ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
15 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ตับอักเสบจากไวรัส...น่ากลัวไม่แพ้เอดส์

วันนี้มีเรื่องราวสุขภาพดีๆ ของเพื่อนคนเก่งที่ไม่รู้จักกัน
แต่เห็นเขาเรียบเรียงได้น่าสนใจและมีสาระประโยชน์ดีมาฝากกันค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกว่าน่ากลัวเหมือนกันเลยรีบนำมาฝากกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก เพื่อนคนเก่งไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้า

//gtaxiii.spaces.live.com


โรคตับอักเสบเป็นโรคที่มีมานานแล้ว และเป็นโรคตับ
ที่มีการติดเชื่อจากไวรัส ทำให้เกิดการอักเสบและ
เสียหน้าที่ชั่วคราว ปกติตับจะมีหน้าที่หลายอย่าง
เป็นต้นว่าสร้างน้ำดี ขจัดสารพิษที่เรารับประทาเข้าไป
จากอาหาร ยาและสารเคมีทุกอย่างและยังทำหน้าที่
เกี่ยวกับการสังเคราะห์ไกลโคเจน และสลายเป็นกลูโคส ฯลฯ
เพราะฉะนั้นเมื่อมีการอักเสบจึงทำให้หน้าที่เดิมของตับ
หยุดชะงัก จึงเกิดเป็นกลุ่มอาการต่างๆ ที่แสดงออก
ทางร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ถ้าไม่ดูแลใกล้ชิดและรักษาตัวให้ดีเป็นพิเศษ


แต่โรคตับอักเสบชนิดที่เป็นข่าวให้แตกตื่นนั้น เป็นไวรัสชนิดบี
เป็นชนิดที่ร้ายแรงกว่าชนิดอื่น และมักจะดำเนินต่อไป
เป็นตับอักเสบเรื้อรัง สถิติที่จะเป็นสาเหตุของมะเร็งตับอีกด้วย
ถึงแม้บางรายจะหายจากอาการโรคก็ยังสามารถเป็นพาหะที่จะ
แพร่กระจายติดต่อของโรคไปยังผู้อื่นอีกเป็นจำนวนมาก


ลักษณะอาการของโรคที่สังเกตเห็น
และจากการตรวจโดยแพทย์ โดยเฉพาะพวกไวรัสบี
ภายหลังจากผู้ป่วยได้รับเชื้อแล้ว ระยะฟักตัวของโรค
จะยาวนานกว่าชนิดอื่น เมื่อเชื้อเข้าไปจะทำให้เซลล์
ของตับเกิดการอักเสบ อาจจะทำให้มีไข้คล้ายเป็น
ไข้หวัดใหญ่ ปวดเมื่อย จึงอาจทำให้แพทย์ตามคลินิก
วินิจฉัยพลาดไปบ้างก็มี จะวินิจฉัยชัดเจนขึ้นจะต้อง
มีไข้สูงและปวดเจ็บบริเวณขายโครงขวา
บริเวณที่อยู่ของตับ จุกเสียด แน่นท้อง
คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียมาก เบื่ออาหาร
ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ตาเหลือง ตัวเหลืองขึ้น
มักจะเกิดภายหลังจากไข้ลด หรือรุนแรงขึ้น
อาจมีไข้สูง การตรวดเลือดดูหน้าที่ของตับจะบอกได้
แต่แยกชนิดไวรัสไม่ได้ จะต้องเจาะน้ำเหลือง
เพื่อแยกชนิด ซึ่งจะทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
ที่มักจะใช้กันคือ เจาะหาเชื้อที่เรียกว่าไวรัสบี
เซอร์เฟสแอนติเจน เขียนย่อว่า (HBs Ag)
ถ้าหากผลเป็นบวกก็บอกว่าเป็นไวรัสบี
และยังมีตัวอื่นที่ใช้กัน คือ HBe Ag HBc Ag เป็นต้น


