|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Rio 2016 (yeah!)

และแล้วผลการตัดสินสถานที่จัดการแข่งโอลิมปิกปี 2016 ก็ประกาศออกมาแล้ว และผู้ชนะก็คือ แท่น แทน แท๊น . . . "ริโอ เดอ จาเนโร !"
ความจริงเราเชียร์ทั้งริโอ ทั้งชิคาโก ยังนึกว่าชิคาโกได้แน่ๆ เพราะเมืองรื่นรมย์เหมาะจะใช้เป็นที่จัดโอลิมปิก ไม่แออัดเกินไปเหมือนโตเกียว อาชญากรรมไม่สูงเหมือนริโอ และทิวทัศน์ก็สวยงามสูสีกับมาดริด แถมมิเชล โอบาม่า ลงมือเป็นแม่งานเอง แต่ปรากฏว่า ตกรอบแรกเลย !??. . .
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อเมริกาก็ไม่ได้ใหญ่เสมอไป
แต่เราก็แอบดีใจเล็กๆนะที่ริโอชนะ เพราะเพิ่งไปมา และก็เริ่มหลงรักความมีชีวิตชีวาของริโอเล็กน้อย (. . .คิดถึงการใช้ชีวิตแบบเอื่อยๆ ใต้แสงแดดอุ่น กับลมทะเลริมหาดของคนที่นั่น)
พูดถึงริโอแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้เขียนตอนสำคัญของทริปบราซิล คือ ตอนที่ไปเจแปนทาวน์ ภาพของเจแปนทาวน์ในความคิดเรา(ก่อนไป)คือ เจแปนทาวน์ในนิวยอร์ก เป็นย่านที่จำลองญี่ปุ่นปัจจุบันเล็กๆมาอยู่ที่นี่ มีร้านราเมงเอย ยากิโตริเอย ซุปเปอร์เอย แต่พอไปเจอเจแปนทาวน์ที่บราซิลแล้วเหวอไปเลย
ย่านเจแปนทาวน์ของที่นั่นเรียกว่า Liberdade อย่างที่เคยเกริ่นไว้ว่า บราซิลมีชุมชนชาวญี่ปุ่นอพยพที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เราไม่รู้ว่า ชาวญี่ปุ่นที่เค้าพูดถึงนี่เป็นคนที่อพยพไปตั้งเจ็ดแปดสิบปีมาแล้วได้ วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เอาไปด้วยก็เป็นญี่ปุ่นเมื่อเจ็ดแปดสิบปีก่อน(ที่ถูกหยุดเวลาไว้) ไม่ใช่ญี่ปุ่นแบบที่เรารู้จักในปัจจุบัน ดูแล้วคล้ายๆไชน่าทาวน์มากกว่า คนญี่ปุ่นอพยพที่นั่นก็หน้าไม่เหมือนคนญี่ปุ่นที่เราเห็นในตอนนี้เลย
เราเพิ่งรู้ว่าชาติที่(ดู)ร่ำรวยอย่างญี่ปุ่นก็มีเวลาที่ลำบากมาก่อนเหมือนกัน สมัยช่วยสงครามโลก เศรษฐกิจฝืดเคือง งานในประเทศไม่พอ คนญี่ปุ่นเลยต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหางานทำ (คล้ายๆคนไทยไปซาอุอะไรแบบนี้รึป่าวนะ) พอรุ่นแรกมา . . รุ่นสองก็มา . . แล้วก็มาต่อเป็นระลอก บราซิลเป็นประเทศปลูกกาแฟ ต้องการแรงงานมาทำไร่กาแฟอยู่พอดี คนญี่ปุ่นที่อพยพมาเลยมาทำงานตรงนั้น
เราได้เข้าไปดูศูนย์ของชาวญี่ปุ่นอพยพตอนไปที่นั่นด้วย เค้าให้ข้อมูลไว้ละเอียดมากๆ ดูไปเศร้าไป(เล็กๆ) เพราะคนญี่ปุ่นที่อพยพมารุ่นแรกๆ ดูมีชีวิตที่ลำบากมากๆ เหมือนมาเป็นแรงงานการเกษตรในประเทศใหม่ที่ต่างจากบ้านตัวเองโดยสิ้นเชิง ภาษาก็พูดไม่ได้ บ้านเมือง คนก็ไม่รู้จัก นั่งเรือมาเป็นเดือนๆ เป็นความกล้าหาญที่น่ายกย่องจริงๆ
ตอนนี้คนญี่ปุ่นที่นั่นก็ผสมกับคนพื้นเมืองจนกลายเป็นคนบราซิลไปแล้ว ดูจากตอนที่ไป ส่วนใหญ่ถึงหน้าเป็นญี่ปุ่น แต่ผิวสีเข้ม พูดภาษาโปรตุเกสปร๋อ ให้ความรู้สึกแปลกๆดีเหมือนกัน เป็นทริปที่เปิดโลกทัศน์ดี . . .
Create Date : 04 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2552 9:02:59 น. |
|
4 comments
|
Counter : 679 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Kamomebookshop IP: 114.128.55.25 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:13:38:07 น. |
|
|
|
โดย: bumu_chan IP: 67.82.206.113 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:19:47:23 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:6:57:33 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:7:25:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เหมือนประเทศอะไรสักอย่างใน โซนนั้นที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นเชื้อสายญี่ปุ่น