Bloggang.com : Bumu_Chan : 西の魔女が死んだ

西の魔女が死んだ

The Witch of the West is Dead (西の魔女が死んだ) หนังเรื่องที่ดูค้างไว้บนเครื่อง แต่ดูไม่จบ ตั้งหน้าตั้งตารอให้ออกมาเป็นดีวีดี ในที่สุดก็ได้ดูซะที ติดใจภาพชีวิตชนบทแบบอังกฤษ(ในญ๊่ปุ่น)สวยๆ กับเนื้อเรื่องที่เหมือน zakka living เวอร์ชั่นหนัง คงเป็นชีวิตในอุดมคติของหลายคน บ้านสไตล์อิงลิชคันทรีในป่า ปลูกพืชผักสวนครัวไว้ใช้เอง เก็บสตอเบอรี่มาทำแยมโฮมเมด ซักผ้า ตากผ้าในสวนหน้าบ้าน สะท้อนชีวิตแนว minimalist + zakka อย่างสมบูรณ์แบบ

เนื้อเรื่องเล่าถึงเด็กหญิงคนนึงชื่อ Mai เธอไม่อยากไปโรงเรียนเพราะเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ค่อยได้ แม่ของไมเลยให้ไปอยู่กับยาย(ที่เป็นคนอังกฤษแต่มาแต่งงานกับตาที่เป็นคนญี่ปุ่น)ชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ยายมีบ้านแบบคันทรีอยู่ในป่า และเล่าให้ไมฟังว่าในตระกูลยายมีเลือดแม่มด ไมอยากเป็นแม่มด อยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เลยขอให้ยายฝึกให้ ยายรับปาก แต่แทนที่ยายจะสอนการใช้เวทมนตร์อย่างที่เรามักจะนึกถึงเมื่อพูดถึง"แม่มด" ยายกลับสอนสิ่งที่เรียกว่า การฝึกตนขั้นพื้นฐาน ซึ่งยายบอกว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ไมจะต้องทำให้ได้ก่อนที่จะก้าวสู่การฝึกขั้นต่อไป

การฝึกตนขั้นพื้นฐานที่ว่านี้ไม่ใช่การท่องคาถาเวทมนตร์วิเศษอะไร แต่มันคือ การเข้านอนและตื่นเป็นเวลา การกำหนดตารางของสิ่งที่จะทำในแต่ละวันให้เป็นกิจวัตร พูดง่ายๆมันก็คือ การปลูกฝังการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน โดยเริ่มจากการทำกิจกรรมง่ายๆให้ได้ดี เพื่อจะเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่ซับซ้อนขึ้นไป

นอกจากเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ยายยังสอนให้ไมเข้าใจตัวเอง อย่างเรื่องกายกับวิญญาณ ยายบอกว่าวิญญาณของเราต้องใช้ร่างกายเพื่อทดลองสิ่งต่างๆ ให้มีประสบการณ์เพื่อจะพัฒนาวิญญาณขึ้นไปอีกขั้นนึง และเมื่อคนเราตายแล้ว วิญญาณก็จะแยกจากร่างออกไป ยายสัญญากับไมว่าเมื่อยายตายแล้ว จะหาวิธ๊ที่ไม่น่ากลัวมาบอกไมว่า วิญญาณของยายออกจากร่างได้สำเร็จแล้ว และยายก็รักษาคำสัญญานั้นจริงๆ

หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายสำหรับเด็กในชื่อเดียวกัน ในความเห็นเราเค้านำเรื่องที่ซับซ้อนเข้าใจยาก และบางทีอาจดูน่าเบื่อ อย่างการใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ร่างกาย จิต วิญญาณ มาถ่ายทอดด้วยคำพูดและแนวคิดที่เข้าใจง่าย ประกอบเข้ากับฉากที่สวยงามของบ้านเล็กในป่าใหญ่ และการใช้ชีวิตแบบรื่นรมย์ ทำให้ดูเพลิน แถมเข้าใจชีวิตมากขึ้นไปในเวลาเดียวกัน ชอบที่คนเขียนใช้คอนเซปต์ที่ค่อนข้างมี pre-conceived notion อย่าง "แม่มด" มาใช้ในอีกบริบทนึงอย่างสิ้นเชิง มาแทนความคิดของการถ่ายทอดวิชาความรู้ของการใช้ชีวิตที่ตัวเองได้เรียนรู้ให้รุ่นลูกหลานได้นำไปปฏิบัติต่อไป จากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง

