7 อาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม
สวัสดีวันแรกของสัปดาห์จ้า วันนี้หมอเถื่อนมีข้อมูลดีดีเกี่ยวกับ เรื่องสุขภาพมาฝากกันจ้า หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่กันบ้างนะคะ วันนี้ว่าด้วยเรื่องราวของอาการปวดค่ะ เรามาฟังคุณหมอตัวจริงเล่าถึง อาการปวดทั้ง 7 ประการข้างล่างนี้กันดีกว่า น่ากลัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
ปวดศีรษะ อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรือปวดสุดๆ เท่าที่เคยปวดมาเลยแบบนี้ ต้องพบแพทย์ หากว่าคุณเป็นหวัดแล้วปวดสุด ๆ มันอาจจะมีสาเหตุมาจาก ไซนัสก็ได้หากไม่เป็นหวัด ก็อาจจะมีสาเหตุที่รุนแรง เช่น เลือดออกในสมอง เนื้องอกในสมองก็เป็นได้ ซึ่งบางครั้งต้องอาศัย การซักประวัติ ตรวจร่างกายที่ละเอียด หรือต้องใช้เครื่องมือ เช่น CT Scan เพื่อช่วยการวินิจฉัยโรค
ปวดหน้าอก อาการปวด หรือแน่น อึดอัด บริเวณหน้าอก คอ ขากรรไกร ไหล่ แขน หรือ ท้อง อาการปวดแถวนี้เป็นได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการปวด บริเวณหน้าอกอาจจะเกี่ยวเนื่องกับโรคหัวใจได้ แต่ควรระวังว่า ภาวะที่เกิดจากหัวใจนั้น โดยทั่ว ๆ ไปจะแสดงออกมาในรูปของอาการแน่น อึดอัด ไม่สบาย มากกว่าอาการปวดโดยผู้ป่วยโรคหัวใจจะอธิบายไว้ว่า เหมือนกับมีช้างมานั่งทับอยู่บนหน้าอกนั่นแหละ ส่วนตำแหน่งที่รู้สึก ไม่สบายนั้น มักจะเป็นส่วนบนของหน้าอก คอ ขากรรไกร ไหล่ซ้ายหรือแขน อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออกท่วมตัว จะเป็นลม หน้าดูซีด แบบนี้ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วนเลย บางครั้งอาจมีอาการปวดท้อง เกิดขึ้นร่วมกันอาการคลื่นไส้ ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดคิดว่า มันเป็นอาการของโรคจากทางเดินอาหาร จริงๆแล้วเป็นอาการของ กล้ามเนื้อหัวใจที่ผนังด้านล่างขาดเลือด แต่สำหรับอาการของผู้หญิงนั้น จะดูยากกว่าเพราะผู้ป่วยมักจะคิดว่าเป็นอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด แน่น หรือ ความรู้สึกปั่นป่วนในท้อง มักไม่ค่อยคิดว่า ตนเองอาจมีโรคหัวใจ ส่วนใหญ่มักจะมีอาการเหนื่อยร่วมด้วย อีกทั้งโอกาสในการเป็นโรคหัวใจจะเพิ่มขึ้นมากในผู้หญิงวัยทอง ดังนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องระมัด ระวังและอย่าไปนิ่งนอนใจ เพราะคิดว่าอาการดังกล่าวเป็นเพียงแค่อาหารเป็นพิษเท่านั้น
ปวดหลัง อาการปวดหลังส่วนล่างหรือ ระหว่าง สบัก ส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะคิดว่าเป็นอาการของข้ออักเสบกล้ามเนื้ออักเสบ แต่ก็สามารถ จะเป็นอย่างอื่นได้อีก รวมทั้งโรคหัวใจ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับช่องท้อง ที่เป็นอันตรายอีกอย่างหนึ่งก็คือ เส้นเลือดใหญ่ที่ออกจากหัวใจมีการ แยกชั้น ซึ่งอาการปวดอาจจะเป็นไปในลักษณะค่อยๆ ปวดเพิ่มขึ้น หรือ ปวดทันทีทันใดก็ได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงมาก ก็คือ ผู้ที่มีโรคความดันสูง ผู้ที่สูบบุหรี่ และเป็นโรคเบาหวานโรคนี้อันตรายมากเช่นเดียวกัน หากมีอาการเช่นว่ามานี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์โดยด่วน
ปวดท้อง อาการปวดท้องอย่างรุนแรง ถ้าหากไส้ติ่งของคุณยังอยู่ นั่นอาจะ เป็นสาเหตุหนึ่ง แต่สาเหตุของมันอาจจะเป็นอย่างอื่นอีกก็ได้เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ, ตับอ่อนอักเสบ, กระเพาะทะลุ, ลำไส้อุดตัน โดยแต่ละอย่างมีลักษณะที่พอแยกได้ดังนี้ ไส้ติ่งอักเสบ จะปวดท้องด้านขวา ล่าง ต่ำกว่าระดับของสะดือ อาจมีหนาว หรือมีไข้ เบื่ออาหาร กินข้าวไม่ลง ตับอ่อนอักเสบ จะปวดใต้ลิ่นปี่ ร้าวไปหลัง ปวดมากๆ บางคนมีประวัติ ทานเหล้า เบียร์มาเยอะ แต่บางคนก็เกิดจาก นิ่วจากถุงน้ำดีหล่นมาอุดพวกนี้จะไม่มีประวัติกินเครื่องดื่ม Alcohol กระเพาะอาหาร พวกนี้ก็จะปวดใต้ลิ่นปี่ ร้าวไปหลังได้คล้ายๆ ตับอ่อน อักเสบ แต่ถ้าแค่กระเพาะอักเสบ อาการจะไม่รุนแรงมาก ปวดเฉพาะลิ้นปี่ ด้านล่างๆจะไม่ปวด คนไข้จะพอเดินได้ แต่ถ้ากระเพาะอาหารทะลุ พวกนี้จะปวดลิ้นปี่รุนแรง มักปวดด้านล่างร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักล่างขวา แต่บางทีก็ปวดทั่วท้องเลย มักต้องหามมา เดินไม่ไหว ลำไส้อุดตัน ส่วนใหญ่มักปวดเป็นพักๆ บีบๆ เหมือนอะไรวิ่งเป็นลูกๆ ในท้อง มีอาการไม่ถ่าย ไม่ผายลม มักมีประวัติเคยผ่าตัดช่องท้อง ดังนั้นถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง ต้องรีบพบแพทย์เช่นกัน
