人生は 山もあるし、谷もあります ^_^ invisible tracker
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Alexander McQueen

(วันนี้ไม่มีภาพ ขอให้ลองอ่านโดยไม่มีภาพประกอบดูค่ะ)

: : :
Alexander McQueen
คนอะไรชื่อยิ่งใหญ่จัง
ทุกครั้งที่เราได้ยินชื่อนี้ เราจะรู้สึกว่ามันเป็นชื่อที่ powerful มากๆ

เข้าเรื่องเลย คือวันนี้ได้ไปดูนิทรรศการของคนนี้ที่ Metropolitan
Museum of Art มา ชื่อ Salvage Beauty
กลับถึงบ้าน รีบมาเปิดดิคว่า 'salvage' แปลว่าอะไร
(ลองหากันดู)

นิทรรศการนี้นำคอลเลคชั่นผลงานเก่าๆของแม็คควีนมาจัดแสดง
เราไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่นเท่าไหร่ แต่อยากรู้จักคุณแมคควีนว่าเป็นคนยังไง
สุดยอดแค่ไหน เลยไปดู

ปรากฏ ไปถึงพบว่า คิวรอเข้าชมนิทรรศการ 45 นาที
มันต้องอย่างงี้สิ ในที่สุดการเป็นสมาชิกพิพิธภัณฑ์ก็ไม่เสียเปล่า
เพราะมันทำให้เราไม่ลัดคิวเข้าไปดูได้เลย

: : :
ก้าวแรกที่เข้าไปถึงก็เจอ:
'I'm a Romantic Schizophrenic.'
คิดเอาเองว่า เป็นพวกหลอนที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกเหนือเหตุผลมากๆ
ซึ่งก็ไม่ค่อยแปลกใจ เพราะศิลปินส่วนใหญ่ก็จะหลอนๆกันทั้งนั้น
ถ้าไม่หลอนจะมีความอยากถ่ายทอดออกมาได้ไง

ข้างในนิทรรศการ บรรยากาศก็จะมืดๆ เปิดเพลงประกอบที่รู้สึก darkๆ
พร้อมหุ่นโชว์เสื้อผ้าของแมคควีนอยู่บนแท่น
เสื้อผ้าของเค้าสำหรับเราดู dramatic, theatrical และมัน sickๆ มืดๆ
แรงๆ เหมือนเครื่องแบบทหารหรือกษัตริย์ แต่เป็นเวอร์ชั่นในโลกอันป่าเถื่อน
ของอารมณ์มนุษย์ บอกไม่ถูก
แต่รู้สึกได้ถึงความแรงของคนดีไซน์
เดินอยู่ในนั้นเหมือนเราอยู่ในโลกของแมคควีน
เหมือนเดินอยู่ใน vision ของแมคควีน
เพียงแต่มันถูกถ่ายทอดตรงออกมาจากหัวเค้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง

มีคำพูดของเค้าอันนึงบนกำแพงที่เราคิดว่า อธิบายได้ดีว่า
ทำไมแมคควีนถึงโดดเด่นออกมาจากดีไซเนอร์คนอื่่นทั้งปวง เหมือนคนละระดับ
เค้าบอกว่า สิ่งที่เค้าทำคือ การแสดงออกทางศิลปะผ่านตัวเค้า
และแฟชั่นเป็นเพียงสื่อเท่านั้น

สรุปว่า เค้าไม่ได้ดีไซน์"เสื้อผ้า" เพื่อความสวยงามในการสวมใส่
แต่เค้าใช้เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเป็นสื่อในการถ่ายทอดศิลปะที่มีอยู่แล้ว
ผ่านตัวเค้า
เราว่าเค้าไม่ใช่ดีไซเนอร์ แต่เป็นศิลปินมากกว่า

: : :
เราว่า คนที่มีอะไรจะถ่ายทอดเยอะขนาดนี้ได้ต้องเป็นคนไม่ธรรมดา
มันต้องมีความอัดอั้นตันใจอะไรซักอย่าง หรือเกิดมาพิเศษแบบนั้นอยู่แล้ว
ถึงอยากระบายมันออกมาก และมันต้องเป็นของจริงด้วย
ไม่ใช่มีแต่ฟอร์ม แต่ข้างในกลวง ไม่มีเนื้อหา
ดูแล้วสักแต่จะทำให้เราเสื่อมหนักกว่าเดิม

