人生は 山もあるし、谷もあります ^_^ invisible tracker
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
3 สาว 3 สไตล์



ต้องมีคนเข้าใจผิดหลงเข้ามาจะดูรูปสามสาวแน่ๆ ฮะฮะ
แต่สามสาวที่เราพูดถึงคือ นักเขียนหญิงสามคนที่เรากะลังอ่านหนังสือของเค้าอยู่ตะหาก "โตเกียวอะโซบิ" ของ
คุณ ม.ย.ร. มะลิ "คิวชู ยูแอนด์มี" ของคุณปาลิดา พิมพะกร และ"หวานจับใจ" ของคุณพลอย จริยะเวช . . .

เล่มแรกเป็นบันทึกการเดินทางไปโตเกียวของคนเขียนเมื่อปลายปี 47 เป็นเวลา 44 วัน ม.ย.ร.มะลิ(นามปากกาน่ารัก)เขียนเอง วาดภาพประกอบเอง นำเสนอเรื่องราวหลากหลายจากโตเกียวผ่านมุมมองน่ารักๆ ภาษาอ่านง่าย รับประกันว่าอ่านซ้ำไปมาได้หลายรอบจนกว่าจะคุ้มเงิน แถมพิมพ์บนกระดาษถนอมสายตาทำให้คนอ่านรู้สึกกิ๊บเก๋อินเทรนด์อีโค่ไปกับเค้าด้วย

เล่มสองของคุณฝน บันทึกการเดินทางไปในเกาะคิวชู รูปเล่มมีศิลป์ น่ารัก เนื้อหากับภาพประกอบจัดวางได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ทำให้หยิบมาพลิกดูได้ไม่รู้เบื่อ เนื้อหาอ่านง่าย ภาพประกอบเรียกว่าอะไรดีล่ะ มีชีวิต ทำให้เวลาอ่านเข้าถึงอารมณ์รื่นรมย์แบบญี่ปุ่นได้ง่ายๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นหนังสือ แต่เหมือนเป็นไดอารี่การเดินทางๆน่ารักๆเล่มนึงมากกว่า

เล่มสุดท้าย แค่เห็นชื่อก็หวานแล้ว เนื้อหาเกี่ยวกับประสบการณ์การชิมขนมกับน้ำชาจากทั่วโลกของคนเขียน
ภาพประกอบสีหวาน น่ารัก สอดแทรกรายละเอียดเอาใจคนรักขนมหวานไว้เต็มอิ่ม พร้อมข้อมูลร้านขนมอร่อยๆในเมืองไทยด้วย

สามเล่ม สามสไตล์ ไม่เหมือนกัน ทำไปทำมาเดี๋ยวนี้เวลาเลือกหนังสือ เหมือนไม่ได้เลือกจากเนื้อหาอย่างเดียว แต่ดูพวกรูปเล่ม ปก ภาพประกอบอะไรงี้ด้วย เหมือนหนังสือก็คล้ายๆกับเป็นแอ๊คเซสซอรี่อย่างนึงไปแล้ว ถ้าเห็นรูปเล่มน่ารักก็ต้องหยิบมาลูบๆคลำๆก่อน แล้วโอกาสที่จะถือติดมือติดไม้ไปถึงหน้าแคชเชียร์ก็สูงขึ้น แต่แน่นอนว่าหนังสือดีๆเนื้อหาคุณภาพ ถึงรูปเล่มจะไม่สวยเท่าไหร่ เราก็ยังอ่านมันต่อไป

ตั้งแต่มาอยู่นี่ เวลากลับไปเมืองไทยทีก็จะต้องตุนหนังสือมาเยอะๆ เวลาไปร้านหนังสือก็เลยไม่มีเวลาพลิกอ่านแต่ละเล่มมากนัก ได้แต่เปิดผ่านๆดูว่าน่าสนใจรึป่าว รู้สึกเหมือนเป็นการเสี่ยงดวงอย่างนึง แต่ส่วนใหญ่ที่ซื้อมาก็อ่านได้จนจบเพราะอย่างน้อยก็เป็นหัวข้อที่เลือกมาแล้วว่าสนใจ แต่บางเล่มอ่านเท่าไหร่ก็อ่านไม่จบ ทั้งๆที่เราว่าเราก็อ่านหนังสือง่ายนะ เล่มแบบนี้ตอนหลังเลยต้องทิ้งอย่างเดียว บางทีก็เสียดายเหมือนกันเพราะอยู่ที่นี่ไม่รู้จะเอาไปบริจาคให้ใคร ทั้งกระดาษ ทั้งหมึกพิมพ์ ทั้งแรงงานคนทำ ไหนจะตังค์ที่จ่ายไปอีก(ที่สำคัญ)

แต่รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้วงการหนังสือไทยมีตัวเลือกให้เลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหัวข้ออะไร ความสนใจแบบไหน
สไตล์การเขียนทั้งหนัก ทั้งเบา ทั้งที่ไม่มีสไตล์ สำนักพิมพ์เล็กๆน้อยๆผุดขึ้นเต็มไปหมด ทำให้อยากเลือกหนังสือใหม่ๆมาอ่านบ่อยขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นสินค้าหมู่ใหม่ที่มาเรียกเงินจากกระเป๋าตังค์ได้ไม่น้อยกว่ากลุ่มเก่าๆเลย ว่าแล้วก็มีใครจะแนะนำหนังสืออะไรน่าสนใจใหม่ๆมั๊ยเอ่ย ที่เราอ่านประจำคงเป็นห้วข้อเกี่ยวกับญี่ปุ่นๆ(สมัยใหม่) แต่ที่ไม่เกี่ยวกับญี่ปุ่นแต่น่าสนใจก็อ่านเหมือนกัน