ดูเรื่องนี้เสร็จแล้ว ทำไมนึกถึงเรื่อง "ธรรมะ" ไม่รู้ (ทั้งๆที่จริงๆเป็นคนที่ห่างไกลจากวัดมากๆๆๆ) เหมือนว่าการใช้ชีวิตที่ดีก็เหมือนหลักธรรมะเลย เดินทางสายกลาง ต้องเริ่มปฏิบัติจากง่ายๆก่อน แบบนั่งสมาธิห้านาทีสิบนาที พอทำได้แล้วก็ลองทำที่ยากขึ้นไปอีกหน่อย อย่างงี้ไปเรื่อยๆ และคนที่ปฏิบัติได้ดีแล้วก็จะรู้ตัวเอง และ(อาจ)จะเห็นอนาคตของตัวเองได้ด้วย พูดไปแล้วก็เรียกได้ว่ากลายเป็น "แม่มด" ได้เหมือนกัน แต่เป็นแม่มดที่ดีไม่ใช่แม่มดอธรรมอย่างที่เรามักจะนึกถึงกันเมื่อพูดถึงคำว่า "แม่มด"

- - -
นอกเรื่อง...
เมื่อวานไปเรียนญี่ปุ่นมา แล้วในคลาสอาจารย์ให้ทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา เพื่อดูว่าเราเป็นคนแบบไหน โดยต้องตอบคำถามต่อไปนี้

+ คุณเคยคิดหรือไม่ว่า คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
+ คุณเคยเบื่อการต้องอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวบ้างมั๊ย
+ เคยนอนไม่หลับมั๊ย
+ เคยกลัวการแก่ตัวมั๊ย
+ เคยเหงาจนรู้สึกเหมือนจะตายมั๊ย
+ เคยรู้สึกว่าคนอื่นดูมีความสุขกว่าตัวเองมั๊ย
+ เคยคิดว่าตัวเองเป็นสุนัขขี้แพ้มั๊ย
+ เคยไม่ทำอะไรเลยถึงจะมีเวลาว่างมั๊ย

ถ้าตอบ "เคย" ทั้งหมด เค้าเฉลยว่า คุณออกจะมีลักษณะเป็นนักปราชญ์และเข้าใจความขมขื่นในความรื่นรมย์ของชีวิต และคุณจะมีชีวิตที่มีความสุขขึ้นในบั้นปลายของชีวิต

แต่ถ้าตอบว่า "ไม่เคย" เป็นส่วนใหญ่ เค้าว่า คุณเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสุขแต่ค่อนข้างจะ "ตื้น"ไปหน่อย และควรจะมีความเซนซิทีฟต่อชีวิตมากขึ้น

อ่านแล้วขำดี เหมือนแบบทดสอบนี้คิดว่า คนที่เข้าใจชีวิต คือคนที่ต้องผ่านเรื่องข้างบนนี้มาแล้วทั้งหมด ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง คนๆนี้คงเป็นคนที่หดหู่น่าดูเลยนะ (หรือว่านี่เป็นหลักการคิดแบบญี่ปุ่น? แบบต้องเจอความลำบากเยอะๆก่อนถึงจะมีความสุขได้) คนเราไม่สามารถเข้าใจชีวิตได้โดยพยายามมองในด้านบวกเป็นหลักเหรอ? จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องผ่านความลำบากในชีวิตมาก่อนถึงจะเข้าใจชีวิตและมีความสุขในบั้นปลายได้? แต่ว่าเห็นด้วยว่าชีวิตคนเราคือ ความขมขื่นในความรื่นรมย์ (bittersweet) แบบส่วนใหญ่ sweet แต่มีบางทีที่ bitter ฟังดูก็เป็นชีวิตที่ไม่เลวนะ

Create Date : 06 ธันวาคม 2551

Last Update : 6 ธันวาคม 2551 22:57:38 น.

8 comments

Counter : 744 Pageviews.

เหมือนจะเคยอ่านนิยายเรื่องนี้แบบแปลไทยค่ะ แต่นึกชื่อไทยไม่ออก

โดย: BoOKend

วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:17:28:10 น.