จากที่อ่านๆคำพูดเค้า ที่ถูกแปะไว้ทั่วนิทรรศการ
ดูคุณแมคควีนจะเป็นคนปากกล้ามาก (ตามสไตล์คนเก่งหลุดโลกทั่วไป)
แต่ถ้าปากกล้า แล้ว deliver ให้ได้สมปาก(อย่างนี้) ก็อีกเรื่อง

บางทีเราคิดว่า คนพวกนี้เค้าปากกล้าก่อน แล้วพยายามทำตามที่ตัวเองฝอย
หรือเค้าเก่งแล้ว เลยปากกล้าได้ขนาดนั้น
แล้วส่วนใหญ่พวกนี้ก็จะมีความคิดสุดโต่งด้วย
ไม่แน่ใจว่า ความสุดโต่งทำให้พวกเค้าดัง หรือเค้าดังแล้วเลยสุดโต่งได้
พูดไปพูดมาก็ความหมายเดิม
แต่เวลาเห็นคนแบบนี้แล้วจะรู้สึกฮึกเหิมไปด้วยโดยไม่รู้สาเหตุ

: : :
ในนิทรรศการมีผลงานชิ้นนึงที่เราชอบ
เป็นผลงานที่เป็นฟิล์มสั้น เค้าใส่ครอบไว้ในกรอบไม้เหมือนปล่องไฟอันใหญ่
แล้วเปิดช่องสี่เหลี่ยม ยาวๆ เป็นแนว ให้คนก้มลงไปดู
ข้างในเป็นฮาโลแกรม ฉายภาพสามมิติ
เป็นภาพเคท มอส แต่ไม่ใช่ตั้งแต่แรก

แรกสุดคือ ความมืดสนิท
จากนั้นมีแสงแวบขึ้นมา
แสงนั้นค่อยๆใหญ่ขึ้นๆ แล้วเปลี่ยนรูปร่างเป็นเหมือนตัวอ่อนมนุษย์
แล้วกลายเป็นเคท มอสในที่สุด ใส่ชุดผ้าย้วยพันรอบตัวสีครีม
เหมือนลอยอยู่ที่ไหนซักแห่ง หมุนไปเรื่อยๆ ในสายลม
หมุนไปได้พักนึง ก็ค่อย ๆ หดลงเป็นเหมือนรูปตัวอ่อนอีกครั้ง
เล็กลง ๆ จนกลายเป็นแสงเล็ก ๆ จุดนึง เหมือนดวงดาว
จากนั้นแตกออกเป็นดาวหลายดวงเล็กๆ วิ่งวนไปมารอบ ๆ กัน
จนถึงเวลานึงรวมเข้าด้วยกันใหม่ ฉายแสงใหญ่วาบขึ้น แล้วดับวิบไป
เหลือแต่ความมืดมิดเหมือนตอนเริ่ม

แล้วคนพวกนี้ เราสังเกตว่า ทำไมจะต้องอายุไม่ค่อยยืน?
เพราะเค้าพิเศษมากๆ?
รู้ความลับได้เร็ว ต้องไปเร็ว? (พูดแล้วชักกลัวๆ แต่เราไม่รู้ไม่เป็นไร ^o^)
แมคควีนจากโลกไปด้วยการฆ่าตัวตาย
เป็นจุดจบที่เหมือนจะเพอร์เฟคกับคอนเซปท์และความเป็นตัวตนที่คนรู้จัก (แต่ไม่ใช่ว่าเห็นด้วย)

: : :
เชื่อมั๊ยว่า ที่พูดมาตั้งเยอะนี่
เรารู้จัก อเล็กซานเดอร์ แมคควีนแค่ชื่อ
เคยเห็นหน้าทีนึงแต่ลืมไปแล้ว
วันนี้ลองเสิร์ชดูอีกที

และแล้วก็ได้เห็น
เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับความอลังการทั้งหลายทั้งปวงที่พ่วงมากับชื่อนี้มาก
ที่เห็นคือ ผู้ชายผิวขาว หน้าตาธรรมดามากกก
แถมไม่ได้แต่งตัวแบบที่ดีไซเนอร์หลายคนมักทำกัน
("ฉันเป็นดีไซเนอร์นะจ๊ะ" แบบนั้น)
ซึ่งทำให้เราชอบเค้ามากขึ้น เพราะแสดงว่าเค้าเอาเวลาไปทำงานมากกว่า
มาประดิดประดอยแต่งตัวเอง

