|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
At the Copa ♪
+ + + + + + + +
หาดโคป้า
โคปาคาบาน่าพาเลซ
Christ the redeemer สาขาโคป้า :D
- - - จริงๆตอนอยู่ริโอ วันๆแทบไม่ได้ทำอะไร นอกจากเดินเลียบชายหาด หาของกิน แล้วก็ชิลอยู่ที่ไหนซักแห่ง เป็นชีวิตที่ไร้กังวลจริงๆ โรงแรมที่พักอยู่ตรงหาดโคปาคาบาน่า เดินข้ามถนนมาจะมีซุ้มขายของกินแบบคล้ายๆที่เมืองไทย มีร่ม มีเก้าอี้ ขายอาหารจานด่วน เราไปนั่งที่ซุ้มของเนสกาแฟเกือบทุกวัน กินอาหารไป นั่งดูคนเตะบอลริมหาดไป เทียบกับที่นี่แล้ว ชีวิตที่นิวยอร์กเหมือนไม่น่าเรียกว่าเป็นชีวิตได้เลย
ทุกวันที่ริโอ ตั้งแต่เช้า ก็จะเห็นคนลงไปวิ่งถนนริมหาด เตะบอลเล่นกัน บางทีนั่งๆกินข้าวอยู่ก็มีคนมาร้องเพลงขอตังค์ มีคนใส่ชุดบิกินี่กำลังจะเดินไปที่หาด ดูแล้วรู้สึกว่าเออ...เค้ามีเวลาเอนจอยชีวิตกันดี ไม่คร่ำเครียดเร่งรีบเหมือนในเมืองใหญ่ ทำให้รู้สึกว่าบางทีการได้เปลี่ยนสถานที่มันก็ช่วยให้เห็นที่ๆเราจากมาได้ชัดขึ้นเหมือนกัน เห็นคนที่ริโอแล้วทำให้ได้คิดว่าชีวิตคนเราใช้ได้หลายแบบ ไม่ได้มีสูตรสำเร็จอันเดียว แบบที่ทำงาน มีเงินเยอะๆ แต่ไม่มีชีวิต ไม่มีเวลานั่งดูคนเตะบอลริมหาดตอนพระอาทิตย์ตก แบบนั้น น่าจะเรียกว่า ชีวิตที่ไม่มีชีวิต(ชีวา)มากกว่า
วกกลับมาหาหาดของเรากัน โคปาคาบาน่า จากที่ฟังๆมาเค้าว่าสมัยก่อนหาดนี้ดัง ตรงริมหาดคนออกแบบดีไซน์ให้กว้างเป็นพิเศษแถมยาวโค้งเป็นกิโล มองลงมาจากบนตึกดูสวยดี ถึงเรื่องความฮิพจะถูกหาดรุ่นน้องแซงหน้าไป แต่ก็ยังเห็นความอลังการของสมัยก่อนอยู่ อย่างโคปาคาบาน่าพาเลซ โรงแรมที่ดูเหมือนวัง อ่านเจอว่าเวลาที่ริโอมีงานคาร์นิวัล งานบอลที่โรงแรมนี้จะเป็นงานใหญ่อันดับต้นๆ คนที่ไปผู้ชายจะต้องใส่แบล็คไท ส่วนผู้หญิงก็ต้องใส่ชุดราตรียาวแบบแฟนซีๆ
ตอนที่เราไปสงสัยเป็นช่วงที่มีประชุมสำคัญที่โรงแรมนั้นพอดี ทุกวันจะมีนักข่าวกลุ่มใหญ่ กับตำรวจเป็นสิบมายืนออกันอยู่หน้าโรงแรม แถมมี รปภ. หนาแน่น ตอนแรกว่าจะแอบย่องเข้าไปชมข้างในหน่อย แต่เห็น รปภ.แล้วไม่ไหว เลยไปได้ใกล้สุดแค่ตรงประตูทางเข้า
รูปสุดท้ายพระเยซูริมหาดโคป้า ปั้นโดยหนุ่มริโอ แถวหาดจะมีศิลปินปั้นทรายอยู่เป็นกลุ่มๆ สงสัยจะปั้นทุกวันเพราะเค้าปั้นกันได้ตั้งแต่พระเยซูไปจนถึงปราสาทหลังใหญ่ ตอนแรกเดินผ่าน โห..เจ๋ง ปั้นอะไรกันขนาดนี้เนี่ย ยกกล้องขึ้นมาถ่าย เท่านั้นแหละ พี่แกเดินรี่เข้ามาพร้อมกระป๋องขอตังค์ แถมรัวภาษาโปรตุเกสใส่(เดา)ว่า นี่เป็นสมบัติส่วนบุคคลเจ๊ ถ้าจะถ่ายต้องบริจาคก่อน ตอนนั้นเลยหายโง่ มิน่า..คนบ้าที่ไหนมันจะมานั่งปั้นทรายกันได้เป็นวันๆ แต่จะว่าไปมันก็เป็นอาชีพที่ต้นทุนต่ำดี ทรายก็มีอยู่แล้ว แค่ออกแรงอย่างเดียว
มีตอนต่อไปก๊า...^^
Create Date : 23 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 19:24:11 น. |
|
3 comments
|
Counter : 816 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:52:42 น. |
|
|
|
โดย: CrackyDong วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:38:57 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:59:50 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เดี๋ยวไว้มาอ่านต่อนะคะ