เคยดูเทรลเลอร์หนนึงเพราะหลงเข้าไปใน askmic ace แล้วก็ทำให้อยากดูหนังด้วยบรรยากาศของตัวมัน (แต่ตอนนั้นไม่รู้เรื่องเพราะไม่มีซับ)
แล้วยิ่งมาอ่านแล้วรู้ว่ามีอะไรที่เกี่ยวกับ zakka, minimalism ที่นำมาผนวกกับจิตวิญญาณมนุษย์แล้วเนี่ย ทำให้ยิ่งอยากดูเข้าไปใหญ่

เราว่าการฝึกตนขั้นพื้นฐานนั้นอันที่จริงเนี่ยทำยากใช่เล่นนะคะ (นี่ก็พยายามอยู่ :)

ส่วนข้างล่างนี่เคยหมดเลยอ่ะ มันจะมีจริงๆเหรอคนที่ตอบว่าไม่เคยซะส่วนใหญ่ คนแบบนั้นคงน่าอยู่ด้วยไม่น้อยเพราะเค้าคงจะมองโลกในแง่ดีและมีทัศนวิสัยที่ดีมาก จริงๆแล้วความตื้นแบบนั้นแหละอาจจะดีต่อชีวิตก็ได้ละมั้ง

โดย: b u IP: 58.8.110.167 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:22:21:54 น.

หนังน่าดูดีนะคะ ไว้จะหามาดู ไม่รู้จะมีมั้ยที่ไทย
วันนี้ไปสอบหรือเปล่า เป็นไงบ้างคะ
เรานี่กำลังสุดๆ เพราะเค้ามีเฉลยในเว็บจีนแล้วแหละ
แต่ตอนนี้มีเฉพาะระดับ 2 นะคะ แต่มันออกไม่ครบค่ะ

ป.ล.1 เราตอบว่าเคย 3 ข้อ จะหมายความว่าไงละคะ

ป.ล.2 เซนเซเราก็เอามาให้เล่น แต่เป็นหัวข้ออื่น
หรือว่าเค้ากลัวนักเรียนจะเครียดก่อนสอบกันนะ

โดย: fonkoon

วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:23:43:37 น.

เป็นหนังที่น่าสนใจดีนะคะ เดี่ยวลองไปหามาดูบ้างดีกว่า
แต่ที่ไทยจะมีหรือเปล่าเนี่ยสิ

ตอนอ่านข้างบนก็นึกถึงเรื่องธรรมะเหมือนกันเลย
สิ่งที่คุณยายของไมสอน ฟังไปฟังมาเหมือนสอนธรรมะ
มากกว่าวิชาแม่มดเลยนะ

ปล. เราไปซื้อ milly-molly-manday มาอ่านแล้วล่ะ
ชอบมากๆเลย^^

โดย: nanida

วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:11:39:06 น.

^
^
คุณ bookend: มีเวอร์ชั่นไทยด้วยเหรอคะ ถ้ามีจะได้ไปหามาอ่าน
ปล. เคยพยามเข้าไปบล็อกคุณ bookend แล้วเข้าไม่ได้อ่ะค่ะ แบบมันต้องมีพาสเวิร์ดอะไรซักอย่าง ทำไงดี

คุณ b u: ท่าทางจะเป็นแฟนหนังแนวนี้นะคะ เราก็ชอบเหมือนกัน ส่วนแบบทดสอบ เราก็ตอบ "เคย" เป็นส่วนใหญ่ค่ะ คำเฉลยเค้าว่าเป็นคนกลางๆ แบบธรรมดาพื้นๆ อะไรทำนองนั้น ฮ่า

คุณฝน: ไปสอบมาแล้วค่ะเมื่อวาน (เป็นตอนตีหนึ่งเมืองไทย) ก่อนสอบเดือนนึงไม่ได้เตรียมตัวเลย เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องอื่นอยู่ เมื่อวานเลยรู้สึกมึนๆตอนทำ มันคุ้นๆไปหมดแต่ไม่ค่อยชัวร์ ต้องรอฟังผลตอนมีนา คุณฝนล่ะคะ ทำได้เยอะมั๊ย

ส่วนแบบสอบถาม ถ้าตอบว่าเคยสามข้อ รวมคะแนนแล้วคงเข้ากลุ่มแรกคือ เป็นคนที่แฮปปี้ค่ะ แต่อาจจะไม่ค่อยเซนซิทีฟกับชีวิตเท่าไหร่ (เค้าว่าอย่างงั้น)

คุณนานิดา: ซื้อมาแล้วเหรอคะ หนุกเนอะๆ ชอบหน้าปกมากๆด้วย สวยดี

โดย: Bumu_Chan

วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:29:10 น.

เราซื้อเล่มเวอร์ชั่นสนพ.อังกฤษอ่ะค่ะ
คนละหน้าปกกัน ลองแวะไปดูนะคะ
[url]https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=modlek&month=12-2008&date=03&group=2&gblog=33[/url]

โดย: nanida

วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:21:07:40 น.

^
^
แปะลิงค์ไม่เป็นค่ะ ขอโทษที

โดย: nanida

วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:21:08:48 น.

ใช่แล้วค่ะ เป็นฉบับของสนพ.เพนกวิน

โดย: nanida

วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:16:45:30 น.