ส่วนใหญ่ จะเห็นเค้าในชุดกางเกงยีนส์ กับเสื้อเชิ้ต
ไม่บอกอาจนึกว่า เป็นคนงานแบกของธรรมดา
หน้าขาวๆ ออกจะจืดๆ ท้วมๆหน่อย

: : :
คำพูดของคุณแมคควีน(อีกอัน) คือ
เค้าอยากเป็นคนที่คนนึกถึงในฐานะผู้เริ่มศตวรรษที่ 21
หมายถึง ทำลายกฏเกณฑ์เดิมๆทุกอย่างให้หมด
เราว่า เค้าทำสำเร็จแล้วล่ะ
ขนาดตายไปแล้ว สิ่งทีทิ้งไว้ข้างหลังยังมีพลังขนาดนี้
Rest in peace, คุณ Lee McQueen :-)


- - -
ป.ล. สงสัยว่าคนที่จีเนียสหลายๆคน ทำไมต้องเป็นเกย์ด้วย (ไม่ได้ว่าไร)
แต่มันมีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญระหว่างเพศคนเรากับความสามารถด้วยหรือ?

ป.ล. 2 คุณแมคควีนได้เครื่องราชอังกฤษชั้น CBE ด้วย เจ๋งอะ
เป็นตัวแทนความภาคภูมิใจของอังกฤษ แม้ดูเค้าจะมีความรักในความเกลียด
อังกฤษอยู่ก็เถอะ (เชื้อสายเดิมจริงๆเป็นคนสก็อตแลนด์)


Create Date : 02 กรกฎาคม 2554
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 9:58:51 น. 4 comments
Counter : 841 Pageviews.

 
อ่านแล้วสนุกดีค่า :)


โดย: bag by pat IP: 125.24.77.31 วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:15:28 น.  

 
เห็นข่าวนิทรรศการนี้แล้วรีบบอกให้เพื่อนที่นิวยอร์กไปดูเลยค่ะ

อยากดูบ้างจัง


โดย: BoOKend วันที่: 5 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:44:25 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน :)


โดย: bumu IP: 68.173.102.254 วันที่: 8 กรกฎาคม 2554 เวลา:4:48:10 น.  

 
มาไล่อ่านบล็อกเก่า ๆ ของบุมุค่ะ

จูนเคยอ่านประวัติเค้าเมื่อนานมาแล้ว ทึ่งมาก ๆ ดร็อปเอาท์ไม่จบแม้แต่ม.ปลายแต่ไปฝึกงานจนเก่งสุดท้ายแม้แต่ St. Martins ก็ยังให้เข้าไปเรียนโท.ได้โดยไม่ต้องมีใบปริญญา แค่ประสบการณ์ทำงานมาก็กินขาดแล้ว

ส่วนตัวแล้วไม่เคยคิดจะซื้อเสื้อผ้าเค้าใส่เลย (รวมทั้งดีไซเนอร์ดัง ๆ ทั้งหลาย) เพราะรู้สึกว่ามันอยู่คนละโลกมาก ๆ แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เค้าตายไปแล้ว เสื้อผ้าแบรนด์ของเค้ามันดูมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าตอนเป็น ๆ เสียอีกนะ - - ก็มีแอบสอย ๆ มาบ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงรู้สึกเสียดายเงิน แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

ปล. ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจริงมั้ยที่บุมุสังเกต แต่เท่าที่รู้นิทรรศการหลาย ๆ อันชอบนำเสนอเรื่องของศิลปินดัง ๆ เกี่ยวกับความเป็น genius กับ insanity หรือ madness มันใกล้กันมาก จนกระทั่งเส้นบาง ๆ นั้นบางทีแยกไม่ออกว่ามันอยู่ฝั่งไหนกันแน่


โดย: MoneyPenny วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:21:07:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bumu_Chan
Location :
* United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"All man's miseries derive from not being able to sit quietly in a room alone."
- Blaise Pascal
Friends' blogs
[Add Bumu_Chan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.