ปวดขา อาการปวดบริเวณน่องที่จัดว่าอาการปวดบริเวณนี้เป็นอันตราย ก็เพราะ สาเหตุของมันอาจจะมาจากเส้นเลือดดำอุดตัน (deep vein thrombosis) หรือDVT ก็ได้ โดยเส้นเลือดที่อุดตันนั้น สามารถเกิดขึ้นที่ deep veins ของขาได้ และโรคนี้เกิดขึ้นกับคนอเมริกันมากถึงปีละ 2 ล้านคน แล้ว ซึ่งที่เราอาจเคยได้ยินว่าคนที่นั่งเครื่องบินชั้น Economy Class แล้วเกิดเส้นเลือดดำอุดตัน ก็คือโรคนี้ และเมื่อมันเกิดขึ้น มันก็จะรบกวน การดำเนินชีวิตมากเสียด้วยและสิ่งที่เป็นอันตรายก็คือ ก้อนเลือดเล็ก ๆ ที่อุดตันนั้น สามารถที่จะหลุดออกและไปอุดที่อื่นแทนซึ่งหากเป็นจุดสำคัญ เช่นไปอุดเส้นเลือดในปอดก็เป็นอันตรายถึงชีวิต กลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคอ้วน คนท้อง รวมทั้ง ผู้ที่ต้องเดินทางนั่ง อยู่ท่าเดียวนานๆ หรือพวกที่หลังผ่าตัด นอนนานๆ ไม่ค่อยได้ขยับตัว ขยับเขยื่อนร่างกาย บางครั้งอาการจะปรากฏออกมาให้เป็นในรูปของ การบวมตึงที่น่องแต่ไม่ปวด หรือทั้งปวดทั้งบวมบริเวณกล้านเนื้อน่องก็ได้ ไม่เพียงแต่เส้นเลือดดำอุดตันที่อุดตันได้ เส้นเลือดแดงก็สามารถอุดตันได้ เช่นเดียวกัน โดยจะมีอาการปวดที่ขา ปวดมาก จะมีอาการขาเย็นร่วมด้วย เย็นแบบรู้สึกได้เลย ขาจะดูซีด แบบนี้ก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลด่วนเช่นกัน มิฉะนั้นอาจจะเกิดอาการกล้ามเนื้อตายในบริเวณดังกล่าวได้
ปวดเท้า อาการปวดร้อนที่เท้าและขา มีคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานจำนวนมาก ไม่ได้รับการรักษา เพราะบางคนไม่ทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคดังกล่าว อาการนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ในเริ่มแรก โดยจะรู้สึกปวดร้อน ที่เท้าและขา นั่นเป็นการบ่งบอกว่า เกิดความเสียหายขึ้นกับเส้นประสาท เข้าแล้ว ในคนไข้ที่เป็นมากๆ โรคเบาหวานจะทำให้เส้นประสาทเสีย เกิดอาการชาที่เท้าแทน ทำให้คนไข้สามารถเดินเหยียบบุหรี่ได้โดยไม่รู้สึก บางครั้งเกิดเป็นแผลจนเน่าถึงรู้ตัวว่ามีแผลเพราะได้กลิ่นก็มี
ปวดแปลกๆ อาการปวดแบบแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้ จริง ๆ แล้วอาการปวดมีหลายแบบ บางคนอาจจะบอกว่า ปวดศีรษะแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ปวดท้องหรือปวดแขน แปลก ๆ อธิบายไม่ถูกหรืออาจจะมีอาการปวดหลายแบบผสมกัน อาการปวด อาจะเป็นอาการเรื้อรัง และ ไม่ได้รุนแรง การอธิบายออกมา ไม่ชัดเจนอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าใจอาการผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วย ที่มีความเครียด ดังนั้น ยิ่งถ้าคุณมีความเครียดหรือวิตกกังวลมากเท่าไหร่ ก็ให้พยายามอธิบายความรู้สึกให้มากเข้าไว้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีอาการ ในลักษณะอื่น ๆ ที่แสดงออกมาอีก และเมื่อไหร่ที่ควรจะมาพบแพทย์ ตัวคุณเองต้องลองสังเกตดูว่า อาการที่เกิดกับตัวคุณนั้นส่งผลต่อ การดำเนินชีวิตประจำวันหรือไม่ มันทำให้คุณไม่สามารถทำงานให้ลุล่วง ได้หรือเปล่าหรือมันทำให้คุณอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ให้รีบ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค เช็คให้รู้ว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย
ดังนั้น หากคุณมีอาการปวดทั้ง 7 ประการดังกล่าว จงอย่านิ่งเงียบ และทนปวดอยู่คนเดียว หมั่นดูแลรักษาสุขภาพตัวเองทุกคนนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก //women.sanook.com/health/healthcare โดย นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์ สำหรับข้อมูลข้างต้นไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
30 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 12:16:49 น. |
Counter : 947 Pageviews. |
|
|
|
ปวดกระดองใจ
ทำไงดีล่ะฮ้า
สวัสดียามบ่ายค่า