินมินเองค้า (nardlada ) วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:16:07:54 น.  

 
แวะมาสังเกตุตัวเองด้วยข้อมูลดีๆ
เกี่ยวกับสุขภาพเป็นเพื่อนกันค๊า emo


โดย: JewNid วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:16:41:36 น.  

 
ก้าบบบบบบบ

เดิน ทาง โดย ซา หวาด ดี

พาบ ก้าบบบบบบ




โดย: dogamania วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:16:42:47 น.  

 
ขอ เล่น ตัว ยึก ยือ อีก ที

ก้าบบบบบบบบบ

ซา หนุก จัง เยยยย



โดย: dogamania วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:16:47:29 น.  

 
มาเก็บความรู้ดีๆจาก คุณหอมกรค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ ที่นำมาให้อ่าน
emoemoemoemo


โดย: whitelady วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:17:52:18 น.  

 
สารภาพเลยนะหอมกร

ผมปวดเป็นโรคหัวใจครับ






หัวใจสำส่อนครับ เจอผู้หญิงสวยๆ เป็นไม่ได้ต้อง
เหลียวหลังดูจนคอเเทบหัก


โดย: มหาสำลี IP: 58.9.121.2 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:20:04:31 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหอมกร
ข้อ 7 กับ 8 เนี่ยดอกคูณเลยค่ะemo
ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่แล้วเรา...
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะemo


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:20:35:30 น.  

 
ก้อ พี่ ทำ มี้ ป๋ม คลั่ง ปาย

แว้ว ก้าบบบบบบบบ

มี้ เอา ท่า ตัว ยึก ยือ ของ

พี่ มา เต้น ท้าง วัน เยย

ก้าบบบบบบบ


โดย: dogamania วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:23:13:15 น.  

 

...เนียะ...บ้านหนู...อ่ะจ่ะพี่มือหอมจังจ๋า

วันนี้น้องมีโอมาช้าเพราะก่าพี่ขวัญจะลุก...แง้...

...จ๋วยมั้ยจ๊ะ...ม่ามี้ทำให้ค่ะ

มานอนด้วยกันมั้ยคะ

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:1:18:10 น.  

 
แวะมาทักทายจ๊า


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:2:40:57 น.  

 
เค้าเป็นโรคหัวใจขาดรักอ่ะตะเอง ฮี่ๆ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:5:56:53 น.  

 
Morning .... emo


โดย: มหาสำลี วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:6:12:41 น.  

 

สวัสดีเช้าวันอังคาร มีความสุขกับการทำงานจ๊ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:6:44:59 น.  

 
มา แอ โร บิค ก้าบบบ


โดย: dogamania วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:7:45:20 น.  

 

สวัสดีครับ หอมคุณก่อน...

อ่านกลุ่มเสี่ยงแล้ว....งานนี้ คอสุรารอดตัวแฮะemoemo


มีความสุขนะครับemo


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:8:12:38 น.  

 
แวะมายืดเส้นยืดสาย
ให้หัวใจสูบฉีดที่บ้านคุณหอมกร ตอนสายๆ จ้า

สบายดีหรือเปล่าคะ
อากาศเปลี่ยนวันละหลายรอบ
รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:8:19:49 น.  

 
หวัดดีค่ะ พี่หอมกร....บายดีป่าว? แวะมาหาน๊า.....

มีความสุขกับวันทำงานนะจ้ะ
เจ้าวรรณ


โดย: Little Wan วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:9:18:14 น.  

 
น่าจัวมากๆ


โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:9:27:43 น.  

 
หวัดดีคะพี่หอมกร
่านแล้วรู่สึกกังวลยังไงไม่่รู้คะเพราะอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจ๋าเป็นบ่อยๆอะคะ
เคยไปตรวจหัวใจเมื่อนานมาแล้วหมอบอกว่าปกติดีแต่ตอนนี้อาการเหล่านั้นก็ยังมีอยู่อะคะ

น่ากลัวจัง

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: weraj วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:05:39 น.  