ป.ล.มีเล่มนึงที่หมายตาไว้ รู้สึกเพื่อนบล็อกจะแนะนำไว้ชื่อเรื่อง Dive

บ๊าย บาย . . .
またね~

今日とても寒い、2C だけです!
今朝たくさん雪がふりました。
出かけたいけど、
どうしよう~ ToT


Create Date : 29 มกราคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2552 20:47:58 น. 6 comments
Counter : 983 Pageviews.

 
บุมุจังอัพแล้ว รอตั้งนาน อิอิ

จากที่เล่าย่อๆ มา รู้สึกอยากอ่านเล่มที่พลอย จริยะเวช เขียนอ่ะค่ะ เพราะเกี่ยวกับขนม เรานี่เรื่องกินมาก่อนเลย 55+ แต่ถ้ารูปเล่มน่ารักนี่เล่มกลางเลย

เห็นด้วยกับรูปเล่ม+หน้าปกนะคะ บางทีเห็นซ้วยสวย แต่พอเปิดๆ แล้ววางดีกว่า บางเล่มดูจากภายนอกไม่น่าสนใจ แต่พอเปิดแล้วน่าสนใจมากๆ ได้แต่นึกเสียดายทำไมไม่ทำปกให้น่าซื้อกว่านี้

ว่าแต่มีร้านขนมไหนที่แนะนำในหนังสืออยู่ที่อังกฤษมั่งป่าวคะ เผื่อจะแวะไปมั่ง


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:4:24:04 น.  

 
เย่ ในที่สุดก็อัพแล้ว

สามเล่มนี้ เราหยิบจับมาหมดแล้ว แต่หยิบติดมือกลับบ้าน (ซื้อนะ ป่าวขโมย) มาเล่มเดียว คือโตเกียวอะโซบิ
เค้าเขียนหนังสืออ่านง่าย ภาพประกอบน่ารัก
เลยไปซื้ออีกเล่มของเค้ามาอ่านด้วย "แก้ผ้าอาบน้ำ"
บอกเล่าประสบการณ์การอาบน้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะ
ทั้งในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ส่วนเล่มอื่นๆของเค้า ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
อีกสองเล่ม เปิดดูแล้ว ไม่ดึงดูดพอจะพากลับบ้าน แหะๆ

เราก็ชอบอ่านหนังสือแนวๆญี่ปุ่นเหมือนกัน
แต่เรื่องที่นึกออกตอนนี้ก็เรื่อง "แล้วฉันจะกลับมา" เขียนโดย อิชิคาวะ ทาคุจิ เคยสร้างเป็นหนังด้วย Be with you
แต่เราอ่านหนังสือแล้วชอบมากกว่าหนังอีก

เดี๋ยวถ้านึกเรื่องอื่นออกอีกจะกลับมาบอกนะคะ ^^


โดย: nanida วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:9:46:16 น.  

 
คุณปลา: มีหลายร้านอยู่ค่ะ เดี๋ยวต้องย้อนไปเปิดดูอีกที แต่ตอนนี้เอาไปสองร้านก่อนละกัน Brown's Drawing Room ห้องดื่มชาที่เมย์แฟร์ ลอนดอน อีกอันเป็นเบเกอรี่ชื่อ Patisserie Valerie นส.บอกมีสาขาทั่วลอนดอน

คุณมด: รู้สึกจะเคยดูหนังเรื่องนี้หนนึง ยังไม่ได้อ่าน แต่มันเศร้าเนอะ


โดย: Bumu_Chan วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:21:05:36 น.  

 
สงกะสัยต้องจัดเวลาไปลอนดอนอ่ะค่ะ

ไปกินหนมกับไปดูละครเวที

แต่ต้องหาตั๋วรถไฟหรือเครื่องบินถูกๆ ให้ได้ก่อน อิอิ


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:3:54:05 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ฮิๆ

ตอนนี้ซื้อหนังสือมาเยอะมาก
กำลังตามอ่านอยู่ (แต่งานเยอะจริงๆ)
ถ้ามีเล่มไหนชอบๆ จะรีวิวในบล็อกค่ะ

ป.ล.อยากเห็นหิมะตกบ้างจัง
อยู่ที่นี่ร้อนจะแย่อยู่แล้วค่า -_-"


โดย: fonkoon วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:22:50:44 น.  

 
เป็นสาวกของคุณพลอยค่ะ เธอเก่งนะคะ ติดตามผลงานเธอมาตั้งแต่สมัยที่เธอเข้าวงการมาใหม่ จนตอนนี้ติดลมบนไปแล้วค่ะ


โดย: patma IP: 202.91.18.194 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:08:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bumu_Chan
Location :
* United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"All man's miseries derive from not being able to sit quietly in a room alone."
- Blaise Pascal
Friends' blogs
[Add Bumu_Chan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.