จะเป็นโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิดใดก็ตาม
ความจริงยังไม่มียารักษาโดยตรง เพียงแต่
ให้ผู้ป่วยพักฟื้นให้มาก ถ้าผู้ป่วยที่กำลังเป็นอย่างเฉียบพลัน
ต้องให้พักในโรงพยาบาล ห้ามออกกำลังกาย
ห้ามอาหารไขมนและโปรตีน หรือยา สารเคมี แอลกอฮอล์
เพื่อให้ตับทำงานน้อยลง แต่เพิ่มแคลอรี่โดยการ
ให้กลูโคสแทน จะเป็นในรูปของการให้ทางเส้นเลือด
หรือกินทางปาก ต้องให้วิตามินบีรวมมากๆ
ยาแก้ปวดชนิดพาราเซทตามอนต้องห้ามอย่างเด็ดขาด
ต้องพยายามเพิ่มความต้านทานให้ผู้ป่วยแข็งแรงไว้


เมื่ออาการต่างๆ ดีขึ้น รวมทั้งการเจาะเลือด
ดูหน้าที่ของตับกลับสู่ปกติ ยังควรพักฟื้น
โดยห้ามโหมออกกำลังกายไปอีก 6 เดือน

ในสมัยก่อนปี ค.ศ.1960 เรายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับไวรัสบีมากนัก
ภายหลังปี ค.ศ.1984 มีการประชุมแพทย์เกี่ยวกับโรคตับอักเสบ
ไวรัสบีที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งแยกจากชนิดเอ และที่ไม่ใช่เอและบีนั้น
ทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับไวรัสบีว่า เป็นชนิดร้ายแรงกว่าชนิดอื่นมากมาย
เพิ่มอัตราการตายมากขึ้น และยังดำเนินต่อไป เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง
หรือแม้ว่าอาการต่างๆ หายไปก็ยังสามารถเป็นพาหะ
นำโรคไปแพร่ติดผู้ใกล้ชิด และผู้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด
และยังเพิ่มสถิติการเป็นโรคมะเร็งตับอีกด้วย
ความสามารถในการแพร่โรคของไวรัสบีนี้ ดูพอๆ กับโรคเอดส์



การติดต่อหรือแพร่โรคของโรคตับอักเสบชนิดบีนี้
มาจากผู้ป่วยที่กำลังป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะดังที่กล่าวมาแล้ว
จะพบว่าเชื้อไวรัสจะมีในน้ำลาย น้ำกาม น้ำเลือด
และทางเดินอาหาร หรือในอุจจาระ เพราะฉะนั้น
จะติดต่อได้ต้องมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด
เช่น กินอาหาร ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน จูบปากกัน
ร่วมเพศ เพราะฉะนั้นโรคนี้จะติดได้ทั้งร่วมเพศ
ชนิดต่างเพศ หรือพวกเพศเดียวกัน เช่นพวก
โอโมเซ็กส์ชวล พวกฉีดยาเสพติดโดยใช้เข็มฉีดยา
อันเดียวกัน หรือแม้แต่คลินิกที่ยังใช้เข็มฉีดยา
อันเดียวกัน แม้การทำฟันก็ยังเป็นแหล่งที่แพร่โรคได้
และยังสามารถถ่ายโรคไปสู่เด็กในครรภ์อีกด้วย
หรือแม้แต่การได้รับเลือดจากผู้ที่เป็นพาหะก็มี
ซึ่งก็จะเห็นว่าการแพร่โรคมีลักษณะคล้ายโรคเอดส์
เพราะฉะนั้นบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค
ก็คือบุคลากรทางแพทย์ แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์
โสเภณี ผู้ที่สำส่อนทางเพศ โฮโมเซ็กชวล
ผู้ที่ติดยาเสพติด เด็กในครรภ์ ผูที่ได้รับเลือดจากผู้อื่น
และผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย เป็นต้น


