|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Miss Potter & Peter Rabbit
เมื่อวานได้ดูหนังเรื่อง Miss Potter เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ Beatrix Potter (1866-1943) นักเขียน/นักวาดภาพประกอบชาวอังกฤษในยุควิคตอเรียนที่เป็นผู้สร้างตัวการ์ตูนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Peter Rabbit
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับนิทาน Peter Rabbit และเพื่อนพ้องอีกหลายตัว หรืออย่างน้อยก็เคยเห็นตัวการ์ตูนผ่านตามาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของ Miss Potter ผู้สร้างตัวการ์ตูนเหล่านี้จะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก หนังเรื่องนี้จึงเป็นเสหมือนหน้าต่างที่ช่วยเปิดโลกของคนดูให้มีโอกาสไปสัมผัสกับผู้อยู่เบื้องหลังการ์ตูนลายเส้นสวยงามเหล่านี้...และขอบอกว่าชีวิตของเธอนั้นมีสีสันและน่าสนใจไม่แพ้การ์ตูนของเธอเลยทีเดียว
Beatrix Potter (แสดงโดย Renee Zellwager) เกิดและเติบโตในกรุงลอนดอนในครอบครัวที่ค่อนข้างมีอันจะกิน เธอได้รับการศึกษาจาก governess ที่บ้านเนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีประเพณีการส่งผู้หญิงไปโรงเรียน ในวัยเด็กเธอจึงมีชีวิตที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว
ในช่วงหน้าร้อนของแต่ละปีครอบครัว Potter จะไปเช่าบ้านพักตากอากาศในแถบชนบทของอังกฤษในแถบ Lake District และ Scotland ที่เหล่านี้เองที่ทำให้เธอได้พบกับธรรมชาติและสัตว์นานาชนิด เธอจะนั่งสเก็ตช์ภาพของสัตว์ที่เธอพบเห็นอย่างละเอียด และนำสัตว์บางชนิดกลับไปศึกษาที่บ้านในกรุงลอนดอนด้วย
เมื่อเข้าวัยสาวในขณะที่หญิงวัยเดียวกันต่างเข้าพิธีดูตัวเพื่อหาชายที่"เหมาะสม"มาเป็นสามี(ซึ่งเป็นมาตรฐานของสังคมในสมัยนั้น) Miss Potter กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว เธอพยายามหารายได้เลี้ยงตัวเองโดยการเสนองานต่อสำนักพิมพ์จนได้รับการตีพิมพ์หนังสือเด็กของตัวเองในที่สุด
หนังสือเล่มแรกที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือสำหรับเด็กชื่อ The Tale of Peter Rabbit ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม หลังจากนั้นก็มีหนังสืออื่นๆตามมา เงินรายได้จากการขายหนังสือและลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนเหล่านี้ทำให้เธอมีรายได้สม่ำเสมอและมีฐานะค่อนข้างมั่งคั่งทีเดียว
จากการใช้ชีวิตในช่วงหน้าร้อนในย่านชนบทของเธอทำให้เธอมีความผูกพันกับแถบชนบทมากโดยเฉพาะ Lake District ดังนั้นเมื่อมีเงินสะสมมากพอเธอจึงตัดสินใจซื้อบ้านในชนบทหลังหนึ่งและที่นี่เป็นบ้านที่เธอพักอาศัยจนกระทั่งสิ้นชีวิตลง
ในช่วงที่เธออาศัยอยู่ในย่าน Lake District นี้เธอได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชนและพื้นที่นั้นมากมาย เธอตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสภาพแวดล้อมและฟาร์มในบริเวณนั้นไม่ให้ถูกทำลายโดยกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และได้กว้านซื้อที่ดินจำนวนมากตามกำลังทรัพย์ที่เธอมีเพื่อไม่ให้สภาพภูมิประเทศดั้งเดิมถูกทำลาย
หลังจากที่เธอเสียชีวิตลงเธอได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินในครอบครองทั้งหมดให้แก่ National Trust หรือพูดง่ายๆคือคืนให้เป็นสมบัติของประเทศ การบริจาคครั้งนี้มีส่วนทำให้ Lake District ยังสามารถคงสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและไม่ถูกทำลายโดยสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่จนทุกวันนี้
หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกว่าชีวิตของคนเขียน Peter Rabbit อาจจะมีชีวิตชีวามากกว่าตัวเจ้ากระต่ายเองซะอีก :) ลองคิดดูว่าในสมัยที่สังคมยังมีแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เข้มงวดอย่างนั้น จะมีซักกี่คนที่กล้าแหกกฏหรือมองนอกกรอบ และในขณะที่ตัวเองเป็นผู้มีอันจะกินอยู่แล้วแต่กลับแสวงหาทางที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยใช้ความสามารถของตัวเองล้วนๆอย่าง Miss Potter
สำหรับคนที่สร้างหนังเรื่องนี้และอีกหลายๆคน ความสำเร็จหรือ accomplishment ของ Miss Potter ไม่ได้อยู่แค่ที่หนังสือ The Tale of Peter Rabbit เท่านั้นแต่เธอยังทำให้โลกตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม และมีส่วนผลักดันบทบาทของผู้หญิงในสังคมอีกด้วย
ดังนั้นคงไม่มากเกินไปที่จะพูดว่าเธอเป็นหนึ่งในคนจำนวนไม่มากที่ได้ทำประโยชน์ให้กับโลก in real term ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ และทิ้งมรดกของตัวเองไว้ รวมทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว...สมควรได้รับการยกย่องจริงๆ
วิจารณ์หนัง ขอแสดงความเห็นนิดนึง...โครงเรื่องลื่นใช้ได้เลย โทนสีในเรื่องและเครื่องแต่งกายสวยดี ให้ความรู้สึกถึงความสงบของชนบทแบบอังกฤษๆ ส่วนตัวแสดงนี่ Renee แสดงดีนะ...แบบมันเข้ากับสไตล์ Renee เลย ส่วน Ewan McGregor ที่เล่นเป็นแฟนของ Miss Potter ดูขัดๆนิดนึง...เหมือนหน้าและท่าทางเค้าจะไม่เข้ากับยุควิคตอเรียนเท่าไหร่ อาจจะเหมาะกับบทคนสมัยใหม่มากกว่า หนังเรื่องนี้ดูแล้วเหมือนได้ฟังนิทานก่อนนอนแต่คนสร้างแอบสอดแทรกอารมณ์แบบสารคดีนิดๆทำให้ดูไม่เลี่ยนเกินไป...ดี ดี ชอบ ชอบ
ปล. ความจริงเห็นหนังเรื่องนี้จากเว็บไซต์ของ Wedgwood เค้ามีออกถ้วยชามลาย Peter Rabbit มาด้วย...คงเป็นของขวัญที่น่ารักดี
 Peter Rabbit>>
Create Date : 27 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 19:14:14 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1622 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:31:01 น. |
|
|
|
โดย: pecochan วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:44:03 น. |
|
|
|
โดย: MoneyPenny IP: 84.190.176.233 วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:27:21 น. |
|
|
|
โดย: Bumu_Chan วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:01:11 น. |
|
|
|
โดย: Rive Gauche วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:39:47 น. |
|
|
|
โดย: Bumu_Chan วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:31:16 น. |
|
|
|
โดย: Rive Gauche วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:7:01:27 น. |
|
|
|
โดย: Rive Gauche วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:7:16:15 น. |
|
|
|
โดย: Wilailak Pakdee IP: 58.137.93.91 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:16:00:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อ่านชีวิตของ Potter แล้วนึกไปถึงคำพูดที่ว่า...
สิ่งที่คนเราทำตอนยังมีชีวิตนั่นแหละสำคัญ
แล้วก็นึกไปถึงโฆษณา JW The Android ที่พึ่งดู
มีประโยคที่โดนใจมากเลย
"...ผมเป็นอมตะ ผมไม่มีวันตาย แต่มันไม่มีความหมายเมื่อเทียบกับคุณ.....คุณก็เป็นได้ด้วยการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ .......... ... เพียงแค่คุณ ลงมือทำ"