 

มาอ่านได้ความรู้แต่เช้าเลยผม ขอบคุณมากๆ นะครับ


โดย: ห่วงใย วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:30:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ
เป็นโรคอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้นเลยเน๊อะ
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: โสนบ้านนา วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:13:25:03 น.  

 
หมา มา ป่วน แว้ว ก๋าบบบ


โดย: dogamania วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:16:09:03 น.  

 
หมา มา ป่วน แว้ว ก๋าบบบ


โดย: dogamania วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:16:27:43 น.  

 
แง

โดน แกล้ง

โฮ โฮ


โดย: dogamania วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:16:29:00 น.  

 


วิชา ทั่น

ช่าง ลึก ลั้ม นัก

ข้า จา ขอ หลบ ปาย ฝึก

วิชา เม้นท์ ออ รา หัน

ที่ เขา เหนียง ยาน

เด๋ว จา มา ปา ลอง กะ ทั่น

ใหม่ ก้าบบบบบ



โดย: dogamania วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:16:41:47 น.  

 
มีคนเล่นมุขหัวใจขาดรักไปซะแล้ว

อิอิ เรามาช้าไป


โดย: 9A วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:17:37:43 น.  

 
น่ากลัวเนอะ


โดย: boatboat วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:17:40:40 น.  

 
หอมกรคนดี นอนหรือยังจ๊ะ
ดูแลหัวใจดี ๆ นะ คนทางนี้เป็นห่วงจ๊ะ
หลับฝันดีนะ



โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:21:11:44 น.  

 


เห็นด้วยว่าน่ากลัวทั้งหัวใจขาดเลือด
และหัวใจขาดรักอ่ะค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:21:48:42 น.  

 

มาเยี่ยมบล็อคของคุณหอมกรครับ

ระยะหลังนี้ ผมเห็นคุณหอมกรเอาบล็อคความรู้เกี่ยวกับการแพทย์มาให้เพื่อน ๆ ดูบ่อย ๆ หรือว่าคุณหอมกรจะเป็นแพทย์หญิงใช่หรือเปล่าครับ?

ผมก็ว่าจะลองเขียนเรื่องเกี่ยวกับโรคเบาหวาน แบบเป็นเรื่องตลก แต่ผมยังกลัว ๆ เพื่อน ๆ ที่อ่านรับไม่ได้ครับ (กลัวสะเทือนใจ เลยยังไม่ได้เขียนเรื่องนี้ครับ)

อิอิ emo


โดย: อาคุงกล่อง คล้องสายเดียว เดี๋ยวขำกลิ้ง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:0:10:32 น.  

 
หมา

มา ป่วน ใน ฝัน ก้าบบบบ

หุ หุ หุ หุ หุ

กัวววว มั้ย ก้าบบบบ

พอ มี้ เริ่ม อ่าน

หลาย หลาย อัน ของ พี่

มี้ ชอบ มั่ก ก้าบบบบบ

อ่าน All Blogs เกือบ หมด

มี้ จา เอา ข่าว ดี ดี

ปาย บอก

นัก เรียน เด็ก มา นุด

ของ มี้ ก้าบบบบ

เต้น show ซัก รอบ




โดย: dogamania วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:2:26:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ
มีประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ
(คุณตาของคุณรัตน์เป็นโรคหัวใจอยู่ในระหว่างรักษา)
ขอให้มีความสุขกับวันทำงานค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:7:28:10 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ
เอาขนมเค็มมาทานกะกาแฟ
มากินด้วยกันเร็วๆๆๆๆ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:8:51:55 น.  

 
หวัดดีเพื่อน ฝนตก..ง่ะ หนักด้วยง่ะ..


โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:9:26:04 น.  

 


มีความสุข รักษาสุขภาพนะครับ...หอมคุณก่อน

ขอบคุณสำหรับกาแฟ ยามสาย ๆ ครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:9:40:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.