วิธีป้องกันก็คือล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่หยิบจับสิ่งของที่เป็นส่วนรวม
ไม่สำส่อนทางเพศ ไม่ติดยาเสพติด ไม่จำเป็นก็ไม่ควรรับเลือดจากผู้อื่น
ควรตรวจเลือดก่อนตั้งครรภ์ หรือฉีดยาคุมก่อนการตั้งครรภ์ อยู่ห่างจาก
ผู้ป่วย หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นพาหะ ไม่ใช้เข็มฉีดยาอันเดียวกับผู้อื่น

การรักษาโรคตับอักเสบจากไวรัสทุกชนิด ยังไม่มียาที่รักษาโดยตรง
ปัจจุบันมีผู้พยายามใช้ยารักษา แต่ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
แต่ยาที่ใช้รักษามะเร็งตับได้ผลบ้าง แต่ไม่หายขาด



การรักษาจึงใช้วิธีพักฟื้นและเสริมภูมิต้านทาน ให้พลังงานทดแทน
โดยให้น้ำตาลแทนพลังงานที่มาจากโปรตีน ไขมัน ให้วิตามินเสริม
ช่วยจนกว่าอาการของโรคจะทุเลาลง และหายไป เรียกว่าการรักษา
ตามอาการ ควรจะต้องหายทั้งอาการทางร่างกาย และน้ำเหลืองด้วย


ขั้นตอนการฉีดยาวัคซีนป้องกันโรคไวรัสบี
ก่อนอื่นจะต้องเจาะเลือดเพื่อหา HBs Ag ก่อนว่าบวกหรือลบ
ในกรณีที่มีผลลบ ก็คือยังไม่เป็น และต้องเจาะเลือดดูว่ามีภูมิคุ้มกันหรือไม่
ถ้ามีก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าไม่มีและต้องการฉีดยา เพราะคุณต้องใกล้ชิด
ผู้ป่วยหรือมีอาชีพดังที่กล่าวไว้แล้ว หรือเป็นโฮโม หรือโสเภณี
ที่ติดยาเสพติด ให้วัคซีนป้องกันได้ เข้าใจว่าประมาณ 40 บาทต่อเข็ม
ต้องฉีดอย่างน้อย 3 เข็ม แต่จากการที่ต้องเจาะเลือดตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่
และตรวจภูมิคุ้มกันก็คงเกิน 1,000 บาท ขึ้นไป


โรคนี้ถึงแม้จะเป็นโรคติดต่อที่น่ากลัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
ต้องหวาดวิตกจนเกินเหตุ อย่างน้อยการดูและตัวเอง
และคนรอบข้างก็เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด















Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 12:14:31 น. 29 comments
Counter : 847 Pageviews.

 
น่าจัวมากๆเลยอ่ะ..
เหมือนๆเพื่อนจะเป็นเป่าไม่รุอ่ะ..


โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:55:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเน้อ ดีจริงๆ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:57:03 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ


โดย: Jiji&Kaka วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:12:08 น.  

 
เจิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

ไม่มีคนเจิมเลย
ขอบคุณสาระดีดี อีกครั้งครับ


โดย: boatboat วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:38:50 น.  

 
เพิ่มเติมข้อมูลให้คะ
สำหรับตับอักเสบ ที่เกิดจากไวรัส ชนิด C มีวัคซิน ฉีดรักษานะคะ..
เข็มหนึ่ง...เป็นหมื่นคะ..
ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงกว่าคนที่ติดไวรัสตับอักเสบ A หรือ B มากคะ

แต่อย่ากังวลไป..ชนิด C นี้ติดยากกว่า B คะ
เพราะมักติดทางเลือดคะ

โดยปกติคนเราตรวจสุขภาพประจำปี จะไม่ทราบหรอกคะว่าตนเองมีไวรัสตับอักเสบ C อยู่ในเลือดหรือป่าว
เพราะการตรวจไวรัสชนิดนี้ต้องอาศัยการตรวจพิเศษโดยเฉพาะ และมีค่าใช้จ่ายสูงคะ

และหากคุณจะระบุให้ รพ.ตรวจให้ นั่นก็หมายถึงคุณต้องมีภาวะเสี่ยง หรืออาการบ่งชัดสุดๆๆ คุณหมอเค้าถึงจะตรวจให้คะ

แต่ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีสุขภาพที่ดี อยู่แล้ว มีความพร้อม ไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยงใดๆ
แต่ต้องการทราบว่า..แท้จริงแล้ว ในเลือดตัวเองนั้น
มีเชื้อโรค หรือภาวะอื่นใดๆๆแปลกปลอม แทรกซ้อนอยู่หรือป่าว
ก็ลองไปบริจาคเลือดดูซักครั้งนะคะ..
รับรองคะ..สมัยนี้ ถ้าเลือดคุณมีเชื้อไวรัส ต่างๆแปลกปลอมอยู่หละก็...สภากาชาดเค้าจะส่งหนังสือแจ้งคุณมาให้เห็นจะจะ เลยทีเดียวคะ

ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องสุขอนามัย..เป็นสิ่งสำคัญสุดสุดคะ สมัยนี้ เพราะโรคติดต่อที่ถ่ายทอดกันน้ำลาย หรือสารคัดหลั่ง ต่างๆ มีมากมายคะ

อย่ามองว่าแปลก หรือเค้ารังเกียจ...หากใครจะขอให้คุณใช้ช้อนกลาง หรือไม่ดื่มน้ำแก้วเดียวกับคุณ..เพราะเค้าอาจจะไม่ได้รังเกียจคุณ แต่เค้าอาจกำลังช่วยคุณไม่ให้ติดโรคจากเค้าคะ.ง

ปล...จขบ.เป็น ผู้ตรวจสอบภายนอกที่ไหนจ๊ะ...ผู้ตรวจสอบภายใน..อยากโม้ด้วย อิอิ


โดย: แอนน์ (a_mulika ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:04:46 น.  

 

Hi5 Emo Graphics Comment


สวัสดีค่ะคุณพี่หอมกร..

น่ากลัวนะค่ะเนี่ย..
ค่าใช้จ่ายในการรักษาก็สูงด้วย
ขอบคุณมากค่ะที่เก็บมาฝาก..

และก็สุขสันต์วาเลนไทน์ย้อนหลังนะค่ะ


โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:42:14 น.  

 
ตอนสมัยเรียนป.ตรี รุ่นพี่หนึ่งปีก่อนหน้าไวรัสตับระบาดทั่วมหาลัยอ้ะ

น่ากลัวมากๆ

แสดงว่าพวกเขาก็ยังแพร่เชื้อได้เหรอคะ?

งั้นเราก็น่าจะติดนะนี่ เพราะกินน้ำ กินข้าวด้วยกัน บางทีก็ไม่ได้ใช้ช้อนกลางอ้ะ emo


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:56:34 น.  

 
emo

กลัว ๆๆๆๆๆ เก็บของกลับบ้านดีกว่า
บะบายจ๊ะ



โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:17:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ เข้ามาอ่านข้อมูลดี ๆ ค่ะ

เป็นอีกโรคหนึ่งที่น่ากลัวมากเลย จะได้นำข้อมูลไปปฏิบิติด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะค่ะ


โดย: บ้านดินริมสวน วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:18:21 น.  

 
มาฟังคุณหมอกร..แนะนำเรื่องสุขภาพค่ะ
เอาไปบอกคนชิดใกล้หน่อย...ห่วงเค้าน่ะ
ขอบคุณมากค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:12:18 น.  

 
อืม...เป็นข้อมูลที่ดีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:59:57 น.  

 
หวัดดีจ้ะ พี่สาวคนสวย เอ? สวยป่าวหว่า????? แวะมา Happy Valentine's Day ย้อนหลังนะจ้ะ.....

แล้วก้อขอบคุณสำหรับ ข้อมูลดี ๆ เหมียนเคย...

วรรณ


โดย: Little Wan วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:46:11 น.  

 
.com/data/ae7906/pictemoemoemoemo


โดย: สู้ สู้ คะ IP: 125.24.87.171 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:18:09 น.  

 
ขอ โทด ก้าบบบบบบ ที่ หาย ปาย นาน มั่ก มั่ก


อืมมมมมม


เอม มา ขอ หยุด พัก ร้อน ก้าบบบบบบ


ป๋ม เปน โรค Struvite Crystals ฟัง ดู Hi So มั่ก


แต่ จิง จิง แว้ว มัน คือ โรค นิ่ว ก้าบบบบบบ


อ้าย โรค บ้า เนี่ย มัน โหด มั่ก ก้าบบบบบบบบบ



โดย: dogamania วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:26:51 น.  

 


แม้ว่าเป็นโรคติดต่อที่น่ากลัวแต่ก็ไม่จำเป็นต้องวิตกจนเกิดเหตุ...

ใช่ครับ

ขอบคุณที่นำสาระดีดีมาฝากครับ หอมคุณก่อน

มีความสุขกับวันหยุด นะครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:47:49 น.  

 
วันนี้วันเสาร์จ้า..ได้พักผ่อนกันหน่อยเนอะ


โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:00:28 น.  

 
น่ากลัวจังโรคนี้เมื่อคืนกูดูรายการของดู๋เชิญมยุรามาออกเรื่องเผอไปได้เลือดมีไวรัสตับซี มาน่ากลัว

Thai miss u


โดย: ปลอมตัวมาหารัก วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:08:54 น.  

 
เอามาฝากสาวหอม อิอิ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:28:21 น.  

 
emo

มาทักทายกันวันหยุด จขบ.ไปเที่ยวไหน รีบมารายงานตัวด้วย (เค้าอิจฉานะ)


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:55:05 น.  

 
หวัดดีวันอาทิตย์จ้าคุณหอม
ดูเหมือนเราจะเคยฉีดวัคซีนตัวนี้
แต่ไม่ครบ เพราะย้ายที่ทำงานพอดี คงต้องไปเช็คกันใหม่


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:07:45 น.  

 
โรคนี้มันน่ากลัวจังเลยนะค่ะติดง่ายกว่าเอดส์อีก
ดีจังค่ะที่คุณหอมกรเอาข้อคิดดีดีมาฝาก ดีใจจังที่ไปทักทายที่บล๊อกมดทิพย์ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยงานยุ่งมากๆค่ะ กลัวแฟนบล๊อกจะหายไปเหมือนกัน คิดถึงนะค่ะมีความสุขในวันหยุดนี้


โดย: มดทิพย์ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:55:39 น.  

 
เข้ามาทักทายวันอาทิตย์ ทานข้าวยางงง


emoemoemo


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:16:54 น.  

 
โรคตับอักเสบนี้น่ากลัวพิลึก โชคดีเราฉีดวัคซีนป้องกันนานแล้ว คุณหอมกรเอาความรู้มาบอกก็เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ เราไม่รู้หรอกว่าเป็นยัง แม่ให้ฉีดวัคซีนก็ฉีด คราวนี้ก็รู้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ

มาทักทายบ่ายๆวันอาทิตย์ค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:38:05 น.  

 
ฉันก็ว่าจะไปฉีดวัคซีนเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้ไปเลย

ปล ยังไม่ลืมกันค่า


โดย: cottonbook วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:33:37 น.  

 
มาทักทายยามเย็นค่ะ
งานยุ่งป่าว...ดูแลสุขภาพนะคะ


โดย: รัตตมณี IP: 125.26.194.16 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:18:41 น.  

 
น่ากลัวจังค่ะ
คุณหอมกร อึ๊ยยย
emo


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:57:46 น.  

 
เค้าว่ามียาฉีดป้องกันอะค่ะ เห็นเพื่อนบอก


โดย: opleee วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:47:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ..คุณหมอกร
มาทักทายก่อนเตรียมไปทำงานค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:20:20 น.  

 
emo


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:51:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.